ป้าสนทำขนมของชอบให้ลัยวัลย์กินเพราะวันพรุ่งนี้ลัยวัลย์ก็จะกลับกรุงเทพฯแล้ว ป้าสนรักลัยวัลย์มากเพราะเธอน่ารักและมารยาทดีไม่เหมือนพัดชาที่เอาแต่ใจตัวเองหนำซ้ำพูดจาก็ไม่เพราะเลยเวลาที่เธอโกรธ
" ทำอะไรคะป้าสนคนดีที่หนึ่งของวัลย์ "
" อย่าปากหวานเลยค่ะ แค่นี้คุณวัลย์กลับไปป้าก็คงคิดถึงแย่แล้ว "
" แหม เดี๋ยววัลย์ก็มาอีก มาให้ป้าสนทำขนมให้วัลย์กิน "
" เดี๋ยวของคุณวัลย์น่ะเมื่อไหร่กันคะ "
" ไม่เกินสามเดือนค่ะ "
" ตั้งสามเดือน ป้าคิดถึงแย่เลย "
" ป้าทำอะไรอยู่คะ หอมจังถ้าให้วัลย์ทายไส้สาคูไส้หมูใช่ไหมคะ "
" ค่ะ ป้าจะทำสาคูไส้หมูให้คุณวัลย์ทานเวลากลับไปจะได้คิดถึงป้าบ้าง "
" คิดถึงอยู่แล้วน่ะค่ะ "
" จะช่วยป้าปั้นสาคูไหมคะ "
" ไม่ช่วยหรอกค่ะ วัลย์จะไปเก็บเม็ดมะกร่ำเพิ่ม วัลย์ว่ามันจะน้อยไปเพราะจะเอาไปเผื่อพวกเพื่อนๆด้วย "
" จะไปเก็บที่ไหนอีกคะ ที่เดิมน่ะหมดแล้ว "
" เขตแนวไร่โน้นมีค่ะ วันก่อนวัลย์ลองไปสำรวจดูมีขึ้นอยู่เยอะเหมือนกันวัลย์จะเก็บให้เตียนเอาให้สูญพันธุ์เลย "
" เก็บเอาเถอะค่ะเม็ดมะกร่ไม่มีใครหวงหรอก แล้วอย่ากลับบ้านเย็นมากนะคะคุณย่าจะบ่นหา "
" ถ้าคุณย่าถามหาป้าสนก็บอกว่าวัลย์ไปเก็บเม็ดมะกร่ำคุณย่าไม่ว่าอยู่แล้ว "
" ค่ะ "
" อย่างนั้นวัลย์ไปก่อนนะคะ "
ลัยวัลย์เดินตัวปลิวออกไปเธอเอาจักรยานคันเก่งขี่ออกไปท้ายไร่ผ่านคนงานที่กำลังขนมันฝรั่งหลายคนทักเธออย่างสนิทสนม ลัยวัลย์มาอยู่ที่นี่ได้ไม่นานแต่ก็เป็นที่รักใคร่ของคนงานทุกคนเพราะเธอไม่เคยแสดงท่ารังเกียจพวกคนงานว่าเป็นแค่ลูกจ้างในไร่
พัดชามาหาหมอกีรติเธอนั่งคอยหมอให้คนไข้หมดจนเกือบสี่โมงเย็นคนไข้คนสุดท้ายจึงกลับไป
" คุณพัด มานั่งคอยผมตั้งนานมีอะไรหรือเปล่าครับ "
" ไม่มีหรอกค่ะ พัดแค่เหงาๆเท่านั้น "
พัดชาพูดท่าทางของเธอดูซึมๆ
" ผมขอไปล้างมือก่อนนะครับ "
" ค่ะ พัดชงกาแฟให้นะคะ "
" ขอบคุณครับ "
หมอขอบคุณแล้วเข้าไปล้างมือ พัดชาเดินไปชงกาแฟให้หมอแล้วเอาออกมาวางรอ
" พี่หมอทานน้ำตาลหนึ่งช้อนครีมไม่ใส่ "
" ขอบคุณครับ "
เพียงเวลาไม่นานหมอกีรติก็เริ่มรู้สึกผิกปรกติ พัดชานั่งมองหมอ ประสาททุกส่วนในร่างกายตื่นตัวอย่างผิดปรกติ ชีพจรเต้นรัวเร็วและเหงื่อเริ่มซึมออกมือเท้า หมอกีรติถามพัดชา
" คุณพัด คุณเอาอะไรให้ผมดื่ม "
" พัดเปล่านะคะพี่หมอ พี่หมอเป็นอะไรหรือคะ "
พัดชาปฏิเสธแต่ไม่กล้าสบตาของหมอที่จ้องเธอ กีรติรู้ทันทีว่ามันไม่ชอบมาพากลซะแล้ว เพราะเขาเริ่มร้อนวูบวาบไปทั้งตัวและเกิดความกำหนัดอย่างที่ไม่น่าจะเป็น
