ลัยวัลย์มองพยาบาลเอาขวดน้ำเกลือขวดใหม่มาเปลี่ยนให้
“ คุณพยาบาลคะ ”
“ มีอะไรคะ ”
“ ฉันอยากเห็นหน้าลูกของฉัน ช่วยพาเขามาให้ฉันดูหน่อยได้ไหม ”
“ ยังไม่หรอกนะคะ ลูกของคุณคลอดก่อนกำหนด หมอต้องเอาเข้าเครื่องอบอยู่นะคะ แต่คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะคะเขาแข็งแรงดีหล่อเหมือนคนพ่อเปี๊ยบเลย ”
พยาบาลออกไปลัยวัลย์นอนลืมตาแป๋ว ป้าสนทำซุบมาเยี่ยม ลัยวัลย์ดีใจที่ป้าสนมา
“ ป้าสน ”
“ คนดีของป้า ไม่เป็นอะไรแล้วนะคะ ตอนที่คุณนินไปตามป้าขาแข่งสั่นไปหมดกลัวว่าจะเป็นอะไรไปทั้งแม่ทั้งลูก ”
“ ลูกของวัลย์เขาปลอดภัยแล้วค่ะ แต่วัลย์ยังไม่ได้เห็นหน้าเขาเลย ”
“ หล่อค่ะ ป้าไปดูเขามาเมื่อกี้นี้ หน้าตาหล่อทีเดียวแต่เหมือนคุณวัลย์นะคะ เหมือนทั้งปากทั้งจมูก ”
ลัยวัลย์ยิ้ม อยากเห็นลูกใจจะขาดแต่ก็ลุกไปดูไม่ไหว เพราะเธอบอบช้ำไปทั้งตัวแถมยังถูกผ่าท้องเอาลูกออกมาอีกมันจึงปวดไปทั้งเนื้อตัวและแผลผ่าตัด หมอกีรติเข้ามาเขายิ้มให้ป้าสนแล้วเข้ามาดูภรรยา ลัยวัลย์เขียวช้ำไปทั้งตัวเพราะตกบันไดลงมาที่หน้าผากของเธอบวมแทบแตกมันสีเขียวอมม่วงเกือบเท่าลูกมะนาวแขนก็ต้องใส่เฝือกอ่อนเอาไว้เพราะกระดูกท่อนแขนร้าว
เรียกว่าลัยวัลย์น่วมไปทั้งตัวเลยทีเดียว
“ ป้าสนทำอะไรมาให้คุณวัลย์หรือครับ ”
หมอหันไปถามป้าสน
“ ซุบเห็ดค่ะ ”
“ ดีเลย ให้คุณลัยวัลย์กินเยอะๆนะ จะได้แข็งแรงเร็วๆ ”
“ ป้าทำมาเผื่อคุณหมอด้วยนะคะยังไงคุณหมอก็ทานกับคุณวัลย์เธอนะคะ ”
“ ขอบคุณครับ ”
“ ป้าสนขา คืนนี้ป้าสนอยู่กับวัลย์นะคะ ”
“ ได้สิคะป้าจะเฝ้าคุณวัลย์เอง ”
“ ป้าไม่ต้องลำบากหรอก คืนนี้ผมจะอยู่เฝ้าไข้คุณวัลย์เอง เขายังต้องอยู่ในความดูแลใกล้ชิดของหมอ ”
“ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว ”
“ ยังอวดดี ถ้าไม่เป็นอะไรไหนลองลุกเดินให้ผมดูหน่อยสิ ”
หมอหันไปว่า ลัยวัลย์เมินหน้าหนีอย่างไม่สบอารมณ์
“ เถียงยังไม่มีแรงจะเถียงแล้วยังอวดเก่งอย่างนี้ต้องจับฉีดยาทุกๆชั่วโมง ”
“ อย่างนั้นก็ฆ่าฉันให้ตายไปซะเลยก็สิ้นเรื่อง ”
ลัยวัลย์ยังเถียงอู้อี้ในลำคอ ถ้าไม่ติดว่าป้าสนนั่งฟังอยู่เขาจะเอาเข็มแกล้งจิ้มเธอสักทีให้มันรู้ซะบ้างว่าอย่าเถียงนัก
อนินเดินมาที่หลุมฝังศพของแม้นมาศ เขายืนมองดอกซ่อนกลิ่นที่งามสะพรั่งชูช่อขาวนวลพร้อมกับส่งกลิ่นฉุนขจรกระจายไปทั่วบริเวณ ทำไมลัยวัลย์บอกว่าผีแม้นมาศจะฆ่าเธอ มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่คนตายไปแล้วจะมาฆ่าคน ลัยวัลย์เข้ามาอะไรผิดหรือเปล่าหรือว่าเธอกลัวจนเกิดภาพหลอนขึ้นมาเองอนินจะเดินกลับ เขาต้องชักเท้าเมื่อเห็นสิ่งของสิ่งหนึ่งที่ตกอยู่กับพื้น อนินก้มหยิบขึ้นมาดู
“ หวีสับผมของสไบทำไมมาหล่อนอยู่ที่นี่ สไบคงมาหาเข้านายเดิมแล้วทำหวีสับหล่อนเอาไว้ก็ได้ ”
อนินเก็บหวีอันเล็กใส่กระเป๋าแล้วเสื้อแล้วกลับไปที่บ้าน เดินเงียบๆไปที่ห้องเตรียมอาหารเขาได้ยินเสียงเรียมคุยกับสไบ
“ คืนนี้คุณหมอคงอยู่เฝ้าคุณวัลย์ที่โรงพยาบาล ”
