ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่นคิดได้ไง vol.6 ตอนโดนสั่งผ่าคลอด

สวัสดีค่ะ

นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งในญี่ปุ่นนะคะ ไม่ได้เหมือนกันทุกโรงพยาบาลค่ะ
ไม่เคยคลอดที่ไทย ท้องแรก ไม่เคยไปประเทศอื่น
เล่าประสบการณ์ให้ฟัง อาจจะเป็นตัวอย่างที่ดีและไม่ดีนะคะ
**อ่านแก้เครียดก็ได้ค่ะ ที่เจแปนมันก็มีอย่างงี้นะนะนะ**

ถ้าตรวจด้วยเครื่องเทส (หาซื้อได้ตาม Drug Store ค่ะ หาไม่เจอสับขาไปถามคนขายเลยค่ะ บางทีร้านเล็กๆเขาเก็บไว้หลังเคาท์เตอร์จ่ายเงิน ใช้คำนี้ค่ะ 妊娠検査薬 นินชินเคนสะยะคุ)
แล้วมั่นใจสุดๆว่าท้องแล้ว ไปตรวจที่โรงพยาบาลหรือเลดี้คลีนิค ค่ะ
คุณหมอจะออกใบยืนยันว่าท้องชัวร์ให้เอาใบนั้นไปยื่นขอสมุดประจำตัวแม่ลูก 母子手帳
ด้านในจะมีบันทึกละเอียดเว่อร์ๆตั้งแต่หาหมอวันแรก


หน้าปกของแต่ละจังหวัด แต่ละเขตไม่เหมือนกันนะคะ แต่ประมาณๆนี้ค่ะ


วิธีทานอาหารให้ครบ สำหรับตัวแม่เองและเด็กในท้องค่ะ เขียนละเอียดมาก ถ้าอ่านไม่ออก แต่ละเขตไม่เหมือนกันนะคะ บางเขตมีเวอร์ชั่นภาษาไทยให้ค่ะ ให้เลือกว่าจะเอาภาษาญี่ปุ่นหรือภาษาไทย หรืออยากซื้อภาษาไทยเพิ่มเองได้เล่มละประมาณ800-900เยน แล้วแต่ค่ะ


บันทึกตั้งแต่ฝากท้องวันแรก และหาหมอทุกครั้งตามนัดค่ะ ว่าน้ำหนักเท่าไหร่ ความดันเท่าไหร่ ค่าโน่นค่านี่เท่าไหร่ ตรวจโดยใคร

แล้วก็มีคูปองส่วนลดสำหรับหาหมอ และก็มีคูปองลดสำหรับตรวจฟันด้วยนะคะ
จะเขียนไว้ละเอียดค่ะว่า ท้องครบวีคที่เท่าไหร่ให้ไปหาหมอฟันตรวจสุขภาพฟัน
(จะไม่ไปก็ได้ค่ะ เราเองก็ไม่ได้ไป)


ส่วนพวงกุญแจนี้ ขอได้ตามสถานีรถไฟใหญ่ๆค่ะ หรือถ้าสมัครพวกหนังสือนิตยสารแม่และเด็ก ひよこクラブ มันจะมีให้ค่ะ ไว้แสดงว่าเราท้องนะ (ไม่ใช่อ้วนนะเฟ้ย กูท้องจริงไรจริง)
เวลาขึ้นรถไฟรถเมล์ ถ้าเจอคนใจดีเห็นพวงกุญแจก็จะลุกให้นั่งค่ะ
หรือตามรถไฟก็จะมีที่นั่งสำหรับคนท้องคนแก่อยู่แล้ว
ถ้าใครไปเที่ยวญี่ปุ่นเจอเครื่องหมายนี่แปลว่าคนนั้นๆท้องค่ะ ให้ระวังค่ะ