" คุณเอายาอะไรให้ผมกินใช่ไหมคุณพัด คุณทำแบบนี้ทำไม "
" พี่หมอคะ พัด พัด "
พัดชาจะเข้ามากอดหมอแต่เขาผลักเธอจนเซแล้วหันไปคว้ากุญแจรถรีบออกไปจากที่นั่นก่อนที่เขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วทำอะไรกับพัดชาซึ่งเขาจะทำอย่างนั้นไม่ได้เด็ดขาด
" พี่หมอ พี่หมอจะไปไหนคะ พี่หมอ "
พัดชาวิ่งตามเรียกหมอหันมาชี้หน้าตวาด
" คุณอย่าตามผมมานะพัดชา ถ้าคุณไม่อยากให้ผมฆ่าคุณ "
พัดชาชะงักหมอกีรติไปที่รถแล้วขับออกไปอย่างรวกเร็วหมอไม่คิดกลับบ้านเพราะเขากลัวว่าจะไปทำอะไรคนที่บ้านขณะที่ยาควบคุมเขาอยู่ต้องไปให้ไกลผู้คน ไปให้ไกลจากผู้คนเท่านั้น หมอขับรถมาได้แค่ท้ายไร่ก็ไม่ไหวแล้ว เขาจอดรถแล้ววิ่งถลาลงไปในร่องลำธารที่มีน้ำไม่มากแม้จะเอาความเย็นจากน้ำช่วยแต่มันก็ไม่มีผลอะไรเลยความซ่านร้อนทรมานทุรนทุรายจนน้ำลายในคอเหนียวหนึบหัวใจเต้นถี่รัวเร็วเหมือนจะขาดใจแต่ก็ไม่ทรมานเท่าความต้องการที่รุนแรงสุดจะทน กีรติเกลือกดิ้นไปบนผืนทรายอย่างทรมาน ลัยวัลย์ขี่รถจะกลับบ้านผ่านมาเธอเห็นกีรตินอนดิ้นทุรนทุรายอยู่ในร่องน้ำก็ตกใจรีบจอดรถลงไปจะช่วยเขาเพราะคิดว่าเขากำลังบาดเจ็บต้องการความช่วยเหลือ
" คุณหมอ คุณหมอเป็นอะไรคะ "
กีรติปรือตาที่พร่าลายมอง
" อย่า อย่า ออกไป "
สติสัมปะชัญญะพยายามไล่ลัยวัลย์ให้ออกไปลัยวัลย์รีบเข้าประคองช่วย หมอจึงรวบร่างของเธอกอดอย่างกระหายสุดขีดควบคุมตัวเองไม่อยู่ ลัยวัลย์ตกใจที่หมอกอดรัดเธออย่างผิดปรกติหญิงสาวพยายยามดิ้นรนและผลักแต่ไมมี่ประโยชน์ทุกอย่างคือที่สุดแล้วยาที่ควบคุมสติของหมอบงการให้หมอหาสิ่งที่ร่างกายต้องการที่สุดมาเสพให้ได้ ลัยวัลย์กรีดร้องดิ้นรนแต่สุดท้ายเธอก็ต้องตกเป็นเหยื่อยาที่ควบคุมหมออยู่ ทั้งตกใจทั้งกลัวสุดขีดและความเจ็บปวดร่างกายถูกข่มขืนด้วยความรุนแรงลัยวัลย์ถึงกลับหมดสติแน่นิ่ง
ย่าพวงครามรับรู้ว่าลัยวัลย์อยู่ที่คลีนิกของหมอกีรติจึงรีบมาดูอย่างเป็นห่วง เพราะคิดว่าหลานสาวคงเกิดอุบัติเหตุจนหมอต้องพาตัวมารักษาที่คลีนิกของเขา ลัยวัลย์ลืมตาโพลงอยู่บนเตียงคนไข้เมื่อย่ากับป้าสนเข้ามาหาและถามอย่างเป็นห่วงหญิงสาวถึงกับร้องไห้
" วัลย์ นี่หนูเป็นอะไรหืมม์ หมอให้คนไปบอกว่าวัลย์อยู่ที่นี่ย่าตกใจหมดเลย เป็นอะไรหืมม์ลูก "
ลัยวัลย์ไม่ยอมพูดเอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นหมอกีรติยืนอยู่ข้างเตียงเขามองเธออย่างรู้สึกผิดที่สุด
" คุณยายครับคือผม ผม "
" คุณย่าคะวัลย์จะกลับบ้าน "
ลัยวัลย์รีบบอกผู้เป็นย่าเพราะไม่ต้องการได้ยินหมอพูดอะไรออกมา
" คุณหมอคะยายวัลย์เขาไปโดนอะไรมาคะ "