“ หัวแข็งนะไม่ยักกะตาย ”
“ เอ็งพูดอะไรน่ะสไบ ทำไมเอ็งถึงพูดแบบนั้นหาจะไม่ชอบคุณวัลย์เขาทำไม เขาก็ออกดี ”
“ พี่เรียมว่าเขาดีไปคนเดียวเถอะ สำหรับฉันไม่มีใครดีเท่าคุณมาศอีกแล้ว ”
“ คุณวัลย์เขามาเกี่ยวอะไรกับคุณมาศล่ะ เขาเพิ่งมาอยู่คุณมาศของเราน่ะตายไปนานแล้ว ”
“ ตายไปนานเหรอ พี่เรียมคิดดูสิเขาท้องจนขนาดนี้แสดงว่าเขากับคุณหมอต้องมีอะไรกันก่อนที่คุณมาศจะตาย ”
“ แล้วมันเกี่ยวอะไรเล่า ถึงเขาจะมีอะไรกับคุณหมอมันก็ยังไม่เกี่ยวอะไรกับคุณมาศสักหน่อย ”
“ คุณมาศเป็นคู่หมั้นของคุณหมอ ยังอยู่คาบ้านแม่นั่นก็เอาคุณหมอแล้วแบบนี้จะไม่เกี่ยวกับคุณมาศได้อย่างไรพี่เรียมคิดดู คุณมาศคงจะรู้เรื่องนี้แล้วตรอมใจตาย ”
“ เอ็งมันบ้าใหญ่โต คุณมาศเป็นอะไรตายเอ็งก็รู้ดีจะไปโทษคุณวัลย์เขาได้อย่างไร ”
“ ถ้าไม่มีใครคุณมาศก็อาจจะไม่ตายเร็วถึงขนาดนี้ เพราะเขานั่นแหละ ”
“ สไบเอ็งหุบปากเลยนะและเลิกคิดว่าคุณมาศตายเพราะคุณวัลย์มี่ส่วนได้เลย มันไม่เกี่ยวกันเลยเอ็งรู้ไว้ซะด้วย ”
เรียมตะหวาดสไบอนินรีบเดินออกมาจากที่นั่น เขาเริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลของสไบขึ้นมาเลาๆ
หมอมายืนมองลูกชายที่อยู่ในตู้อบ สายตาที่มองลูกนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักอย่างเหลือล้น
“ ลูกรักของพ่อน่ารักเหลือเกิน ”
“ คุณหมอคะ มาเยี่ยมลูกชายหรือคะ ”
พยาบาลที่ดูแลเด็กอ่อนเข้ามาถาม
“ ครับ เขากินได้มากไหม ”
“ ก็ดีค่ะ กินนมได้พอสมควร ความจริงถ้าคุณแม่น้ำนมเริ่มไหลแล้วก็เอาไปดื่มนมของคุณแม่ได้นะคะ ”
“ ผมเขายังไม่แข็งแรงเลย น้ำนมก็คงยังไม่มี ”
“ ก็ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าคุณแม่พร้อมเมื่อไหร่ก็มาให้นมลูกได้ ”
“ ครับ ”
หมอกลับมาที่ห้องพักของลัยวัลย์ คนไข้ยังหลับหมอจึงนั่งที่เก้าอี้ยาวที่ใช้เฝ้าไข้จะสามทุ่มแล้วน้ำเกลือในขวดจวนจะหมดขวด ลัยวัลย์ยังต้องรับน้ำเกลืออีกสองถึงสามขวดเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารเข้าไปบำรุงกำลังและความอ่อนเพลียจะได้ฟื้นตัวเร็วขึ้น ลัยวัลย์ฝันร้ายอีกเธอส่ายหน้าไปมาเหมือนกำลังหวาดกลัวอะไรเสียงของเธออู้อี้ในลำคอหมอเข้าไปข้างเตียงและแตะเขียนของเธอเพื่อปลุกให้ตื่นจากฝันร้ายลัยวัลย์ผวาลืมตาใบหน้าของเธอซีดเผือดดวงตาตื่นอย่างหวาดกลัว
“ คุณหมอ ”
“ คุณวัลย์คุณฝันร้ายอีกใช่ไหม ”
“ ฉัน ฉันไม่อยากเจอเขาอีก ฉันกลัว ”
“ คุณวัลย์ ใคร คุณฝันถึงใคร ”
“ แม้นมาศ ผู้หญิงที่ชื่อแม้นมาศเขาบอกเขาเป็นคู่หมั้นของคุณเขาจะฆ่าฉัน ”
ลัยวัลย์หวาดกลัว หมอกีรติหน้าเครียดขึ้นมาทันทีเขาเห็นกับตาว่าลัยวัลย์ฝันเธอไม่ได้พูดเพ้อเจ้อเลย ทำไมถึงเป็นแบบนี้ลัยวัลย์ลืมไปว่าไม่ชอบหน้าหมอเธอจับมือของเขาไว้แน่นมือของเธอเย็นเฉียบอย่างตกใจหวาดกลัวจริงๆ
“ ไม่มีอะไร ผมอยู่ที่นี่คุณจะไม่เป็นอะไรนะ ”
