PKM สุดยอดปืนกลของผู้ก่อการร้าย

เวลาเรานึกภาพอาวุธของผู้ก่อการร้ายหรือกองกำลังกบฎของประเทศ หรือกองทัพประเทศโลกที่ 3 เรามักจะนึกถึงเจ้า ak47 อันแสนเลื่องลือแต่เรามักจะลืมไปว่ามีปืนอีกชนิดหนึ่งที่เรามักจะเห็นมันมาเป็นแพ็คคู่ประจำนั่นก็คือเจ้า pkm ด้วยคุณสมบัติแบบเดียวกับ ak47 ถึกทนอึดราคาถูก ดูแลรักษาง่ายอำนาจการยิงสูงที่สำคัญมันหาง่ายมากในตลาดมืดพอๆกับ ak47 นั่นถือเป็นมนต์เสน่ห์ของปืนกลชนิดนี้อย่างมาก
ในภาพกองโจรตาลีบันกับเจ้า pkm


ความเป็นมา
ในช่วงต้นทศวรรศ 1950 โซเวียตได้ต้องการปืนกลชนิดใหม่เพื่อแทนที่ sg43 และ rp46 ที่เริ่มล้าสมัย เพื่อนำมาติดตั้งบนหนะ และใช้ต่อต้านอากาศยานบางประเภทและเข้าตีทหารราบ(พูดง่ายๆก็คือปืนกลอเนกประสงค์นั่นแหละ)โดยในช่วงนั้นหลังจากการปรากฏตัวของปืนกลโลกเสรีชนิดใหม่อย่าง m60 ทำให้โซเวียตต้องเร่งจัดหาปืนกลชนิดใหม่เพื่อมาแทนที่ปืนกลแบบเก่าของตนเองที่เริ่มล้าสมัย โดยมันต้องใช้กระสุนขนาด 7.62x54r  
รูปของเจ้า sg43

รูปของเจ้า rp46

โดยคุณสมบัติง่ายๆคือมันต้องมีน้ำหนักที่เบากว่า sg43 และ rp46 โดยต้องสามารถทำการยิงเพียงคนเดียวได้และมันต้องอึดถึกทนต่อสภาพอากาศของรัสเซีย

การพัฒนา
       การออกแบบเริ่มขึ้นในปี 1956 โดยทางด้านวิศวกรออกแบบปืนอย่าง g.i.nikitin ได้รับว่าจ้างให้ออกแบบตัวปืนในโครงการจัดหาปืนใหม่ครั้งนี้ ซึ่งตัวปืนนั้นใช้ระบบปฏิบัติการแบบแก๊ส ระบายความร้อนด้วยอากาศโดยตัวปืนสามารถถอดประกอบได้อย่างรวดเร็ว และมีน้ำหนักที่ถือว่าเบากว่าปืนกลรุ่นเก่าของโซวียตโดยได้รับการผลิตเพื่อนำไปทดลองใช้ 500 กระบอก แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง(ทางการเมือง)นายทหารโซเวียตส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยสนใจปืนกลรุ่นนี้มากนักแต่กลับไปสนใจพัฒนาเจ้า akm มากกว่า(ซึ่งต่อมากลายเป็นปืนกล rpk)โครงการดูเหมือนจะเงียบลง ซึ่งสถานการณ์ตอนนั้นคืออีกฝ่ายนั้นซึ่งก็คือทหารโซเวียตส่วนใหญ่(นำโดย มิคาอิล คาลานิคอฟ)ต้องการพัฒนาดัดแปลงเจ้า akm ไปเป็นปืนกลแบบใหม่ประจำการในกองทัพมากกว่า ในขณะอีกที่อีกฝ่าย(จี.ไอ.นิกิติน)ต้องการให้เจ้าปืนกลแบบใหม่ของตนเองเข้าประจำการในกองทัพรัสเซีย โครงการปืนจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่แต่ด้วยเหตุผลอะไรไม่ทราบ ทางมิคาอิล คาลานิคอฟ ได้มารับช่วงต่อการออกแบบของ จี.ไอ.นิกิติน ในการออกแบบปืนชนิดใหม่ในปี 1961 โดยทางมิคาอิล ได้ออกแบบตัวปืนเพิ่มเติมโดยอิง ak47 ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามเป็นต้นแบบโดยใช้ระบบลูกสุบยาวและระบบแก๊สที่ถอดแบบมาจาก ak47 โดยศูนย์เล็งของตัวปืนนั้นจะอยู่เยื้องไปทางขวา และตัวลูกสูบและท่อแก๊สที่ถอดแบบมาจาก ak 47 นั้นจะอยู่ด้านล่างลำกล้อง เมื่อเทียบกับตัว ak47 ที่ตัวท่อแก๊สอยู่บนลำกล้อง ด้วยคุณสมบัติที่ถอดแบบมาจากระบบของ ak47 ทำให้ตัวปืนนั้นมีอึกถึกทน ดูแลรักษาถอดประกอบง่ายและมีชิ้นส่วนน้อยชิ้นน้อยชิ้นทำให้ง่ายต่อการดูและรักษา โดยตัวปืนนั้นใช้กระสุนขนาด 7.62x54r และถูกตั้งชื่อว่า Pulemyot Kalashnikova (หรือชื่ออังกฤษ  Kalashnikov's Machinegun) แปลได้ตรงๆคือ"ปืนกลคาลานิคอฟ" โดยเรียกสั้นๆว่า pks
รูปของเจ้าปืนกล pks


