ผลพวงจากนโยบายทางการเมืองในปี56 ทำให้หนี้สินทางครัวเรือนสูงถึง 85% เกิดหนี้เสียจากสินเชื่อเช่าซื้อเพิ่มขึ้น 2.9% กระเทือนไปถึงภาวะขาดทุนจากการขายรถยึดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน  เกียตินาคินภัทร (KKP) ธนาคารพาณิชย์ขนาดย่อม จึงเตรียม Renovate แผนการตลาดยกแผง ทั่งการเพิ่มพันธมิตรธุรกิจหน้าใหม่ สอดรับโปรโมชั่นและ Product รูปแบบต่างๆที่รองรับลูกค้ามากขึ้น พร้อมพัฒนาช่องทางให้บริการทุกๆสาขาให้มากขึ้น
อภนันท์ เกลียวปฎินนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วงธันวาคมที่ผ่านมา ทางธนาคารได้เพิ่มช่องทางเลือก โดยสร้าง Stakeholder ร่วมกับ บริษัท เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) โดยมีการผูกสัญญา 15 ปี พร้อมเลือกให้เป็น Partner Exclusive เพื่อหนุนการทำแบงก์แอสชัวรันส์ โดยรับส่วนปันผลจำนวนหนึ่ง ก่อนจะได้รับผลกำไรรูปแบบคอมมิชชั่น ทั่งยังได้รับเลือกจาก ซูซูกิ ให้เป็น Captive Partner ในการได้สิทธิเสนอสินเชื่อเช่าซื้อภายในโชว์รูมซูซูกิ กระตุ้นการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์
ส่วนปีที่ผ่านมา เริ่มมีการปล่อยสินเชื่อให้กับบรรษัทและกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ขึ้น มีจำนวนสินเชื่อสิ้นปี 5,780 ล้านบาท อัตราการเติบโตอยู่ที่ 3% และมีแนวโน้มเติบโตเป็นเท่าตัวในอนาคต เพราะยังมีฐานที่ยังต่ำอยู่ รวมทั่งเปิด Product ตัวใหม่ อย่างบัตร KK ATM ที่เพิ่มความคุ้มครองประกันชีวิตรวมถึงให้ค่าชดเชยสูงสุดถึง 200,000 บาท
อภินันท์ กล่าวว่า ด้านสถานการณ์ความไม่มั่นคงทางการเมืองในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ธุรกิจตลาดทุน มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลงเหลือ 45,466 ล้านบาท จาก 50,329 ล้านบาท จึงมีแผนพัฒนาการลงทุนขยายโลเกชั่นจัดจำหน่ายเพิ่มในปีนี้ รวมถึงขยายการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านที่ศักยภาพสูง อาทิ ประเทศเขมรและแถบเอเชียเหนือ พร้อมเร่งพัฒนา ผลิตภัณฑ์ Lombard Loan ในการปล่อยเงินกู้ให้กับลูกค้ารายใหญ่ของธุริกิจตลาดทุน ซึ่งคาดแล้วเสร็จภายในกลางปีนี้
“เชื่อว่าสถานการณ์สินเชื่อในปี 58 จะปรับตัวดีขึ้น แต่ไตรมาสที่ 4 ในปีที่ผ่านมาเรายังคงเพิ่มค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองทั่วไปอีก 900 ล้านบาท โดยค่าสำรองโดยรวมทั้งหมดมีเพียงพอถึง 2000 ล้านบาท เนื่องจากเราไม่อาจคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน เราจึงต้องคอยติดตามอย่างใกล้ชิดและระมัดระวังอยู่เสมอ”อภินันท์กล่าว

เรื่องจาก : https://www.facebook.com/thecompanymagazine?ref=hl