รบกวนช่วย share เตือนภัยขโมยบัตรเครดิต และสมุดบัญชี ไปรูดบัตรซื้อ iphone และนำสมุดบัญชีไปเบิกธนาคาร 120,000 บาท

หลังจากกระทู้ที่ผมตั้งเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่าน ถูกลบไปเนื่องจาก มีความไม่เหมาะสมเกี่ยวกับการ ลงภาพ คนร้าย ที่ชัดเจน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องในกฏระเบียบในการตั้งกระทู้ ใน pantip ผมจึงขออนุญาต ลงกระทู้อีกครั้ง แต่จะขอไม่ลงภาพเกี่ยวกับคนร้ายครับ เพื่อรักษากฏ และขอบคุณทีมงานฝ่ายกฏหมาย  pantip  สำหรับข้อแนะนำด้วยครับ

(โดยพร้อมกระทู้นี้ ผมจะขอ update สถาการณ์ล่าสุดใน ด้านล่าง ในกับเพื่อนสมาชิกทุกท่านครับ)

สืบเนื่องจากวัน ศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 58 เวลา 15.18 น.  มี sms จากบัตรเครดิต UOB แจ้งเข้าที่มือถือ ว่ามีการใช้บัตรเครดิต เป็นจำนวนเงิน 37,300 บาท ก็เลยรีบโทรไปถามที่ธนาคารปรากฏว่า มีการรูดบัตรซื้อสินค้าที่ ร้าน telewiz ที่สาขา สีลมคอมเพล็กซ์ และเจ้าหน้าที่ ได้เช็คแล้วเป็นบัตรจริง โดยให้ผมเช็คว่า บัตรหายหรือไม่ ผมจึงได้ขออายัด บัตรไว้ก่อน จากนั้น ก็รีบกลับเข้าไปที่รถ  โดยทรัพย์สินที่หายไปจากรถคือ บัตรเครดิต (ซึ่งเป็นบัตรที่ไม่ค่อยได้ใช้รูด) หลายใบ และสมุดบัญชีธนาคารหลายเล่มและ สมุดบัญชีกองทุน ประมาณ 5 เล่ม และ ipad 1 เครื่อง สุดท้ายคือใบขับขี่รถยนต์ ได้หายไป จึงได้รีบอายัด บัตรเครดิต และสมุดบัญชี กับทุกธนาคารในเบื้องต้น

ระหว่างที่กำลังอายัด บัตรเครดิตอยู่นั้น ปรากฏว่า  มีบัตรเครดิตถูกใช้ อีก 1 ใบ คือ บัตร city M visa ทางเจ้าหน้าที่ แจ้งว่า มีการซื้อสินค้า จากร้านขายยา ที่ สีลมคอมเพล็กซ์ อีก 1 รายการ (ไม่มี sms แจ้ง)  มูลค่า 359 บาท ในเวลา 15.50 น. (ซึ่งเป็นเวลาห่างกันกับการ รูด iphoneประมาณ 20 นาที) ระหว่างนั้น  เจ้าหน้าที่ธนาคาร UOB โทรเข้ามาหาและแจ้งว่า ขณะนี้ บัตรที่ผมแจ้งอายัดไว้เมื่อสักครู่ มีการรูดสินค้าอีกครั้งที่ เทเลวิซ ที่เดิมอีกครั้ง (แต่รูดไม่ผ่าน) ทางธนาคารได้ทราบ จึงพยายามติดต่อ ที่ร้านเทเลวิซ แต่ติดต่อไม่ได้ จึงโทรหาผม และแจ้งว่าหากสะดวกให้ไปที่เกิดเหตุโดยเร็วที่สุด เพื่อจะได้ทราบถึงรูปพรรณ ของคนร้าย จากพนักงานเทเลวิซได้ เพราะเหตุการณ์พึ่งเกิดขึ้น

ซึ่งขณะนั้น ผมอยู่ที่สาทร ทางเจ้าหน้าที่ UOB จึงได้แนะนำให้ไปที่เกิดเหตุให้เร็วที่สุด ที่ สีลม คอมเพล็กซ์ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่เทเลวิซ ก็ตรวจสอบ และพบว่า มีการ ใช้บัตรเครดิต และรูดซื้อ iphone 6 plus ไป เมื่อเวลาประมาณ 15.18 นาที โดยผมได้ขอดูกล้องวงจรปิดเพื่อขอเป๋นหลักฐานในการแจ้งความดำเนินคดี และเจ้าหน้าที่ขอให้ไปแจ้งความก่อน เจ้าหน้าที่เทเลวิซจึงจะสามารถให้หลักฐานได้ แต่ระหว่างรอแจ้งความ เจ้าหน้าที่ จะได้ประสานงานเรื่องกล้องวงจรปิดให้ กับทางบริษัทแม่อีกที