การพัฒนาเพิ่มเติม
         ในปี 1969 ได้มีการนำปืน pks มาพัฒนาปรับปรุงอีกครั้ง โดยเปลี่ยนปลอกลดแสงแบบใหม่ทำให้อาการลำกล้องสะบัดเมื่อยิงนั้นน้อยลง เปลี่ยนลำกล้องแบบใหม่ เปลี่ยนขาตั้งปืนแบบใหม่ทำให้น้ำหนักตัวปืนนั้นเบาลงถึง 2 กิโลกรัมโดยตั้งชื่อใหม่ว่า pkm และยังสามารถติดตั้งกล้องเล็งกลางคืนได้อีกด้วย เจ้า pkm ตัวนี้คือปืนกลที่แพร่หลายที่สุดและพบอยู่ในเกือบทุกๆจุดของโลกที่มีความขัดแย้ง
รูปของ pkm

รูปของ pkm กับกล้องเล็งกลางคืน

และได้มีการดัดแปลงเจ้า pkm ไปเป็นปืนกลร่วมแกนรถถัง โดยเปลี่ยนลำกล้องแบบใหม่ที่ยาวกว่าเดิม และเปลี่ยนไปใช้ปลอกลดแสงแบบ pks โดยตัวพานท้ายและตัวด้ามจับมือและกระโจมมือถูกตัดออกไปโดยตั้งชื่อว่า pkt
รูปของ pkt


ปัจจุบัน
         ปัจจุบันปืน pks series ทุกรุ่นนั้นถูกผลิตมาแล้วทั่วโลกมากกว่า 1000000 กระบอกทั้งแบบถูกกฎหมายและผิดกฎหมายด้วยคุณสมบัติอึดถึกทน ทนน้ำและฝุ่นทรายดูแลรักษาง่าย ไว้ใจได้และมีต้นที่ถูกเมื่อเทียบกับปืนกลกระบอกอื่นโดยมีการดัดแปลง pks series มากมายไม่ว่าจะเอามาติดรางติดอุปกรณ์เสริม นำไปติดตั้งบนรถถัง บนรถ 4 ล้อ และอื่นๆอีกมากมาย นั่นเองทำให้มันประจำการอยู่แทบๆทุกประเทศทั่วโลก รวมทั้งเหล่ากองทัพกบฏและผู้ก่อการร้าย เรียกว่ามันเป็นปืนกลยอดนิยมเลยจริงๆ

ข้อมูลโดยรวม
ใช้กระสุนขนาด: 7.62x54r
น้ำหนักโดยรวม: 9kg(pks),7kg(pkm),10.5kg(pkt)
ความยาวปากลำกล้อง: 658mm(pks),645mm(pkm)722mm(pkt)
อัตราการยิง: 650 นัดต่อนาที(pks,pkm)และ 800 นัด/นาที(pkt)
ประเทศผู้ผลิต: สหภาพโซเวียต

อ้างอิง
https://en.wikipedia.org/wiki/PK_machine_gun
http://www.rusmilitary.com/html/pkm_gpmg.htm
http://world.guns.ru/machine/rus/kalashnikov-pk-pkm-e.html
http://www.forgottenweapons.com/medium-machine-guns/pk-pkm/
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ตอบ 2,3
ก็ไม่เชิงว่าเลียนแบบ... แต่การที่เอากระสุนคนละขนาดมายัดลงไปในปืนที่ไม่ใช่ขนาดของมัน คงมีอาการปืนแหกมือแหกแน่ (ถ้าไม่ใส่อแดปเตอร์ตัวแปลงอะนะ)

ถ้ารัสเซียจะสร้างเลียนแบบ M16 นี่ไม่ใช้ว่า M16 ดีเลิศประเสริฐศรีอะไร M16 นี่มีแต่เรื่องความแม่นมารตฐานโรงงานอเมริกัน ซึ่งถ้ารัสเซียลดความ Mass ของ AK มาเน้นความแม่นก็ทำได้ไม่ยาก แต่พี่แกเน้นผลิตเยอะ ผลิตง่ายๆ ปั๊มๆ ประกอบก็เสร็จส่งมอบให้กองทัพ MASS แต่กลับทนเป็นพิเศษ

M16 มาตกม้าตายที่ระบบใช้ท่อแก๊ซกลางๆดัน Bolt ทำให้มันกากครับ ลงน้ำยิงแล้วปืนพัง ฝุ่น หินดินทรายเข้าช่องแก๊ซหน่อย พัง !!
ผิดกับ AK หรือ HK ที่เกิดมาไล่ๆกัน ที่ใช้ระบบลูกสูก หนักหน่อยแต่ไว้ใจได้ในการยิงนัดต่อไป ทำให้หลังๆไอกันเริ่มหันมาใช้ ลูกสูบในปืนต่อๆไปของมะกันบ้าง

