คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 19
ครับ ขอบคุณครับ จะลองทำตามครับ ของผมนี่ยังเล่าไม่หมดนะครับ
-โดนตัดไฟตั้งแต่ ม2 เพราะแม่ไม่เอาเงินไปจ่ายค่าไฟ(นั่งเล่นไพ่)
-ตอนอายุ 15 แม่ขายบ้าน แล้วย้ายไปอยุเพิงเล็กๆ ไม่มีไฟ ไม่มีน้ำปะปา เพราะแม่ติดค่าเหล้าเขา ไปกินเหล้ากับคนซื้อบ้าน เอาเงินมาทีละ5000 ที่ละ พัน ไม่ได้จดเอาไว้ พอไปถามเขา เขาบอกว่าจ่ายให้หมดแล้ว(ตอนนั้นยังเด็ก เรียนอยู่ ทำอะไรไม่ได้ ทำได้แต่นอนร้องไห้ครับ)
- พ่อ และ ย่าเล่าว่า (เล่าให้ฟังคนละรอบ แต่เหตุการณ์เหมือนกัน) คือตอนที่คบกันใหม่ๆ พ่อมีเงินเก็บอยู่3 หมื่น(เมื่อ20กว่าปีก่อน) แม่เอาเงินเก็บพ่อ ไปกิน ไปเล่นจนหมด ไม่เหลือสักบาทเดียว...ทำให้พ่อเครียด กินเหล้า และสติไม่ค่อยดีจนถึงทุกวันนี้
- เหตุการณ์ทุกอย่างเริ่มมาจาก เงิน และอ้างว่าลูกยังเด็ก ต้องใช้เงิน
- ผมอยู่ ป4 มีงานโรงเรียน ไม่มีกางเกงพละใส่ ครูให้เงินทุนมา500บาท(วันศุกร์) บอกให้มาซื้กางเกงพละใส่...เอาไปใช้จนหมด แต่ไม่รู้ว่าเอาเงินนั้นไว้ไหน ผมทำอะไรไม่ได้ นอกจากนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว และเหตุการณ์นั้นทำให้ผมจำมาถึงทุกวันนี้
- เมื่อ2 ปีก่อน น้องผมขึ้น ม1 ต้องซื้อรองเท้าใหม่ โอนเงินไปให้แม่...มารู้ทีหลังว่าแม่ ไม่ได้ ซื้อรองเท้า แต่ซื้อตอนหลังจากนั้นอีกหลายวัน(จากเงินที่ส่งกลางเดือน
- น้องคนที่2 อายุ20 ปีทำงานแล้วครับ ทำอยู่โรงหนังในห้าง ผ่อนมอไซค์คันนึง สิ้นเดือนมา ไม่ให้แม่สักบาท เอาไปจ่ายค่าครีมหมด ขนาดผม (ลองใจ) ว่าต้นเดือนที่ผ่านมา ช่วย จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ นะ แต่พอถึงเวลาก็เงียบ...ผมอีกตามระเบียบครับ
- ปลายปีก่อนแม่เมากับข้างบ้าน ผมส่งเงินให้น้องแค่ 300บาท เพื่อไปโรงเรียน(สอบครึ่งวัน) น้องโทรมาบอกว่า แม่จะขอเงินจากน้องคนละ50บาท ผมเลยโทรไปบอกว่า ไม่ได้นะ เพราะน้องต้องกิน และค่ารถที่โรงเรียน...หลังจากนั้น แม่โมโห+เมา เอาชุดนักเรียนน้อง หนังสือ ไปปาหน้าบ้านทั้งหมด...เหตุเพราะทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ
- หลังจากนั้นผมมาเปิดห้องให้น้องคนที่2 (ตอนนั้นทำงานแล้ว)และ3กับ4 อยู่ เป็นห้องแอร์ครับ อยู่รายวันเกือบ2อาทิตย์กว่าจะมีห้องว่างตอนสิ้นเดือน ไหนจะค่ากิน ค่าอยู่ ร่วมๆ5 พันกว่าบาท ยังไม่รวมมัดจำห้อง 5000บาท ค่าห้องอีก 3800บาท คิดว่าให้น้องได้สบายใจ เพราะเขามีงานทำ เงิน3 พันกว่าบาท ค่าห้องมีจ่ายแน่นอน
- ผมซื้อของเข้าห้องอีก4 พันกว่าบาท...ผลที่ได้คือน้องย้าย หนี กลับไปบ้าน ทิ้งเงินมัดจำไว้เปล่าๆ ผ่อนไม่ไหว ไม่บอกผมสักคำ... ที่ทำได้ เพราะไม่ใช่เงินเขา เขาได้มาโดยง่ายสบาย แค่ขอร้องว่าเดือดร้อน ผมนี่สิ่ ตี4 ต้องวิ่งมาหาตู้โอนเงินให้น้อง เพราะกลัวว่าจะนอนตากน้ำค้าง
ตอนนี้ผมเป็นโรคร้ายอยู่ครับ มีแม่ที่รู้คนเดียว คิดว่าน่าจะอย่ได้ไม่นาน หมอบอกว่าให้อยู่ด้วยกำลังใจ...แต่ดูสิ่ครับ กำลังใจจากไหนเล่า แต่ละคน...
