สมัครพันทิปมาเพื่อตั้งกระทู้เรื่องพวกนี้โดยเฉพาะ
เห็นเพื่อนๆในพันทิป มาแชร์เรื่องลึกลับกันเยอะ ชอบแบบว่า เดี๋ยวมาต่อนะ กินข้าว ตากผ้า พาหมาไปหาหมอก่อนงี้
อ่านแล้วไม่ไหวจะลุ้น บางทีเลิกติดตามไปซะก่อนเหนื่อยตาม=*=
แต่มู้เราไม่ต้องห่วง อ่านรอบเดียวยาวๆ ไม่เช็คเรตติ้งให้เสียอารมณ์แน่นอน พิมในโนตแพตเรียบร้อยแระ
เราจะแบ่งเป็นตอนๆนะคะ เพราะมีหลายเรื่องที่เราเจอ ขอตั้งกระทู้คำถามนะคะ เพราะไม่ได้สมัครสมาชิกแบบลงทะเบียน
เลยตั้งมู้แบบปกติไม่ได้ ขออนุญาตินะคะ
ยาวหน่อยนะคะ สำหรับคนชอบอ่านเพลินๆ ขอแชร์ประสบการณ์หลอนๆของเราบ้างก้อแล้วกัน
จะบอกว่าเรื่องจริงก้อคงไม่เชื่อกัน ก้อใช้วิจารณญานในการอ่านด้วยนะคะ
ใครเชื่อไม่เชื่อไม่ว่ากัน ถือซะว่าเราพิมพ์มาให้อ่านกันสนุกๆ ในเวลาว่างๆก้อแร้วกันนะคะ
พิมตกหล่นยังไง ภาษาวัยรุ่นอาจแวบเข้ามาบ้าง ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
และก้อต้องขออนุญาติดวงวิญญานที่ถูกเอ่ยมาในเรื่องราวทั้งหมดนี้ด้วยนะคะ......
ตั้งแต่จำความได้ เราก้อสัมผัสเรื่องพวกนี้ได้มาตลอด เห็นบ้าง รู้สึกบ้าง มาตลอดจนถึงตอนนี้
ย้อนไปตอนเราอยุ่ม.1 อายุประมาณ13ปี ตอนนั้นเราเรียนอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลก
แต่เราเป็นคนกรุงเทพโดนกำเนิดนะคะ แต่ย้ายตามผู้ปกครองมาเรียนที่นี่
วันแรกในการย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ พร้อมกับผู้ปกครอง
แต่จำนวนคนไม่ใช่ปัญหา ปันหาอยู่ที่"พวกเค้า"ที่มาต้อนรับเราด้วย
"วันแรกก้อเจอเรย"
หลังจากเดินทางมาอย่างเหน็ดเหนื่อย ก้อถึงบ้านสักที หอบกระเป๋าสัมภาระเข้าบ้านมาหมดแล้ว
ก้อหมดแรง ทุกคนนั่งกันเหนื่อยหอบกันอยู่ที่ห้องนอนในบ้าน
ขณะที่ทุกคนต่างกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ตาเจ้ากรรมของเรา ก้อดันไปมองเห็นผู้หญิงคนนึงอยู่ที่หน้าประตู
เค้าชะโงกมองเราโผล่มาให้เห็นแค่ครึ่งหน้า เหมือนคนแอบมองว่าใครมากันเยอะแยะนักหนา
เค้าแอบมองเรา แต่เราก้อไม่รู้หรอกว่า เค้าจะรู้รึเปล่าว่าเรามองเห็นเค้า!!
แวบเดียวที่เห็นคือ รู้แร้วว่าโดนแระ..เราก้อบอกคนในบ้าน ว่าเราเห็น แต่คนในบ้านเราเป็นพวกที่แบบ
รู้อยุ่และเชื่อว่าเราเป็นคนที่มีเซ้นท์ สัมผัสเรื่องพวกนี้ได้มาโดยตลอด
พวกเค้าเชื่อ แต่เวลาเล่าให้ฟังนี่แบบ ว่าเราเพ้อเจ้อมั่ง หลอนไปเองมั่ง พูดแบบปลอบใจตัวเอง
แต่ในใจเราก้อรู้แหละ ว่าพวกเค้าเชื่อว่าเราพูดจริงๆ เพียงแต่ไม่อยากให้คิดมาก ให้กลัวกันงี้
หลังจากที่เห็นอะไรในบ้านนี้ครั้งแรก เราก้อจุดธูปบอกเจ้าที่ ว่าเราขออาศัยในบ้านหลังนี้
ตอนนั้นเราเด็กมาก และหลังจากนั้นก้อเริ่มเจอมาตลอด..
"สัมพเวสีขอส่วนบุญ"
คืนนั้นหลังจากเราอาบน้ำเสร็จ เรากำลังเดินมาที่เตียง ยายเรานอนอยู่ที่หน้าทีวี ตอนนั้นเรากำลังจะเข้านอน
ที่ปลายเตียงเรามีโต๊ะเครื่องแป้งตั้งอยู่ เวลาก่อนขึ้นเตียง เราชอบหันไปมองตัวเองผ่านกระจกทุกครั้ง
ในกระจกก้อจะเห็นตัวเราเอง และที่นอน สะท้อนกลับมาเป็นปกติ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา..