ลัยวัลย์มองหน้าหมอเธออยากจะพูดอะไรมากกว่านี้แต่มันเจ็บปวดร้าวไปทั้งตัวจนต้องนิ่วหน้าครางเบาๆ หมอจับมือเธอกุมเอาไว้อย่างปลอบโยน หมอต้องให้ยาคลายประสาทกับเธอเพื่อให้ได้หลับพักผ่อนได้เต็มที่ แต่หมอก็ไม่ยอมออกไปไหนห่างเธอเพราะเป็นห่วงอย่างที่สุด
อนินลงมาจากชั้นบนสวนกับสไบที่บันได
“ สไบ ”
“ คะคุณนิน ”
“ คืนที่ลัยวัลย์ตกบันไดสไบอยู่ที่ไหน ”
สไบหน้าตื่นอย่างมีพิรุธอนินจ้องหน้าสาวใช้เก่าแก่ของบ้านเขม็ง
“ สไบหลับแล้วค่ะไม่ได้ยินอะไรเลยมารู้ว่าคุณวัลย์ตกบันไดก็เมื่อคุณหมอตะโกนร้องให้ช่วยคุณวัลย์ ”
“ เหรอ แล้วเธอออกมาหรือเปล่าเพราะฉันไม่เห็นเธอเลยจนกระทั่งพาคุณวัลย์ส่งโรงพยาบาล ”
“ ออก ออกมาค่ะแต่สไบไม่กล้ามาเกะกะได้แต่ยืนมองอยู่ห่างๆเท่านั้น
“ อืมม์ อย่างนั้นหรอกหรือ ”
อนินเดินลงมาข้างล่างสไบถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วรีบขึ้นไปข้างบนทันที
ป้าสนเคี่ยวซุบจะเอาไปเยี่ยมลัยวัลย์ที่โรงพยาบาลพัดชาเดินเข้ามาในครัว
“ ทำอะไรน่ะป้า หอมเชียว ”
“ เคี่ยวซุบค่ะจะเอาไปให้คุณวัลย์ทาน ”
“ เหรอ เขาเป็นอย่าวงไรมั่งล่ะ ”
“ ก็ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะอีกสองสามวันก็คงจะกลับบ้านได้ ”
“ ตกบันไดกับปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกก็ถือว่าโชคดีมากเลยนะ ”
“ ค่ะ คุณพระคงคุ้มครองเธอกับคุณหนูเล็กให้แคล้วคลาดปลอดภัยไม่เป็นอะไรมาก ”
“ พระนี่ลำเอียงนะป้า กับคนบางคนปกป้องคุ้มครองดีนักแต่กับฉันทำไมถึงไม่เคยคุ้มครองฉันเลย ”
“ โถ ทำไมคุณพัดพูดอย่างนั้นล่ะคะ คนดียังไงพระท่านก็คุ้มครองทังนั้นแหละค่ะ ”
“ แต่ไม่ใช่ฉัน ”
พัดชาพูดอย่างขมขื่นแล้วเดินกลับออกไปป้าสนมองตามหลานสาวเจ้านายอย่างอ่อนใจ
พัดชาออกมานั่งน้อยใจในโชคชะตาของตัวเองที่ไม่คิดว่าจะคิดจะทำอะไรมันผิดพลาดไปหมดหนำซ้ำชีวิตก็ต้องตกต่ำอยู่เหมือนเป็นนางบำเรอให้ราวินที่เธอไม่ชอบหน้ามาก่อน พัดชาอยากมีชีวิตที่ดีขึ้นเธอรักหมอกีรติที่สุดแต่เขาไม่เคยชายตามองเธอเลย ที่ยิ่งเจ็บใจนักคือผู้หญิงนอกสายตาอย่างลัยวัลย์กลับได้หมอเอาไปครอบครองถึงขนาดมีลูกด้วยกัน
“ทำไมฉันถึงต้องเสียพี่หมอให้กับเธอด้วย ลัยวัลย์ ทำไม ”
พัดชาร้องไห้ในอกความแค้นความริษยาเต็มเปี่ยมในหัวใจแทบจะระเบิดตาย
อาการของลัยวัลย์ดีขึ้นตามลำดับเมื่อเธอพอจะเดินได้ลัยวัลย์ก็ขอร้องให้พยาบาลช่วยพาเธอไปดูลูกที่ห้องดูแลเด็กอ่อน
“ จะไปเยี่ยมลูกก็ได้นะคะเดี๋ยวดิฉันจะไปเอารถเข็นนั่งมาให้คุณจะได้ไม่ต้องเดิน ”
“ ขอบคุณค่ะ ”
ลัยวัลย์ตื่นเต้นที่สุดที่จะได้เห็นหน้าลูก เธอนั่งรอรถเข็นที่พยาบาลไปเอามาให้ แต่คนที่เข็นเข้ามาคือหมอกีรติเขายิ้มให้เมื่อเห็นลัยวัลย์นั่งรอหน้าตาสดใสขึ้น
“ ตื่นเต้นล่ะซี่ที่จะได้ไปเยี่ยมลูก ”
“ พยาบาลเขาไปหนเสียล่ะคะ ”
“ เขาก็ไปดูแลคนไข้คนอื่นสิครับ ไม่ต้องห่วงนะผมพาคุณไปหาลูกได้อย่างปลอดภัยที่สุด ”
ลัยวัลย์ตะกายลงจากเตียงหมอเข้าประคองช่วย
“ คุณน่ะทำเก่งถ้าตกเตียงอีกครั้งได้นอนโรงพยาบาลยาวแน่ ”