" คุณวัลย์ "
" วัลย์รถล้มค่ะคุณย่า คุณย่าพาวัลย์กลับบ้านเถอะนะคะ "
" รถล้มหรือมิน่า นี่แสดงว่าคุณหมอไปเจอแล้วพามารักษาให้ ย่าต้องขอบใจคุณหมอมากเลยนะคะที่อุตส่าห์ช่วย "
ย่าพวงครามขอบคุณหมอเพราะเชื่อสนิทว่าหลานรถล้มแต่หมอก้มหน้าอย่างละอายใจเขายังตั้งสติทำอะไรไม่ถูก
ตอนที่ลัยวัลย์ฟื้นใหม่ๆเขาพยายามขอโทษเธอแต่หญิงสาวเอาแต่เงียบไม่พูดอะไร
ย่าพวงครามรับตัวลัยวัลย์กลับไปแล้วหมอยังนั่งอยู่กับที่ในห้องคนไข้ เสื้อผ้าที่ขาดยับเยินของลัยวัลย์ยังอยู่ในตระกร้าตอนที่เขาพาร่างที่หมดสติของเธอกลับมาลัยวัลย์มีสภาพที่น่าสงสารมาก เนื้อตัวมอมแมมเปื้อนโคลนและมีรอยขีดข่วนเต็มไปหมดหน้าอกและปทุมถันถูกกัดจนเป็นจ้ำแดงช้ำเลือดจากบาดแผลที่ถูกข่มขืนไหลเต็มหน้าขา ลัยวัลย์บอบช้ำทั้งกายและใจยากที่จะเยียวยากันได้ในเวลาอันสั้น เขากลายเป็นสัตว์นรกที่ข่มขืนผู้หญิงอย่างป่าเถื่อนที่สุด คิดแล้วหมออยากจะฆ่าพัดชาให้ตายคามือเพราะหล่อนคนเดียวที่ทำลายชีวิตของผู้ไม่รู้อิหน่อิเหน่จนย่อยับ
และในคืนนั้นเองแม้นมาศก็อาการหนักมากจนไม่ได้สติหมอกีรติพาเธอส่งโรงพยาบาลกลางดึก และต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพราะไม่สามารถเอาเธอมารักษาที่บ้านได้อีก หมอศรันขอคุยกับหมอกีรติเป็นการด่วน
" หมอทนรักษาเธออยู่ที่บ้านมาตลอดได้อย่างไร ทั้งๆที่เธอเป็นมากขนาดนี้ "
" ครับ ผมผิดเองที่คิดว่ารักษาเธอได้ เลยยังไม่พาเธอมาโรงพยาบาล "
" คุณพาเธอมาตอนนี้ทุกอย่างมัน เอ่อ สายไปแล้วนะครับ มะเร็งในกระเาะอาหารของเธอมันขั้นสุดท้ายแล้ว "
แม้จะพอคาดการณ์อาการของแม้นมาศมาบ้างแล้วว่าเธอเป็นอะไรแต่หมอกีรติก็ใจหายเมื่อหมอศรันยืนยัน
" เวลาของเธอก็คงจะไม่มากแล้ว หมอจะทำอย่างไรจะรับเธอกลับไปดูแลเองหรือว่าจะให้เธออยู่ที่โรงพยาบาล "
" ผมขอรับเธอกลับไปดูแลเอง "
" ครับ ผมอนุญาตเพราะหมอก็เชี่ยวชาญทางด้านนี้พอสมควรคงดูแลเธอได้ดีกว่าจะให้เธออยู่ที่นี่ "
หมอกีรติรับแม้นมาศกลับมาดูแล ความรู้สึกที่เคยแค้นเคยชิงชังต่ออดีตคู่หมั้นมาบัดนี้มันมีแต่ความสงสารเวทนาเข้ามาแทนที่ ร่างผ่ายผอมกำลังต่อสู้กับความเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัส กีรติอยากหาสิ่งทดแทนความเจ็บปวดทางใจให้ลดน้อยลงบ้างเพื่อที่ว่ามันจะได้ไม่โหดร้ายเกินไปที่แม้นมาศต้องทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจจนถึงเวลาสิ้นลม
กีรติไปหาอนินที่ห้อง
" พี่กริม คุณมาศเป็นอย่างไรบ้าง "
" เขาคงไม่มีวันที่จะดีขึ้นแล้วล่ะนิน "
