รอวัน...จันทร์ส่องหล้า ตอนที่ 19

กระทู้สนทนา
ลัยวัลย์มองพยาบาลเอาขวดน้ำเกลือขวดใหม่มาเปลี่ยนให้

“ คุณพยาบาลคะ  ”
“ มีอะไรคะ  ”
“ ฉันอยากเห็นหน้าลูกของฉัน  ช่วยพาเขามาให้ฉันดูหน่อยได้ไหม  ”
“ ยังไม่หรอกนะคะ  ลูกของคุณคลอดก่อนกำหนด  หมอต้องเอาเข้าเครื่องอบอยู่นะคะ  แต่คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะคะเขาแข็งแรงดีหล่อเหมือนคนพ่อเปี๊ยบเลย  ”

พยาบาลออกไปลัยวัลย์นอนลืมตาแป๋ว  ป้าสนทำซุบมาเยี่ยม  ลัยวัลย์ดีใจที่ป้าสนมา

“ ป้าสน   ”
“ คนดีของป้า  ไม่เป็นอะไรแล้วนะคะ  ตอนที่คุณนินไปตามป้าขาแข่งสั่นไปหมดกลัวว่าจะเป็นอะไรไปทั้งแม่ทั้งลูก  ”
“ ลูกของวัลย์เขาปลอดภัยแล้วค่ะ  แต่วัลย์ยังไม่ได้เห็นหน้าเขาเลย  ”
“ หล่อค่ะ  ป้าไปดูเขามาเมื่อกี้นี้  หน้าตาหล่อทีเดียวแต่เหมือนคุณวัลย์นะคะ  เหมือนทั้งปากทั้งจมูก  ”

ลัยวัลย์ยิ้ม  อยากเห็นลูกใจจะขาดแต่ก็ลุกไปดูไม่ไหว  เพราะเธอบอบช้ำไปทั้งตัวแถมยังถูกผ่าท้องเอาลูกออกมาอีกมันจึงปวดไปทั้งเนื้อตัวและแผลผ่าตัด  หมอกีรติเข้ามาเขายิ้มให้ป้าสนแล้วเข้ามาดูภรรยา  ลัยวัลย์เขียวช้ำไปทั้งตัวเพราะตกบันไดลงมาที่หน้าผากของเธอบวมแทบแตกมันสีเขียวอมม่วงเกือบเท่าลูกมะนาวแขนก็ต้องใส่เฝือกอ่อนเอาไว้เพราะกระดูกท่อนแขนร้าว

เรียกว่าลัยวัลย์น่วมไปทั้งตัวเลยทีเดียว

“ ป้าสนทำอะไรมาให้คุณวัลย์หรือครับ  ”

หมอหันไปถามป้าสน

“ ซุบเห็ดค่ะ  ”
“ ดีเลย  ให้คุณลัยวัลย์กินเยอะๆนะ  จะได้แข็งแรงเร็วๆ  ”
“ ป้าทำมาเผื่อคุณหมอด้วยนะคะยังไงคุณหมอก็ทานกับคุณวัลย์เธอนะคะ  ”
“ ขอบคุณครับ  ”
“ ป้าสนขา  คืนนี้ป้าสนอยู่กับวัลย์นะคะ  ”
“ ได้สิคะป้าจะเฝ้าคุณวัลย์เอง  ”
“ ป้าไม่ต้องลำบากหรอก  คืนนี้ผมจะอยู่เฝ้าไข้คุณวัลย์เอง  เขายังต้องอยู่ในความดูแลใกล้ชิดของหมอ  ”
“ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว  ”
“ ยังอวดดี  ถ้าไม่เป็นอะไรไหนลองลุกเดินให้ผมดูหน่อยสิ  ”

หมอหันไปว่า  ลัยวัลย์เมินหน้าหนีอย่างไม่สบอารมณ์

“ เถียงยังไม่มีแรงจะเถียงแล้วยังอวดเก่งอย่างนี้ต้องจับฉีดยาทุกๆชั่วโมง  ”
“ อย่างนั้นก็ฆ่าฉันให้ตายไปซะเลยก็สิ้นเรื่อง  ”

ลัยวัลย์ยังเถียงอู้อี้ในลำคอ  ถ้าไม่ติดว่าป้าสนนั่งฟังอยู่เขาจะเอาเข็มแกล้งจิ้มเธอสักทีให้มันรู้ซะบ้างว่าอย่าเถียงนัก

