รอวัน...จันทร์ส่องหล้า ตอนที่ 9

กระทู้สนทนา
พัดชาน้อยใจไม่รู้จะหันหน้าไปปรึกษาใครเธอจึงไปหาหมอกีรติที่คลีนิกของเขา  ไปถึงหมอไม่มีคนไข้พอดี

" พี่หมอ "
" คุณพัด  มีอะไรหรือเปล่าครับ "
" พัดปวดหัวค่ะมาขอยาพี่พัดกิน "
" ปวดหัวหรือครับ  มีไข้ด้วยหรือเปล่าให้ผมตรวจให้หน่อยดีไหม "
" ไม่ต้องตรวจก็ได้ค่ะ  พัดปวดหัวเครียดกินยาอย่างเดียวก็ได้ "

หมอมองหน้าหญิงสาวไม่ได้หม่นหมองอะไรจึงไม่ให้ยากับเธอ

" ถ้าปวดหัวไม่มาก  ผมว่าคุณดื่มน้ำเย็นๆแล้วนั่งพักสักครู่น่าจะดีกว่ากินยานะครับ  ถ้ามันไม่ดีขึ้นค่อยกินยา "

กีรติบอกแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นรินน้ำเย็นใส่แก้วเอามาส่งให้พัดชา  พัดชามองหมอทำตาซึ้งอย่างขอบคุณจนหมอต้องเมินมองไปทางอื่นอย่างอึดอัดใจกับท่าทางของเธอ

" พี่หมอน่ารักที่สุดเลย  เวลาพัดอยู่ใกล้ๆพี่หมอแล้วรู้สึกอบอุ่นใจสบายใจอย่างที่สุด "

หมอเดินไปนั่งทีร่เก้าอี้พักผ่อนพัดชาเดินตามปากก็พูดไม่หยุด

" นี่ถ้าพัดได้อยู่กับพี่หมอตลอดพัดคงมีความสุขที่สุดในโลก "
" มันก็ไม่แน่  คุณอาจจะรู้สึกว่าเป็นคนโชคร้ายที่สุดในโลกก็ได้ "
" ไม่จริงหรอกค่ะ  พี่หมอทั้งดีทั้งหล่อใครอยู่ด้วยแล้วบอกว่าโชคร้ายก็บ้าที่สุดแล้ว "
" แต่มีคนที่เขาพูดคำนี้ออกมาแล้ว "

หมอพูดเบาๆเหมือนรำพึงกับตัวเองแววตาขมขื่นฉายวูบโดยที่พัดชาไม่ทันได้สังเกตเห็น  พัดชาเลื่อนเก้าอี้เข้ามานั่งใกล้ๆหมอแล้วเอามือเท้าคางนั่งมองหน้าหมออย่างหลงใหล

" วันนี้คุณพัดไม่ไปไหนหรือครับ "
" แหมพี่หมอถามเหมือนพัดเป็นนักเที่ยวไปไหนๆทุกวันอย่างนั้นแหละ  พัดน่ะไม่ค่อยไปไหนหรอกค่ะแต่ถ้าคนที่อยู่ไม่ค่อยติดบ้านต้องหลานสาวคนใหม่ของคุณย่าค่ะ  วันๆขี่รถตะลอนๆเข้าป่าเข้ารกไม่รู้หาอะไรนักหนาสักวันถ้างูไม่กัดตายก็คงโดนเสือลงมาจากป่าคาบเอาไปกิน "

หมอกีรตินั่งฟังพัดชาพูดเงียบๆส่วนพัดชาก็เหมือนอัดอั้นตันใจอะไรมานานจึงนินทาว่าลัยวัลย์อย่างสะใจปาก

