ดีนะพิมพ์ลงเวิร์ดเอาไว้เรียบร้อย 55555 ขอลงทีเดียวเลยละกันเนอะ
ที่จริงไม่คิดว่าจะมีวันที่เรามาตั้งกระทู้อะไรแบบนี้กับเค้าบนหน้าเว็บพันทิพ 5555 แต่หลังจากที่โดนเพื่อนคนนึงยุให้ตั้ง ก็เลยตั้งซะเลย ปกติแล้ว เราไม่ค่อยอยากนึกถึงเรื่องอะไรแบบนี้หรอก ขนาดว่าตัวเราเองยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งแต่ก็ตั้งค่ะ
ขอเข้าเรื่องเลยนะกันค่ะ
คือตัวเราก็เป็นเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่งแหละ ชีวิตของเราก็ธรรมด๊าธรรมดา ไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่าชาวบ้านชาวช่องเค้า แต่ในความธรรมดาของเรามันก็มีอะไรที่ไม่ธรรมดาอยู่เหมือนกัน และนี่ก้คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวเหล่านี้ (นึกถึงเสียงแบบรายการจ้อจี้)
ทวดเป็นคนที่เลี้ยงเรามาตั้งแต่เรายังเล็กๆนู่น เวลาที่เราเปิดอัลบั้มภาพเก่าๆทีไร ก็จะเห็นรูปทวดอุ้มเราตอนยังเป็นเด็กไว้ตลอด จนกระทั่งเราขึ้นชั้นประถมปลาย ทวดก็เริ่มป่วยกระเสาะกระแสะ พอเราม.3 สำหรับคนที่เกลียดการออกจากบ้านไปที่ไกลๆ เรากลับยอมไปเยี่ยมทวดที่ป่วยหนักค่ะ
ตามประสาของคนที่อยู่บ้านทุ่ง ยายอยู่กับลูกหลานคนอื่นๆ และเป็นครอบครัวที่ใหญ่มากค่ะ วันที่เราไปเยี่ยม พวกลูกหลานคนอื่นๆก็มองเราแบบแปลกๆ เพราะเราเป็นหลานคนเดียวของยายที่อยู่ในเมือง ใช้ชีวิตดี เรียนโรงเรียนดี และดูเป็น 'เด็กเมือง' ในสายตาของพวกเขาค่ะ แต่เราคงเป็นเด็กเมืองที่แย่มาก เพราะตอนนั้นเรามองพวกเขาแบบที่ผู้ใหญ่หลายคนไม่ชอบค่ะ
ตอนที่เจอทวดนอนป่วยอยู่บนเตียง เราไม่ร้องไห้เลยค่ะ แต่เราแค่เดินไปจับมือทวด ส่วนทวดที่ป่วยมาตลอด จำใครไม่ได้ พอยายเราไปบอกทวดว่า "นี่...มาเยี่ยมนะ คนที่แม่เลี้ยงมานั่นหล่ะ" ตอนนั้นทุกคนเลยได้เห็นรอยยิ้มยายทวดค่ะ ยายทวดยิ้มแล้วบีบมือเราแน่นมาก ในขณะที่เราใจสั่นและอึดอัดมากกกก
จนถึงตอนที่ยายทวดเสีย แม่ก็บอกให้เราไปงานศพค่ะ ตอนแรกเราอิดออด จะไม่ไปๆ เพราะเราเป็นคนไม่ชอบวัดค่ะ ไม่ชอบทำบุญ ไม่ชอบ ไม่เอา ไม่อยากเข้าไปยุ่ง แต่วันนั้น เรากลับบอกแม่เราว่าขอไปวันเผาเลยแล้วกัน แม่ก็ตามใจค่ะ พอถึงวันเผา เราก็ไม่ยอมไปฟังสวด เอาง่ายๆ ไปเดินเล่นที่อื่นค่ะ (ทำไมเลวมาก) เพราะเราอึดอัดมากกกก มันแน่นอกแน่นใจไปหมด อยู่ไม่ได้ จนใกล้จะเผา แม่เราถึงโทรตามเราค่ะ เราถึงกลับมาวัด ทันพิธีที่ต้องเปิดฝาโลงและให้ลูกหลานญาติมิตรแตะศพค่ะ
พอถึงตอนนั้น เราก็นึกในใจว่า เฮ้ยยย บ้าหรือเปล่า! นั่นศพเลยนะ แตะไปจะอี๋มั้ยเนี่ย เราก็กล้าๆกลัวๆไม่แตะสักทีค่ะ จนญาติๆทุกคนมองแบบ ทำไมไม่แตะ โดยเฉพาะ แม่เรานี่มองแรงมากกกก เราถึงยอมแตะค่ะ แตะที่มือเหี่ยวย่นของทวด เราไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ มองหน้าทวด เห็นทวพปิดตาสนิท นอนนิ่ง ตัวก็ผอมจนเหมือนจะหุ้มกระดูกอยู่แล้ว เราเลยเงียบไปนานมาก.... จากที่แค่จะแตะๆ เลยกลายเป็นว่า เราวางมือลงบนมือยายเต็มมือเลยค่ะ พอวางแล้วก็น้ำตาคลอ มันจะไหลลงมาให้ได้ เพราะเราได้ยินเสียงยายชัดมากว่า "เป็นเด็กดีนะลูก"
เท่านั้นแหละค่ะ เราต้องรีบชักมือออกเพราะน้ำตาจะไหล เราตื้อมาก รู้สึกเสียใจ เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นความตายค่ะ และมันก็เกิดขึ้นกับคนที่เลี้ยงเรามา ใจเราสั่นไปตลอดทางกลับบ้านเลยค่ะ