“ ฉันไม่อยากงอมืองอเท้าของพึ่งคนอื่น ”
“ ครับ คนเก่งผมจะบอกอะไรให้นะ ลูกแข็งแรงมากเขาพร้อมที่จะให้เรารับเอากลับไปดูแลที่บ้านได้ ก็รอแต่ว่าคุณจะแข็งแรงและหายเร็วแค่ไหนจะได้กลับบ้านไปเลี้ยงลูก ”
“ จริงเหรอ เขาไม่ต้องอยู่อบที่โรงพยาบาลอีกเหรอคะ ”
“ ก็จริงน่ะสิ เขาเก่งมากเลยนะขนาดอยู่ในท้องแค่เจ็ดเดือนกว่าๆ ออกมาไม่อ่อนแอเท่าไหร่นี่ถ้าเป็นเด็กคนอื่นอาจจะต้องอบกันนานกว่าจะรับกลับไปดูแลเองที่บ้านได้ ”
คุยกันดีได้ยาวก็เพราะลูกเป็นสายใยเชื่อมให้โดยไม่รู้ตัว กีรติพาลัยวัลย์มาถึงห้องเด็ก คุณแม่ที่ยังไม่เคยเห็นหน้าลูกตื่นเต้นจนแทบผวาเข้าไปเกาะกระจกมอง หมอให้พยาบาลช่วยอุ้มลูกชายเอามาให้ลัยวัลย์ได้ชื่นชมอย่างใกล้ชิดลัยวัลย์ดีใจจนปากสั่นมองหน้าลูกไม่ละลายตาเลย
“ ลูกจ๋า ลูกของแม่น่ารักเหลือเกินน่ารักที่สุดในโลกเลย ”
กีรติมองความรักที่แม่มีต่อลูกแล้วรู้สึกเป็นสุขที่สุดนี่เป็นครั้งแรกที่สามชีวิตพ่อแม่ลูกได้อยู่พร้อมหน้ากันเป็นความอบอุ่นอย่างประหลาดที่เขารู้สึกได้
“ ลูกยังไม่มีชื่อเลย ผมคิดเอาไว้ให้เขาแล้วไม่รู้คุณจะชอบไหม ”
“ ชื่ออะไรคะ ”
“ วรรษกร จิรลิขิตกุล อักษรชื่อของคุณรวมกับชื่อของผม ”
ลัยวัลย์ไม่ว่าอะไรเธอก้มมองหน้าลูกแล้วถามลูก
“ แล้วหนูชอบไหมคะชื่อนี้ ”
หมอยิ้มเมื่อรู้ว่าลัยวัลย์ไม่ปฏิเสธที่จะให้ลูกชื่อที่เขาเป็นคนตั้งให้ ความสัมพันธ์ระหว่างกีรติกับลัยวัลย์ดีขึ้นมาลำดับหนึ่งเพราะมีลูกเป็นตัวเชื่อม ลัยวัลย์ไม่ค่อยแสดงท่าทีไม่ชอบหน้าหมอเพราะมัวแต่เห่อลูกหลงลูกหมอเองก็เห่อไม่แพ้กัน
แล้ววันที่ลัยวัลย์กลับบ้านก็ได้มาถึง ลัยวัลย์จะไม่ยอมกลับไปอยู่ที่บ้านของหมออีกเพรากลัวผีของแม้นมาศ
“ ฉันขอไปอยู่กับพี่วิน ”
“ ทำไม บ้านของเราก็มีทำไมต้องไปอยู่กับคุณวิน ”
“ ฉัน ฉันไม่อยากกลับไปที่นั่น ”
“ คุณยังกลัวที่ในสิ่งที่คุณคิดว่ามีใช่ไหม ”
“ แต่มันมีจริงๆ คู่หมั้นของคุณหวงคุณจริงๆฉันไม่อยากเข้าไปอยู่ให้เขาเข้าใจฉันผิด ”
“ บ้าแล้ว คุณอย่าหาเหตุไม่ยอมกลับไปอยู่กับผมหน่อยเลย ผมไม่ยอมหรอกถ้าคุณจะเอาเหตุผลที่ไร้สาระมาแบบนี้มาอ้าง ผมไม่ยอม ”
“ คุณจะคิดอย่างก็เรื่องของคุณแล้ว แต่ฉันไม่เอา ไม่กลับไปที่นั่นเด็ดขาด ไม่ ”
ลัยวัลย์เสียงดังไม่ยอม กีรติหน้าเครียดเขาไม่ยอมเหมือนกัน
“ เอาอย่างนี้นะ ถ้าคุณกลัวผมจะไปหาคนมาอยู่เป็นเพื่อนกับคุณตลอดเวลาเลย ดูสิว่าผีที่ไหนจะมาหลอกคุณอีก ”
เมื่อไม่มีทางขัดเขาได้ลัยวัลย์ก็ต้องยอมกลับมาที่ไร่กีรติอีก กีรติสั่งให้สไบมาอยู่เป็นเพื่อนกับลัยวัลย์มานอนกับลัยวัลย์ที่ห้องด้วยเพื่อลัยวัลย์จะได้ไม่กลัว
แต่คืนแรกลัยวัลย์กลับมาบ้านเธอก็เจอดีอีก ลัยวัลย์กลับมาจากห้องลูกโดยหมอกีรติเดินตามมาส่งเธอทีห่น้าห้อง
“ คุณยังไม่แข็งแรงอย่าเดินไปไหนมาไหนนัก พักผ่อนให้มากๆแล้วยาคุณกินหรือยังมื้อก่อนนอนน่ะ ”
“ กินแล้วค่ะ ”
ลัยวัลย์บอกแล้วเดินเข้าห้องหมอมองร่างบอบบางเปิดประตูเข้าห้องไปแล้วเขาจึงกลับไปที่ห้องของเขา