ในแวบเดียวไม่กี่วินาที ที่เราหันไปมองตัวเองผ่านกระจก
เราเห็นเด็กผู้หญิงคนนึง รุ่นราวคราวเดียวกับเรา เธอผมสั้นเท่าติ่งหู เหมือนเดกมัธยม เสื้อผ้าขาดวิ่นมอมแมม
เธอจ้องเรากลับมาผ่านกระจกอย่างเย็นชา เป็นแวบเดียวที่ชัดเจนมาก
เท่านั้นแหละ ขาเราที่กำลังจะก้าวขึ้นเตียง ก็กระโดดลงมาหายายที่หน้าทีวีอย่างไม่คิดชีวิต
เธอน่ากลัวมาก ภาพยังติดตาเราจนถึงทุกวันนี้
"เป็นอะไรกรี๊ดเสียงดัง.." ยายเรากำลังดูทีวีอยูหันมาบ่นเรา
เราไม่กล้าเล่าให้แกฟัง แต่ขอนอนกับแกที่หน้าทีวี แกบอกนอนที่เตียงดีแร้ว เราก้อดูละครกับแกจนจบ
ตอนนั้นยังเด็ก ก้อไม่คิดอะไรแระ ก้อกลับมานอนที่เตียงเหมือนเดิม
คืนนั้นเราฝัน แต่มันไม่เหมือนฝัน มันเหมือนจริงมาก
เราฝันอะไรจำไม่ได้แล้ว แต่ที่จำได้คือ เราตื่นมาพร้อมกับแขนที่ขาด!!!!
ใช่!!! เราลูบที่ต้นแขนขวา ไล่ลงมาจนถึงข้อศอก แต่พอถึงข้อศอก แขนก็ไม่มี
เราตกใจมาก สะดุ้งตื่นมา แต่ยังไม่กล้าลืมตา เราหาแขนที่หายไป ลูบที่ไหล่ลงมาถึงข้อศอก
แร้วมือเราก้อวืดลงไปเลย ไม่มีแขนจิงๆ เราสติแตก ร้องไห้หลับตาปี๋ ตะโกนลั่นบ้าน แต่มือซ้ายก้อยังไม่หยุดหาแขนที่หายไป
จนกระทั่งเรารู้สึกว่า อะไรบางอย่างดุกดิกอยู่ใต้ผ้าห่ม โดนขาเรา มันขยับได้ เราไม่รุ้ว่าอะไร
มันขยับอยู่อย่างนั้น เรากรี๊ดลั่นบ้าน..
"แขนนู๋ แขนนู๋หาย แขนนู๋..."เรากลัวมาก แขนก้อหาย ยังมีอะไรไม่รู้อยู่ในผ้าห่มอีก
"เป็นอะไรลูก เป็นอะไร.."
"แขนนู๋ ฮืออออ แขนนู๋ขาด แขนขาด มันหายไปไหนไม่รู้ ฮืออออ"
"แขนนู๋อยู่นี่ไงลูก จับดูสิ ลืมตามาดู"
เราลืมตามา พร้อมดูแขนที่หาย แขนเรายังอยู่ ยังอยู่จริงๆ ไม่ได้ขาดไปไหน
แล้วอะไรที่ขยับอยู่ใต้ผ้าห่ม เราก้อยังไม่รู้ และไม่คิดจะหาคำตอบด้วย
ตอนนั้นตีห้าพอดี ยายตื่นมาหุงข้าว ทำกับข้าว บอกเราให้ไปตักบาตร
วันนั้นเป็นตีห้าของวันพระใหญ่พอดี ไม่แปลกใจเรย ที่โดนหลอก
เรารีบลุกมาอาบน้ำแร้วไปวัดที่หน้าหมู่บ้านคนเดียว เราตักบาตรพร้อมทำสังฆทานชุดใหญ่
พอพระให้ศีลให้พรเสร็จ พระท่านบอกว่า "จงภูมิใจที่ได้เห็นพวกเค้า ที่รับรู้การมีตัวตนของพวกเค้า
เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้สึกแบบนี้ได้ จงสงสารพวกเค้า อย่ากลัวเค้า ถ้าเรายิ่งกลัว เค้าจะยิ่งบาป เค้ามาขอส่วนบุญ
ไม่ได้ต้องการทำให้เรากลัว แต่สัมพเวสี เค้ามีกำลังไม่มากพอ ที่จะสื่อในรูปแบบที่สวยงาม
เค้าทำได้แค่ ให้เรารับรู้ถึงความเจ็บปวดของเค้าที่เค้าได้รับ เค้ามีพลังแค่นี้ เราสื่อกับเค้าได้ เค้ารับรู้
เค้าถึงพยายามติดต่อกับเรา เมื่อเรารับรู้แล้ว ก้อจงทำให้พวกเค้าซะ "แล้วท่านก้อเดินจากไป....
"บุญกุศลที่เราได้ตักบาตรในครั้งนี้ ขอให้เธอที่มาขอส่วนบุญเมื่อคืนนี้ ได้รับแต่เพียงผู้เดียว
จงอย่าได้มีความทุกข์ ความเวทนาอะไรอีกเรย กุศลใดที่เราเคยทำมา ขอให้เธออนุโมทนาบุญไปกับเรา
และจงอโหสิกรรมที่เรากลัวเธอด้วย และเราก้อขออโหสิ ที่เธอทำให้เรากลัว
ต่อไปนี้ขอให้เธอหลุดพ้นจากความทรมานทั้งปวง และขอให้ไปเกิดในภพภูมิที่ดีขึ้นด้วยเถิด..
