รอวัน...จันทร์ส่องหล้า ตอนที่ 2

กระทู้สนทนา
พัดชาถามหญิงวัยกลางคนที่เธอเคยเห็นหน้ามาก่อน

“ ปวดท้อง ปวดมาหลายวันแวกินยาก็ไม่หาย "
“ ป้าไปทำอะไรมาล่ะถึงได้ปวดท้องกินของสกปรกหรือเปล่า "
“ ป้าก็กินอย่างที่เคยกินนั่นแหละ "
“ กินอะไรอย่างที่เคยกิน  เลือดดิบๆหรือไง "

พัดชาพูด หมอกริมเปิดประตูออกมาได้ยินถึงกับชะงัก

“ เชิญครับ "

หมอเรียกคนไข้พัดชาหันมองแล้วรีบเข้าไปหา

“ พี่หมอคะ  พัดเอาขนมมาฝากค่ะ "
“ ขอบคุณครับ  ผมขอตัวตรวจคนไข้ก่อนนะครับ "

หมอบอกแล้วตามคนไข้เข้าไปพัดชาลงนั่งที่เก้าอี้รอจนกระทั่งคนไข้คนสุดท้ายกลับไปพัดชาจึงหิ้วตระกร้าใส่ขนมเข้าไปหา

“ วันนี้มีคนไข้หลายคนนะคะ "
“ ครับ "

หมอก้มหน้าก้มตาจดรายการที่จะสั่งยาสำหรับคนไข้  พัดชาเอาขนมออกจากตระกร้าวางตรงหน้าหมออย่างเอาใจ

“ ทานขนมก่อนดกว่านะคะ  พัดทำเองเลยนะคะเนี่ย "
“ ขอบคุณครับ  แต่ผมยังไม่หิวเลย "
“ ไม่หิวก็ต้องทานค่ะพัดตั้งใจทำมาให้พี่หมอทานโดยเฉพาะเชียวนะคะ "

พัดชาหยิบขนมส่งให้เขาเกือบจะถึงปาก  หมอเอามือแตะไว้เชิงห้ามแล้วมองพัดชาด้วยสายตานิ่งจนพัดชาต้องค่อยๆวางขนมคืนใส่จาน

“ พัดขอโทษค่ะ  พัดกลัวพี่หมอจะหิวก็เลยทำขนมนี่มา "
“ แล้วผมจะเอากลับไปกินที่บ้านนะ "

น้ำเสียงนุ่มจนพัดชายิ้มออก

“ พี่หมอคะ  พักนี้ไม่รู้เป็นอะไรพัดนอนไม่ค่อยหลับเลย  พี่หมอช่วยตรวจให้พัดหน่อยได้ไหมคะ "
“ ได้สิ  ขอผมตรวจชีพจรหน่อยนะครับ "

หมอบอกแล้วจับชีพจรที่ข้อมือของหญิงสาวพัดชานั่งมองหมอดวงตาเป็นประกายอย่างไม่ปิดบังความในใจเลย

“ คุณคงเครียด  ผมจะจัดยาคลายประสาทให้นะครับ "
“ ค่ะ  พัดคงจะเครียดจริงๆเพราะมีพวกที่พัดไม่ชอบหน้ามาอยู่ด้วยที่บ้าน "

หมอลุกไปจัดยาให้หญิงสาวพัดชาตามไปยืนดูเขาจัดยาปากก็ชวนคุยจ้อ

“มาอยู่แล้วมาสร้างความรำคาญตารำคาญใจให้ไม่หยุดหย่อน  พัดว่าอีกไม่นานก็คงจะเข้ามาจุ้นจ้านที่ไร่ของพี่หมอ  ถ้ามันมานะพี่หมอก็ปล่อย เจ้าโนอาให่ขย้ำซะให้เข็ดจะได้ไม่มาจุ้นจ้านสร้างความรำคาญให้ "
“ ได้แล้วครับยา  กินก่อนนอนแล้วจะทำให้คุณหลับสบาย "

เสียงรถมอเตอร์ไซด์ขับเข้ามาจอดหมอกริมเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ  อนินวิ่งขึ้นมาหน้าตาตื่น

“ พี่กริมเร็วเข้าเถอะเกิดเรื่องแล้ว "

หมอกริมผุดลุกขึ้นเขาไม่ถามน้องชายสักคำว่าเกิดเรื่องอะไรแต่หันไปคว้ากุญแจรถแล้วรีบเดินอ้าวออกไป

“ เดี๋ยวค่ะพี่หมอ "
“ คุณพัด  พี่กริมมีธุระนะผมว่าคุณพัดกลับไปก่อน "