รอวัน...จันทร์ส่องหล้า ตอนที่ 19
“ คุณพยาบาลคะ ”
“ มีอะไรคะ ”
“ ฉันอยากเห็นหน้าลูกของฉัน ช่วยพาเขามาให้ฉันดูหน่อยได้ไหม ”
“ ยังไม่หรอกนะคะ ลูกของคุณคลอดก่อนกำหนด หมอต้องเอาเข้าเครื่องอบอยู่นะคะ แต่คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะคะเขาแข็งแรงดีหล่อเหมือนคนพ่อเปี๊ยบเลย ”
พยาบาลออกไปลัยวัลย์นอนลืมตาแป๋ว ป้าสนทำซุบมาเยี่ยม ลัยวัลย์ดีใจที่ป้าสนมา
“ ป้าสน ”
“ คนดีของป้า ไม่เป็นอะไรแล้วนะคะ ตอนที่คุณนินไปตามป้าขาแข่งสั่นไปหมดกลัวว่าจะเป็นอะไรไปทั้งแม่ทั้งลูก ”
“ ลูกของวัลย์เขาปลอดภัยแล้วค่ะ แต่วัลย์ยังไม่ได้เห็นหน้าเขาเลย ”
“ หล่อค่ะ ป้าไปดูเขามาเมื่อกี้นี้ หน้าตาหล่อทีเดียวแต่เหมือนคุณวัลย์นะคะ เหมือนทั้งปากทั้งจมูก ”
ลัยวัลย์ยิ้ม อยากเห็นลูกใจจะขาดแต่ก็ลุกไปดูไม่ไหว เพราะเธอบอบช้ำไปทั้งตัวแถมยังถูกผ่าท้องเอาลูกออกมาอีกมันจึงปวดไปทั้งเนื้อตัวและแผลผ่าตัด หมอกีรติเข้ามาเขายิ้มให้ป้าสนแล้วเข้ามาดูภรรยา ลัยวัลย์เขียวช้ำไปทั้งตัวเพราะตกบันไดลงมาที่หน้าผากของเธอบวมแทบแตกมันสีเขียวอมม่วงเกือบเท่าลูกมะนาวแขนก็ต้องใส่เฝือกอ่อนเอาไว้เพราะกระดูกท่อนแขนร้าว
เรียกว่าลัยวัลย์น่วมไปทั้งตัวเลยทีเดียว
“ ป้าสนทำอะไรมาให้คุณวัลย์หรือครับ ”
หมอหันไปถามป้าสน
“ ซุบเห็ดค่ะ ”
“ ดีเลย ให้คุณลัยวัลย์กินเยอะๆนะ จะได้แข็งแรงเร็วๆ ”
“ ป้าทำมาเผื่อคุณหมอด้วยนะคะยังไงคุณหมอก็ทานกับคุณวัลย์เธอนะคะ ”
“ ขอบคุณครับ ”
“ ป้าสนขา คืนนี้ป้าสนอยู่กับวัลย์นะคะ ”
“ ได้สิคะป้าจะเฝ้าคุณวัลย์เอง ”
“ ป้าไม่ต้องลำบากหรอก คืนนี้ผมจะอยู่เฝ้าไข้คุณวัลย์เอง เขายังต้องอยู่ในความดูแลใกล้ชิดของหมอ ”
“ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว ”
“ ยังอวดดี ถ้าไม่เป็นอะไรไหนลองลุกเดินให้ผมดูหน่อยสิ ”
หมอหันไปว่า ลัยวัลย์เมินหน้าหนีอย่างไม่สบอารมณ์
“ เถียงยังไม่มีแรงจะเถียงแล้วยังอวดเก่งอย่างนี้ต้องจับฉีดยาทุกๆชั่วโมง ”
“ อย่างนั้นก็ฆ่าฉันให้ตายไปซะเลยก็สิ้นเรื่อง ”
ลัยวัลย์ยังเถียงอู้อี้ในลำคอ ถ้าไม่ติดว่าป้าสนนั่งฟังอยู่เขาจะเอาเข็มแกล้งจิ้มเธอสักทีให้มันรู้ซะบ้างว่าอย่าเถียงนัก
อนินเดินมาที่หลุมฝังศพของแม้นมาศ เขายืนมองดอกซ่อนกลิ่นที่งามสะพรั่งชูช่อขาวนวลพร้อมกับส่งกลิ่นฉุนขจรกระจายไปทั่วบริเวณ ทำไมลัยวัลย์บอกว่าผีแม้นมาศจะฆ่าเธอ มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่คนตายไปแล้วจะมาฆ่าคน ลัยวัลย์เข้ามาอะไรผิดหรือเปล่าหรือว่าเธอกลัวจนเกิดภาพหลอนขึ้นมาเองอนินจะเดินกลับ เขาต้องชักเท้าเมื่อเห็นสิ่งของสิ่งหนึ่งที่ตกอยู่กับพื้น อนินก้มหยิบขึ้นมาดู
“ หวีสับผมของสไบทำไมมาหล่อนอยู่ที่นี่ สไบคงมาหาเข้านายเดิมแล้วทำหวีสับหล่อนเอาไว้ก็ได้ ”
อนินเก็บหวีอันเล็กใส่กระเป๋าแล้วเสื้อแล้วกลับไปที่บ้าน เดินเงียบๆไปที่ห้องเตรียมอาหารเขาได้ยินเสียงเรียมคุยกับสไบ
“ คืนนี้คุณหมอคงอยู่เฝ้าคุณวัลย์ที่โรงพยาบาล ”