หลังจากคืนนั้น เธอก้อมาหาเราอีก แต่คราวนี้เธอไม่ได้มาแบบน่าสยองเหมือนคืนก่อนแร้ว
เธอมาแต่เสียงที่นุ่มนวล "ขอบคุณนะ.." เรารู้สึกยินดีอย่างประหลาด รู้สึกยินดีที่เธอไม่ต้องทนทุกข์แล้ว
หลังจากนั้นก้อไม่พบเธออีกเรย
"เธอชื่อน้ำฝน.."
เพื่อนของยาย เดินทางมาจากกรุงเทพ มาพักอยู่ประมาน3วัน
เพื่อนของยาย(ขอเรียกว่ายายณ.นะคะ)นอนอยู่หน้าทีวีกับยายเรา คืนนั้นปกติดีไม่มีไรเกิดขึ้น
จนกระทั่งตอนเช้า ประมานเจ็ดโมง เราตื่นก่อนที่ยายจะปลุก ลืมตาขึ้นมา แล้วชะโงกดูยายว่าตื่นกันรึยัง..
สิ่งที่เราเห็นคือ..ผู้หญิงชุดยาว สีขาวทั้งชุด ผมดำยาวจนถึงเท้า
ยืนอยู่เหนือหัวของยายณ.ที่กำลังนอนคุยกับยายเราโดยไม่รู้อะไรเลย เธอก้มหัวลงมาดูหน้าของยายณ.
ผมเธอยาวแกว่งไปมาโดนหน้าของยายณ. ยายณ.ก้อเอามือปัดหน้าไปมา เหมือนปัดแมลงวันน่ะแหละ
แต่หารู้ไม่ว่า เธอไม่ได้ปัดแมลงวัน เธอกำลังปัดผมของผู้หญิงคนนั้นที่ระหน้าเธออยู่
ยาย2คนไม่เห็นอะไรทั้งนั้น นอนคุยกันสบายใจ แต่คนที่เห็นนี่แทบช้อค
มันมีจริงๆนะ ผู้หญิงชุดขาวผมยาวเนี่ย อย่าคิดว่ามีแต่ในทีวี เราเห็นปั้บ รู้แระ กรูโดนอีกแระ
นี่มันตอนเช้านะ ใครบอกผีออกมาแต่ตอนกลางคืน คิดใหม่ซะ เหนแวบหลับตาปี๋
กลัวมากแต่ก้อยังอยากเห็นว่า เธอจะทำอะไรต่อ ลืมตามาก้อยังเห็นอยู่
จากที่เธอกำลังก้มหัวมองยายณ.เธอค่อยๆหันหน้ามาหาเรา ผมปิดหน้าเธอทั้งหมด เธอหันมาทางเรา
แล้วหันไปก้มหน้ามองยายณ.ต่อ เธอค่อยๆก้าวเท้า เหยียบไปที่หน้าของยายณ. เธอกระโดดๆอยู่บนหน้าซ้ำไปซ้ำมา
พร้อมกับหัวเราะเสียงดังเหมือนคนที่เล่นกำลังสนุก เรากลัวมาก หลับตาก้อยังได้ยินเสียงอยู่
เธอหัวเราะพร้อมกระทืบที่หน้าของยายณ.อยู่อย่างนั้น จู่ๆเธอก้อหยุดหัวเราะ แร้วพูดว่า"กลัวเหรออออออ.."
"กลัวสินังบ้า ใครไม่กลัว.." คิดในใจไม่กล้าด่าเธอตรงๆ กลัวเธอได้ยินแล้วหันมากระทืบหน้าเราแทน
เราหลับตาแล้วรอจนยายปลุกเราไปโรงเรียน แล้วยายก้อปลุกเรา ลืมตามา เธอหายไปแล้ว
เราไม่เล่าให้ยายฟัง เดี๋ยวจะหาว่าเราฟุ้งอีก
คืนที่สอง เธอมาอีก คราวนี้เธอมาตอนกลางคืน ประมานตีสาม เราลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ
ระหว่างที่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ เราได้ยินเสียงหัวเราะของผู้หญิงเบาๆ รู้แระว่าเธอมาอิกแร้ว
เราค่อยๆเดินออกมาพร้อมเพ่งตามอง ไฟสลัวๆจากด้านนอกส่องมา พอมองเห็นอะไรบ้างนิดหน่อย
เธอยืนอยู่ที่เดิม อยู่เหนือหัวของยายณ. เราไม่กล้าแม้แต่เดินขึ้นเตียง มองเทออยู่อย่างนั้น กลัวเธอรู้ตัวแร้วหันมาหลอกเรา
จากเสียงหัวเราะหึๆในลำคอของเธอ เธอค่อยร้องไห้ พร้อมกับลูบที่ท้องของเธอ ท้องค่อยๆขยายออกมา
ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนท้องของเธอแตกดังโพล้ะ!!!!เธอกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เลือดไหลเต็มไปหมด
ทั้งก้อนเนื้อ ลำไส้ เลือด กองเปรอะเปื้อนขาเธอและหน้าของยายณ. เราสติแตกทันที รีบวิ่งกลับไปที่เตียง
คลุมโปงด้วยความหวาดกลัว แต่ก้อยังได้ยินเสียงโหยหวนของเธออยู่อย่างนั้น
แต่ยายณ.กลับนอนสบาย ไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น คนไม่มีเซ้นท์ ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น แต่คนที่รับรู้ได้นี่ จะเป็นบ้า
"ทำกูทำไม ทำกูทำไม จะต้องทรมานอย่างที่กูเคยได้รับ.."