" มันก็ดีนะพี่ เขาจะได้ไม่ต้องอยู่บนโลกที่ปวดร้าวใบนี้ไปอีกนาน "
" ที่ผ่านมาพี่ทำผิดหรือทำถูก พี่แยกแยะไม่ได้เลยกับการได้เห็นเขาทุกข์ทรมานที่ต้องรอคอยคนที่เขารักแล้วพี่ได้อะไร พี่เจ็บยิ่งกว่าเขามากมายหลายเท่านะนิน "
กีรติเหมือนทำนบความทุกข์พังทลายเขาพูดในสิ่งที่ไม่เคยปริปากพูดกับใครให้ได้รู้ความรู้สึกที่แท้จริงของเขาอนินมองพี่ชายอย่างเห็นใจที่สุด
" พี่กริมครับ เรื่อมมันผ่านมานานแล้วคุณมาศกำลังจะตาย ทำไมพี่ไม่ส่งเขาคืนสู่อ้อมอกคนที่เขาถวิลหาอยู่ตลอดเวลา เขาจะได้มีความสุขในวาระสุดท้ายของชีวิต "
" จะส่งคืนใครล่ะ คนคนนั้นไม่ได้ต้องการแม้นมาศตั้งแต่เขารู้ว่าแม้นมาศพิการตาบอดแล้ว "
" พี่กริม "
" นายคิดว่าพี่รักแม้นมาศมากจนเหนี่ยวรั้งกักขังเอาเขาไว้กับพี่อย่างนั้นหรือ "
" พี่กริมหมายความว่า "
" ถ้าพี่ไม่ทำอย่างนี้ ชีวิตของแม้นมาศจะเหลืออะไร แล้วเขาจะทนมีชีวิตได้อย่างไรในเมื่อเขาต้องสูญเสียดวงตาสูญเสียชื่อเสียงแล้วยังต้องสูญเสียคนที่เขารักและเทอดทูนคนนั้นไป "
" โธ่เอ๋ย พี่กริม มันได้อะไรขึ้นมาที่พี่ทำตัวเป็นซาตานให้เขาก่นด่าสาปแช่งเกลียดชัง แล้วชีวิตของพี่ก็จมปรักอยู่กับเศษซากแห่งความเจ็บปวดที่พวกเขาช่วยกันทำร้ายพี่อย่างนี้ "
"ตอนนั้นพี่อาจจะรักเขามากด้วย พี่ถึงยอมทำอย่างนั้นนะนิน นินคงไม่เข้าใจ "
" ครับ ผมไม่เข้าใจพี่ว่าพี่ทำอย่างนั้นทำไม แต่ตอนนี้ผมว่าผมเข้าใจพี่แล้ว แต่ไม่เข้าใจอย่างหนึ่งว่าทำไมพี่ต้องปล่อยให้ชีวิตของพี่ไม่มีจุดหมายไปกับเขาด้วยพี่ปิดกั้นความหวังในชีวิตของพี่ทำไม พี่ไม่ยอมเปิดใจมีใครเหมือนพี่จะจบทุกสิ่งทุกอย่างไปเพื่อเขาเท่านั้น "
คำพูดของอนินก้องอยู่ในหูของกีรติ จนเขาต้องหลับตาข่มใจอย่างทรามานและสับสน ลูกจันแห้งที่วางอยู่ข้างหมอนส่งกลิ่นฉุนหืนเข้าจมูก เมื่อหมดความหอมมันก็มีความเหม็นฉุนเข้ามาแทนที่ สีที่เคยสวยน่ามองก็แปรเปลี่ยนเป็นสีดำน่ารังเกียจ นี่คือสิ่งที่เที่ยงแท้แน่นอนของสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ หมอคิดถึงลัยวัลย์เหยื่อความใคร่ที่เขาปลดปล่อยกับเธอแม้จไม่ใช่ความตั้งใจและไม่มีเจตนาที่จะทำเช่นนั้นเลยแต่ ความชั่วมันก็เกิดขึ้นแล้วเกิดจากการกระทำของเขาที่ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดได้ สามวันแล้วที่เขาไม่ได้ไปพบเธอแม้จะอ้างว่าแม้นมาศเจ็บป่วยอยู่จนเขาไม่มีเวลามันคงไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงแน่ เขายังเริ่มอะไรไม่ถูกต่างหากว่าจะเอาอย่างไรกับเธอ จะรับผิดชอบแบบไหน หมอกีรติคิดว่าวันพรุ่งนี้เขาจะต้องไปพบกับลัยวัลย์ อะไรจะเกิดขึ้นบ้างเขาก็คงต้องยอมรับสภาพมันทุกอย่าง