“ หัวแข็งนะไม่ยักกะตาย ”
“ เอ็งพูดอะไรน่ะสไบ ทำไมเอ็งถึงพูดแบบนั้นหาจะไม่ชอบคุณวัลย์เขาทำไม เขาก็ออกดี ”
“ พี่เรียมว่าเขาดีไปคนเดียวเถอะ สำหรับฉันไม่มีใครดีเท่าคุณมาศอีกแล้ว ”
“ คุณวัลย์เขามาเกี่ยวอะไรกับคุณมาศล่ะ เขาเพิ่งมาอยู่คุณมาศของเราน่ะตายไปนานแล้ว ”
“ ตายไปนานเหรอ พี่เรียมคิดดูสิเขาท้องจนขนาดนี้แสดงว่าเขากับคุณหมอต้องมีอะไรกันก่อนที่คุณมาศจะตาย ”
“ แล้วมันเกี่ยวอะไรเล่า ถึงเขาจะมีอะไรกับคุณหมอมันก็ยังไม่เกี่ยวอะไรกับคุณมาศสักหน่อย ”
“ คุณมาศเป็นคู่หมั้นของคุณหมอ ยังอยู่คาบ้านแม่นั่นก็เอาคุณหมอแล้วแบบนี้จะไม่เกี่ยวกับคุณมาศได้อย่างไรพี่เรียมคิดดู คุณมาศคงจะรู้เรื่องนี้แล้วตรอมใจตาย ”
“ เอ็งมันบ้าใหญ่โต คุณมาศเป็นอะไรตายเอ็งก็รู้ดีจะไปโทษคุณวัลย์เขาได้อย่างไร ”
“ ถ้าไม่มีใครคุณมาศก็อาจจะไม่ตายเร็วถึงขนาดนี้ เพราะเขานั่นแหละ ”
“ สไบเอ็งหุบปากเลยนะและเลิกคิดว่าคุณมาศตายเพราะคุณวัลย์มี่ส่วนได้เลย มันไม่เกี่ยวกันเลยเอ็งรู้ไว้ซะด้วย ”
เรียมตะหวาดสไบอนินรีบเดินออกมาจากที่นั่น เขาเริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลของสไบขึ้นมาเลาๆ
หมอมายืนมองลูกชายที่อยู่ในตู้อบ สายตาที่มองลูกนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักอย่างเหลือล้น
“ ลูกรักของพ่อน่ารักเหลือเกิน ”
“ คุณหมอคะ มาเยี่ยมลูกชายหรือคะ ”
พยาบาลที่ดูแลเด็กอ่อนเข้ามาถาม
“ ครับ เขากินได้มากไหม ”
“ ก็ดีค่ะ กินนมได้พอสมควร ความจริงถ้าคุณแม่น้ำนมเริ่มไหลแล้วก็เอาไปดื่มนมของคุณแม่ได้นะคะ ”
“ ผมเขายังไม่แข็งแรงเลย น้ำนมก็คงยังไม่มี ”
“ ก็ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าคุณแม่พร้อมเมื่อไหร่ก็มาให้นมลูกได้ ”
“ ครับ ”
หมอกลับมาที่ห้องพักของลัยวัลย์ คนไข้ยังหลับหมอจึงนั่งที่เก้าอี้ยาวที่ใช้เฝ้าไข้จะสามทุ่มแล้วน้ำเกลือในขวดจวนจะหมดขวด ลัยวัลย์ยังต้องรับน้ำเกลืออีกสองถึงสามขวดเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารเข้าไปบำรุงกำลังและความอ่อนเพลียจะได้ฟื้นตัวเร็วขึ้น ลัยวัลย์ฝันร้ายอีกเธอส่ายหน้าไปมาเหมือนกำลังหวาดกลัวอะไรเสียงของเธออู้อี้ในลำคอหมอเข้าไปข้างเตียงและแตะเขียนของเธอเพื่อปลุกให้ตื่นจากฝันร้ายลัยวัลย์ผวาลืมตาใบหน้าของเธอซีดเผือดดวงตาตื่นอย่างหวาดกลัว
“ คุณหมอ ”
“ คุณวัลย์คุณฝันร้ายอีกใช่ไหม ”
“ ฉัน ฉันไม่อยากเจอเขาอีก ฉันกลัว ”
“ คุณวัลย์ ใคร คุณฝันถึงใคร ”
“ แม้นมาศ ผู้หญิงที่ชื่อแม้นมาศเขาบอกเขาเป็นคู่หมั้นของคุณเขาจะฆ่าฉัน ”
ลัยวัลย์หวาดกลัว หมอกีรติหน้าเครียดขึ้นมาทันทีเขาเห็นกับตาว่าลัยวัลย์ฝันเธอไม่ได้พูดเพ้อเจ้อเลย ทำไมถึงเป็นแบบนี้ลัยวัลย์ลืมไปว่าไม่ชอบหน้าหมอเธอจับมือของเขาไว้แน่นมือของเธอเย็นเฉียบอย่างตกใจหวาดกลัวจริงๆ
“ ไม่มีอะไร ผมอยู่ที่นี่คุณจะไม่เป็นอะไรนะ ”