ขอรับรองว่าเป็นเรื่องจริงทุกประการ
รพส
-โดนตัดไฟตั้งแต่ ม2 เพราะแม่ไม่เอาเงินไปจ่ายค่าไฟ(นั่งเล่นไพ่)
-ตอนอายุ 15 แม่ขายบ้าน แล้วย้ายไปอยุเพิงเล็กๆ ไม่มีไฟ ไม่มีน้ำปะปา เพราะแม่ติดค่าเหล้าเขา ไปกินเหล้ากับคนซื้อบ้าน เอาเงินมาทีละ5000 ที่ละ พัน ไม่ได้จดเอาไว้ พอไปถามเขา เขาบอกว่าจ่ายให้หมดแล้ว(ตอนนั้นยังเด็ก เรียนอยู่ ทำอะไรไม่ได้ ทำได้แต่นอนร้องไห้ครับ)
- พ่อ และ ย่าเล่าว่า (เล่าให้ฟังคนละรอบ แต่เหตุการณ์เหมือนกัน) คือตอนที่คบกันใหม่ๆ พ่อมีเงินเก็บอยู่3 หมื่น(เมื่อ20กว่าปีก่อน) แม่เอาเงินเก็บพ่อ ไปกิน ไปเล่นจนหมด ไม่เหลือสักบาทเดียว...ทำให้พ่อเครียด กินเหล้า และสติไม่ค่อยดีจนถึงทุกวันนี้
- เหตุการณ์ทุกอย่างเริ่มมาจาก เงิน และอ้างว่าลูกยังเด็ก ต้องใช้เงิน
- ผมอยู่ ป4 มีงานโรงเรียน ไม่มีกางเกงพละใส่ ครูให้เงินทุนมา500บาท(วันศุกร์) บอกให้มาซื้กางเกงพละใส่...เอาไปใช้จนหมด แต่ไม่รู้ว่าเอาเงินนั้นไว้ไหน ผมทำอะไรไม่ได้ นอกจากนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว และเหตุการณ์นั้นทำให้ผมจำมาถึงทุกวันนี้
- เมื่อ2 ปีก่อน น้องผมขึ้น ม1 ต้องซื้อรองเท้าใหม่ โอนเงินไปให้แม่...มารู้ทีหลังว่าแม่ ไม่ได้ ซื้อรองเท้า แต่ซื้อตอนหลังจากนั้นอีกหลายวัน(จากเงินที่ส่งกลางเดือน
- น้องคนที่2 อายุ20 ปีทำงานแล้วครับ ทำอยู่โรงหนังในห้าง ผ่อนมอไซค์คันนึง สิ้นเดือนมา ไม่ให้แม่สักบาท เอาไปจ่ายค่าครีมหมด ขนาดผม (ลองใจ) ว่าต้นเดือนที่ผ่านมา ช่วย จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ นะ แต่พอถึงเวลาก็เงียบ...ผมอีกตามระเบียบครับ
- ปลายปีก่อนแม่เมากับข้างบ้าน ผมส่งเงินให้น้องแค่ 300บาท เพื่อไปโรงเรียน(สอบครึ่งวัน) น้องโทรมาบอกว่า แม่จะขอเงินจากน้องคนละ50บาท ผมเลยโทรไปบอกว่า ไม่ได้นะ เพราะน้องต้องกิน และค่ารถที่โรงเรียน...หลังจากนั้น แม่โมโห+เมา เอาชุดนักเรียนน้อง หนังสือ ไปปาหน้าบ้านทั้งหมด...เหตุเพราะทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ
- หลังจากนั้นผมมาเปิดห้องให้น้องคนที่2 (ตอนนั้นทำงานแล้ว)และ3กับ4 อยู่ เป็นห้องแอร์ครับ อยู่รายวันเกือบ2อาทิตย์กว่าจะมีห้องว่างตอนสิ้นเดือน ไหนจะค่ากิน ค่าอยู่ ร่วมๆ5 พันกว่าบาท ยังไม่รวมมัดจำห้อง 5000บาท ค่าห้องอีก 3800บาท คิดว่าให้น้องได้สบายใจ เพราะเขามีงานทำ เงิน3 พันกว่าบาท ค่าห้องมีจ่ายแน่นอน