รอวัน...จันทร์ส่องหล้า ตอนที่ 10
" ทำอะไรคะป้าสนคนดีที่หนึ่งของวัลย์ "
" อย่าปากหวานเลยค่ะ แค่นี้คุณวัลย์กลับไปป้าก็คงคิดถึงแย่แล้ว "
" แหม เดี๋ยววัลย์ก็มาอีก มาให้ป้าสนทำขนมให้วัลย์กิน "
" เดี๋ยวของคุณวัลย์น่ะเมื่อไหร่กันคะ "
" ไม่เกินสามเดือนค่ะ "
" ตั้งสามเดือน ป้าคิดถึงแย่เลย "
" ป้าทำอะไรอยู่คะ หอมจังถ้าให้วัลย์ทายไส้สาคูไส้หมูใช่ไหมคะ "
" ค่ะ ป้าจะทำสาคูไส้หมูให้คุณวัลย์ทานเวลากลับไปจะได้คิดถึงป้าบ้าง "
" คิดถึงอยู่แล้วน่ะค่ะ "
" จะช่วยป้าปั้นสาคูไหมคะ "
" ไม่ช่วยหรอกค่ะ วัลย์จะไปเก็บเม็ดมะกร่ำเพิ่ม วัลย์ว่ามันจะน้อยไปเพราะจะเอาไปเผื่อพวกเพื่อนๆด้วย "
" จะไปเก็บที่ไหนอีกคะ ที่เดิมน่ะหมดแล้ว "
" เขตแนวไร่โน้นมีค่ะ วันก่อนวัลย์ลองไปสำรวจดูมีขึ้นอยู่เยอะเหมือนกันวัลย์จะเก็บให้เตียนเอาให้สูญพันธุ์เลย "
" เก็บเอาเถอะค่ะเม็ดมะกร่ไม่มีใครหวงหรอก แล้วอย่ากลับบ้านเย็นมากนะคะคุณย่าจะบ่นหา "
" ถ้าคุณย่าถามหาป้าสนก็บอกว่าวัลย์ไปเก็บเม็ดมะกร่ำคุณย่าไม่ว่าอยู่แล้ว "
" ค่ะ "
" อย่างนั้นวัลย์ไปก่อนนะคะ "
ลัยวัลย์เดินตัวปลิวออกไปเธอเอาจักรยานคันเก่งขี่ออกไปท้ายไร่ผ่านคนงานที่กำลังขนมันฝรั่งหลายคนทักเธออย่างสนิทสนม ลัยวัลย์มาอยู่ที่นี่ได้ไม่นานแต่ก็เป็นที่รักใคร่ของคนงานทุกคนเพราะเธอไม่เคยแสดงท่ารังเกียจพวกคนงานว่าเป็นแค่ลูกจ้างในไร่
พัดชามาหาหมอกีรติเธอนั่งคอยหมอให้คนไข้หมดจนเกือบสี่โมงเย็นคนไข้คนสุดท้ายจึงกลับไป
" คุณพัด มานั่งคอยผมตั้งนานมีอะไรหรือเปล่าครับ "
" ไม่มีหรอกค่ะ พัดแค่เหงาๆเท่านั้น "
พัดชาพูดท่าทางของเธอดูซึมๆ
" ผมขอไปล้างมือก่อนนะครับ "
" ค่ะ พัดชงกาแฟให้นะคะ "
" ขอบคุณครับ "
หมอขอบคุณแล้วเข้าไปล้างมือ พัดชาเดินไปชงกาแฟให้หมอแล้วเอาออกมาวางรอ
" พี่หมอทานน้ำตาลหนึ่งช้อนครีมไม่ใส่ "
" ขอบคุณครับ "
เพียงเวลาไม่นานหมอกีรติก็เริ่มรู้สึกผิกปรกติ พัดชานั่งมองหมอ ประสาททุกส่วนในร่างกายตื่นตัวอย่างผิดปรกติ ชีพจรเต้นรัวเร็วและเหงื่อเริ่มซึมออกมือเท้า หมอกีรติถามพัดชา
" คุณพัด คุณเอาอะไรให้ผมดื่ม "
" พัดเปล่านะคะพี่หมอ พี่หมอเป็นอะไรหรือคะ "
พัดชาปฏิเสธแต่ไม่กล้าสบตาของหมอที่จ้องเธอ กีรติรู้ทันทีว่ามันไม่ชอบมาพากลซะแล้ว เพราะเขาเริ่มร้อนวูบวาบไปทั้งตัวและเกิดความกำหนัดอย่างที่ไม่น่าจะเป็น
" คุณเอายาอะไรให้ผมกินใช่ไหมคุณพัด คุณทำแบบนี้ทำไม "
" พี่หมอคะ พัด พัด "