พอดีคลีนิคที่เราไปหาที่แรก เขาไม่มีห้องคลอด พอครบ7เดือนยังไงก็ต้องเปลี่ยนหมอเปลี่ยนไปโรงพยาบาลอยู่ดี ก็เลยย้ายตั้งแต่แรกเลยค่ะ คลีนิคก็จะออกใบแนะนำให้ว่า
ชื่อนี้ๆ ท้องแล้ว รับนางนี้ไว้ดูแลด้วย จึงเรียนมาเพื่อแซ่บ อะไรประมาณนี้ค่ะ
ค่าใบแนะนำ 2พันกว่าเยน กระดาษใบเดียว เหงากันไปค่ะ
ที่เก่าโทรนัดโรงพยาบาลใหม่ให้ด้วย ก็เตรียมตัวไปตามนัดของโรงพยาบาลใหม่ค่ะ

พอไปโรงพยาบาล ฝากท้องเจอหมอเรียบร้อย ก็จะได้ใบนัดจากโรงพยาบาล ได้เป็นตารางนัดครบถึงกำหนดคลอดเลยค่ะ แล้วก็พยายามไปให้ตรง พยายามไม่เลื่อนนัด ไม่งั้นเรื่องยาวเลยค่ะ พอดีมีอยู่ช่วงท้ายๆวีคหลังๆ ต้องกลับไปบ้านที่โยโกฮาม่ากระทันหัน เลยต้องขอเลื่อนนัด หมอประจำตัวก็เข้าแค่วันศุกร์ ก็เลยต้องเลื่อนเป็นพบแพทย์มากกว่าใบประกัน1ครั้ง (แปลว่าต้องจ่ายค่าแพทย์เต็มราคาไม่ได้ลด จากปกติมีบัตรลดจ่ายแค่ครั้งละ2000เยนก็จะโดนกันไป6000เยนค่ะ ราคานี้แล้วแต่โรงพยาบาลนะคะ)

วันแรกที่ไปก็ได้หนังสือคู่มือของโรงพยาบาลค่ะ
ด้านในก็มีอธิบายวิธีแอดมิด แนะนำตึกผู้ป่วยคลอด
วิธีทานอาหารสำหรับคนท้อง
วิธีอาบน้ำเบบี้
ปวดท้องแล้วต้องทำอย่างไร ปวดทุกๆเท่าไหร่ๆแล้วให้โทรหาโรงพยาบาลให้บอกว่ากำลังจะไปหาแร้นนะแร้นนะ ไรงี้ค่ะ
ข้อมูลสำคัญๆของคนท้องอ่ะค่ะ
**แนะนำว่าให้จด เบอร์โทรศัพท์โรงพยาบาล+รหัสผุ้ป่วยไว้ที่เห็นง่ายๆ หน้าปกเลยก็ได้ค่ะ เวลาฉุกเฉิน เห็นชัดดีค่ะ หรือเผื่อเป็นญาติพี่น้องโทร จะได้บอกได้เลยไม่ต้องวิ่งหาบัตรค่ะ

เวลาไปโรงพยาบาล ไปถึงก็วัดความดัน ชั่งน้ำหนัก ตรวจปัสสาวะ ทุกครั้งค่ะ
พอท้องเริ่มโตก็จะวัดรอบพุงด้วย
คุณหมอดูผลตรวจไรพวกนี้ก็อุลตร้าซาวน์ทุกครั้งค่ะ ได้เจอเบบี้กันทุกครั้ง แฮปปี้กันไปค่ะ โรงพยาบาลเจแปนไม่ให้ถ่ายรูปค่ะ แต่โรงพยาบาลที่ฝากท้อง คุณหมอจะปริ้นรูปให้2-3ใบ วันไหนเห็นชัดๆหมอก็จะปริ้นให้เยอะหน่อย เอาไว้ให้เป็นที่ระลึกค่ะ

แล้วก็มีตรวจเบาหวานกับเอโค่คลื่นหัวใจทุกๆกี่วีคๆ (ดูตามใบตารางนัด จะเขียนไว้ละเอียดค่ะว่านัดคราวนี้จะตรวจอะไรบ้าง)
สุโดว์ค่าน้ำตาลเกินมานิ๊ดดดดดนึง
โดนหมอนัดหมอเบาหวานอีก โดนนัดเจอผู้ให้คำปรึกษาด้านโภชนาการ ก็เจ้าหน้าที่ก็ถามว่าปกติกินไรบ้าง ควรแบ่งมื้ออาหารเป็นกี่มื้อๆค่ะ
การนัดเพิ่มหรือโดนตรวจเพิ่ม ไม่มีคูปองลดราคาให้ค่ะ จ่ายเอง จ่ายเต็มค่ะ เช่นค่าเจาะเลือด ค่าตรวจเบาหวาน

