What if - ถ้าสมมุติว่าคนในครอบครัวเราใช้สิทธิ สปสช-บัตรทอง ไม่ใช่จ่ายเองหมด ป่านนี้ก็คงไม่จากไปเร็วขนาดนี้ :<

สวัสดีครับ อยากจะแชร์สิ่งที่เจอ กับคนในครอบครัวเรา คือ พ่อ นะครับ

พ่อผมเป็นมะเร็งขั้น 4 จากไปช่วงกลางเดือน โดยตรวจเจอเมื่อ 4 เดือนก่อน ที่โรงพยาบาลเอกชน จากนั้นก็ไปรักษาที่ โรงพยาบาลพิเศษของโรงเรียนแพทย์ โดยการให้ยามุ่งเป้า จากนั้น ช่วงปลายเดือนตุลาคม มีอาการแพ้และเริ่มลามไปยังอวัยวะอื่น ทรุด กินไม่ได้ และอาการแทรกซ้อนอื่นๆ จนเดินไม่ได้ ติดเตียงและเสียชีวิต เสียค่ารักษาไป ก็หลายแสนอยู่ครับ

ต่อมาผมได้คุยกับแม่และเจอ จุดที่เราพลาด คือ เมื่อปีที่แล้ว จริงๆ มันมีค่าๆ นึง ที่เราตรวจเจอ โดยยังไม่ถึงขั้นที่เป็นมะเร็ง แต่หมอแนะนำให้มีการ ไปตรวจกับหมอเฉพาะทาง (การตรวจทั้งปีนี้และปีที่แล้ว ที่โรงพยาบาลเอกชน คือ การตรวจสุขภาพประจำปี จ่ายเพิ่มครับ) แต่พ่อผมไม่ได้ทำตามครับ ส่วนนึง คือ พ่อผมก็รู้สึกว่าการไปหา รพ.เอกชนมีค่าใช้จ่ายในทุกครั้ง (จากที่ผมสัมผัส คือ แกเสียดายเงิน นะครับ) แกเลยไม่ได้สนใจติดตามต่อ จนปีนี้มารักษา แบบจริงจัง ก็ไม่ทันแล้วครับ

หลายท่านก็จะสงสัยว่า ในเมื่อมองว่า รพ.เอกชนมันแพง และต้องจ่ายเอง แล้วทำไมถึงไม่ไป รพ.ตามสิทธิ สปสช ละ ปัญหา คือ พ่อเราค่อนข้างเรื่องมากกับสิทธิรักษาของทั้ง สปสช และประกันสังคม (ที่แม่และผม ใช้อยู่) คือ พ่อผมมองว่า เป็นสิทธิ อนาถา (ยากจน) แล้วก็พ่อผมได้สิทธิ ที่ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ที่มีศูนย์มะเร็ง แต่ พ่อผมไม่ชอบ ผู้บริหารสูงสุด คนนั้นมากๆ (ส่วนผมค่อนข้างชื่นชม คนนี้ครับ บริหารโรงพยาบาลเอกชนภายใต้ข้อกำจัดเหล่านี้ได้ สุดยอดมาก) พ่อผมเคยบอกว่า ถ้าเขาเป็นอะไรไป ถ้าไม่ไป รพ.เอกชนที่เขาชอบไป ก็ขอไป รพ.พิเศษ ของ โรงเรียนแพทย์เท่านั้น (ซึ่งผมคุยกับเพื่อน ราคาก็ทารุณจริงๆ ครับ)

ผมมานั่งมองย้อน ตั้งคำถามแบบ What if....ว่า ถ้าสมมุติว่า พ่อผมไม่ได้มองว่า สิทธิ สปสช ที่มีเป็นสิทธิของคนยากจน อนาถา หรืออะไรก็ตามที่เขาคิด ไม่ไปมองที่ตัวผู้บริหารโรงพยาบาล มองแค่การรักษาตัวเอง หรือไม่ก็ย้ายไปอยู่ รพ.อื่น (ซึ่งจริงๆ มันก็ทำได้นะครับ) มันก็น่าจะทำให้แกได้ไป follow up ในโรงพยาบาลเอกชนนั้น (หรือที่แห่งใดในสาย สปสช) แล้วก็อาจจะได้รักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ในขั้นที่ 2-3

ผมคิดว่า พ่อผมก็น่าจะยังอยู่นะครับ (อาจจะออดๆ แอดๆ แต่คงไม่ทรุดแบบเดือนกว่าๆ แล้วไปเลย) เพราะผมมีญาติที่อายุจะ 70-80 หลายคน เขาก็รักษาโดยใช้สิทธิ สปสช (ที่บ้านเขาก็พอมีฐานะไป รพ.เอกชนได้) ทุกวันนี้เขาก็รับยาหลายโรค แต่ก็ยังมีชีวิตอยู่ แม่ผมก็เป็นหลายโรค ก็รับยาจาก รพ.เอกชน สายประกันสังคม ได้รับการทำ CT MRI ฟรี

ถ้าผมย้อนเวลากลับไป บอกพ่อได้ ผมอยากจะพูดแรงๆ กับพ่อผม ว่า คิดแบบนี้มันผิด มันไม่ได้นะ เพราะมันใช่แค่ว่า เราเอาเงินเกษียณมารักษาพ่อ (การจ่ายเองทั้งหมด กับคนฐานะปานกลาง มันดูไม่ฉลาดเอาเสียเลย) แต่การขาดการ follow up นี่มันจะทำให้ การรักษามันไปไม่ได้และจบลงด้วยชีวิตของพ่อเองนะ...แต่บางที ผมก็คิดว่า ผมควรให้เกียรติ เขาในการตัดสินใจเรื่องนี้ เพราะมันคือ สิ่งเขาพ่อเลือกแล้วและเป็นทางที่พ่อรู้สึกว่ามันใช่และตอบโจทก์ที่สุด  แม้ว่ามันจะจบลงด้วยชีวิตและความตายก็ตาม เม่าเหม่อ 

คิดอย่างไรกันครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่