" คุณย่าก็รักหลงเขาทำอะไรดีไปหมดสวยไปหมด  ขนาดไปเที่ยวเก็บเม็ดมะกร่ำเม็ดมะขามเก็บกรวดเก็บทรายมาทำอะไรบ้าๆบอๆคุณย่าก็ชมว่าสวยชมว่าดีพัดแล้วจะบ้าตาย ถ้าแม่นั่นเป็นเด็กเล็กๆก็ไปอย่างนี่โตเป็นควายทำอะไรไร้สาระแล้วเอามานั่งชมพัดรับไม่ได้ "
" ทำไมคุณพัดคิดว่าสิ่งที่คุณวัลย์ทำ  ไร้สาระ  งานศิลปะผมว่ามันสร้างสรรค์มากกว่านะครับ "
" งานศิลปะอะไรกันคะพี่หมอ  พัดดูไม่เข้าท่าซักอย่าง  ถ้าอยากทำงานศิลปะก็วาดรูปถ่ายรูปที่มันสวยๆสิคะหรือว่าตัดเย็บเสื้อผ้าที่มันใช้ประโยชน์ได้  แต่นี่กรวดหินดินทรายสกปรกรกรุงรังน่ะสิคะ  นี่เห็นว่าตะลอนออกหาเก็บเม็ดมะกร่ำ  ป้าสนก็อีกคนไปตลาดก็เที่ยวขนเม็ดมะขามเม็ดระกำเอามาล้างตากไว้ให้กันไม่รู้จะช่วยกันทำอะไรบ้าๆไปถึงไหน "
" คุณพัดหายปวดหัวแล้วใช่ไหมครับ "
" ดีขึ้นแล้วค่ะ  ได้คุยกับพี่หมอแล้วสบายใจขึ้นตั้งเยอะ "
" จะเที่ยงแล้วผมต้องขอตัวกลับไปบ้านก่อน "
" พี่หมอจะกลับไปทานข้าวหรือคะ "
" ผมมีคนไข้อยู่ที่บ้าน  จะกลับไปดูสักหน่อย "
" คนไข้ที่บ้านหรือคะ  พี่หมอรับรักษาคนไข้ที่บ้านด้วยหรือคะ "

หมอเงียบไม่ตอบ  พัดชายิ่งสงสัย

" ขอพัดไปดูคนไข้ที่บ้านพี่หมอด้วยได้ไหมคะ "

หมอมองพัดชาด้วยสายตาที่หญิงสาวถึงกับรู้ตัวว่าละลาบละล้วงกับเขามากไปแล้ว

" คือ  พัดไม่รู้ว่าจะไปไหนเลยอยากไปที่บ้านพี่หมอ "
" ที่บ้านไม่มีใครถ้าคุณพัดไปเกรงว่าจะไม่สะดวกนัก "
" ทีคนไข้เขายังอยู่ได้  หรือว่าเป็นคนไข้คนพิเศษของพี่หมอคะ "

พัดชาพูดไปอย่างนั้นแต่คำตอบของหมอทำให้หญิงสาวถึงกับร้อนไปทั้งใจ

" ครับ  เธอเป็นคนไข้ที่พิเศษของผม "
" พี่หมอ "
" ผมขอตัวก่อนนะครับ "

หมอพูดแล้วเดินออกไปทันทีพัดชามองตามใจร้อนผ่าวเหมือนคนอกหักเลยทีเดียว

" พูดแบบนี้แสดงว่าพี่หมอมีแฟนแล้วน่ะสิ  ไม่ยอม  ยังไงฉันก็ไม่ยอม  ไม่ยอม "

พัดชาปึงปังอยู่คนเดียว
อาการของแม้นมาศหนักขึ้นทุกวันจนเธอไม่มีแรงที่จะลุกเดินได้แต่ยังไม่ยอมให้กีรติพาเธอไปโรงพยาบาล

" มาศ  คุณจะดื้อไม่ยอมรักษาตัวของคุณเพื่อประโยชน์อะไร "
" คุณถามประโยชน์ที่ฉันจะได้หรือ  กริม  ประโยชน์ของฉันมันมหาศาลนักคุณรู้เอาไว้ซะด้วย "
" คุณอยากตาย "
" ใช่  ฉันอยากตาย  ได้ยินหรือยังว่าฉันอยากตาย  ตายเพื่อที่จะได้หลุดพ้นไปจากคุณเสียที "
" แล้วคนที่คุณรอเขาล่ะ  ไหนคุณบอกว่าจะรอเขาแล้วทำไมจะรีบตายหรือว่าหมดหวังแล้วที่เขาจะมาหาคุณ "
" หยุดเดี๋ยวนี้นะ "
" คุณจะเอาอย่างไรกันแน่มาศ  จะรอเขาหรือจะรีบตาย "