เราพูดในใจ บอกกับเธอ ว่าเธอต้องการอะไร ทำไมถึงมาทำแบบนี้ อีกใจนึงก้อกลัว อีกใจนึงก้ออยากรู้
"กูตามมันมานานแล้ว กูไม่เคยทำอะไรให้มัน แต่มันกลับทำร้ายกู.."เธอตะโกนเสียงดัง
"เห็นกูแล้ว ต้องช่วยกู ต้องช่วย เข้าใจมั้ย..!!!!" เธอตะโกนพร้อมกระชากผ้าห่มที่เราคลุมโปงอยู่
เผยให้เห็นตัวของเธอที่ยืนอยู่บนเตียงพร้อมท้องที่เต็มไปด้วยเลือดและชิ้นเนื้อที่หลุดลงมา
เรากรี๊ดลั่นบ้าน ไม่รับรู้อะไรแล้ว กลัวมาก ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ร้องไห้จนยายตกใจตื่นมา ลุกขึ้นเปิดไฟมาหาเรา
"เป็นอะไรลูก เป็นอะไร นุ๋ เป็นอะไร.."
เราค่อยๆลืมตา ยังกลัวไม่หาย เธอหายไปแร้ว ยายเรา และยายณ.ตื่นขึ้นมาดูเรา ที่ร้องไห้เหมือนคนสติแตก
"ยายไปทำอะไรใครไว้ เค้าตามมา ตามมา2วันแล้ว.." เราถามยายณ.
"ทำไมหรอ เกิดไรขึ้น นุ๋เห็นอะไร..!?"
เราเล่าในทุกสิ่งที่ได้เห็นและได้ยิน ยายณ.ตกใจหน้าซีด แกเล่าให้ฟังว่า
ลูกชายคนเดียวของแก ไปติดพันอยู่กับผู้หญิงคนนึง ผู้หญิงอายุแค่17ปี ห่างกับพุชายเกือบ10ปี
ทั้งสองคนรักกันมาก คบกันแบบไม่เปิดเผย ไม่มีใครรู้มาได้สักระยะ จนผู้หญิงคนนี้ท้อง ทางญาติฝ่ายหญิงรู้เรื่องเข้า
ก้อมาเรียกร้องให้ทางฝ่ายชายรับผิดชอบด้วยเงิน200,000บาท และค่าทำแท้งอีก50,000บาท
ไม่อย่างนั้นจะแจ้งความโทษฐานพรากผู้เยาว์ แกก้อต้องยอมจ่ายแต่โดยดี ไม่อยากให้วงศ์ตระกูลเสื่อมเสีย
และสั่งห้ามทั้งสองไม่ให้คบกันอีก
หลังจากพ่อแม่ฝ่ายหญิงได้เงิน เรื่องทุกอย่างก็จบ แต่สองคนนั้นไม่จบ ด้วยความที่รักกันมาก
ลูกในท้องนั้นไม่มีใครยอมเอาออก และหนีตามไปด้วยกัน ทางญาติฝ่ายหญิงพอรู้ว่าลูกชายบ้านนี้
พาลูกสาวตัวเองหนี ก้อมาตะโกนหน้าบ้าน ขู่จะเอาความให้ได้ ถ้าหาลูกสาวของตนไม่พบ
แกก้อพาพวกตามหาทั้งหมู่บ้านอยู่เป็นอาทิตย์ จนมาพบว่าทั้งสองเช่าห้องราคาถูกอยู่ด้วยกัน
พอพวกของแกเจอสองคนนี้แล้ว ก้อกลับมาบอกข่าวแกให้ได้ทราบ แล้วถามว่าจะเอายังไงดี
แกก้อได้ไปหาสองคนนั้น พร้อมกับสมุนของแกอีกสองคน สมุนแกเห็นว่าลูกชายแกออกไปข้างนอกแร้ว
อยู่แต่ผู้หญิงคนนั้นคนเดียว แกเรยเดินไปหาเจ้าของห้องเช่า เพื่อที่จะให้เปิดประตู
บอกลูกไม่ติดต่อมาหลายวัน เลยเป็นห่วงว่าจะเป็นอะไร
เจ้าของหอสอบถามชื่อจริงและนามสกุลของผู้เช่าตามกฎระเบียบ ที่ไม่ให้คนนอกเข้าออกเพื่อความปลอดภัย
แกแจ้งชื่อลูกชายแกพร้อมถามว่าพักอยู่ห้องไหน เจ้าของห้องเช่า พอรู้ชื่อจริงของผู้เช่า คือชื่อของลูกชายแก
ก้อไปเปิดกุญแจห้องให้ พร้อมพูดคุยอย่างเป็นมิตร
เจ้าของหอไขกุญแจลูกบิด เปิดประตูออกได้ง่ายๆ เพราะเธอไม่ได้ลงกลอนข้างใน
แกประตูเปิดออก พร้อมหน้าตกใจของผู้หญิงคนนั้น แต่ยายแกก้อทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ยิ้มให้พร้อมขอบคุนเจ้าของห้องเช่าที่เปิดประตูให้ แร้วปิดประตูรอให้เจ้าของห้องเช่าเดินจากไปเสียก่อน
"จะเอายังไง..!!!"