ลัยวัลย์มองหน้าหมอเธออยากจะพูดอะไรมากกว่านี้แต่มันเจ็บปวดร้าวไปทั้งตัวจนต้องนิ่วหน้าครางเบาๆ หมอจับมือเธอกุมเอาไว้อย่างปลอบโยน หมอต้องให้ยาคลายประสาทกับเธอเพื่อให้ได้หลับพักผ่อนได้เต็มที่ แต่หมอก็ไม่ยอมออกไปไหนห่างเธอเพราะเป็นห่วงอย่างที่สุด
อนินลงมาจากชั้นบนสวนกับสไบที่บันได
“ สไบ ”
“ คะคุณนิน ”
“ คืนที่ลัยวัลย์ตกบันไดสไบอยู่ที่ไหน ”
สไบหน้าตื่นอย่างมีพิรุธอนินจ้องหน้าสาวใช้เก่าแก่ของบ้านเขม็ง
“ สไบหลับแล้วค่ะไม่ได้ยินอะไรเลยมารู้ว่าคุณวัลย์ตกบันไดก็เมื่อคุณหมอตะโกนร้องให้ช่วยคุณวัลย์ ”
“ เหรอ แล้วเธอออกมาหรือเปล่าเพราะฉันไม่เห็นเธอเลยจนกระทั่งพาคุณวัลย์ส่งโรงพยาบาล ”
“ ออก ออกมาค่ะแต่สไบไม่กล้ามาเกะกะได้แต่ยืนมองอยู่ห่างๆเท่านั้น
“ อืมม์ อย่างนั้นหรอกหรือ ”
อนินเดินลงมาข้างล่างสไบถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วรีบขึ้นไปข้างบนทันที
ป้าสนเคี่ยวซุบจะเอาไปเยี่ยมลัยวัลย์ที่โรงพยาบาลพัดชาเดินเข้ามาในครัว
“ ทำอะไรน่ะป้า หอมเชียว ”
“ เคี่ยวซุบค่ะจะเอาไปให้คุณวัลย์ทาน ”
“ เหรอ เขาเป็นอย่าวงไรมั่งล่ะ ”
“ ก็ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะอีกสองสามวันก็คงจะกลับบ้านได้ ”
“ ตกบันไดกับปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกก็ถือว่าโชคดีมากเลยนะ ”
“ ค่ะ คุณพระคงคุ้มครองเธอกับคุณหนูเล็กให้แคล้วคลาดปลอดภัยไม่เป็นอะไรมาก ”
“ พระนี่ลำเอียงนะป้า กับคนบางคนปกป้องคุ้มครองดีนักแต่กับฉันทำไมถึงไม่เคยคุ้มครองฉันเลย ”
“ โถ ทำไมคุณพัดพูดอย่างนั้นล่ะคะ คนดียังไงพระท่านก็คุ้มครองทังนั้นแหละค่ะ ”
“ แต่ไม่ใช่ฉัน ”
พัดชาพูดอย่างขมขื่นแล้วเดินกลับออกไปป้าสนมองตามหลานสาวเจ้านายอย่างอ่อนใจ
พัดชาออกมานั่งน้อยใจในโชคชะตาของตัวเองที่ไม่คิดว่าจะคิดจะทำอะไรมันผิดพลาดไปหมดหนำซ้ำชีวิตก็ต้องตกต่ำอยู่เหมือนเป็นนางบำเรอให้ราวินที่เธอไม่ชอบหน้ามาก่อน พัดชาอยากมีชีวิตที่ดีขึ้นเธอรักหมอกีรติที่สุดแต่เขาไม่เคยชายตามองเธอเลย ที่ยิ่งเจ็บใจนักคือผู้หญิงนอกสายตาอย่างลัยวัลย์กลับได้หมอเอาไปครอบครองถึงขนาดมีลูกด้วยกัน
“ทำไมฉันถึงต้องเสียพี่หมอให้กับเธอด้วย ลัยวัลย์ ทำไม ”
พัดชาร้องไห้ในอกความแค้นความริษยาเต็มเปี่ยมในหัวใจแทบจะระเบิดตาย
อาการของลัยวัลย์ดีขึ้นตามลำดับเมื่อเธอพอจะเดินได้ลัยวัลย์ก็ขอร้องให้พยาบาลช่วยพาเธอไปดูลูกที่ห้องดูแลเด็กอ่อน
“ จะไปเยี่ยมลูกก็ได้นะคะเดี๋ยวดิฉันจะไปเอารถเข็นนั่งมาให้คุณจะได้ไม่ต้องเดิน ”
“ ขอบคุณค่ะ ”
ลัยวัลย์ตื่นเต้นที่สุดที่จะได้เห็นหน้าลูก เธอนั่งรอรถเข็นที่พยาบาลไปเอามาให้ แต่คนที่เข็นเข้ามาคือหมอกีรติเขายิ้มให้เมื่อเห็นลัยวัลย์นั่งรอหน้าตาสดใสขึ้น
“ ตื่นเต้นล่ะซี่ที่จะได้ไปเยี่ยมลูก ”
“ พยาบาลเขาไปหนเสียล่ะคะ ”
“ เขาก็ไปดูแลคนไข้คนอื่นสิครับ ไม่ต้องห่วงนะผมพาคุณไปหาลูกได้อย่างปลอดภัยที่สุด ”
ลัยวัลย์ตะกายลงจากเตียงหมอเข้าประคองช่วย
“ คุณน่ะทำเก่งถ้าตกเตียงอีกครั้งได้นอนโรงพยาบาลยาวแน่ ”
