ขับรถเหยียบน้องหมาตาย(ทำใจไม่ได้)

เวลาเช้า 10 นาฬิกากว่า วันที่ 30/11/67 ขับรถเหยียบน้องหมาเสียชีวิต ตัวแรกเสียคาทีต่อหน้าดิฉันขณะที่ดิฉันตะโกนร้องลั่นขอความช่วยเหลือในบริเวณนั้น เพราะแม่น้องหมา คงจะโกรธดิฉันไม่ให้ดิฉันเข้าไปอุ้มน้อง และพร้อมที่จะเข้ามากัดดิฉัน ตัวที่สองไปเสียชีวิตที่คลีนิค
       เรื่องราวเริ่มจากเมื่อสัก 10 นาทีก่อนหน้านั้น ดิฉันอยู่ร้านซ่อมเครื่องมือเกษตรแถวหมู่บ้านในชนบทแห่งหนึ่งดิฉันเห็นหมาแม่ลูกอ่อนเดินมาบริเวณร้านและเดินไปข้างครัวของร้านเหมือนกำลังหาของกินแน่นอนดิฉันก็ถามคุณป้าว่าหมาของใคร ท่าทางเขาคงจะหิว คุณป้าแม่เจ้าของร้านบอกเป็นหมาแม่ลูกอ่อนของชาวบ้านแถวนี้คลอดลูกมาเยอะ 6 ตัว และเจ้าของหมาก็ปล่อยทิ้งขวางไม่ได้ดูแลให้อยู่ให้กิน แม่หมาชอบพาลูกน้อยเดินป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้ ตัวแม่ก็มาเดินหาอาหารและคุณป้าก็พูดว่า"สักวันจะพาลูกโดนรถชนตายอยู่" ดิฉันก็มองแม่หมาและแอบเวทนาในใจ ถึงความเป็นแม่ที่ต้องออกมาหาอาหารเพื่อจะได้มีน้ำนมไปให้ลูกที่รออยู่ ยังนึกพูดกับคุณป้าน่าสงสารจัง และยังแอบถามว่าบ้านน้องอยู่ไหน คือ คิดไว้ว่าถ้าเกิดผ่านมาทางนี้อาจจะได้ซื้ออะไรติดมาฝากให้ลูกหมาน้อยและแม่หมาได้กินบ้าง แต่แล้วพอฉันเสร็จธุระที่ร้านค้าซ่อมเครื่องมือเกษตร ฉันก็ขับรถออกจากร้านเลี้ยวซ้าย ถนนก็เป็นถนนที่ใช้ในหมู่บ้าน ต้องขับช้าๆ ดิฉันก็ทำอย่างนั้นประจำอยแล้ว เพราะถนนเล็กๆในตรอกในซอย มีบ้านคน มีเด็กเล็ก ขับเร็วไม่ได้ 
      แต่😭 เมื่อฉันเลี้ยวรถออกจากร้านไม่ถึง 20 เมตร ตรงมุมหักซอก ที่มีร่มไม้หนาตา ฉันเห็นหมาแม่ลูกอ่อนวิ่งมาหน้ารถฉัน และได้ยินเสียงร้องดังเอ๋งๆ ฉันก็เข้าใจว่า ฉันต้องเหยียบขาน้องหมาแม่ลูกอ่อน ฉันจอดรถรีบลงไป เพื่อจะดูว่าหมาแม่ลูกอ่อน ขาเจ็บอะไรมั๊ยจะได้พาไปหาหมอ แต่ภาพที่เห็นคือ น้องหมานอนดิ้น เลือดไหลออกปาก อีกตัวกำลังพยายามลากตัวเองลงข้างทาง ฉันก็ร้องช่วยด้วยๆ ลั่นซอย จะวิ่งไปอุ้มน้องหมา แม่หมาก็เกรี้ยวกราดไม่ให้ดิฉันเข้าไป 