โดยระหว่างนี้ ผมก็โทรไปหา พนักงาน city bank อีกครั้งว่า รูดร้านขยายยาตั้งอยู่ที่ใด ปรากฏว่า ร้านยา ตั้งอยู่ที่ สีลม คอมเพล็กซ์เช่นกัน จึงได้ไปที่ร้านขายยา ดังกล่าว และก็พบว่า มีการรูด การซื้อสินค้ามูลค่าดังกล่าว ผมจึงขอความช่วยเหลือในการดูภาพจากกล้องวงจรปิด จากทางร้าน ทางร้านก็ให้ความช่วยเหลือ เปิดย้อนหลังเวลาให้ทันที จากนั้น ผมก็ถ่ายรูป เพื่อไปให้พนักงาน เทเลวิซ ได้ดูอีกครั้งปรากฏว่า เป็นคนเดียวกัน อย่างแน่นอน ทุกคนยืนยัน จากนั้นผมก็เดินทางไปที่จอดรถอีกครั้ง เพื่อสอบถาม รปภ ของทางตึก ปรากฏว่า ภาพคนร้าย เป็นบุคคลเดียวกันที่ เป็นผู้ต้องสงสัย ขโมย คอมพิวเตอร์ จาก ตึกใกล้เคียงกัน ในวันที่ 2 มิย 58 ที่ผ่านมา ซึ่งคนร้ายอาจจะเป็น มิจฉาชีพ ที่ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง จากนั้นผมจึงได้เดินทางไปแจ้งความที่ สน. ทุ่งมหาเมฆ ต่อไป หากท่านในมีเบาะแสคนร้ายสามารถแจ้งที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้ครับ

*****สำหรับสถานการณ์ล่าสุด

หลังจากที่เกิดเรื่องในเย็นวันศุกร์ ในวันเสาร์ผมได้ไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ณ สถานที่เกิดเหตุ ที่ เทเลวิซ และร้านขายยา ซึ่งได้รับความร่วมมือ อย่างดียิ่งจากทั้ง 2 ที่ ในด้านเอกสารและกล้องวงจรปิด
แต่เมื่อวันอาทิตย์ ผมได้พบว่า บัญชีธนาคาร กสิกรไทย มีเงินหาย ไป 120,000 บาท ซึ่งหลังจากตรวจสอบเบื้องต้นเป็นการถอนเงินสดที่  counter ในเย็นวันเดียวกัน (วันศุกร์เย็น) ช่วงเวลา 17.30 น. ที่สาขามาบุญครอง

ซึ่งทบทวนเหตุการณ์แล้ว มาจากการที่ในวันศุกร์ ผมพยายามอายัดสมุดทุกบัญชีแล้วแต่เนื่องจากช่วงนั้น ผมจะต้องรีบเดินทางไป สีลม คอมเพล็กซ์ เพื่อตามหาคนร้าย ทำให้ผมพบทีหลังว่า  ไม่ได้อายัด สมุดบัญชีของธนาคารกสิกรไทย จึงมีความเสียหายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นคือ คนร้ายได้นำ สมุดบัญชี ของ ผม ไปเบิกเงินสด ออกมาจาก ธนาคารกสิกรไทย จำนวน 120,000 บาท โดย พนักงานแจ้งว่า คนร้ายน่าจะใช้ใบขับขี่ ในการนำมาถอน (แต่ทางเจ้าหน้าที่ ธนาคารไม่ได้ถ่ายเอกสารไว้)  โดยหลังจากทราบเรื่องแล้ว ผมได้เดินทางไปวันอาทิตย์ เพื่อแจ้งถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น และขอดูเอกสารการถอนเงิน และดูกล้องวงจรปิด แต่ธนาคารแจ้งว่าใบแจ้งความที่ผมมีนั้นไม่สามารถดูได้ จำเป็นต้องใช้เอกสารจากทางราชการเพิ่มเติมเพื่อแจ้งสำนักงานใหญ่ เพื่อขออนุมัติต่อไป

จากนั้นวันจันทร์ผม ไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง เพื่อไปยื่นเอกสารจากทางราชการในการขอเอกสาร การถอนเงินของคนร้าย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำใบดังกล่าวส่งไปยังกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อยืนยันลายมือและฟ้องร้องในกรณีที่คนร้ายปลอมแปลงเอกสาร และขอภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อยืนยันหน้าตาคนร้ายและออกหมายจับ

ซึ่งทางธนาคารน่าจะใช้เวลา 3 วัน เพื่อจะให้อนุญาต เกี่ยวกับ ภาพจากกล้องวงจรปิด และเอกสารได้ ซึ่งผมหวังเป็นอย่างยิ่งจะได้ เอกสารการถอนเงิน และภาพจากกล้องวงจรปิดโดยเร็วเพื่อให้เจ้าหน้าที่ประกอบหลักฐานทั้งหมด ให้ออกหมายจับคนร้ายโดยเร็วที่สุดครับ  
ผมหวังว่ากระทู้ของผมจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านเกี่ยวกับการเก็บ บัตรเครดิต สมุดบัญชี และบัตรประตัวประชาชน/ใบขับขี่ ให้มีความระมัดระวังมากที่สุดเพราะเดี๋ยวนี้ คนร้าย มีกลเม็ดต่างๆ เพื่อผ่านด่าน ต่างๆ ให้สามารถเอาเงินจากเราไปได้ไม่ยากเย็นครับ

** ขอบคุณทุกท่านสำหรับทุกข้อคิดเห็น แต่ขอความกรุณาเพื่อนสมาชิก ในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับธนาคาร เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ อย่างไรผมยังเชื่อมั่นในระบบการทำงานของธนาคารว่าจะทำให้เห็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้องที่สุดครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่