“ ฉันไม่อยากงอมืองอเท้าของพึ่งคนอื่น ”
“ ครับ คนเก่งผมจะบอกอะไรให้นะ ลูกแข็งแรงมากเขาพร้อมที่จะให้เรารับเอากลับไปดูแลที่บ้านได้ ก็รอแต่ว่าคุณจะแข็งแรงและหายเร็วแค่ไหนจะได้กลับบ้านไปเลี้ยงลูก ”
“ จริงเหรอ เขาไม่ต้องอยู่อบที่โรงพยาบาลอีกเหรอคะ ”
“ ก็จริงน่ะสิ เขาเก่งมากเลยนะขนาดอยู่ในท้องแค่เจ็ดเดือนกว่าๆ ออกมาไม่อ่อนแอเท่าไหร่นี่ถ้าเป็นเด็กคนอื่นอาจจะต้องอบกันนานกว่าจะรับกลับไปดูแลเองที่บ้านได้ ”
คุยกันดีได้ยาวก็เพราะลูกเป็นสายใยเชื่อมให้โดยไม่รู้ตัว กีรติพาลัยวัลย์มาถึงห้องเด็ก คุณแม่ที่ยังไม่เคยเห็นหน้าลูกตื่นเต้นจนแทบผวาเข้าไปเกาะกระจกมอง หมอให้พยาบาลช่วยอุ้มลูกชายเอามาให้ลัยวัลย์ได้ชื่นชมอย่างใกล้ชิดลัยวัลย์ดีใจจนปากสั่นมองหน้าลูกไม่ละลายตาเลย
“ ลูกจ๋า ลูกของแม่น่ารักเหลือเกินน่ารักที่สุดในโลกเลย ”
กีรติมองความรักที่แม่มีต่อลูกแล้วรู้สึกเป็นสุขที่สุดนี่เป็นครั้งแรกที่สามชีวิตพ่อแม่ลูกได้อยู่พร้อมหน้ากันเป็นความอบอุ่นอย่างประหลาดที่เขารู้สึกได้
“ ลูกยังไม่มีชื่อเลย ผมคิดเอาไว้ให้เขาแล้วไม่รู้คุณจะชอบไหม ”
“ ชื่ออะไรคะ ”
“ วรรษกร จิรลิขิตกุล อักษรชื่อของคุณรวมกับชื่อของผม ”
ลัยวัลย์ไม่ว่าอะไรเธอก้มมองหน้าลูกแล้วถามลูก
“ แล้วหนูชอบไหมคะชื่อนี้ ”
หมอยิ้มเมื่อรู้ว่าลัยวัลย์ไม่ปฏิเสธที่จะให้ลูกชื่อที่เขาเป็นคนตั้งให้ ความสัมพันธ์ระหว่างกีรติกับลัยวัลย์ดีขึ้นมาลำดับหนึ่งเพราะมีลูกเป็นตัวเชื่อม ลัยวัลย์ไม่ค่อยแสดงท่าทีไม่ชอบหน้าหมอเพราะมัวแต่เห่อลูกหลงลูกหมอเองก็เห่อไม่แพ้กัน
แล้ววันที่ลัยวัลย์กลับบ้านก็ได้มาถึง ลัยวัลย์จะไม่ยอมกลับไปอยู่ที่บ้านของหมออีกเพรากลัวผีของแม้นมาศ
“ ฉันขอไปอยู่กับพี่วิน ”
“ ทำไม บ้านของเราก็มีทำไมต้องไปอยู่กับคุณวิน ”
“ ฉัน ฉันไม่อยากกลับไปที่นั่น ”
“ คุณยังกลัวที่ในสิ่งที่คุณคิดว่ามีใช่ไหม ”
“ แต่มันมีจริงๆ คู่หมั้นของคุณหวงคุณจริงๆฉันไม่อยากเข้าไปอยู่ให้เขาเข้าใจฉันผิด ”
“ บ้าแล้ว คุณอย่าหาเหตุไม่ยอมกลับไปอยู่กับผมหน่อยเลย ผมไม่ยอมหรอกถ้าคุณจะเอาเหตุผลที่ไร้สาระมาแบบนี้มาอ้าง ผมไม่ยอม ”
“ คุณจะคิดอย่างก็เรื่องของคุณแล้ว แต่ฉันไม่เอา ไม่กลับไปที่นั่นเด็ดขาด ไม่ ”
ลัยวัลย์เสียงดังไม่ยอม กีรติหน้าเครียดเขาไม่ยอมเหมือนกัน
“ เอาอย่างนี้นะ ถ้าคุณกลัวผมจะไปหาคนมาอยู่เป็นเพื่อนกับคุณตลอดเวลาเลย ดูสิว่าผีที่ไหนจะมาหลอกคุณอีก ”
เมื่อไม่มีทางขัดเขาได้ลัยวัลย์ก็ต้องยอมกลับมาที่ไร่กีรติอีก กีรติสั่งให้สไบมาอยู่เป็นเพื่อนกับลัยวัลย์มานอนกับลัยวัลย์ที่ห้องด้วยเพื่อลัยวัลย์จะได้ไม่กลัว
แต่คืนแรกลัยวัลย์กลับมาบ้านเธอก็เจอดีอีก ลัยวัลย์กลับมาจากห้องลูกโดยหมอกีรติเดินตามมาส่งเธอทีห่น้าห้อง
“ คุณยังไม่แข็งแรงอย่าเดินไปไหนมาไหนนัก พักผ่อนให้มากๆแล้วยาคุณกินหรือยังมื้อก่อนนอนน่ะ ”
“ กินแล้วค่ะ ”
ลัยวัลย์บอกแล้วเดินเข้าห้องหมอมองร่างบอบบางเปิดประตูเข้าห้องไปแล้วเขาจึงกลับไปที่ห้องของเขา