มาเล่าเรื่องราวแปลกๆ(รึเปล่า)ที่เคยเจอมาค่ะ
ที่จริงไม่คิดว่าจะมีวันที่เรามาตั้งกระทู้อะไรแบบนี้กับเค้าบนหน้าเว็บพันทิพ 5555 แต่หลังจากที่โดนเพื่อนคนนึงยุให้ตั้ง ก็เลยตั้งซะเลย ปกติแล้ว เราไม่ค่อยอยากนึกถึงเรื่องอะไรแบบนี้หรอก ขนาดว่าตัวเราเองยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งแต่ก็ตั้งค่ะ
ขอเข้าเรื่องเลยนะกันค่ะ
คือตัวเราก็เป็นเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่งแหละ ชีวิตของเราก็ธรรมด๊าธรรมดา ไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่าชาวบ้านชาวช่องเค้า แต่ในความธรรมดาของเรามันก็มีอะไรที่ไม่ธรรมดาอยู่เหมือนกัน และนี่ก้คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวเหล่านี้ (นึกถึงเสียงแบบรายการจ้อจี้)
ทวดเป็นคนที่เลี้ยงเรามาตั้งแต่เรายังเล็กๆนู่น เวลาที่เราเปิดอัลบั้มภาพเก่าๆทีไร ก็จะเห็นรูปทวดอุ้มเราตอนยังเป็นเด็กไว้ตลอด จนกระทั่งเราขึ้นชั้นประถมปลาย ทวดก็เริ่มป่วยกระเสาะกระแสะ พอเราม.3 สำหรับคนที่เกลียดการออกจากบ้านไปที่ไกลๆ เรากลับยอมไปเยี่ยมทวดที่ป่วยหนักค่ะ
ตามประสาของคนที่อยู่บ้านทุ่ง ยายอยู่กับลูกหลานคนอื่นๆ และเป็นครอบครัวที่ใหญ่มากค่ะ วันที่เราไปเยี่ยม พวกลูกหลานคนอื่นๆก็มองเราแบบแปลกๆ เพราะเราเป็นหลานคนเดียวของยายที่อยู่ในเมือง ใช้ชีวิตดี เรียนโรงเรียนดี และดูเป็น 'เด็กเมือง' ในสายตาของพวกเขาค่ะ แต่เราคงเป็นเด็กเมืองที่แย่มาก เพราะตอนนั้นเรามองพวกเขาแบบที่ผู้ใหญ่หลายคนไม่ชอบค่ะ
ตอนที่เจอทวดนอนป่วยอยู่บนเตียง เราไม่ร้องไห้เลยค่ะ แต่เราแค่เดินไปจับมือทวด ส่วนทวดที่ป่วยมาตลอด จำใครไม่ได้ พอยายเราไปบอกทวดว่า "นี่...มาเยี่ยมนะ คนที่แม่เลี้ยงมานั่นหล่ะ" ตอนนั้นทุกคนเลยได้เห็นรอยยิ้มยายทวดค่ะ ยายทวดยิ้มแล้วบีบมือเราแน่นมาก ในขณะที่เราใจสั่นและอึดอัดมากกกก
จนถึงตอนที่ยายทวดเสีย แม่ก็บอกให้เราไปงานศพค่ะ ตอนแรกเราอิดออด จะไม่ไปๆ เพราะเราเป็นคนไม่ชอบวัดค่ะ ไม่ชอบทำบุญ ไม่ชอบ ไม่เอา ไม่อยากเข้าไปยุ่ง แต่วันนั้น เรากลับบอกแม่เราว่าขอไปวันเผาเลยแล้วกัน แม่ก็ตามใจค่ะ พอถึงวันเผา เราก็ไม่ยอมไปฟังสวด เอาง่ายๆ ไปเดินเล่นที่อื่นค่ะ (ทำไมเลวมาก) เพราะเราอึดอัดมากกกก มันแน่นอกแน่นใจไปหมด อยู่ไม่ได้ จนใกล้จะเผา แม่เราถึงโทรตามเราค่ะ เราถึงกลับมาวัด ทันพิธีที่ต้องเปิดฝาโลงและให้ลูกหลานญาติมิตรแตะศพค่ะ
พอถึงตอนนั้น เราก็นึกในใจว่า เฮ้ยยย บ้าหรือเปล่า! นั่นศพเลยนะ แตะไปจะอี๋มั้ยเนี่ย เราก็กล้าๆกลัวๆไม่แตะสักทีค่ะ จนญาติๆทุกคนมองแบบ ทำไมไม่แตะ โดยเฉพาะ แม่เรานี่มองแรงมากกกก เราถึงยอมแตะค่ะ แตะที่มือเหี่ยวย่นของทวด เราไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ มองหน้าทวด เห็นทวพปิดตาสนิท นอนนิ่ง ตัวก็ผอมจนเหมือนจะหุ้มกระดูกอยู่แล้ว เราเลยเงียบไปนานมาก.... จากที่แค่จะแตะๆ เลยกลายเป็นว่า เราวางมือลงบนมือยายเต็มมือเลยค่ะ พอวางแล้วก็น้ำตาคลอ มันจะไหลลงมาให้ได้ เพราะเราได้ยินเสียงยายชัดมากว่า "เป็นเด็กดีนะลูก"
เท่านั้นแหละค่ะ เราต้องรีบชักมือออกเพราะน้ำตาจะไหล เราตื้อมาก รู้สึกเสียใจ เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นความตายค่ะ และมันก็เกิดขึ้นกับคนที่เลี้ยงเรามา ใจเราสั่นไปตลอดทางกลับบ้านเลยค่ะ