คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 335
ขอบคุณมากครับสำหรับทุกๆคอมเม้น ไม่คิดว่าจะมีคนมาตอบกระทู้มากขนาดนี้ ผมคิดว่าประสบการณ์ในครั้งนี้จะช่วยให้ผู้สมัครงานท่านอื่นๆได้ทราบและเตรียมตัวสัมภาษณ์งานไว้แต่เนิ่นๆ
สำหรับคนที่มองว่าบริษัทไม่แฟร์ ก็อย่าไปว่าทางบริษัทเค้าเลยครับ ผมให้ความเคารพการตัดสินใจของทางบริษัทนะ เค้าก็มีเหตุผลที่ตัดสินใจไป จริงอยู่ในมุมมองของผู้สมัครอาจมองว่าถามแฟร์ดี ควรถาม ตรงไปตรงมา แต่ผมคิดว่าเราควรเอาใจเขามาใส่ใจเรา ควรมองถึงอีกฝ่ายบ้างครับว่าจะรู้สึกยังไงที่เจอคำถามนี้ ผมลองกลับมาคิดทบทวนดูอีกที ถ้าเป็นผมเป็นผู้บริหารเจอคำถามแบบนี้นะ โดยเฉพาะข้อ5ผมก็มีเคืองๆบ้างแหละ จริงๆนะ ผมคงคิดในใจ ไอห่านี่ยังไม่มีประสบการณ์ ยังไม่เริ่มทำงานจะมาถามแต่เรื่องเงินเพิ่มๆละ (อย่าว่าผมหยาบคายเลยครับ ผมคิดแบบนี้จริงๆ555) แต่ตอนนั้นผมไม่ได้คิดถึงใจเขาเลยครับ ที่ลองถามไปเพราะที่บ้านแนะนำ และผมเองก็เกิดความอยากรู้ด้วยเหมือนกัน ไม่ได้คิดให้รอบคอบก่อน
ส่วนตรงที่ผมตั้งคำถามว่า ผู้บริหารบริษัทนี้ดูโหดร้ายเกินไปหรือเปล่า เพราะว่าตอนนั้นผมแปลกใจที่รับเข้าทำงานแล้ว ก็น่าจะลองถามสวัสดิการอะไรเพิ่มเติมไปดู แต่พอรู้ว่าโดนปฏิเสธ มันก็รู้สึกเหมือนคนอกหักอะครับ บอกไม่ถูก แต่ผมก็พยายามเข้าใจเหตุผลของเค้า ผมคงถามอะไรที่ไปขัดใจเค้าอย่างมากแน่ๆ แต่ในความคิดเห็นผม จริงๆก็ไม่น่าจะถึงกับปฏิเสธเลย ถ้าเค้าตอบว่าไม่ได้ ผมก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร ผมพอใจและยินดีที่จะทำงานบริษัทนี้ต่อไป ผมอยากได้ประสบการณ์มากกว่า ผมอยากให้เค้าให้โอกาสผมได้เข้าไปทำงานช่วงโปรก็ยังดี ไปแสดงความสามารถให้เต็มที่ ถึงตอนนั้นถ้ายังไม่ผ่านยังไงผมก็ยินดีที่จะออกครับ ผมขอให้ได้งานทำ ไม่อยากให้เวลาผ่านไปเปล่าๆ เท่านี้ก็ดีใจแล้วครับ
แล้วก็สุดท้ายนี้ ถึงพี่ๆ HR นะครับ ถ้าพี่ได้มาเห็นกระทู้นี้ ผมก็อยากจะกล่าวขอโทษพี่และผู้บริหารอีกครั้ง ที่ผมตั้งกระทู้นี้ ไม่ได้มีเจตนาจะว่าร้ายอะไรกับทางบริษัทเลย แค่อยากรับฟังความคิดเห็นในมุมมองต่างๆจากคนอื่นดูบ้าง ผมเคารพในตัวพี่ๆและท่านประธานบริษัท ผู้ที่ให้โอกาสผมได้เข้าสัมภาษณ์งานที่นี่ ทำให้ผมได้มีบทเรียนในการสัมภาษณ์งานครั้งนี้และครั้งต่อๆไป ขอบคุณมากครับ
สำหรับคนที่มองว่าบริษัทไม่แฟร์ ก็อย่าไปว่าทางบริษัทเค้าเลยครับ ผมให้ความเคารพการตัดสินใจของทางบริษัทนะ เค้าก็มีเหตุผลที่ตัดสินใจไป จริงอยู่ในมุมมองของผู้สมัครอาจมองว่าถามแฟร์ดี ควรถาม ตรงไปตรงมา แต่ผมคิดว่าเราควรเอาใจเขามาใส่ใจเรา ควรมองถึงอีกฝ่ายบ้างครับว่าจะรู้สึกยังไงที่เจอคำถามนี้ ผมลองกลับมาคิดทบทวนดูอีกที ถ้าเป็นผมเป็นผู้บริหารเจอคำถามแบบนี้นะ โดยเฉพาะข้อ5ผมก็มีเคืองๆบ้างแหละ จริงๆนะ ผมคงคิดในใจ ไอห่านี่ยังไม่มีประสบการณ์ ยังไม่เริ่มทำงานจะมาถามแต่เรื่องเงินเพิ่มๆละ (อย่าว่าผมหยาบคายเลยครับ ผมคิดแบบนี้จริงๆ555) แต่ตอนนั้นผมไม่ได้คิดถึงใจเขาเลยครับ ที่ลองถามไปเพราะที่บ้านแนะนำ และผมเองก็เกิดความอยากรู้ด้วยเหมือนกัน ไม่ได้คิดให้รอบคอบก่อน
