เตือนคนที่จะไปรักษาโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ย่านรามคำแหง ชื่อย่อพปญ

สวัสดีค่ะพี่ๆเพื่อนๆทุกคน วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับโรงพยาบาลนี้ให้ฟังคือไม่ได้ตั้งใจจะโทษโรงพยาบาลร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่อยากให้พี่ๆเก็บไปพิจารณากันค่ะว่าควรจะฝากชีวิตไว้กับหมอหรือพยาบาลโรงพยาบาลนี้หรือเปล่า
เรื่องมีอยู่ว่า ยายทวดของเราท่านป่วยอิดๆออดๆนอนติดเตียงและเมื่อวันที่22 พฤศจิกายนท่านเกิดอาการช็อค คนที่บ้านเลยรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลนวมินทร์ 1 (ขออนุญาตเอ่ยชื่อโรงพยาบาลนะคะ) ซึ่งทางโรงพยาบาลบอกให้เตรียมใจเพราะยายทวดมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดและไม่รู้สึกตัวเลย หมอก็ให้มาเซ็นว่าจะรับการรักษา (เช่นปั๊มหัวใจ ใส่เครื่องช่วยหายใจ เจาะคอ) หรือเปล่า ทางบ้านเราอยากรักษาแกให้สุดความสามารถ และยื้อชีวิตท่านไว้ให้ได้นานที่สุดโดยที่ไม่ทรมาน เลยเซ็นแค่ใส่เครื่องช่วยหายใจ และป้อนอาหารทางสายยาง( เพราะคุณยายกินข้าวทางปากไม่ได้แล้วตอนที่มาโรงพยาบาล) หลังจากที่เซ็นอะไรเสร็จคนที่บ้านก็เตรียมใจแล้วว่าท่านคงจะอยู่ได้ 2-3 วัน เพราะอาการไม่ดีเลยและแกไม่รู้สึกตัว มีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดและปอดอักเสบ หลังจากนั้นก็รักษามา1 อาทิตย์ ท่านก็ดีขึ้นและรู้สึกตัว สามารถตอบสนองได้แค่ท่านพูดไม่ได้เฉยๆ กระพริบตาได้(แต่ตาบอด) ตอนแม่ไปจับมือท่านท่านก็กำมือแน่น พูดอะไรไปแกก็พยักหน้าตอบ ตอนนั้นก็พยายามไปหาทุกวันและนอนเฝ้าบ้างเพราะที่บ้านไม่ค่อยว่างกัน ติดงานกันทุกคน จนนอนครบ17 วัน  (หรือ 2 อาทิตย์กับอีก 3 วัน)พยาบาลที่ดูแลท่านบอกว่าท่านอาการดีขึ้นมากอยู่อีกแค่ไม่กี่วันก็อาจจะหายและกลับบ้านได้แล้ว (พยาบาลที่เห็นท่านพูดเหมือนกันหมด) แต่โรงพยาบาลหมดการใช้สิทธิ์บัตรทองฉุกเฉิน และต้องแจ้งทางสายด่วน1330เพื่อเปลี่ยนโรงพยาบาล สิทธิ์บัตรท่านอยู่อีกโรงพยาบาลแต่โรงพยาบาลนั้นเตียงเต็มเลยย้ายไปโรงพยาบาลชื่อย่อพปญ ย่านรามคำแหงเขตสวนหลวง และได้ส่งตัวท่านไปโรงพยาบาลนี้เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม เวลา 19:00 น ตอนไปถึงท่านมีอาการความดันต่ำ หมอห้องฉุกเฉินก็ได้ทำการรักษาจนกลับมาความดันปกติ และได้ขึ้นห้องนอนเวลาประมาณ 20:00 น - 21:00 น ตอนขึ้นไปที่ห้องพักของผู้ป่วยก็แปลกใจว่าทำไมโรงพยาบาลนี้เหมือนจะไม่รักษาความสะอาดเลยแถมมีกลิ่นอุจจาระและปัสสาวะในห้องเต็มไปหมด โป๊ะหัวเตียงของยายทวดเราก็มีขยะเต็มไปหมดเหมือนเขาไม่ได้เก็บเลยและโรงพยาบาลนี้ก็ไม่ให้ญาติอยู่เฝ้า พอขึ้นไปส่งท่านที่ห้องแป๊บเดียวพยาบาลก็ไล่ออกจากห้องแล้วบอกว่าหมดเวลาเยี่ยมแล้วและจะปิดประตูให้รีบออก เราก็โอเคคงถึงเวลาที่ห้ามเข้าเยี่ยมแล้วได้กลับบ้านกันและก่อนกลับเราก็บอกกับแกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะมาเยี่ยมนะให้ท่านรีบหายแล้วกลับบ้านไปกับเราปีใหม่จะพาไปเที่ยวที่บ้านเกิดท่าน(ต่างจังหวัด ตอนท่านยังคุยได้พูดได้ท่านบอกว่าอยากไปมาก)ท่านก็พยักหน้าและยิ้มอ่อนๆให้เรา เราก็กลับบ้านกันและวันต่อมาในวันที่ 10 ธันวาคม เวลา 19:00 นเรากำลังจะกินข้าวแล้วรีบไปเยี่ยมท่าน