เมื่อรับรู้ถึงความเจ็บปวดของเธอได้ ความหลอนจึงบังเกิด!?
เห็นเพื่อนๆในพันทิป มาแชร์เรื่องลึกลับกันเยอะ ชอบแบบว่า เดี๋ยวมาต่อนะ กินข้าว ตากผ้า พาหมาไปหาหมอก่อนงี้
อ่านแล้วไม่ไหวจะลุ้น บางทีเลิกติดตามไปซะก่อนเหนื่อยตาม=*=
แต่มู้เราไม่ต้องห่วง อ่านรอบเดียวยาวๆ ไม่เช็คเรตติ้งให้เสียอารมณ์แน่นอน พิมในโนตแพตเรียบร้อยแระ
เราจะแบ่งเป็นตอนๆนะคะ เพราะมีหลายเรื่องที่เราเจอ ขอตั้งกระทู้คำถามนะคะ เพราะไม่ได้สมัครสมาชิกแบบลงทะเบียน
เลยตั้งมู้แบบปกติไม่ได้ ขออนุญาตินะคะ
ยาวหน่อยนะคะ สำหรับคนชอบอ่านเพลินๆ ขอแชร์ประสบการณ์หลอนๆของเราบ้างก้อแล้วกัน
จะบอกว่าเรื่องจริงก้อคงไม่เชื่อกัน ก้อใช้วิจารณญานในการอ่านด้วยนะคะ
ใครเชื่อไม่เชื่อไม่ว่ากัน ถือซะว่าเราพิมพ์มาให้อ่านกันสนุกๆ ในเวลาว่างๆก้อแร้วกันนะคะ
พิมตกหล่นยังไง ภาษาวัยรุ่นอาจแวบเข้ามาบ้าง ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
และก้อต้องขออนุญาติดวงวิญญานที่ถูกเอ่ยมาในเรื่องราวทั้งหมดนี้ด้วยนะคะ......
ตั้งแต่จำความได้ เราก้อสัมผัสเรื่องพวกนี้ได้มาตลอด เห็นบ้าง รู้สึกบ้าง มาตลอดจนถึงตอนนี้
ย้อนไปตอนเราอยุ่ม.1 อายุประมาณ13ปี ตอนนั้นเราเรียนอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลก
แต่เราเป็นคนกรุงเทพโดนกำเนิดนะคะ แต่ย้ายตามผู้ปกครองมาเรียนที่นี่
วันแรกในการย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ พร้อมกับผู้ปกครอง
แต่จำนวนคนไม่ใช่ปัญหา ปันหาอยู่ที่"พวกเค้า"ที่มาต้อนรับเราด้วย
"วันแรกก้อเจอเรย"
หลังจากเดินทางมาอย่างเหน็ดเหนื่อย ก้อถึงบ้านสักที หอบกระเป๋าสัมภาระเข้าบ้านมาหมดแล้ว
ก้อหมดแรง ทุกคนนั่งกันเหนื่อยหอบกันอยู่ที่ห้องนอนในบ้าน
ขณะที่ทุกคนต่างกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ตาเจ้ากรรมของเรา ก้อดันไปมองเห็นผู้หญิงคนนึงอยู่ที่หน้าประตู
เค้าชะโงกมองเราโผล่มาให้เห็นแค่ครึ่งหน้า เหมือนคนแอบมองว่าใครมากันเยอะแยะนักหนา
เค้าแอบมองเรา แต่เราก้อไม่รู้หรอกว่า เค้าจะรู้รึเปล่าว่าเรามองเห็นเค้า!!
แวบเดียวที่เห็นคือ รู้แร้วว่าโดนแระ..เราก้อบอกคนในบ้าน ว่าเราเห็น แต่คนในบ้านเราเป็นพวกที่แบบ
รู้อยุ่และเชื่อว่าเราเป็นคนที่มีเซ้นท์ สัมผัสเรื่องพวกนี้ได้มาโดยตลอด
พวกเค้าเชื่อ แต่เวลาเล่าให้ฟังนี่แบบ ว่าเราเพ้อเจ้อมั่ง หลอนไปเองมั่ง พูดแบบปลอบใจตัวเอง
แต่ในใจเราก้อรู้แหละ ว่าพวกเค้าเชื่อว่าเราพูดจริงๆ เพียงแต่ไม่อยากให้คิดมาก ให้กลัวกันงี้
หลังจากที่เห็นอะไรในบ้านนี้ครั้งแรก เราก้อจุดธูปบอกเจ้าที่ ว่าเราขออาศัยในบ้านหลังนี้
ตอนนั้นเราเด็กมาก และหลังจากนั้นก้อเริ่มเจอมาตลอด..
"สัมพเวสีขอส่วนบุญ"
คืนนั้นหลังจากเราอาบน้ำเสร็จ เรากำลังเดินมาที่เตียง ยายเรานอนอยู่ที่หน้าทีวี ตอนนั้นเรากำลังจะเข้านอน
ที่ปลายเตียงเรามีโต๊ะเครื่องแป้งตั้งอยู่ เวลาก่อนขึ้นเตียง เราชอบหันไปมองตัวเองผ่านกระจกทุกครั้ง
ในกระจกก้อจะเห็นตัวเราเอง และที่นอน สะท้อนกลับมาเป็นปกติ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา..