อนินเดินมาที่หลุมฝังศพของแม้นมาศ  เขายืนมองดอกซ่อนกลิ่นที่งามสะพรั่งชูช่อขาวนวลพร้อมกับส่งกลิ่นฉุนขจรกระจายไปทั่วบริเวณ  ทำไมลัยวัลย์บอกว่าผีแม้นมาศจะฆ่าเธอ  มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่คนตายไปแล้วจะมาฆ่าคน  ลัยวัลย์เข้ามาอะไรผิดหรือเปล่าหรือว่าเธอกลัวจนเกิดภาพหลอนขึ้นมาเองอนินจะเดินกลับ  เขาต้องชักเท้าเมื่อเห็นสิ่งของสิ่งหนึ่งที่ตกอยู่กับพื้น  อนินก้มหยิบขึ้นมาดู  

“ หวีสับผมของสไบทำไมมาหล่อนอยู่ที่นี่  สไบคงมาหาเข้านายเดิมแล้วทำหวีสับหล่อนเอาไว้ก็ได้  ”

อนินเก็บหวีอันเล็กใส่กระเป๋าแล้วเสื้อแล้วกลับไปที่บ้าน  เดินเงียบๆไปที่ห้องเตรียมอาหารเขาได้ยินเสียงเรียมคุยกับสไบ

“ คืนนี้คุณหมอคงอยู่เฝ้าคุณวัลย์ที่โรงพยาบาล  ”
“ หัวแข็งนะไม่ยักกะตาย  ”
“ เอ็งพูดอะไรน่ะสไบ  ทำไมเอ็งถึงพูดแบบนั้นหาจะไม่ชอบคุณวัลย์เขาทำไม  เขาก็ออกดี  ”
“ พี่เรียมว่าเขาดีไปคนเดียวเถอะ  สำหรับฉันไม่มีใครดีเท่าคุณมาศอีกแล้ว  ”
“ คุณวัลย์เขามาเกี่ยวอะไรกับคุณมาศล่ะ  เขาเพิ่งมาอยู่คุณมาศของเราน่ะตายไปนานแล้ว  ”
“ ตายไปนานเหรอ  พี่เรียมคิดดูสิเขาท้องจนขนาดนี้แสดงว่าเขากับคุณหมอต้องมีอะไรกันก่อนที่คุณมาศจะตาย  ”
“ แล้วมันเกี่ยวอะไรเล่า  ถึงเขาจะมีอะไรกับคุณหมอมันก็ยังไม่เกี่ยวอะไรกับคุณมาศสักหน่อย  ”
“ คุณมาศเป็นคู่หมั้นของคุณหมอ  ยังอยู่คาบ้านแม่นั่นก็เอาคุณหมอแล้วแบบนี้จะไม่เกี่ยวกับคุณมาศได้อย่างไรพี่เรียมคิดดู  คุณมาศคงจะรู้เรื่องนี้แล้วตรอมใจตาย  ”
“ เอ็งมันบ้าใหญ่โต  คุณมาศเป็นอะไรตายเอ็งก็รู้ดีจะไปโทษคุณวัลย์เขาได้อย่างไร  ”
“ ถ้าไม่มีใครคุณมาศก็อาจจะไม่ตายเร็วถึงขนาดนี้  เพราะเขานั่นแหละ  ”
“ สไบเอ็งหุบปากเลยนะและเลิกคิดว่าคุณมาศตายเพราะคุณวัลย์มี่ส่วนได้เลย   มันไม่เกี่ยวกันเลยเอ็งรู้ไว้ซะด้วย  ”

เรียมตะหวาดสไบอนินรีบเดินออกมาจากที่นั่น  เขาเริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลของสไบขึ้นมาเลาๆ

หมอมายืนมองลูกชายที่อยู่ในตู้อบ  สายตาที่มองลูกนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักอย่างเหลือล้น

“ ลูกรักของพ่อน่ารักเหลือเกิน  ”
“ คุณหมอคะ  มาเยี่ยมลูกชายหรือคะ  ”

พยาบาลที่ดูแลเด็กอ่อนเข้ามาถาม  

“ ครับ  เขากินได้มากไหม  ”
“ ก็ดีค่ะ  กินนมได้พอสมควร  ความจริงถ้าคุณแม่น้ำนมเริ่มไหลแล้วก็เอาไปดื่มนมของคุณแม่ได้นะคะ  ”
“ ผมเขายังไม่แข็งแรงเลย  น้ำนมก็คงยังไม่มี  ”
“ ก็ไม่เป็นไรค่ะ  ถ้าคุณแม่พร้อมเมื่อไหร่ก็มาให้นมลูกได้  ”
“ ครับ  ”