- ผมซื้อของเข้าห้องอีก4 พันกว่าบาท...ผลที่ได้คือน้องย้าย หนี กลับไปบ้าน ทิ้งเงินมัดจำไว้เปล่าๆ ผ่อนไม่ไหว ไม่บอกผมสักคำ... ที่ทำได้ เพราะไม่ใช่เงินเขา เขาได้มาโดยง่ายสบาย แค่ขอร้องว่าเดือดร้อน ผมนี่สิ่ ตี4 ต้องวิ่งมาหาตู้โอนเงินให้น้อง เพราะกลัวว่าจะนอนตากน้ำค้าง
ตอนนี้ผมเป็นโรคร้ายอยู่ครับ มีแม่ที่รู้คนเดียว คิดว่าน่าจะอย่ได้ไม่นาน หมอบอกว่าให้อยู่ด้วยกำลังใจ...แต่ดูสิ่ครับ กำลังใจจากไหนเล่า แต่ละคน...
ขอรับรองว่าเป็นเรื่องจริงทุกประการ
รพส
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 18
เจอคล้าย ๆ เราเลยค่ะ แต่ของเราน่าจะหนักกว่ามากกกก เพราะพ่อมีหนี้สินด้วย ถึงแกจะทำงานมีเงินเดือน
แต่สิ้นเดือนโดนหักไปเกือบหมด ช่วงแรก ๆ ที่ส่งให้เป็นก้อนนะคะ 4-5 วันหมดค่ะ บอกว่าค่านั่น ค่านี่บ้าง
ไม่มีเงินจะกินข้าว บลาๆๆ ก็ต้องส่งให้ แต่ก็เป็นอย่างนี้อยู่เรื่อย ๆ เลยไม่ไหวค่ะ เลยไปสืบข่าวจากละแวกใกล้เคียง
ปรากฏว่า ทั้งดื่มเหล้า สูบบุหรี่ การพนัน จัดเต็มมากตั้งแต่ต้นเดือน พอกลางเดือน ปลายเดือน เงินกินข้าวแทบไม่มี
มีไปกินข้าวบ้านคนอื่น ให้เขานินทาว่าให้อีกน่ะ สุด ๆ เราเลยจัดการการเงินใหม่ มีน้องสาวอยู่ 2 คน
คนนึงทำงานแล้วไม่ได้อยู่ที่บ้านด้วย อีกคนเรียนอยู่ อายุ 15 แล้วก็แม่เลี้ยงคนนึงที่วัน ๆ นึงไม่ทำมาหากินอะไร
ชอบตั้งวงไพ่กับบ้านใกล้เรือนเคียง เห้ออ
น้องคนที่ทำงาน เพิ่งเริ่มทำงาน ไม่ได้ส่งเงินมาช่วยที่บ้าน แต่ช่วงหลังเค้าก็บอกว่า พ่อโทรไปขอบ่อย ๆ ซึ่งเค้าก็โอนให้
เราเลยต้องจัดการโดย ของน้องที่เรียนอยู่ เราให้เปิดบัญชี โอนเงินให้บริหารจัดการเอง ค่าน้ำ ค่าไฟ เราไปติดต่อให้เค้าหักบัญชี
แล้วก็ไปผูกปิ่นโตร้านกับข้าวแถวบ้านให้มาส่งทุกวัน แล้วพวกของใช้ในบ้าน เราให้น้องเราไปสำรวจมาเลยค่ะว่า
เดือน ๆ นึงใช้อะไรบ้างจำนวนเท่าไหร่ พวก สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอกของใช้ที่จำเป็น ยีห้ออะไร ราคาเท่าไหร่ รวมต่อเดือน เราก็ไป
ขอเจ้าของร้าน มินิมาร์ท แถวบ้านเลยค่ะว่า ส่งตามรายการนี่ทุกเดือนเราจะโอนเงินให้ เค้าก็ตกลงนะคะ