ในแวบเดียวไม่กี่วินาที ที่เราหันไปมองตัวเองผ่านกระจก
เราเห็นเด็กผู้หญิงคนนึง รุ่นราวคราวเดียวกับเรา เธอผมสั้นเท่าติ่งหู เหมือนเดกมัธยม เสื้อผ้าขาดวิ่นมอมแมม
เธอจ้องเรากลับมาผ่านกระจกอย่างเย็นชา เป็นแวบเดียวที่ชัดเจนมาก
เท่านั้นแหละ ขาเราที่กำลังจะก้าวขึ้นเตียง ก็กระโดดลงมาหายายที่หน้าทีวีอย่างไม่คิดชีวิต
เธอน่ากลัวมาก ภาพยังติดตาเราจนถึงทุกวันนี้
"เป็นอะไรกรี๊ดเสียงดัง.." ยายเรากำลังดูทีวีอยูหันมาบ่นเรา
เราไม่กล้าเล่าให้แกฟัง แต่ขอนอนกับแกที่หน้าทีวี แกบอกนอนที่เตียงดีแร้ว เราก้อดูละครกับแกจนจบ
ตอนนั้นยังเด็ก ก้อไม่คิดอะไรแระ ก้อกลับมานอนที่เตียงเหมือนเดิม
คืนนั้นเราฝัน แต่มันไม่เหมือนฝัน มันเหมือนจริงมาก
เราฝันอะไรจำไม่ได้แล้ว แต่ที่จำได้คือ เราตื่นมาพร้อมกับแขนที่ขาด!!!!
ใช่!!! เราลูบที่ต้นแขนขวา ไล่ลงมาจนถึงข้อศอก แต่พอถึงข้อศอก แขนก็ไม่มี
เราตกใจมาก สะดุ้งตื่นมา แต่ยังไม่กล้าลืมตา เราหาแขนที่หายไป ลูบที่ไหล่ลงมาถึงข้อศอก
แร้วมือเราก้อวืดลงไปเลย ไม่มีแขนจิงๆ เราสติแตก ร้องไห้หลับตาปี๋ ตะโกนลั่นบ้าน แต่มือซ้ายก้อยังไม่หยุดหาแขนที่หายไป
จนกระทั่งเรารู้สึกว่า อะไรบางอย่างดุกดิกอยู่ใต้ผ้าห่ม โดนขาเรา มันขยับได้ เราไม่รุ้ว่าอะไร
มันขยับอยู่อย่างนั้น เรากรี๊ดลั่นบ้าน..
"แขนนู๋ แขนนู๋หาย แขนนู๋..."เรากลัวมาก แขนก้อหาย ยังมีอะไรไม่รู้อยู่ในผ้าห่มอีก
"เป็นอะไรลูก เป็นอะไร.."
"แขนนู๋ ฮืออออ แขนนู๋ขาด แขนขาด มันหายไปไหนไม่รู้ ฮืออออ"
"แขนนู๋อยู่นี่ไงลูก จับดูสิ ลืมตามาดู"
เราลืมตามา พร้อมดูแขนที่หาย แขนเรายังอยู่ ยังอยู่จริงๆ ไม่ได้ขาดไปไหน
แล้วอะไรที่ขยับอยู่ใต้ผ้าห่ม เราก้อยังไม่รู้ และไม่คิดจะหาคำตอบด้วย
ตอนนั้นตีห้าพอดี ยายตื่นมาหุงข้าว ทำกับข้าว บอกเราให้ไปตักบาตร
วันนั้นเป็นตีห้าของวันพระใหญ่พอดี ไม่แปลกใจเรย ที่โดนหลอก
เรารีบลุกมาอาบน้ำแร้วไปวัดที่หน้าหมู่บ้านคนเดียว เราตักบาตรพร้อมทำสังฆทานชุดใหญ่
พอพระให้ศีลให้พรเสร็จ พระท่านบอกว่า "จงภูมิใจที่ได้เห็นพวกเค้า ที่รับรู้การมีตัวตนของพวกเค้า
เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้สึกแบบนี้ได้ จงสงสารพวกเค้า อย่ากลัวเค้า ถ้าเรายิ่งกลัว เค้าจะยิ่งบาป เค้ามาขอส่วนบุญ
ไม่ได้ต้องการทำให้เรากลัว แต่สัมพเวสี เค้ามีกำลังไม่มากพอ ที่จะสื่อในรูปแบบที่สวยงาม
เค้าทำได้แค่ ให้เรารับรู้ถึงความเจ็บปวดของเค้าที่เค้าได้รับ เค้ามีพลังแค่นี้ เราสื่อกับเค้าได้ เค้ารับรู้
เค้าถึงพยายามติดต่อกับเรา เมื่อเรารับรู้แล้ว ก้อจงทำให้พวกเค้าซะ "แล้วท่านก้อเดินจากไป....
"บุญกุศลที่เราได้ตักบาตรในครั้งนี้ ขอให้เธอที่มาขอส่วนบุญเมื่อคืนนี้ ได้รับแต่เพียงผู้เดียว
จงอย่าได้มีความทุกข์ ความเวทนาอะไรอีกเรย กุศลใดที่เราเคยทำมา ขอให้เธออนุโมทนาบุญไปกับเรา
และจงอโหสิกรรมที่เรากลัวเธอด้วย และเราก้อขออโหสิ ที่เธอทำให้เรากลัว
ต่อไปนี้ขอให้เธอหลุดพ้นจากความทรมานทั้งปวง และขอให้ไปเกิดในภพภูมิที่ดีขึ้นด้วยเถิด..