อนินบอกหญิงสาวแล้วรีบตามพี่ชายไปพัดชายืนเซ่อแล้วต้องหันมาหิ้วตระกร้ากลับออกมาอย่างขัดใจ
หมอกริมขับเข้ามาจอดหน้าตึกเสียงกรีดร้องและเสียงคนห้ามดังลั่นตึกหมอรีบลงจากรถและวิ่งเข้าไปในห้องผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเอามีดพยายามจะทำร้ายตัวเองแต่ถูกจับห้ามไว้พัลวัน

“ พวกแกปล่อยฉัน ปล่อย กรี๊ด "
“ ไม่ได้นะคะคุฯมาศ  คุณมาศอย่าทำอย่างนี้ "

หมอเข้ามาถึงเขาเข้าไปฃ่วยจับร่างของหญิงสาวที่กำลังคลุ้มคลั่งดิ้นรนสุดแรง

“ มาศ  พอได้แล้ว  ผมบอกให้พอ "

หมอกริมตวาดผู้ที่เขารวบร่างกอดมัดเอาไว้  จนหญิงสาวหยุดดิ้นรน

“ มาทำไม  มาดูฉันทำไม  ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันตายฮือๆๆ "
“ สไบ  กับเรียมออกไปก่อน "

หมอหันมาไล่คนรับใช้ทั้งสองที่ยืนหน้าตาตื่นให้ออกไปข้างนอก  เมื่อทั้งสองออกไปแล้วหญิงสาวหญิงสาวก็สบัดตัวออกจากการกอดจับของเขา

“ มาศ  คุณควบคุมตัวเองไม่ได้อีกแล้วนะ "

เขาพูดน้ำเสียงเย็นชา  แต่ผู้ที่ถูกว่าตวาดแว๊ดทันที

“ คุณจะเอายังไงกับฉันก็ว่ามาเลยแต่อย่าทรมานฉันเอาไว้แบบนี้  ฉันไม่ทนแล้วไม่ทน "
“ ผมมีสิทธิที่จะเลือกทำอย่างอื่นด้วยหรือ "
“ ทำไมคุณจะทำไม่ได้  แต่คุณมันเลือดเย็นคุณต้องการทรมานฉันให้ตายไปต่อหน้าต่อตาคุณคุณถึงจะพอใจ  เอาสิฆ่าฉันเลย  ฆ่าสิฆ่าๆๆๆ "
“ แม้นมาศ  มือของผมไม่ฆ่าคุณหรอก  แล้วคุณก็รู้ว่าผไม่ทำเช่นนั้นด้วย "

หมอพูดด้วยน้ำน้ำเสียงขมขื่นหญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาคลำมือเปะปะ  หมอหยิบบุหรี่มาจุดแล้วส่งให้ผู้ที่กำลังคลำหาเธออัดควันเข้าปอดอย่างแรงและถี่เพื่อจะให้ควันจากบุหรี่นั้นดับความเครียดให้กับเธอก็ไม่ปาน

“ ฉันต้องการคุยโทรศัพท์ "
“ ที่นี่ไม่มีโทรศัพท์คุณก็รู้ "
“ โทรศัพท์มือถือน่ะ  ฉันรู้นะว่าคุณมี "
“ ไม่มี "
“ ไอ้บ้า  ไอ้คนบ้า "
“ หยุดพูดจาก้าวร้าวกับผมเดี๋ยวนี้นะ "
“ ทำไม  ทนฟังคำพูดถ่อยๆไม่ได้หรือไง "
“ คุณไม่น่าจะเป็นได้ถึงขนาดนี้เลยนะ "

น้ำเสียงเยาะ  คนฟังเจ็บจี๊ดในอก

“ คุณหมอกีรติ  คุณก็รู้ว่าฉันไม่มีความดีหลงเหลืออยู่แล้ว  แล้วทำไมคุณไม่ให้ฉันไปตามทางของฉัน  หา "

หมอมองหน้าที่รูปกายภายนอกสะสวยโสภา  แล้วเมินหน้าหนี  ความเจ็บปวดกัดกินความรู้สึกของเขาจนชา

“ คุณดีขึ้นแล้วใช่ไหม  ผมมีงาน "
“ เดี๋ยว  เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยนะ "
“ เราคุยกันเข้าใจมานานแล้ว  ที่เคยพูดตกลงไว้อย่างไร  เดี๋ยวนี้  พรุ่งนี้หรืออีกกี่ปีมันก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจนกว่าคุณหรือผมจะตายกันข้างหนึ่ง "
“ กรี๊ดๆๆๆๆ "