ส่วนเงินใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จะให้พ่อนั้น เราโอนให้ทุกวันที่ 7 14 21 28 ไม่ให้เป็นก้อนทีเดียวอีกแล้ว
ช่วงแรก ๆ แกก็ไม่พอใจนะคะ โดนแม่เลี้ยงเสี้ยมมาด้วย โวยวายว่าด่าต่างๆ นา ๆ มาเยอะ แต่ก็ต้องใจแข็งไว้ค่ะ
แกก็เริ่มเปลี่ยนเป้าหมายไปขอน้องอีกคนแทน เราก็บอกให้น้องใจแข็งไว้ พอผ่านไป 2-3 เดือนก็สงบลงเยอะค่ะ
นี่ก็ผ่านมาได้ จะ 6 เดือนแล้ว ถือว่าควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่าแต่ก่อนเยอะเลย น้องคนรองเราก็คุยค่ะว่าให้ช่วยกัน
เค้าให้คนละครึ่งไม่ไหว เราก็ให้ออก 1 ในสาม ก้ได้ เค้าก็ตกลง ก็เลยได้เริ่มมีเงินเก็บสำรองฉุกเฉินไว้กับเขาบ้างค่ะ
แต่สิ้นเดือนโดนหักไปเกือบหมด ช่วงแรก ๆ ที่ส่งให้เป็นก้อนนะคะ 4-5 วันหมดค่ะ บอกว่าค่านั่น ค่านี่บ้าง
ไม่มีเงินจะกินข้าว บลาๆๆ ก็ต้องส่งให้ แต่ก็เป็นอย่างนี้อยู่เรื่อย ๆ เลยไม่ไหวค่ะ เลยไปสืบข่าวจากละแวกใกล้เคียง
ปรากฏว่า ทั้งดื่มเหล้า สูบบุหรี่ การพนัน จัดเต็มมากตั้งแต่ต้นเดือน พอกลางเดือน ปลายเดือน เงินกินข้าวแทบไม่มี
มีไปกินข้าวบ้านคนอื่น ให้เขานินทาว่าให้อีกน่ะ สุด ๆ เราเลยจัดการการเงินใหม่ มีน้องสาวอยู่ 2 คน
คนนึงทำงานแล้วไม่ได้อยู่ที่บ้านด้วย อีกคนเรียนอยู่ อายุ 15 แล้วก็แม่เลี้ยงคนนึงที่วัน ๆ นึงไม่ทำมาหากินอะไร
ชอบตั้งวงไพ่กับบ้านใกล้เรือนเคียง เห้ออ
น้องคนที่ทำงาน เพิ่งเริ่มทำงาน ไม่ได้ส่งเงินมาช่วยที่บ้าน แต่ช่วงหลังเค้าก็บอกว่า พ่อโทรไปขอบ่อย ๆ ซึ่งเค้าก็โอนให้
เราเลยต้องจัดการโดย ของน้องที่เรียนอยู่ เราให้เปิดบัญชี โอนเงินให้บริหารจัดการเอง ค่าน้ำ ค่าไฟ เราไปติดต่อให้เค้าหักบัญชี
แล้วก็ไปผูกปิ่นโตร้านกับข้าวแถวบ้านให้มาส่งทุกวัน แล้วพวกของใช้ในบ้าน เราให้น้องเราไปสำรวจมาเลยค่ะว่า
เดือน ๆ นึงใช้อะไรบ้างจำนวนเท่าไหร่ พวก สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอกของใช้ที่จำเป็น ยีห้ออะไร ราคาเท่าไหร่ รวมต่อเดือน เราก็ไป
ขอเจ้าของร้าน มินิมาร์ท แถวบ้านเลยค่ะว่า ส่งตามรายการนี่ทุกเดือนเราจะโอนเงินให้ เค้าก็ตกลงนะคะ
ส่วนเงินใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จะให้พ่อนั้น เราโอนให้ทุกวันที่ 7 14 21 28 ไม่ให้เป็นก้อนทีเดียวอีกแล้ว