หลังจากคืนนั้น เธอก้อมาหาเราอีก แต่คราวนี้เธอไม่ได้มาแบบน่าสยองเหมือนคืนก่อนแร้ว
เธอมาแต่เสียงที่นุ่มนวล "ขอบคุณนะ.." เรารู้สึกยินดีอย่างประหลาด รู้สึกยินดีที่เธอไม่ต้องทนทุกข์แล้ว
หลังจากนั้นก้อไม่พบเธออีกเรย
"เธอชื่อน้ำฝน.."
เพื่อนของยาย เดินทางมาจากกรุงเทพ มาพักอยู่ประมาน3วัน
เพื่อนของยาย(ขอเรียกว่ายายณ.นะคะ)นอนอยู่หน้าทีวีกับยายเรา คืนนั้นปกติดีไม่มีไรเกิดขึ้น
จนกระทั่งตอนเช้า ประมานเจ็ดโมง เราตื่นก่อนที่ยายจะปลุก ลืมตาขึ้นมา แล้วชะโงกดูยายว่าตื่นกันรึยัง..
สิ่งที่เราเห็นคือ..ผู้หญิงชุดยาว สีขาวทั้งชุด ผมดำยาวจนถึงเท้า
ยืนอยู่เหนือหัวของยายณ.ที่กำลังนอนคุยกับยายเราโดยไม่รู้อะไรเลย เธอก้มหัวลงมาดูหน้าของยายณ.
ผมเธอยาวแกว่งไปมาโดนหน้าของยายณ. ยายณ.ก้อเอามือปัดหน้าไปมา เหมือนปัดแมลงวันน่ะแหละ
แต่หารู้ไม่ว่า เธอไม่ได้ปัดแมลงวัน เธอกำลังปัดผมของผู้หญิงคนนั้นที่ระหน้าเธออยู่
ยาย2คนไม่เห็นอะไรทั้งนั้น นอนคุยกันสบายใจ แต่คนที่เห็นนี่แทบช้อค
มันมีจริงๆนะ ผู้หญิงชุดขาวผมยาวเนี่ย อย่าคิดว่ามีแต่ในทีวี เราเห็นปั้บ รู้แระ กรูโดนอีกแระ
นี่มันตอนเช้านะ ใครบอกผีออกมาแต่ตอนกลางคืน คิดใหม่ซะ เหนแวบหลับตาปี๋
กลัวมากแต่ก้อยังอยากเห็นว่า เธอจะทำอะไรต่อ ลืมตามาก้อยังเห็นอยู่
จากที่เธอกำลังก้มหัวมองยายณ.เธอค่อยๆหันหน้ามาหาเรา ผมปิดหน้าเธอทั้งหมด เธอหันมาทางเรา
แล้วหันไปก้มหน้ามองยายณ.ต่อ เธอค่อยๆก้าวเท้า เหยียบไปที่หน้าของยายณ. เธอกระโดดๆอยู่บนหน้าซ้ำไปซ้ำมา
พร้อมกับหัวเราะเสียงดังเหมือนคนที่เล่นกำลังสนุก เรากลัวมาก หลับตาก้อยังได้ยินเสียงอยู่
เธอหัวเราะพร้อมกระทืบที่หน้าของยายณ.อยู่อย่างนั้น จู่ๆเธอก้อหยุดหัวเราะ แร้วพูดว่า"กลัวเหรออออออ.."
"กลัวสินังบ้า ใครไม่กลัว.." คิดในใจไม่กล้าด่าเธอตรงๆ กลัวเธอได้ยินแล้วหันมากระทืบหน้าเราแทน
เราหลับตาแล้วรอจนยายปลุกเราไปโรงเรียน แล้วยายก้อปลุกเรา ลืมตามา เธอหายไปแล้ว
เราไม่เล่าให้ยายฟัง เดี๋ยวจะหาว่าเราฟุ้งอีก
คืนที่สอง เธอมาอีก คราวนี้เธอมาตอนกลางคืน ประมานตีสาม เราลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ
ระหว่างที่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ เราได้ยินเสียงหัวเราะของผู้หญิงเบาๆ รู้แระว่าเธอมาอิกแร้ว
เราค่อยๆเดินออกมาพร้อมเพ่งตามอง ไฟสลัวๆจากด้านนอกส่องมา พอมองเห็นอะไรบ้างนิดหน่อย
เธอยืนอยู่ที่เดิม อยู่เหนือหัวของยายณ. เราไม่กล้าแม้แต่เดินขึ้นเตียง มองเทออยู่อย่างนั้น กลัวเธอรู้ตัวแร้วหันมาหลอกเรา
จากเสียงหัวเราะหึๆในลำคอของเธอ เธอค่อยร้องไห้ พร้อมกับลูบที่ท้องของเธอ ท้องค่อยๆขยายออกมา
ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนท้องของเธอแตกดังโพล้ะ!!!!เธอกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เลือดไหลเต็มไปหมด
ทั้งก้อนเนื้อ ลำไส้ เลือด กองเปรอะเปื้อนขาเธอและหน้าของยายณ. เราสติแตกทันที รีบวิ่งกลับไปที่เตียง
คลุมโปงด้วยความหวาดกลัว แต่ก้อยังได้ยินเสียงโหยหวนของเธออยู่อย่างนั้น
แต่ยายณ.กลับนอนสบาย ไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น คนไม่มีเซ้นท์ ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น แต่คนที่รับรู้ได้นี่ จะเป็นบ้า
"ทำกูทำไม ทำกูทำไม จะต้องทรมานอย่างที่กูเคยได้รับ.."