ระหว่างท้องก็มีไปเรียนของโรงพยาบาลค่ะ ที่นี่นัดเรียน2ครั้ง
ครั้งแรกตอนท้องใหม่ๆ เรียนเรื่องทานอาหารให้ครบสำหรับตัวเราเองและเบบี้ ครั้งที่2เรียนเรื่องโรคต่างๆระหว่างท้อง โรคของเบบี้ (พวกโรคที่ทำให้เบบี้ไม่ปกติอ่ะค่ะ) แล้วก็มี PAPA MAMA CLASS อันนี้ต้องพาสามีไปด้วย ช่วงใกล้ๆคลอดค่ะ สอนให้รู้ว่าปวดแบบไหนคือใช่ ไม่ใช่ แล้วก็มีซ้อมอุ้ม ซ้อมเปลี่ยนผ้าอ้อม พอดีโรงพยาบาลนี้มีชุดคนท้อง (แบบเป็นท้องใหญ่ๆใส่ทุนหนักๆ) ให้พวกคุณพ่อมือใหม่ได้ลองใส่ รับรู้ถึงความหนักที่เราแบกเบบี้อยู่ในท้องทุกวันๆเนี่ย มันหนักนะเฟ้ยยยย ไหนคุณลองใส่ชุดแล้วไหนลองก้มหยิบของที่ตกพื้นเด๊ะๆ ไหนลองเอื้อมมือตากผ้าเด๊ะๆ ลำบากไหมๆ อะไรประมาณนี้ค่ะ


ในสมุดแม่ลูกก็บันทึกไว้ว่าไปเรียนมาครบตามที่กำหนดนะ
บันทึกเพิ่มด้วยค่ะว่าหลังคลอดแล้วมีไปเรียนอะไรบ้าง เราไปเรียน "แม่และเด็ก"หลังคลอด1สัปดาห์มา เรียนง่ายๆที่โรงพยาบาลให้เขาดูว่าสะดือติดเชื้อไหม เบบี้หายใจครืดๆคืออะไร ส่วนใหญ่จะเป็นให้คำปรึกษามากกว่าค่ะ แล้วก็มีสอนนวด สอนเล่นกับเบบี้บ้าง
แล้วก็มีไปเรียนทำอาหารให้เบบี้ตอนเริ่มเข้าเดือนที่5 ที่นี่เรียน 離乳食 รินิวโชคุ แปลตรงๆประมาณว่า อาหารเสริมสำหรับเริ่มๆหย่านมค่ะ ไปเรียนของสำนักงานเขต ค่าเรียนแค่100เยนเอง แล้วก็มีอาสาสมัตร เป็นพวกป้าๆ มาช่วยดูลูกให้ระหว่างไปเรียนทำกับข้าวค่ะ แล้วก็มีพัก1ชั่วโมงให้นม แล้วก็ไปเรียนต่อ
ข้อมูลพวกนี้จะมีบอกในเวปไซด์ของจังหวัดหรือของเขตที่อาศัยอยู่ ลองเข้าไปดูนะคะ เป็นประโยชน์มากมายค่ะ


แต่เนื่องจากเบบี้ของเราไม่เอาหัวลงค่ะ คุณหมอให้ผ่า
เหตุการณ์ตามด้านล่างเลยค่ะ เขียนไดอารี่ไว้ตอนนั้นพอดี^^
.
.
เมื่อวันศุกร์ที่29สิงหาคมปีที่แล้ว หมอนัดเพิ่ม เพื่อดูว่าเบบี้กลับหัวแล้วหรือยัง
จำได้รางๆว่า ครบสัปดาห์ที่34
อุลตร้าซาวน์ออกมาแร้น
คุณนายเบบี้ยังไม่กลับหัวค่ะ
แถมยังโบกมือไปมาทักทายจากในท้องด้วย
เอามือบังหน้าอีก
ไม่สามารถแชะรูปใบหน้ากลมๆออกมาอวดชาวบ้านได้
กวนจริงๆ