กีรติพูดเสียงเย็นแม้นมาศปัดของที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้มือเธออย่างระงับอารมณ์ไม่ได้ที่กีรติพูดจี้ใจดำเธออย่างจัง
เมื่อแม้นมาศออกแรงอาละวาดเลือดก็ทะลักออกปากออกจมูกของเธออย่างน่ากลัว  กีรติเข้าช่วยประคองแต่แม้นมาศพยายามดิ้นรนไม่ให้เขามาช่วยเธอไม่นานร่างผอมบางของแม้นมาศก็แน่นิ่งหมดสติ  กีรติเดินกลับลงมาข้างล่างเลือดของแม้นมาศเปรอะเปื้อนเสื้อสีฟ้าอ่อนจนแดงฉานไปทั้งอก  อนินเห็นสภาพแล้วถามพี่ชายอย่างกังวล

" มันบ่อยมากไปแล้วนะพี่กริม  เขาเป็นอะไรกันแน่ "
" เขาไม่ยอมไปตรวจเช็คที่โรงพยาบาล  พี่ก็ตรวจไม่ถูกเหมือนกันนิน "
" อย่างนั้นก็ปล่อยให้ตายไปเลย  จะได้ไม่ต้องมาอยู่ให้ทุเรศทุรังอย่างนี้ "

อนินพูดอย่างสุดจะหมั่นไส้แม้นมาศที่ไม่ยอมไปตรวจรักษาตัวเอง

" เขาก็คงอยากจะตายจริงๆ "
" แต่ผมว่าคนที่ตายก่อนน่าจะเป็นพี่กริมนะ  เจอแบบนี้ประสาทกินตายก่อนแน่ "
" นิน  พี่ขอร้อง  เรื่องระหว่างพี่กับเขายังไงพี่ก็อยากให้นินทน "
" พี่กริมครับ "

อนินถอนใจยาวอยากจะพูดอยากจะว่าอีกแต่เห็นสีหน้าและแววตาของพี่ชายแล้วเขาก็ต้องเงียบ
พัดชาเดินใจลอยเสียใจที่คิดว่ากีรติมีแฟนแล้วจนกระทั่งมาถึงคอกม้า  คนงานเลี้ยงม้ากำลังจะให้ม้าผสมพันธุ์กันอยู่พอดี

" คุณพัดมาทำอะไรแถวนี้ครับ "
" เดินเล่น  ทำไมแถวนี้ห้ามมาเดินเล่นหรือไง "
" เปล่าครับ  แต่วันนี้เรากำลังจะให้ม้าผสมพันธุ์กันคุณพัดกลับไปก่อนดีไหมครับ "

คนงานบอกเพราะไม่อยากให้เจ้านายสาวมาอยู่ดูการผสมพันธุ์ของม้าที่มันน่าจะไม่หมาะสม

" ก็ผสมไปสิฉันจะดูบ้างไม่ได้หรือไง "
" มันจะดีหรือครับ "
" ทำไม  ไม่ดียังไง  ฉันก็อยากดูการผสมพันธุ์ของม้าเหมือนกัน "

พัดชาพูดหน้าตาเฉย  คนงานมองหน้ากันแต่เมื่อเห็นพัดชาไม่สนใจอะไรแต่จะดูด้วยก็จึงดำเนินการของพวกเขาต่อไป  ก็พัดชาไม่อายแล้วจะไปอายแทนหล่อนทำไม  ลุงหัวหน้าคนงานเอาไซรีนฉีดยาออกมาแล้วดูดเอาน้ำยาจากขวดหลอดเล็กๆพัดชายืนดูถามอย่างสงสัย

" ยาอะไรล่ะน้า "
" ทิงเจอร์ขาวครับ "
" ทิงเจอร์ขาวใช้ทำอะไร "
" เอาให้ม้ามันกินเพื่อกระตุ้นให้ม้ามันคึกครับ "
" ทำไมต้องให้มันคึกล่ะ "