ช่วงแรก ๆ แกก็ไม่พอใจนะคะ โดนแม่เลี้ยงเสี้ยมมาด้วย โวยวายว่าด่าต่างๆ นา ๆ มาเยอะ แต่ก็ต้องใจแข็งไว้ค่ะ
แกก็เริ่มเปลี่ยนเป้าหมายไปขอน้องอีกคนแทน เราก็บอกให้น้องใจแข็งไว้ พอผ่านไป 2-3 เดือนก็สงบลงเยอะค่ะ
นี่ก็ผ่านมาได้ จะ 6 เดือนแล้ว ถือว่าควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่าแต่ก่อนเยอะเลย น้องคนรองเราก็คุยค่ะว่าให้ช่วยกัน
เค้าให้คนละครึ่งไม่ไหว เราก็ให้ออก 1 ในสาม ก้ได้ เค้าก็ตกลง ก็เลยได้เริ่มมีเงินเก็บสำรองฉุกเฉินไว้กับเขาบ้างค่ะ
ความคิดเห็นที่ 4
ยากครับ ที่คนจะยอมพบจิตแพทย์
แต่ถ้าไปพบได้ก็ดี
ระวัง แม่คุณจะโกรธ และ ประนามกับเพื่อนบ้านญาติโยมให้คุณวุ่นวายใจ
แต่ถ้าคนเหล่านั้นได้รับรู้ปัญหาของแม่คุณ(รู้ๆอยู่ว่าเล่นพนันมันผิด) เขาจะเข้าใจคุณ
ความกตัญญู กตเวที...เป็นเครื่องหมายของคนดี
แต่คนดี..ที่มีสติ..ก็ต้องรู้จักแยกแยะให้ออกว่า แค่ไหนจึงเรียกว่าอกตัญญู
คุณจะไม่มีโอกาสสร้างครอบครัวของตัวเองและความก้าวหน้าในชีวิตได้ ถ้าคุณยังบริหารจัดการปัญหาเรื่องแม่ไม่ได้
ต้องมีมาตรการเด็ดขาด ใจแข็ง กับคนที่ติดการพนัน
ถ้าน้องคุณโตพอจะช่วยตัวเองได้ ควรแยกน้องคุณจากแม่มาอยู่กับคุณ แล้วให้แม่ใช้เท่าที่จำเป็น
สำคัญที่สุด คุณต้องรู้จักและใจแข็งกล้าปฏิเสธ
ผมย้ำอีกครั้งว่า ... คนดีที่มีสติ ต้องคิดให้ออกว่าแค่ไหนถึง อกตัญญู
แต่ถ้าไปพบได้ก็ดี
ระวัง แม่คุณจะโกรธ และ ประนามกับเพื่อนบ้านญาติโยมให้คุณวุ่นวายใจ
แต่ถ้าคนเหล่านั้นได้รับรู้ปัญหาของแม่คุณ(รู้ๆอยู่ว่าเล่นพนันมันผิด) เขาจะเข้าใจคุณ
ความกตัญญู กตเวที...เป็นเครื่องหมายของคนดี
แต่คนดี..ที่มีสติ..ก็ต้องรู้จักแยกแยะให้ออกว่า แค่ไหนจึงเรียกว่าอกตัญญู
คุณจะไม่มีโอกาสสร้างครอบครัวของตัวเองและความก้าวหน้าในชีวิตได้ ถ้าคุณยังบริหารจัดการปัญหาเรื่องแม่ไม่ได้
ต้องมีมาตรการเด็ดขาด ใจแข็ง กับคนที่ติดการพนัน
ถ้าน้องคุณโตพอจะช่วยตัวเองได้ ควรแยกน้องคุณจากแม่มาอยู่กับคุณ แล้วให้แม่ใช้เท่าที่จำเป็น
สำคัญที่สุด คุณต้องรู้จักและใจแข็งกล้าปฏิเสธ
ผมย้ำอีกครั้งว่า ... คนดีที่มีสติ ต้องคิดให้ออกว่าแค่ไหนถึง อกตัญญู
ความคิดเห็นที่ 1
ดูจากอาการคุณแม่คุณ
มีสิทธิ์ป่วยเป็น..ไบโพล่าห์ ได้ครับ.