ตาของเรากำลังพูดเรื่องยายทวดว่าเดี๋ยวปีใหม่จะพาท่านไปเที่ยวนะจะพาไปหาลูกๆของท่าน ตายังคุยไม่ทันจบประโยคสักพักมีเบอร์โรงพยาบาลโทรมาและแม่ของเราเป็นคนรับสายเราคิดว่าคงไม่มีเรื่องอะไรหรอกคงเป็นพวก call center โทรมาเวลานี้แต่กลับเป็นข่าวร้ายว่ายายทวดของเราท่านเสียแล้ว ตอนนั้นคนในบ้านช็อคกันทุกคนและคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้เลยที่คนที่แข็งแรงขนาดนั้นพอย้ายไปอีกโรงพยาบาลกลับเสียภายในวันเดียว คืนนั้นพวกเราก็รีบไปที่โรงพยาบาลและดูท่านตัวท่านยังอุ่นๆอยู่เลยแกเหมือนนอนหลับไปเฉยๆแต่ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น ตอนเช้าของวันที่ 11 เรามาทำเรื่องที่เขตสวนหลวงและนั่งวินจากโรงพยาบาลไป ระหว่างที่นั่งอยู่กับวินรอแม่เอาเงินมาจ่ายค่าวินให้ วินก็ถามว่ามาทำอะไรที่โรงพยาบาลนี้หรอ เราได้ตอบกลับวินไปว่าพายายทวดมาหาหมอค่ะโดนส่งตัวมาจากโรงพยาบาลนวมินทร์เพราะสิทธิ์บัตรทองฉุกเฉินโรงพยาบาลนั้นหมดแล้ว แต่ตอนนี้ท่านเสียแล้วค่ะเพิ่งเสียเมื่อวานเลย วินก็เลยบอกกับเราว่า " หนูไม่ใช่คนแถวนี้ใช่ไหม ถึงได้หลงเข้ามาโรงพยาบาลนี้ " เราเลยตอบว่า "ใช่ค่ะ ตอนแรกหนูไม่รู้จักชื่อโรงพยาบาลนี้เลยไม่เคยได้ยินด้วยค่ะ " แล้ววินก็ตอบเรามาว่า " คิดผิดแล้วที่มาโรงพยาบาลนี้หนู โรงพยาบาลนี้ที่เตียงว่างเพราะคนตายบ่อย เมื่อเช้าก็เพิ่งส่งศพไปนครพนม รถส่งศพวิ่งเข้าออกบ่อยเลยนะหนู ""โรงพยาบาลนี้หมอดีๆไม่อยู่แล้ว ดูแต่หมอฝึกหัดและพูดจาไม่ดี" ตอนนั้นเราช็อกมากที่ได้ยินประโยคนี้ และเราก็ตอบไปว่าเราอะหาชื่อโรงพยาบาลนี้ในกระทู้พันทิปและเจอคนมาบอกกันว่าโรงพยาบาลนี้ไม่ดี พยาบาลนิสัยแย่ ห้องเหมือนไม่ได้ดูแลและทำความสะอาด ตอนนั้นเราก็ไม่เชื่อ จนได้มาเจอกับตัวค่ะ เป็นไปตามที่เขาบอกจริงๆ พอแม่เอาเงินมาจ่ายค่าวินแล้วก็ขอบคุณวินที่เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง หลังจากทำเรื่องมรณะที่เขตเสร็จ ก็ส่งศพไปวัดบ้านเกิดที่นครราชสีมา และครอบครัวเราก็ได้กลับมาก่อนเพราะยายของเราต้องไปตัดใหม่(เพิ่งผ่าตัดตามา) เราก็ถือโอกาสนี้ไปเล่าเรื่องให้พี่พยาบาลที่เคยดูแลยายทวดของเราให้เขาฟัง เขาบอกว่าตอนที่เห็นหน้าเราคิดว่ายายทวดได้กลับมาอยู่ที่โรงพยาบาลนี้หรือไม่ก็คงหายดีแล้วออกแล้ว ไม่คิดว่าจะได้ยินข่าวร้ายแบบนี้ แล้วมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ท่านจะเสียในเวลาที่เร็วแบบนั้น ทั้งที่ท่านแข็งแรงมากๆ มันดูเป็นไปไม่ได้จริงๆ การจากไปของท่านทำให้รู้เลยว่าโรงพยาบาลนั้นไม่ได้ดูแลท่านเลย และเรื่องทั้งหมดก็มีประมาณนี้ค่ะ ตอนนี้งานฌาปนกิจเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพิ่งประชุมเพลิงวันนี้เลยค่ะ ท่านคงไปสบายแล้วนะคะ ขอให้พี่ๆมาเห็นกระทู้นี้เยอะๆนะคะ และไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะไปโรงพยาบาลนั้น เราไม่อยากให้เป็นเหมือนเคสของยายทวดเราเลยค่ะ ใครผ่านมาเห็นก็ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะคะ (เพิ่มเติมอีกหน่อยนะคะ โต๊ะที่วางตรงหัวเตียง ไม่มีแม้แต่อุปกรณ์feedน้ำและอาหารหรือเครื่องดูดเสลด ไม่มีอะไรสักอย่างเลยค่ะนอกจากขยะ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่