พัดชาจะเข้ามากอดหมอแต่เขาผลักเธอจนเซแล้วหันไปคว้ากุญแจรถรีบออกไปจากที่นั่นก่อนที่เขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วทำอะไรกับพัดชาซึ่งเขาจะทำอย่างนั้นไม่ได้เด็ดขาด
" พี่หมอ พี่หมอจะไปไหนคะ พี่หมอ "
พัดชาวิ่งตามเรียกหมอหันมาชี้หน้าตวาด
" คุณอย่าตามผมมานะพัดชา ถ้าคุณไม่อยากให้ผมฆ่าคุณ "
พัดชาชะงักหมอกีรติไปที่รถแล้วขับออกไปอย่างรวกเร็วหมอไม่คิดกลับบ้านเพราะเขากลัวว่าจะไปทำอะไรคนที่บ้านขณะที่ยาควบคุมเขาอยู่ต้องไปให้ไกลผู้คน ไปให้ไกลจากผู้คนเท่านั้น หมอขับรถมาได้แค่ท้ายไร่ก็ไม่ไหวแล้ว เขาจอดรถแล้ววิ่งถลาลงไปในร่องลำธารที่มีน้ำไม่มากแม้จะเอาความเย็นจากน้ำช่วยแต่มันก็ไม่มีผลอะไรเลยความซ่านร้อนทรมานทุรนทุรายจนน้ำลายในคอเหนียวหนึบหัวใจเต้นถี่รัวเร็วเหมือนจะขาดใจแต่ก็ไม่ทรมานเท่าความต้องการที่รุนแรงสุดจะทน กีรติเกลือกดิ้นไปบนผืนทรายอย่างทรมาน ลัยวัลย์ขี่รถจะกลับบ้านผ่านมาเธอเห็นกีรตินอนดิ้นทุรนทุรายอยู่ในร่องน้ำก็ตกใจรีบจอดรถลงไปจะช่วยเขาเพราะคิดว่าเขากำลังบาดเจ็บต้องการความช่วยเหลือ
" คุณหมอ คุณหมอเป็นอะไรคะ "
กีรติปรือตาที่พร่าลายมอง
" อย่า อย่า ออกไป "
สติสัมปะชัญญะพยายามไล่ลัยวัลย์ให้ออกไปลัยวัลย์รีบเข้าประคองช่วย หมอจึงรวบร่างของเธอกอดอย่างกระหายสุดขีดควบคุมตัวเองไม่อยู่ ลัยวัลย์ตกใจที่หมอกอดรัดเธออย่างผิดปรกติหญิงสาวพยายยามดิ้นรนและผลักแต่ไมมี่ประโยชน์ทุกอย่างคือที่สุดแล้วยาที่ควบคุมสติของหมอบงการให้หมอหาสิ่งที่ร่างกายต้องการที่สุดมาเสพให้ได้ ลัยวัลย์กรีดร้องดิ้นรนแต่สุดท้ายเธอก็ต้องตกเป็นเหยื่อยาที่ควบคุมหมออยู่ ทั้งตกใจทั้งกลัวสุดขีดและความเจ็บปวดร่างกายถูกข่มขืนด้วยความรุนแรงลัยวัลย์ถึงกลับหมดสติแน่นิ่ง
ย่าพวงครามรับรู้ว่าลัยวัลย์อยู่ที่คลีนิกของหมอกีรติจึงรีบมาดูอย่างเป็นห่วง เพราะคิดว่าหลานสาวคงเกิดอุบัติเหตุจนหมอต้องพาตัวมารักษาที่คลีนิกของเขา ลัยวัลย์ลืมตาโพลงอยู่บนเตียงคนไข้เมื่อย่ากับป้าสนเข้ามาหาและถามอย่างเป็นห่วงหญิงสาวถึงกับร้องไห้
" วัลย์ นี่หนูเป็นอะไรหืมม์ หมอให้คนไปบอกว่าวัลย์อยู่ที่นี่ย่าตกใจหมดเลย เป็นอะไรหืมม์ลูก "
ลัยวัลย์ไม่ยอมพูดเอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นหมอกีรติยืนอยู่ข้างเตียงเขามองเธออย่างรู้สึกผิดที่สุด
" คุณยายครับคือผม ผม "
" คุณย่าคะวัลย์จะกลับบ้าน "
ลัยวัลย์รีบบอกผู้เป็นย่าเพราะไม่ต้องการได้ยินหมอพูดอะไรออกมา
" คุณหมอคะยายวัลย์เขาไปโดนอะไรมาคะ "
" คุณวัลย์ "
" วัลย์รถล้มค่ะคุณย่า คุณย่าพาวัลย์กลับบ้านเถอะนะคะ "