เคยมีพระ
(ที่คนอื่นเขานับถือกันอ่ะนะ นันทิชาก็เลยนับถือกับเขาด้วย ไม่เชื่อไม่หลบหลู่ว์)
พระท่านบอกมาว่า "นันทิชา ไม่ควรมีลูก"
.
.
.
อ่าฮ๊ะ???

เพราะว่า นันทิชา ได้ทำบาปทำกรรมไว้กับพี่ยุรีเยอะม๊ากกกกกกกกกก
ให้เขียนเรียงความลงกระดาษฟูนสะแกร๊บ ลิสรายการลงกระดาษเอสี่ 8รีมก็ยังไม่พอ
พระบอกว่า "เธอว์ทำไว้เยอะม๊าก ลูกเธอว์ออกมาก็จะทำกับเธอว์อย่างงั้น"

เนื่องจากนันทิชา เป็นคนมองโลกในแง่ดี
แปลว่า....เรายังสามารถจับทางลูกมันทัน เพราะมันน่าจะมามุกเดียวกับเรา ว่ะฮ่ะฮ่ะ
เฮ้ออออออ อย่างน้อยเราก็กินเหล้าแต่ก็ไม่ได้เมายา
จะเลี้ยงลูกให้ลูกกินแต่น้ำเปล่าคงไม่ได้หรอก โลกสวยๆใบนี้
ช่างมัน

ก็ทำใจแล้วว่าลูกคงกวน
แต่ไม่คิดว่ามันจะกวนตีนตั้งแต่ในพุง
คุณหมอบอกว่าให้กลับหัวได้แร้น
คุณนายก็ยังหัวสูง ไม่ขยับไปไหน

คุณหมอเลยสรุปให้ รวดเร็วทันใจ

คุณหมอ
(คนเดิมแหละ คนที่...ชอบมองด้วยหางตา ส่งความหมายว่า "ทำไมไม่ถามgoogleก่อนมาถามกู")
(คุณหมอเคยถามมาว่า "มีไรจะถามไม๊")
(นางสุโดว์เลยถามไปว่า ช่วงนี้พุงแข็งบ่อย ภาษาญี่ปุ่นใช้คำว่า はっている)
(จะพยายามแทรกภาษาญี่ปุ่นด้วยนะคะ เผื่อๆแม่บ้านในเจแปนท้องอยู่ จะได้อธิบายถูกด้วยเวลาไปหาหมอค่ะ^^)
(หมอก็ถามมาว่า "อ่าวๆ ท้องแข็งตอนไหนบ้างหละ")
(นางสุโดว์ "อืมมมมมม เช่น เวลายืนล้างจานค่ะ")
(หมอ "งั้นก็อย่ายืนล้างจานซิ")
.
.
.
(แล้วบทสนทนาก็จบลงดื้อๆ ซะงั้น)
(แหม่มมมมมม ก็รู้ว่ายืนนานๆแล้วท้องมันจะแข็ง แต่นี่มันแข็งบ่อย ก็นึกว่าจะมีวิธีแก้แบบมีเทคนิทหมอๆ)
(ฉันผิดเองที่ถาม)
(ไอ แอม ซอ รี่)

เนื่องจากญี่ปุ่นไม่มีให้เลือกแบบไทยค่ะว่าจะผ่าหรือจะคลอดเอง ตามปกติถ้าคุณแข็งแรงชีวิตปกติ
คลอดเองค่ะ