ดิฉันทั้งร้องไห้ ทั้งสติหลุด บอกช่วยน้องด้วยเอาน้องขึ้นรถไปหาหมอ ป้าเจ้าของร้านวิ่งออกมาเห็น มากอดฉันไว้บอกลูกไม่เป็นไร น้องเสียแล้ว ฉันก็ร้องไห้บอกไม่ไม่ น้องยังไม่เป็นไรอีกตัวช่วยด้วย คุณป้าๆแถวนั้น 2-3 คน ก็ไปอุ้มน้องหมาอีกตัวมาให้ฉัน คุณป้าบอกว่าเขาไม่น่าจะรอด หัวใจเขาเต้นช้ามาก ดิฉันก็บอกไม่ๆ น้องต้องไปรพ. ดิฉันเอาน้องขึ้นรถขับไปคลินิครักษาสัตว์ใกล้ที่สุด โดยมีคุณป้าอีกท่านนั่งไปด้วย พวกเราไปถึงคลินิค แต่น้องไม่ถึง คุณหมอบอกเสียใจด้วยค่ะ น้องไปแล้ว ดิฉันร้องไห้ที่คลินิคอย่างไม่อาย คุณหมอบอกให้ทำใจ และก็ห่อน้องให้ดิฉันเอาไปฝัง ดิฉันร้องไห้จากคลินิค (20 km.) จนมาถึงที่เกิดเหตุ มารับน้องหมาตัวแรกที่เสียเอาไปฝัง ในที่ดินหลังบ้านของดิฉัน (มีชาวบ้าน) มาช่วยดิฉันฝังน้องหมา ทุกคนปลอบใจดิฉัน ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ เราไม่ได้ตั้งใจ เขาอยู่เขาก็ลำบาก ไม่ต้องเสียใจ แต่ดิฉันทำใจไม่ได้ค่ะ ดิฉันอยากบอกว่าดิฉันเสียใจมาก ดิฉันผิดที่ขับรถไม่ดู เราน่าจะระวังมากกว่านี้ ตามถนนซอยเล็กๆ อากาศกำลังเย็น แม่หมาชอบเอาลูกออกมาอาบแดด เราไม่น่าไปพรากชีวิตเขาเลย ดิฉันทั้งยกมือไหว้แม่หมาให้เขาอโหสิกรรมให้ดิฉัน ดิฉันไปฝังน้องก็บอกน้องทั้งสองว่าดิฉันผิดมากขอได้โปรดอโหสิกรรมให้ เสร็จจากฝังน้องดิฉันก็ไปซื้ออาหารเม็ดเป็นกระสอบเอาไปถวายวัด ที่มีคนเอาน้องหมามาทิ้ง และพรุ่งนี้ดิฉันก็จะทำบุญให้น้องตอนเช้า ดิฉันคุยกับชาวบ้านแล้วว่า อยากขอให้หลวงพ่อช่วยสวดส่งวิญญาณน้องให้ไปสงบให้หน่อย ซึ่งดิฉันก็เตรียมของทุกสิ่งไว้หมดแล้ว
        ความรู้สึกตอนนี้ ทำไมทุกข์ใจมากเหลือเกิน มันเศร้ามันกินอะไรไม่ได้เลยค่ะ กลับมาบ้านน้องแมว 2 ก้อนที่บ้านเหมือนจะรู้ว่าดิฉันมีความทุกข์ใจอะไร เขาก็เข้ามาคลอเคลีย ซึ่งทุกครั้งเขาไม่เป็น ดิฉันก็ได้แต่พูดว่า คุณยายเสียใจ คุณยายไมไหวแล้ว 
       ฉันอยากเขียนระบายบอกความรู้สึกว่า ดิฉันเสียใจมากและไม่รู้ว่าภาพเหล่านี้มันจะหายไปได้อย่างไร ทำใจไม่ได้เลยค่ะ 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่