เราพูดในใจ บอกกับเธอ ว่าเธอต้องการอะไร ทำไมถึงมาทำแบบนี้ อีกใจนึงก้อกลัว อีกใจนึงก้ออยากรู้
"กูตามมันมานานแล้ว กูไม่เคยทำอะไรให้มัน แต่มันกลับทำร้ายกู.."เธอตะโกนเสียงดัง
"เห็นกูแล้ว ต้องช่วยกู ต้องช่วย เข้าใจมั้ย..!!!!" เธอตะโกนพร้อมกระชากผ้าห่มที่เราคลุมโปงอยู่
เผยให้เห็นตัวของเธอที่ยืนอยู่บนเตียงพร้อมท้องที่เต็มไปด้วยเลือดและชิ้นเนื้อที่หลุดลงมา
เรากรี๊ดลั่นบ้าน ไม่รับรู้อะไรแล้ว กลัวมาก ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ร้องไห้จนยายตกใจตื่นมา ลุกขึ้นเปิดไฟมาหาเรา
"เป็นอะไรลูก เป็นอะไร นุ๋ เป็นอะไร.."
เราค่อยๆลืมตา ยังกลัวไม่หาย เธอหายไปแร้ว ยายเรา และยายณ.ตื่นขึ้นมาดูเรา ที่ร้องไห้เหมือนคนสติแตก
"ยายไปทำอะไรใครไว้ เค้าตามมา ตามมา2วันแล้ว.." เราถามยายณ.
"ทำไมหรอ เกิดไรขึ้น นุ๋เห็นอะไร..!?"
เราเล่าในทุกสิ่งที่ได้เห็นและได้ยิน ยายณ.ตกใจหน้าซีด แกเล่าให้ฟังว่า
ลูกชายคนเดียวของแก ไปติดพันอยู่กับผู้หญิงคนนึง ผู้หญิงอายุแค่17ปี ห่างกับพุชายเกือบ10ปี
ทั้งสองคนรักกันมาก คบกันแบบไม่เปิดเผย ไม่มีใครรู้มาได้สักระยะ จนผู้หญิงคนนี้ท้อง ทางญาติฝ่ายหญิงรู้เรื่องเข้า
ก้อมาเรียกร้องให้ทางฝ่ายชายรับผิดชอบด้วยเงิน200,000บาท และค่าทำแท้งอีก50,000บาท
ไม่อย่างนั้นจะแจ้งความโทษฐานพรากผู้เยาว์ แกก้อต้องยอมจ่ายแต่โดยดี ไม่อยากให้วงศ์ตระกูลเสื่อมเสีย
และสั่งห้ามทั้งสองไม่ให้คบกันอีก
หลังจากพ่อแม่ฝ่ายหญิงได้เงิน เรื่องทุกอย่างก็จบ แต่สองคนนั้นไม่จบ ด้วยความที่รักกันมาก
ลูกในท้องนั้นไม่มีใครยอมเอาออก และหนีตามไปด้วยกัน ทางญาติฝ่ายหญิงพอรู้ว่าลูกชายบ้านนี้
พาลูกสาวตัวเองหนี ก้อมาตะโกนหน้าบ้าน ขู่จะเอาความให้ได้ ถ้าหาลูกสาวของตนไม่พบ
แกก้อพาพวกตามหาทั้งหมู่บ้านอยู่เป็นอาทิตย์ จนมาพบว่าทั้งสองเช่าห้องราคาถูกอยู่ด้วยกัน
พอพวกของแกเจอสองคนนี้แล้ว ก้อกลับมาบอกข่าวแกให้ได้ทราบ แล้วถามว่าจะเอายังไงดี
แกก้อได้ไปหาสองคนนั้น พร้อมกับสมุนของแกอีกสองคน สมุนแกเห็นว่าลูกชายแกออกไปข้างนอกแร้ว
อยู่แต่ผู้หญิงคนนั้นคนเดียว แกเรยเดินไปหาเจ้าของห้องเช่า เพื่อที่จะให้เปิดประตู
บอกลูกไม่ติดต่อมาหลายวัน เลยเป็นห่วงว่าจะเป็นอะไร
เจ้าของหอสอบถามชื่อจริงและนามสกุลของผู้เช่าตามกฎระเบียบ ที่ไม่ให้คนนอกเข้าออกเพื่อความปลอดภัย
แกแจ้งชื่อลูกชายแกพร้อมถามว่าพักอยู่ห้องไหน เจ้าของห้องเช่า พอรู้ชื่อจริงของผู้เช่า คือชื่อของลูกชายแก
ก้อไปเปิดกุญแจห้องให้ พร้อมพูดคุยอย่างเป็นมิตร
เจ้าของหอไขกุญแจลูกบิด เปิดประตูออกได้ง่ายๆ เพราะเธอไม่ได้ลงกลอนข้างใน
แกประตูเปิดออก พร้อมหน้าตกใจของผู้หญิงคนนั้น แต่ยายแกก้อทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ยิ้มให้พร้อมขอบคุนเจ้าของห้องเช่าที่เปิดประตูให้ แร้วปิดประตูรอให้เจ้าของห้องเช่าเดินจากไปเสียก่อน
"จะเอายังไง..!!!"