เป็นอาการทางจิตประเภทหนึ่ง
เกี่ยวข้องกับอาการเสพติดความสุรุ่ยสุร่าย,การพนันและ อยู่ๆก็เอาเงินไปช่วยคนอื่นใจกว้างเกินตัว.
ลอง google ดูได้ครับ.
พาแกไปหาจิตแพทย์ได้เลย
ผมว่าถึงแกจะไม่ได้เป็นจริงๆแกก็อย่างน้อยแกคงรู้แหละ
ว่าคุณไม่พอใจ.
ป.ล. แต่ฟิลลิ่งผมหลังจากอ่านแล้ว.. คิดว่าใช่ครับ
มีสิทธิ์ป่วยเป็น..ไบโพล่าห์ ได้ครับ.
เป็นอาการทางจิตประเภทหนึ่ง
เกี่ยวข้องกับอาการเสพติดความสุรุ่ยสุร่าย,การพนันและ อยู่ๆก็เอาเงินไปช่วยคนอื่นใจกว้างเกินตัว.
ลอง google ดูได้ครับ.
พาแกไปหาจิตแพทย์ได้เลย
ผมว่าถึงแกจะไม่ได้เป็นจริงๆแกก็อย่างน้อยแกคงรู้แหละ
ว่าคุณไม่พอใจ.
ป.ล. แต่ฟิลลิ่งผมหลังจากอ่านแล้ว.. คิดว่าใช่ครับ
แสดงความคิดเห็น
ช่วยด้วยครับ คุณแม่ใช้เงินเปลืองมาก ทำอย่างไรดีครับ? [ทนอ่านหน่อยนะครับ]
..ครอบครัวผมมี 6 คน ครับ ผม พ่อ แม่ และน้องอีก3 คน(เรียนอยู่2คน อายุ15ทั้งคู่) ส่วนอีกคนทำงานแล้วครับ อายุ20ปี ผมมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายกับ แม่ ของผมมาตลอดที่ผมเริ่มทำงานและรู้จักกับคำว่า เงินเดือนครับ แรกๆที่ทำงานได้ เงินเดือนผมให้ทั้งหมด เพราะตอนนั้น น้องยังเรียนอยู่3 คน พ่อก็ทำงานไม่ค่อยไหว ความรู้ก็ไม่มี อ่านหนังสือไม่ออก แต่ก็มีแม่ ที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดการเงินในบ้าน ซึ่งก็ได้ยินคำว่า เงินไม่พอ มาตลอด จนมาวันนึง เรื่องก็ถึงบางอ้อ
จนผมอายุ 18ปี ผมไปทำงานโรงแรมที่ จ.ภูเก็ต ครับ 2ปีแรกๆ ไปทำงานผมส่งเงินให้ที่บ้านราวๆ8พัน-15000 บาท(แล้วแต่จะขอ) เพราะแม่จะโทรมาขอตลอด ว่าน้องไม่สบาย บ้านไฟดับ และอีกสารพัดที่จะโทรมา ความถี่ประมาณ 3-4วัน จะโทรมาที โทรมาทุกครั้งก็ต้องได้เงินจากผมไปทุกครั้ง ไม่ว่าจะฝนตก แดดออก ข้าวไม่มีกิน ผมก็หาเงินไปโอนให้ตามที่ขอทุกบาท เพราะรู้ว่าที่บ้าานมีความจำเป็นและมีความสุขในการเป็นผู้ให้ครับ ผมมารู้ทีหลังจากน้องคนเล็กบอกผมว่า ทุกคนที่บ้านสบายดี ไม่เจ็บไม่ไข้ แต่แม่ เอาเงินไปเล่นไพ่ และไปกินเบียร์กับกลุ่มเพื่อนๆในหมู่บ้าน! พอเงินหมด รู้ว่าไม่พอ ก็โทรมาขอลูก และจะรู้ว่า ถ้าขอแล้วจะต้องให้...นี่แค่ดอกแรกเท่านั้น