AK47 เกิดมาก่อน M16 เกือบ 20 ปีครับ
สิ่งเดียวที่รัสเซียเห็นข้อดีของ M16 แล้วมาปรับปรุงใช้ในปืนรุ่นใหม่ของตนคือการลดขนาดกระสุนครับในปืน AK74
โดยก่อนหน้านี้รัสเซียใช้ 7.62x39 กับ AK47 ซึ่งข้อเสียหลักๆคือ มันแรงเกินไปครับ ทำไมหน่ะรึ ? ก็แรงจริง ยิงคนทะลุจริง
แต่การที่มันทะลุไปเลยทำให้เป็นข้อเสียครับ มันทะลุคนไปก่อนที่จะสร้างความเสียหายสูงสุดให้คนๆหนึ่งล้มลง (Stopping Power)
บางทีกระสุนไม่โดนจุดสำคัญ แล้วทะลุตัวเหยื่อไป เหยื่อยังไม่รู้สึกเจ็บเพราะชา
แถมสามารถดิ้นเฮืกสุดท้ายคว้าปืนมายิงต่อก่อนจะเลือดออกตายตายก็มีเพราะอำนาจหยุดยั้งต่ำครับ
ฉะนั้นปืนนี้เหมาะสำหรับเอาไปยิงอะไรกับพวกที่ไม่ใช่คนครับ สัตว์ตัวใหญ่ๆ หรือ เอเลี่ยนไปเลย

แต่สำหรับกระสุนเล็กอย่างของ M16 5.56x45 มันเกิดมาเพื่อฆ่าล้างมนุษย์จริงๆ เนื่องด้วยขนาดเล็ก แต่แผลไม่เล็กนะฮะ STOPPING POWER สูงโดนไปนัดนึงล้มแน่นอน เพราะเมื่อมันกระทบเนื้อคนมันจะสร้างแรงช็อค ไม่ว่าถ้ากระสุนแตก (เนื่องจากหัวเล็ก) ก็สามารถกระจายไปในตามส่วนของจุดกระทบ สร้างบาดแผลที่รักษาได้ยาก คิดดูกระสุนวิ่งเข้าเนื้อแต่แตกเป็น 6-7 ชื้นทะลุไปในหลายๆส่วนของร่างกายมันจะสยองขนาดไหน และถ้าหากมันไม่แตก ก็จะหมุนติ้วๆในแนวตั้งอยู่ในเนื้อคน คว้านหนังคว้านอวัยวะภายในแหลก...

ประการที่สอง กระสุน 7.62x39 มันหนาเกินไป หมายความว่าใน 30 นัด ต้องทำแมกกาซีนใหญ่กว่าปืนค่ายอื่นๆ ส่งผลให้ทั้งน้ำหนักกระสุน น้ำหนัก แมกกาซีน ต้องมีน้ำหนักเพิ่มตามด้วย ผลกระทบไปถึงทหารที่ถือปืน ที่ต้องแบกกระสุนไปได้น้อยลง และ ส่งผลถึงระบบ Logistic  ที่ทั้งเปลืองพื้นที่เพิ่ม แถมน้ำหนัก มันไม่คุ้มค่า

ทั้งแรงเกินไป ทั้งหนาเกินไป รัสเซียจึงเล็งเห็นว่าอีเจ้า M16 ที่ขนาดกระสุน 5.56x45 มันเล็กกว่าของ AK มันเวิร์คเว้ยเฮ้ย
ทั้งจุได้เยอะกว่า เหมาะสำหรับสงรามรูปแบบใหม่มากกว่า (รูปแบบ Join Strike อะไรที่ไม่ใช่งานของหมวดปืนเล็ก ว.เรียกอะไรที่ลูกใหญ่ๆกว่ามาถล่มมันเถอะ)

จึงเกิดมาเป็น AK74 และมาตรฐานกระสุนใหม่ 5.45x39 ความยาวกระสุนกระสุนจะสั้นกว่าของ M16 นิดนึง แถมเล็กกว่า AK47 แต่ประสิทธิภาพใกล้เคียง

.308  - M16 - AK74 - AK47
ความคิดเห็นที่ 1
ปืนของฝั่งรัสเซียจะบรรจุขวา ของสหรัฐบรรจุซ้าย(ยกเว้น M2 Browning บรรจุได้สองฝั่ง)  
ปืนของฝั่งรัสเซียจะเป็นแบบสายต่อเนื่อง ของสหรัฐจะใช้กระสุนเป็นตัวล๊อคถ้ายิงออกไปแล้วสายมันจะขาดจากกัน


แต่ผมชอบเครื่องบรรจุแบบรัสเซียมากจับกระสุนโกยมาใส่ไม่ต้องสนทิศทางมันสลับได้เอง หลักการคล้าย MG34/42 แต่แบบเยอรมันต้องหันกระสุนไปทางเดียวกัน
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่