คุณหมอ "คุณสุโดว์ เบบี้ไม่ยอมเอาหัวลง เราคงจะต้องผ่าพุงคุณ"
นันทิชี "ค่ะ ผ่าก็ได้ค่ะ"
คุณหมอเปิดแฟ้ม พลิกกระดาษไปๆมาๆ "โรงพยาบาลห้องว่างวันที่ 24 กันยายนนี้ วันพุธ วันนี้เลยเนอะ"
นันทิชี "อ่าฮ๊ะว์???"
คุณหมอ "เดี๋ยวจะให้ไป x-ray ปอด เจาะเลือด ตรวจคลื่นหัวใจ ตรวจเพื่อดูความพร้อมว่าคุณสุโดว์สามารถรับการผ่าตัดได้หรือไม่ แล้วมาฟังผลวันที่ 12 กันยายนนี้นะคะ ให้คุณสามีมาด้วยนะคะ ถ้าคุณสามีไม่ว่าง ให้พาครอบครัวมาด้วย ไม่ทราบว่าคุณมีครอบครัวหรือไม่?"
.
.
นันทิชีคิดในใจ ครอบครัว กูก็ต้องมีซิวะ หรือหน้าตาฉันน่าเศร้ามากมาย ถามมาได้

นันทิชี "แต่ถ้าวันที่ 12 กันยายนนี้ เบบี้เอาหัวลง เราก็ไม่ต้องผ่าใช่ไหมคะ"
คุณหมอ "ใช่ๆ"
(ก็โดนเจาะเลือดฟรีๆไป)
นันทิชี "เราสามารถรอถึงตุลาคมไม่ได้หรอคะ กำนดคลอดมันตั้ง 5ตุลาคมแหนะค่ะ"
คุณหมอปิดแฟ้ม
"ถ้าเบบี้ไม่เอาหัวลง เลยสัปดาห์ที่ 36 ปกติจะแนะนำให้ผ่าในสัปดาห์ที่ 38 เพราะว่า ################## ก่อนที่จะ ##########
ไม่อย่างงั้นจะ ########### เลย ######## แต่ ###### ก็สามารถ ######### ค่ะ"
.
.
.
.
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด
นันทิชี ฟังออกแต่คำเชื่อมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!!!!!

แต่เนื่องจากนันทิชี เป็นคนขี้เกียจฟังอะไรยาวๆ
เลยสรุปกับหมอว่า เออ 12 กันยายนนี้ เอาผัวมาฟังหมอพูด
23 กันยา แอดมิด
24 กันยา ผ่า

ปล. ไม่รู้ผ่ากี่โมง นันทิชี วันที่24กันยายน เวลาดีทุกวินาที!!! เนื่องจากต้องเรียงตามคิวผ่า เลือกไม่ได้ว่าจะผ่ากี่โมงอะไรยังไง แถมคิวที่เท่าไหร่ก็ไม่บอกด้วยค่ะ หมอบอกว่า วันที่มาแอดมิดให้ถามนางพยาบาลหน้าห้องเอาว่าแกได้คิวที่เท่าไหร่

ค่ะๆตามนั้นค่ะๆ

ไว้มาต่อ ตอนผ่าคลอดนะคะ

เรื่องเล่าก่อนหน้านี้ที่อัพเดทกันไว้ค่ะ
เรื่องเล่าเฮฮาก่อนหน้านี้ตามlinkด้านล่างเลยค่ะ เผื่อใครอยากอ่านเรียงตั้งแต่แรก จะได้รู้จักกัน^^
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**นิวเยียร์ที่บ้านสุโดว์ ตอนป้าแมรี่สอนทำอาหาร** http://ppantip.com/topic/33550999
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ตอน นิวเยียร์บ้านสุโดว์ วันจริง!!** http://ppantip.com/topic/33564436
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ตอน กินเลี้ยงปีใหม่ ตอนป้าแมรี่กับพระเจ้า** http://ppantip.com/topic/33612600
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่น คิดได้ไง vol.1** http://ppantip.com/topic/33626409
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่น คิดได้ไง vol.2** http://ppantip.com/topic/33636682
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่น คิดได้ไง vol.3** http://ppantip.com/topic/33654086
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่นคิดได้ไง vol.4** http://ppantip.com/topic/33675931
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่นคิดได้ไง vol.5** http://ppantip.com/topic/33719858
Facebook ค่ะ https://www.facebook.com/mrs.sudoinjapan
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่