พัดชาถามเพราะไม่รู้ว่าทิงเจอร์ขาวมันมีผลอย่างไรกับม้า

" โธ่  คุณพัดครับ  ม้ามันไม่ยอมผสมพันธุ์เองเราก็ต้องให้ยากระตุ้นมัน  มันจะได้ผสมพันธุ์กันสำเร็จเรียกว่าผสมเทียมแบบจริงๆ "

พัดชาจ้องมองตาเป๋ง  เธอถามหัวหน้าคนงานอีกเมื่อความคิดอย่างหนึ่งแล่นเข้ามาในสมอง

" แล้วไอ้ทิงเจอร์ขาวอะไรเนี่ยคนกินได้ไหม "
" โอย  คนเขาไม่กินกันหรอกครับ "

คนงานผู้ชายอีกสองคนหัวเราะที่พัดชาถามแบบนั้นหัวหน้าคนงานรีบอธิบาย

" ถ้าให้คนกินก็ตายกันพอดี "
" ตายเหรอ  ทีม้ามันยังผสมพันธุ์กันแล้วคนกินทำไมถึงตายล่ะ "
" มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ  แหมผมจะพูดอย่างไรดีคุณพัดถึงจะเข้าใจล่ะครับ "
" ก็พูดออกมาแบบว่าฟังแล้วรู้เรื่องเข้าใจเลยไม่ได้หรือไง "
" คือไอ้ยานี่  มันเป็นยากระตุ้นอย่างแรง  เขาไม่ใช้กับคนกันหรอกครับคุณพัดลองคิดดูขนาดม้ามันยังยอมผสมพันธุ์กันแล้วคนเรี่ยวแรงไม่เท่าม้ากินเข้าไปมันจะควบคุมตัวเองได้อย่างไร  เสียคนเลยแหละถ้าเกิดกินเข้าไป
" อ๋อ  ฉันเข้าใจแล้ว  อย่างนั้นที่เหลือนี่ฉันเอาไปนะ "
" คุณพัด  คุณพัดจะเอายานั่นไปทำอะไรมันแพงมากเลยนะครับ  คุณท่านซื้อมาแค่ขวดเดียวเหลือผมต้องเอาไปคืนท่าน "
" ฉันจะเอาไปคืนคุณย่าเอง "

พัดชาบอกแล้วเดินหนีออกมาจากคอกม้า  ความคิดของพัดชาตอนนี้มันน่ากลัวมากกับการที่เธอเอายาร้ายแรงนั่นมา
ย่าพวงครามกับลัยวัลย์และป้าสนไปทำบุญกันที่วัดกันส่วนราวินยังไม่ออกมาจากห้อง  พัดชาออกมานั่งที่ระเบียงบ้านมองน้ำฝรั่งคั้นในแก้วด้วยสายตาหมายมั่น

" นายวิน  นายจะต้องเป็นหนูทดลองยาให้ฉันดูสรรพคุณยาทิงเจอร์ขาวนี่ว่ามันจะเป็นยังไง  ราวินตื่นนอนเขาอาบน้ำแต่งตัวแล้วเดินมายังห้องรับประทานอาหาร  กับข้าวบนโต๊ะป้าสนจัดเตรียมเอาไว้แล้ว  เขาจึงลงมือกินข้าวมื้อเช้าจนอิ่มแล้วตบท้ายด้วยน้ำฝรั่งคั้นหนึ่งแก้วที่รินวางไว้  ราวินไม่รู้ว่าพัดชาแอบบดูผลงานอยู่ไม่ห่างจนเวลาผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีพัดชาไม่เห็นราวินหล่อนจึงออกเดินหา
" ไปไหนแล้วหนูทดลองยาของฉัน "