หมอกลับมาที่ห้องพักของลัยวัลย์  คนไข้ยังหลับหมอจึงนั่งที่เก้าอี้ยาวที่ใช้เฝ้าไข้จะสามทุ่มแล้วน้ำเกลือในขวดจวนจะหมดขวด  ลัยวัลย์ยังต้องรับน้ำเกลืออีกสองถึงสามขวดเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารเข้าไปบำรุงกำลังและความอ่อนเพลียจะได้ฟื้นตัวเร็วขึ้น  ลัยวัลย์ฝันร้ายอีกเธอส่ายหน้าไปมาเหมือนกำลังหวาดกลัวอะไรเสียงของเธออู้อี้ในลำคอหมอเข้าไปข้างเตียงและแตะเขียนของเธอเพื่อปลุกให้ตื่นจากฝันร้ายลัยวัลย์ผวาลืมตาใบหน้าของเธอซีดเผือดดวงตาตื่นอย่างหวาดกลัว

“ คุณหมอ  ”
“ คุณวัลย์คุณฝันร้ายอีกใช่ไหม  ”
“ ฉัน  ฉันไม่อยากเจอเขาอีก  ฉันกลัว  ”
“ คุณวัลย์  ใคร  คุณฝันถึงใคร  ”
“ แม้นมาศ  ผู้หญิงที่ชื่อแม้นมาศเขาบอกเขาเป็นคู่หมั้นของคุณเขาจะฆ่าฉัน  ”

ลัยวัลย์หวาดกลัว  หมอกีรติหน้าเครียดขึ้นมาทันทีเขาเห็นกับตาว่าลัยวัลย์ฝันเธอไม่ได้พูดเพ้อเจ้อเลย  ทำไมถึงเป็นแบบนี้ลัยวัลย์ลืมไปว่าไม่ชอบหน้าหมอเธอจับมือของเขาไว้แน่นมือของเธอเย็นเฉียบอย่างตกใจหวาดกลัวจริงๆ

“ ไม่มีอะไร  ผมอยู่ที่นี่คุณจะไม่เป็นอะไรนะ  ”

ลัยวัลย์มองหน้าหมอเธออยากจะพูดอะไรมากกว่านี้แต่มันเจ็บปวดร้าวไปทั้งตัวจนต้องนิ่วหน้าครางเบาๆ  หมอจับมือเธอกุมเอาไว้อย่างปลอบโยน  หมอต้องให้ยาคลายประสาทกับเธอเพื่อให้ได้หลับพักผ่อนได้เต็มที่  แต่หมอก็ไม่ยอมออกไปไหนห่างเธอเพราะเป็นห่วงอย่างที่สุด

อนินลงมาจากชั้นบนสวนกับสไบที่บันได

“ สไบ  ”
“ คะคุณนิน  ”
“ คืนที่ลัยวัลย์ตกบันไดสไบอยู่ที่ไหน  ”

สไบหน้าตื่นอย่างมีพิรุธอนินจ้องหน้าสาวใช้เก่าแก่ของบ้านเขม็ง

“ สไบหลับแล้วค่ะไม่ได้ยินอะไรเลยมารู้ว่าคุณวัลย์ตกบันไดก็เมื่อคุณหมอตะโกนร้องให้ช่วยคุณวัลย์  ”
“ เหรอ  แล้วเธอออกมาหรือเปล่าเพราะฉันไม่เห็นเธอเลยจนกระทั่งพาคุณวัลย์ส่งโรงพยาบาล  ”
“ ออก  ออกมาค่ะแต่สไบไม่กล้ามาเกะกะได้แต่ยืนมองอยู่ห่างๆเท่านั้น
“ อืมม์  อย่างนั้นหรอกหรือ  ”

อนินเดินลงมาข้างล่างสไบถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วรีบขึ้นไปข้างบนทันที

ป้าสนเคี่ยวซุบจะเอาไปเยี่ยมลัยวัลย์ที่โรงพยาบาลพัดชาเดินเข้ามาในครัว

“ ทำอะไรน่ะป้า  หอมเชียว  ”
“ เคี่ยวซุบค่ะจะเอาไปให้คุณวัลย์ทาน  ”
“ เหรอ  เขาเป็นอย่าวงไรมั่งล่ะ  ”
“ ก็ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะอีกสองสามวันก็คงจะกลับบ้านได้  ”
“ ตกบันไดกับปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกก็ถือว่าโชคดีมากเลยนะ  ”
“ ค่ะ  คุณพระคงคุ้มครองเธอกับคุณหนูเล็กให้แคล้วคลาดปลอดภัยไม่เป็นอะไรมาก  ”
“ พระนี่ลำเอียงนะป้า  กับคนบางคนปกป้องคุ้มครองดีนักแต่กับฉันทำไมถึงไม่เคยคุ้มครองฉันเลย  ”
“ โถ  ทำไมคุณพัดพูดอย่างนั้นล่ะคะ  คนดียังไงพระท่านก็คุ้มครองทังนั้นแหละค่ะ  ”
“ แต่ไม่ใช่ฉัน  ”