แม้นมาศกรีดเสียงร้องอย่างอัดอั้นตันใจ

“ถ้าคุณจะอาละวาดอีก  ผมจะฉีดยาให้คุณ "

ชะงักกึก  แม้นมาศกลัวจับฉีดยาเป็นที่สุด  ทุกครั้งที่เธออาละวาดแล้วหมอกีรติเอาไม่อยู่เขาจะจับเธอฉีดยาให้นอนหลับไปนานเลยทีเดียว
ชายหนุ่มเดินลงมาข้างล่างอนินนั่งรอเขาอยู่ที่เก้าอี้นั่งเล่น

“ เป็นไงมั่งพี่กริม  วันนี้อาละวาดแต่เช้า "
“ ถ้าเขาขอโทรศัพท์จากนาย  นายห้ามให้เขาเด็ดขาดนะ "
“ ขอผมแล้ว  แต่ผมปฎิเสธก็เลยได้เรื่อง  สงสัยจะโทรหา "
“ พี่จะไปทำงานต่อ  นายจะไปไหนหรือเปล่าวันนี้ "
“ ไปสิ  วันนี้จะไปรับปุ๋ยคอกที่สั่งไว้เขาเข้ามาส่งไม่ถูกต้องออกไปรอรับ  พี่กริมเขียนเช็คจ่ายให้ด้วย "
“ อะไร  เงินหมดอีกแล้วหรือ  พี่พึ่งให้นายไปสองแสนเมื่อวันก่อน "
“ ค่าปุ๋ยน่ะแสนกว่าแล้วนะพี่  ปุ๋ยคอกนะไม่ใช่ปุ๋ยเคมี  แล้วเมื่อวานผมเข้าเมืองก็ไปซื้อเครื่องตัดหญ้ามาอีกหกเครื่องเหลือเงินอยู่ก็ไม่เท่าไหร่แล้ว "
“ เครื่องตัดหญ้าทำไมใช้ทีหลายเครื่องนัก  ปรกติเราใช้จอบถากเอาไม่ใช่หรือ  นายจะสอนให้คนงานขี้เกียจแล้วรู้ไหม "
“ พี่กริมครับ  ไร่ของเราน่ะสองพันกว่าไร่นะครับ  หญ้าน่ะมันขึ้นตามก้นคนถากเลยรู้ไหม  มัวแต่เอาเวลามาถากหญ้างานอื่นก็ไม่ได้ไปทำกัน  พี่น่ะออกไปดูแล้วเห็นแต่ความเรียบร้อย  แต่กว่ามันจะเรียบร้อยอย่างที่พี่เห็นน่ะมันใช้แรงงานไม่รู้เท่าไหร่  เสียโอกาสครับ "

อนินร่ายยาว  กริมน้องชายอยู่ในใจ  ไม่น่าเชื่อว่านักเรียนนอกอย่างอนินจะทำงานในไร่เป็นและทำได้ดีมากซะด้วย

ราวินมองน้องสาวเอายาอดงมาทาแผลที่รถล้มไว้

“ เห็นไหมอยากขี่ดีนักเป็นยังไงล่ะ  ได้แผลเลยเห็นไหม "
“ วัลย์ขี่ดีนะคะแต่คนขับรถมันไม่ดูทางเอง "
“ ไม่มีใครยอมรับว่าตัวเองผิดหรอกน่า  โทษคนอื่นเอาไว้ก่อน "
“ พี่วิน  พี่วินไม่ได้เห็นกับตาพี่วินก็ไม่เชื่อน่ะสิ  วัลย์ขี่ดีจริงๆ "
“ เออๆเชื่อก็ได้  คราวหน้าให้หัวขาดซะก่อนพี่จะได้โทษว่าเราขี่ไม่ดี "

ลัยวัลย์ค้อนพี่ชายตาขาว  ไม่อยากจะเถียงด้วยเพราะเดี๋ยวจะพาลไม่ยอมให้เธอขี่รถอีก

“ ย่าเห็นผลงานของเราหรือยัง "
“ ไม่เห็นหรอกพี่วินอย่าปากโป้งนะ "
“ แผลอย่างนี้เดี๋ยวก็ต้องเห็น  อยากรู้เหมือนกันว่าจะถูกดุไหม "
“ วัลย์จะนุ่งกระโปรงยาว  ย่าจะเห็นได้อย่างไร "