พัดชาเดินหาไม่เจอราวินจึงกลับไปที่ห้องของเธออย่างเซงๆแต่พอปิดประตูแล้วหันมาเท่านั้นพัดชาก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อราวินที่เนื้อตัวเปียกปอนไปด้วยน้ำถลันเข้ามาเอามืออุดปากฌธอแล้วลากไปที่เตียงพัดชาดิ้นรนสุดชีวิตเพื่อเอาตัวรอดแต่ราวินไม่มีสติจะควบคุมตัวเองได้พัดชาจึงกลายเป็นเหยื่อของของราวินอีกต่ออย่างช่วยไม่ได้  เวลาผ่านไปนานนับชั่วโมงกว่ายาจะหมดฤทะราวินหมดแรงฟุบคาอกของพัดชาที่นอนลืมตาฌพลงน้ำตาไหลพราก  พัดชาผลักราวินลงจากตัวของเธอแล้วลุกขึ้นเดินโซซัดโซเซไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างคราบเลือดคราบคาวและน้ำตาที่อาบนองไปทั้งเนื้อตัวหน้าตา  พัดชาร้องไห้อยู่ในห้องน้ำจนสาแก่ใจจึงออกมาราวินไม่ได้อยู่ในห้องแล้วทิ้งไว้แต่คราบเลือดและความอัปยศที่พัดชาต้องจดจำไปจนวันตาย  ทุกอย่างเธอจะโทษใครนอกจากโชคชะตาที่แกล้งเธอโชคชะตาแกล้งเธอชัดๆ

พัดชาขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง  ย่าพวงครามให้ป้าสนไปตามออกมากินข้าวมื้อเย็นพร้อมกัน  ป้าสนกลับมาบอกว่าพัดชาไม่ออกมากิน


" เขาเป็นอะไรหรือเปล่า  วันนี้ไม่เห็นออกมาจากห้องตั้งแต่ฉันกลับมาจากวัดแล้ว "

ราวินนั่งเงียบแต่ไม่กล้าสบตาผู้เป็นย่านักเพราะความผิดครั้งนี้มหันต์เหลือเกิน

" เอาเขาไม่ออกมากินเราก็กินกันได้เลย  สนเดี๋ยวเธอก็เข้าไปดูเขาอีกทีนะเผื่อไม่สบายจะได้หาหยูกยาให้กิน "
" ค่ะคุณท่าน "
" อาทิตย์หน้าวัลย์ก็กลับกรุงเทพฯแล้วสินะ  ย่าล่ะใจหายมาอยู่ให้คิดถึงแล้วก็กลับ "
" เอาไว้มีวันหยุดยาวหลายวันวัลย์จะมาเยี่ยมคุณย่าอีก "
" จ่ะ  ย่าจะคอย  แล้ววินล่ะจะอยู่กับย่าก่อนหรือจะกลับไปกับน้องเลย "
" ผมก็ต้องกลับครับคุณย่า  เพื่อนโทรมาบอกว่าได้งานแล้วคงต้องไปทำงานซะที "
" ไปทำงานที่ไหนล่ะ "
" ก็คงที่ภูเก็ตครับ "
" โอย  ทำไมไกลขนาดนั้น  ทำไมไม่หางานใกล้บ้านทำไม่ห่วงแม่ไม่ห่วงน้องบ้างหรือไง "
" ก็ห่วงครับ  แต่งานที่นั่นเพื่อนบอกเงินดีมาก  แล้วผมก็อยากไปทำด้วยครับ "
" เงินดีอย่างไร  มาทำกับย่าย่าจะให้มากกว่าด้วย "
" ให้ผมได้ลองทำงานในสาขาที่ผมเรียนมาก่อนนะครับเมื่อเบื่อแล้วผมจะมารบกวนคุณย่าอยู่กับคุณย่าที่นี่ "
" เอา  ก็ไม่ว่ากัน  ตกลงก็กลับไปกันหมดเหลือคนแก่อยู่ที่นี่คนเดียว "
" คนเดียวที่ไหนคะคุณย่าพี่พัดก็ยังอยู่อีกคน "
" แม่นั่นน่ะ  เขาเอานิยมนิยายอะไรไม่ได้หรอก  เดี๋ยวไปนั่นเดี๋ยวไปนี่อีกหน่อยเขาเบื่อคนแก่เขาก็คงไปจากย่า"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่