ประมาณ2-3ปี ให้หลัง ก็ยัเหมือนเดิม แต่ผมต้องมีการปรับเปลี่ยนงาน ย้ายห้อง ซึ่งจะต้องใช้เงินพอสมควร ก็เริ่มมีส่งน้อยบ้าง แต่ส่งทุกเดือน ส่งตลอด แม่ก็โทรมาขอเงินบ่อยขึ้นๆ ครั้งละ4-5 พัน ตกเดือนๆ เกือบ2 หมื่น แต่ผมก็ไม่มีปัฐหาในการส่ง เพราะน้องยังเรียนอยู่ทั้ง3 คน(ในตอนนั้น)... มารู้ทีหลังว่า แม่เอาเงินไปสร้างบ้านหลังเล็กๆช่วยเพื่อนของแก และยังให้ข้างๆบ้านโทรมาช่วยโกหกว่าบ้านจำเป็นต้องใช้เงิน บลาๆ เพราะรู้ว่า เงินหมด โทรมาขอลูก ลูกมีให้ ส่งให้ตลอด
ช่วง 1ปี ที่ผ่านมา ผมเริ่มทำบัญชี รายรับ-รายจ่าย อย่างจริงจัง และเห็นรอยรั่วต่างๆ อย่างชัดเจน ผมจึงจัดสรรเงิน ให้แม่ใช้ส่วนตัวเดือนละ 5000 บาท, ส่งน้องไปโรงเรียนวันละ 240 บาท*21วัน =5040 บาท, จ่ายค่าน้ำ-ไฟให้ต่างหาก 2000 บาท, แถมของใช้ในบ้านหมด ก็ซื้อเติมให้ ตลอดๆ แต่ก็ยังได้ยินคำว่า เงินไม่พอ อยู่เป็นระยะๆ...มารู้ทีหลังว่าแม่ เริ่มรู้ว่าผมรู้ว่าแกใช้เงินไปทำอะไร แกเริ่มสงสัยน้องๆว่าเอาเรื่อองทั้งหมดมาบอกผม แล้วผมไม่ให้เหมือนแต่ก่อน แกก็พาลทะเลาะกันกับน้องๆและพ่อในบ้าน พังทำลายข้าวของ ไม่ทำกับข้าวไว้ให้ และอีกสารพัด..
2วันที่ผ่านมา(14มิย) ผมให้เงินกลางเดือนไป 2500 บาท เพราะผมจะให้ทุกวันที่ 1 และ 15 ของเดือน ตอนนี้ เงินนั้น หมด แล้วครับ! หนี้ไม่มี แต่ไม่รู้ไปไหนหมด!!!
ผมนี่เริ่มท้อใขกับหัวเรือของบ้านแล้วครับ ถ้าหัวเรือใหญ่ยังจัดการเงินที่มีไม่ดีพอ หนี้สินก็จะตามมา และปัญหาต่างๆก็จะตามมาคิดว่า มีแสนก็หมดแสน เพราะคนจัดการเงินไม่เป็น เห็นเงินเยอะแล้วใช้หมด เพราะแกคิดว่าวันนี้ใช้หมด พรุ่งนี้หาได้(คิดมาตั้งแต่สาวๆ) จนตอนนี้จะไปเปลี่ยนความคิด คิดว่าคงยากครับ แต่ผมจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี ถ้าทำอย่างนี้ แล้วเมื่อไหร่จะลืมตาอ้าปากได้ล่ะครับ?
ที่มาเล่าระบายในวันนี้ ไม่ได้คิดว่าจะเอาเรื่องภายในครอบครัวตัวเองออกมาพูดให้คนอื่นได้หัวเราะ แต่ผมอยากจะให้คนอื่นที่มีคติต่างจากผม ช่วยคิดแก้ปัญกหากับคนๆนี้ที เพราะว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ทุกอย่างก็คงไม่ดีขึ้น จนกว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจากกันไป... แต่เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนมากครับ เพราะมันคือเรื่องความกตัญญู กับคนชื่อว่า แม่... ขอให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่เลยนะครับ
ขอรับรองว่าเป็นความจริงทุกประการ
ต้น