ลัยวัลย์พูดแล้วยักคิ้วให้พี่ชาย  ราวินถึงกับขำ

“ เออจะดู  ไหนบอกไม่ชอบนุ่งกระโปรงยาว "
“ คราวนี้มันจำเป็น "

พัดชาเดินนวยนาดออกมาเจ้าหล่อนเดินเฉียดสองพี่น้องที่นั่งกันอยู่

“ เจ๊  เดินห่างๆหน่อยก็ได้นะกระโปรงของเจ๊น่ะมันสั้น  ผมไม่อยากเห็นไส้ของเจ๊ "

ราวินพูดเสียงดังพัดชาถึงกับตาถลน

“ นี่ "
“ นี่ทำไม  ผมน่ะเตือนดีๆนะเพราะเห็นว่าเจ๊น่ะเป็นญาติ "
“ แกไม่ต้องมายุ่งกับฉัน  แล้วไอ้ที่ฉันเดินเฉียดก็เพราะพวกแกมานั่งขวางทางเกะกะ  ทีหลังจะนั่งจะทำอะไรก็ให้มันแอบๆหน่อยสิยะ "
“ โอ้โฮ  ขนาดนี้ขวางทางเหรอ  ช้างหรือไงถึงต้องเดินกินที่เป็นวา "

ราวินไม่ยอมลดละพัดชาถึงกับเต้นที่ถูกราวินว่าเอา

“ ไอ้ปาก  เหม็น  แกน่ะสิช้าง "
“ รู้ได้ไงว่าปากเหม็นลองดมดูหรือยัง "
“ พอเถอะพี่วิน "

ลัยวัลย์ห้ามพี่ชายแต่พัดชาไม่ยอมง่ายๆหล่อนยังด่าไม่หยุด

“ คนอย่างฉันหรือต้องลดตัวไปดมปากแกถ้าต้องดมปากแกฉันยอมดมปากหมายังดีกว่า "
“ โฮ  ขนาดนั้นเชียว  ถ้าจะดมมาบ่อยปากเลยติดหมามา "
“ กรี๊ดๆๆๆ  ไอ้บ้า "
“ อะไรกัน  หา "

เสียงของย่าดังขึ้น  ลัยวัลย์รีบเอาชายกระโปรงคลุมแผลเพราะกลัวย่าเห็น  ราวินนั่งเงียบทันทีแต่พัดชาฟ้องลั่น

“ คุณย่าคะ  นายราวินเขาด่าพัด  ด่าว่าพัดเป็นหมา "
“ เฮ้ย  ไม่ได้ว่าเป็นหมาแค่ว่าเหมือนหมาเท่านั้น "
“ นั่นไงคะ  มันยอมรับแล้ว "
“ ไม่เอาน่า  โตๆกันแล้วมาทะเลาะกันเหมือนเด็ก  วินเขาล้อเราเล่นหรือเปล่าแม่พัด "
“ คุณย่าเข้าข้างมัน  พัดไม่ยอม "
“ เอ๊ะแม่พัด  ฉันบอกให้หยุด  เราจะไม่เอาใครเลยหรือไงหืมม์  เขาหยอกเล่นล้อเล่นนิดหน่อยเป็นไม่ได้  อย่าสร้างเรื่องให้ฉันต้องปวดหัวนะ "

ย่าพวงครามดุพัดชา  หญิงสาวน้อยใจจนน้ำตาไหลสบัดวิ่งออกไปจากที่นั่นทันที

“ ผมขอโทษครับย่า  ความจริงผมก็ไปว่าพัดเขาจริงๆ "
“ เฮ้ย  พี่น้องกันเรื่องแค่นี้เอามเป็นฟืนเป็นไฟย่าก็ไม่ชอบเหมือนกัน  แม่พัดช่วงนี้ชักจะเอาใหญ่เอาแต่ใจตัวเองจนน่าเกลียด  เอ้าแล้วนั่นยาอะไรใครเป็นอะไรหรือ "
“ เปล่าค่ะ "
“ เปล่าแล้วเอายาแดงมาทำอะไร "
“ เอ่อ  เอา  มา  ทาแผลให้พี่วินค่ะ "
“ เฮ้ยยายวัลย์ "
“ วินเป็นอะไรหรือลูกไหนขอย่าดูซิ "
“ ยัง  ยังไม่เป็นค่ะ  เผื่อเป็น "
“ อะไรหืมม์  เผื่อเป็นด้วย  นี่ก็เล่นกันเป็นเด็กๆนะ "

สองพี่น้องยิ้มแหยๆราวินเหลือบมองน้องสาวแล้วหันไปยิ้มกับย่าอย่างไม่ค่อยสนิทนัก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่