พัดชาพูดอย่างขมขื่นแล้วเดินกลับออกไปป้าสนมองตามหลานสาวเจ้านายอย่างอ่อนใจ

พัดชาออกมานั่งน้อยใจในโชคชะตาของตัวเองที่ไม่คิดว่าจะคิดจะทำอะไรมันผิดพลาดไปหมดหนำซ้ำชีวิตก็ต้องตกต่ำอยู่เหมือนเป็นนางบำเรอให้ราวินที่เธอไม่ชอบหน้ามาก่อน  พัดชาอยากมีชีวิตที่ดีขึ้นเธอรักหมอกีรติที่สุดแต่เขาไม่เคยชายตามองเธอเลย  ที่ยิ่งเจ็บใจนักคือผู้หญิงนอกสายตาอย่างลัยวัลย์กลับได้หมอเอาไปครอบครองถึงขนาดมีลูกด้วยกัน

“ทำไมฉันถึงต้องเสียพี่หมอให้กับเธอด้วย  ลัยวัลย์  ทำไม  ”

พัดชาร้องไห้ในอกความแค้นความริษยาเต็มเปี่ยมในหัวใจแทบจะระเบิดตาย

อาการของลัยวัลย์ดีขึ้นตามลำดับเมื่อเธอพอจะเดินได้ลัยวัลย์ก็ขอร้องให้พยาบาลช่วยพาเธอไปดูลูกที่ห้องดูแลเด็กอ่อน

“ จะไปเยี่ยมลูกก็ได้นะคะเดี๋ยวดิฉันจะไปเอารถเข็นนั่งมาให้คุณจะได้ไม่ต้องเดิน  ”
“ ขอบคุณค่ะ  ”

ลัยวัลย์ตื่นเต้นที่สุดที่จะได้เห็นหน้าลูก  เธอนั่งรอรถเข็นที่พยาบาลไปเอามาให้  แต่คนที่เข็นเข้ามาคือหมอกีรติเขายิ้มให้เมื่อเห็นลัยวัลย์นั่งรอหน้าตาสดใสขึ้น

“ ตื่นเต้นล่ะซี่ที่จะได้ไปเยี่ยมลูก  ”
“ พยาบาลเขาไปหนเสียล่ะคะ  ”
“ เขาก็ไปดูแลคนไข้คนอื่นสิครับ  ไม่ต้องห่วงนะผมพาคุณไปหาลูกได้อย่างปลอดภัยที่สุด  ”

ลัยวัลย์ตะกายลงจากเตียงหมอเข้าประคองช่วย

“ คุณน่ะทำเก่งถ้าตกเตียงอีกครั้งได้นอนโรงพยาบาลยาวแน่  ”
“ ฉันไม่อยากงอมืองอเท้าของพึ่งคนอื่น  ”
“ ครับ  คนเก่งผมจะบอกอะไรให้นะ  ลูกแข็งแรงมากเขาพร้อมที่จะให้เรารับเอากลับไปดูแลที่บ้านได้  ก็รอแต่ว่าคุณจะแข็งแรงและหายเร็วแค่ไหนจะได้กลับบ้านไปเลี้ยงลูก  ”
“ จริงเหรอ  เขาไม่ต้องอยู่อบที่โรงพยาบาลอีกเหรอคะ  ”
“ ก็จริงน่ะสิ  เขาเก่งมากเลยนะขนาดอยู่ในท้องแค่เจ็ดเดือนกว่าๆ  ออกมาไม่อ่อนแอเท่าไหร่นี่ถ้าเป็นเด็กคนอื่นอาจจะต้องอบกันนานกว่าจะรับกลับไปดูแลเองที่บ้านได้  ”

คุยกันดีได้ยาวก็เพราะลูกเป็นสายใยเชื่อมให้โดยไม่รู้ตัว  กีรติพาลัยวัลย์มาถึงห้องเด็ก  คุณแม่ที่ยังไม่เคยเห็นหน้าลูกตื่นเต้นจนแทบผวาเข้าไปเกาะกระจกมอง  หมอให้พยาบาลช่วยอุ้มลูกชายเอามาให้ลัยวัลย์ได้ชื่นชมอย่างใกล้ชิดลัยวัลย์ดีใจจนปากสั่นมองหน้าลูกไม่ละลายตาเลย  