" รถล้มหรือมิน่า นี่แสดงว่าคุณหมอไปเจอแล้วพามารักษาให้ ย่าต้องขอบใจคุณหมอมากเลยนะคะที่อุตส่าห์ช่วย "
ย่าพวงครามขอบคุณหมอเพราะเชื่อสนิทว่าหลานรถล้มแต่หมอก้มหน้าอย่างละอายใจเขายังตั้งสติทำอะไรไม่ถูก
ตอนที่ลัยวัลย์ฟื้นใหม่ๆเขาพยายามขอโทษเธอแต่หญิงสาวเอาแต่เงียบไม่พูดอะไร
ย่าพวงครามรับตัวลัยวัลย์กลับไปแล้วหมอยังนั่งอยู่กับที่ในห้องคนไข้ เสื้อผ้าที่ขาดยับเยินของลัยวัลย์ยังอยู่ในตระกร้าตอนที่เขาพาร่างที่หมดสติของเธอกลับมาลัยวัลย์มีสภาพที่น่าสงสารมาก เนื้อตัวมอมแมมเปื้อนโคลนและมีรอยขีดข่วนเต็มไปหมดหน้าอกและปทุมถันถูกกัดจนเป็นจ้ำแดงช้ำเลือดจากบาดแผลที่ถูกข่มขืนไหลเต็มหน้าขา ลัยวัลย์บอบช้ำทั้งกายและใจยากที่จะเยียวยากันได้ในเวลาอันสั้น เขากลายเป็นสัตว์นรกที่ข่มขืนผู้หญิงอย่างป่าเถื่อนที่สุด คิดแล้วหมออยากจะฆ่าพัดชาให้ตายคามือเพราะหล่อนคนเดียวที่ทำลายชีวิตของผู้ไม่รู้อิหน่อิเหน่จนย่อยับ
และในคืนนั้นเองแม้นมาศก็อาการหนักมากจนไม่ได้สติหมอกีรติพาเธอส่งโรงพยาบาลกลางดึก และต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพราะไม่สามารถเอาเธอมารักษาที่บ้านได้อีก หมอศรันขอคุยกับหมอกีรติเป็นการด่วน
" หมอทนรักษาเธออยู่ที่บ้านมาตลอดได้อย่างไร ทั้งๆที่เธอเป็นมากขนาดนี้ "
" ครับ ผมผิดเองที่คิดว่ารักษาเธอได้ เลยยังไม่พาเธอมาโรงพยาบาล "
" คุณพาเธอมาตอนนี้ทุกอย่างมัน เอ่อ สายไปแล้วนะครับ มะเร็งในกระเาะอาหารของเธอมันขั้นสุดท้ายแล้ว "
แม้จะพอคาดการณ์อาการของแม้นมาศมาบ้างแล้วว่าเธอเป็นอะไรแต่หมอกีรติก็ใจหายเมื่อหมอศรันยืนยัน
" เวลาของเธอก็คงจะไม่มากแล้ว หมอจะทำอย่างไรจะรับเธอกลับไปดูแลเองหรือว่าจะให้เธออยู่ที่โรงพยาบาล "
" ผมขอรับเธอกลับไปดูแลเอง "
" ครับ ผมอนุญาตเพราะหมอก็เชี่ยวชาญทางด้านนี้พอสมควรคงดูแลเธอได้ดีกว่าจะให้เธออยู่ที่นี่ "
หมอกีรติรับแม้นมาศกลับมาดูแล ความรู้สึกที่เคยแค้นเคยชิงชังต่ออดีตคู่หมั้นมาบัดนี้มันมีแต่ความสงสารเวทนาเข้ามาแทนที่ ร่างผ่ายผอมกำลังต่อสู้กับความเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัส กีรติอยากหาสิ่งทดแทนความเจ็บปวดทางใจให้ลดน้อยลงบ้างเพื่อที่ว่ามันจะได้ไม่โหดร้ายเกินไปที่แม้นมาศต้องทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจจนถึงเวลาสิ้นลม
กีรติไปหาอนินที่ห้อง
" พี่กริม คุณมาศเป็นอย่างไรบ้าง "
" เขาคงไม่มีวันที่จะดีขึ้นแล้วล่ะนิน "
" มันก็ดีนะพี่ เขาจะได้ไม่ต้องอยู่บนโลกที่ปวดร้าวใบนี้ไปอีกนาน "
" ที่ผ่านมาพี่ทำผิดหรือทำถูก พี่แยกแยะไม่ได้เลยกับการได้เห็นเขาทุกข์ทรมานที่ต้องรอคอยคนที่เขารักแล้วพี่ได้อะไร พี่เจ็บยิ่งกว่าเขามากมายหลายเท่านะนิน "
กีรติเหมือนทำนบความทุกข์พังทลายเขาพูดในสิ่งที่ไม่เคยปริปากพูดกับใครให้ได้รู้ความรู้สึกที่แท้จริงของเขาอนินมองพี่ชายอย่างเห็นใจที่สุด
" พี่กริมครับ เรื่อมมันผ่านมานานแล้วคุณมาศกำลังจะตาย ทำไมพี่ไม่ส่งเขาคืนสู่อ้อมอกคนที่เขาถวิลหาอยู่ตลอดเวลา เขาจะได้มีความสุขในวาระสุดท้ายของชีวิต "
" จะส่งคืนใครล่ะ คนคนนั้นไม่ได้ต้องการแม้นมาศตั้งแต่เขารู้ว่าแม้นมาศพิการตาบอดแล้ว "
" พี่กริม "
" นายคิดว่าพี่รักแม้นมาศมากจนเหนี่ยวรั้งกักขังเอาเขาไว้กับพี่อย่างนั้นหรือ "
" พี่กริมหมายความว่า "
" ถ้าพี่ไม่ทำอย่างนี้ ชีวิตของแม้นมาศจะเหลืออะไร แล้วเขาจะทนมีชีวิตได้อย่างไรในเมื่อเขาต้องสูญเสียดวงตาสูญเสียชื่อเสียงแล้วยังต้องสูญเสียคนที่เขารักและเทอดทูนคนนั้นไป "
" โธ่เอ๋ย พี่กริม มันได้อะไรขึ้นมาที่พี่ทำตัวเป็นซาตานให้เขาก่นด่าสาปแช่งเกลียดชัง แล้วชีวิตของพี่ก็จมปรักอยู่กับเศษซากแห่งความเจ็บปวดที่พวกเขาช่วยกันทำร้ายพี่อย่างนี้ "
"ตอนนั้นพี่อาจจะรักเขามากด้วย พี่ถึงยอมทำอย่างนั้นนะนิน นินคงไม่เข้าใจ "
" ครับ ผมไม่เข้าใจพี่ว่าพี่ทำอย่างนั้นทำไม แต่ตอนนี้ผมว่าผมเข้าใจพี่แล้ว แต่ไม่เข้าใจอย่างหนึ่งว่าทำไมพี่ต้องปล่อยให้ชีวิตของพี่ไม่มีจุดหมายไปกับเขาด้วยพี่ปิดกั้นความหวังในชีวิตของพี่ทำไม พี่ไม่ยอมเปิดใจมีใครเหมือนพี่จะจบทุกสิ่งทุกอย่างไปเพื่อเขาเท่านั้น "
คำพูดของอนินก้องอยู่ในหูของกีรติ จนเขาต้องหลับตาข่มใจอย่างทรามานและสับสน ลูกจันแห้งที่วางอยู่ข้างหมอนส่งกลิ่นฉุนหืนเข้าจมูก เมื่อหมดความหอมมันก็มีความเหม็นฉุนเข้ามาแทนที่ สีที่เคยสวยน่ามองก็แปรเปลี่ยนเป็นสีดำน่ารังเกียจ นี่คือสิ่งที่เที่ยงแท้แน่นอนของสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ หมอคิดถึงลัยวัลย์เหยื่อความใคร่ที่เขาปลดปล่อยกับเธอแม้จไม่ใช่ความตั้งใจและไม่มีเจตนาที่จะทำเช่นนั้นเลยแต่ ความชั่วมันก็เกิดขึ้นแล้วเกิดจากการกระทำของเขาที่ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดได้ สามวันแล้วที่เขาไม่ได้ไปพบเธอแม้จะอ้างว่าแม้นมาศเจ็บป่วยอยู่จนเขาไม่มีเวลามันคงไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงแน่ เขายังเริ่มอะไรไม่ถูกต่างหากว่าจะเอาอย่างไรกับเธอ จะรับผิดชอบแบบไหน หมอกีรติคิดว่าวันพรุ่งนี้เขาจะต้องไปพบกับลัยวัลย์ อะไรจะเกิดขึ้นบ้างเขาก็คงต้องยอมรับสภาพมันทุกอย่าง