“ ลูกจ๋า  ลูกของแม่น่ารักเหลือเกินน่ารักที่สุดในโลกเลย  ”

กีรติมองความรักที่แม่มีต่อลูกแล้วรู้สึกเป็นสุขที่สุดนี่เป็นครั้งแรกที่สามชีวิตพ่อแม่ลูกได้อยู่พร้อมหน้ากันเป็นความอบอุ่นอย่างประหลาดที่เขารู้สึกได้

“ ลูกยังไม่มีชื่อเลย  ผมคิดเอาไว้ให้เขาแล้วไม่รู้คุณจะชอบไหม  ”
“ ชื่ออะไรคะ  ”
“ วรรษกร  จิรลิขิตกุล  อักษรชื่อของคุณรวมกับชื่อของผม  ”

ลัยวัลย์ไม่ว่าอะไรเธอก้มมองหน้าลูกแล้วถามลูก

“ แล้วหนูชอบไหมคะชื่อนี้  ”

หมอยิ้มเมื่อรู้ว่าลัยวัลย์ไม่ปฏิเสธที่จะให้ลูกชื่อที่เขาเป็นคนตั้งให้  ความสัมพันธ์ระหว่างกีรติกับลัยวัลย์ดีขึ้นมาลำดับหนึ่งเพราะมีลูกเป็นตัวเชื่อม  ลัยวัลย์ไม่ค่อยแสดงท่าทีไม่ชอบหน้าหมอเพราะมัวแต่เห่อลูกหลงลูกหมอเองก็เห่อไม่แพ้กัน
แล้ววันที่ลัยวัลย์กลับบ้านก็ได้มาถึง  ลัยวัลย์จะไม่ยอมกลับไปอยู่ที่บ้านของหมออีกเพรากลัวผีของแม้นมาศ

“ ฉันขอไปอยู่กับพี่วิน  ”
“ ทำไม  บ้านของเราก็มีทำไมต้องไปอยู่กับคุณวิน  ”
“ ฉัน  ฉันไม่อยากกลับไปที่นั่น  ”
“ คุณยังกลัวที่ในสิ่งที่คุณคิดว่ามีใช่ไหม  ”
“ แต่มันมีจริงๆ คู่หมั้นของคุณหวงคุณจริงๆฉันไม่อยากเข้าไปอยู่ให้เขาเข้าใจฉันผิด  ”
“ บ้าแล้ว  คุณอย่าหาเหตุไม่ยอมกลับไปอยู่กับผมหน่อยเลย  ผมไม่ยอมหรอกถ้าคุณจะเอาเหตุผลที่ไร้สาระมาแบบนี้มาอ้าง  ผมไม่ยอม  ”
“ คุณจะคิดอย่างก็เรื่องของคุณแล้ว  แต่ฉันไม่เอา  ไม่กลับไปที่นั่นเด็ดขาด  ไม่  ”

ลัยวัลย์เสียงดังไม่ยอม กีรติหน้าเครียดเขาไม่ยอมเหมือนกัน

“ เอาอย่างนี้นะ  ถ้าคุณกลัวผมจะไปหาคนมาอยู่เป็นเพื่อนกับคุณตลอดเวลาเลย  ดูสิว่าผีที่ไหนจะมาหลอกคุณอีก  ”

เมื่อไม่มีทางขัดเขาได้ลัยวัลย์ก็ต้องยอมกลับมาที่ไร่กีรติอีก  กีรติสั่งให้สไบมาอยู่เป็นเพื่อนกับลัยวัลย์มานอนกับลัยวัลย์ที่ห้องด้วยเพื่อลัยวัลย์จะได้ไม่กลัว
แต่คืนแรกลัยวัลย์กลับมาบ้านเธอก็เจอดีอีก  ลัยวัลย์กลับมาจากห้องลูกโดยหมอกีรติเดินตามมาส่งเธอทีห่น้าห้อง

“ คุณยังไม่แข็งแรงอย่าเดินไปไหนมาไหนนัก  พักผ่อนให้มากๆแล้วยาคุณกินหรือยังมื้อก่อนนอนน่ะ  ”
“ กินแล้วค่ะ  ”

ลัยวัลย์บอกแล้วเดินเข้าห้องหมอมองร่างบอบบางเปิดประตูเข้าห้องไปแล้วเขาจึงกลับไปที่ห้องของเขา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่