ส่วนตรงที่ผมตั้งคำถามว่า ผู้บริหารบริษัทนี้ดูโหดร้ายเกินไปหรือเปล่า เพราะว่าตอนนั้นผมแปลกใจที่รับเข้าทำงานแล้ว ก็น่าจะลองถามสวัสดิการอะไรเพิ่มเติมไปดู แต่พอรู้ว่าโดนปฏิเสธ มันก็รู้สึกเหมือนคนอกหักอะครับ บอกไม่ถูก แต่ผมก็พยายามเข้าใจเหตุผลของเค้า ผมคงถามอะไรที่ไปขัดใจเค้าอย่างมากแน่ๆ แต่ในความคิดเห็นผม จริงๆก็ไม่น่าจะถึงกับปฏิเสธเลย ถ้าเค้าตอบว่าไม่ได้ ผมก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร ผมพอใจและยินดีที่จะทำงานบริษัทนี้ต่อไป ผมอยากได้ประสบการณ์มากกว่า ผมอยากให้เค้าให้โอกาสผมได้เข้าไปทำงานช่วงโปรก็ยังดี ไปแสดงความสามารถให้เต็มที่ ถึงตอนนั้นถ้ายังไม่ผ่านยังไงผมก็ยินดีที่จะออกครับ ผมขอให้ได้งานทำ ไม่อยากให้เวลาผ่านไปเปล่าๆ เท่านี้ก็ดีใจแล้วครับ
แล้วก็สุดท้ายนี้ ถึงพี่ๆ HR นะครับ ถ้าพี่ได้มาเห็นกระทู้นี้ ผมก็อยากจะกล่าวขอโทษพี่และผู้บริหารอีกครั้ง ที่ผมตั้งกระทู้นี้ ไม่ได้มีเจตนาจะว่าร้ายอะไรกับทางบริษัทเลย แค่อยากรับฟังความคิดเห็นในมุมมองต่างๆจากคนอื่นดูบ้าง ผมเคารพในตัวพี่ๆและท่านประธานบริษัท ผู้ที่ให้โอกาสผมได้เข้าสัมภาษณ์งานที่นี่ ทำให้ผมได้มีบทเรียนในการสัมภาษณ์งานครั้งนี้และครั้งต่อๆไป ขอบคุณมากครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ผมเคยเข้าไปร่วมฟังการสัมภาษณ์ รับตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการของบริษัท ที่เราไปลงทุนในจีน
ผู้สมัครเป็นคนต่างชาติ ที่มีประสบการณ์ทำงานมาหลายแห่ง ในหลายประเทศ
ตั้งแต่เริ่มจนจบ เขาถามแต่ข้อมูล ด้านการผลิต การตลาด การเงิน การบริหารบุคคล ตลอดจน กฎหมาย การเมือง
ไม่ได้ถามเลยว่า ผลตอบแทนจะได้อะไร กินที่ไหน นอนโรงแรมหรือบ้านพัก มีรถให้กี่คัน จ้างนานแค่ไหน
คนสัมภาษณ์ ก็อดถามไม่ได้ว่า คุณต้องการอะไร
เขาก็บอกว่า ผมต้องการพาบริษัทให้เข้าไปอยู่อย่างมั่นคง เติบโตท่ามกลางการแข่งขัน และอยู่รอดในระยะยาว
ผมต้องการให้บริษัทจัดคน เครื่องจักร เงินลงทุนให้เพียงพอที่ผมจะทำงานได้
ผมอยากทราบนโยบาย เป้าหมาย ทิศทางที่บริษัทต้องการ
พอผมได้ข้อมูลพอว่า ผมจะทำอะไรได้แค่ไหนแล้ว ผมจะคุยเรื่องเงินเดือนของผมเอง
พวกนี้ไม่เป็นปัญหาอยู่แล้ว ถ้าผมทำได้ดี ผมเรียกเท่าไหร่ ผมก็ได้ เพราะผมแค่หยิบจากส่วนที่ผมทำให้ได้
ถ้าผมทำไม่ดี สิ่งที่ผมได้มา บริษัทก็เรียกคืนไปหมด เมื่อตอนไล่ผมออก
ถ้าเราพูดได้ว่า เราจะให้อะไรที่เขาต้องการได้
เขาจะให้สิ่งที่เหมาะสมกับความสามารถของเรา
เรายังไม่รู้เลยว่า การส่งเราไปทำงานต่างจังหวัด ต่างประเทศ เราไปทำอะไร เราสนใจเพียง เราจะได้อะไร
แค่คำถามข้อแรกข้อเดียว ก็บอกได้แล้วว่า เราอุทิศตนให้งานแค่ไหน งานกับเงินอะไรสำดัญสำหรับเรา
เราอยากได้เงิน และจะทำงานแลกเงิน
แต่ที่เขาต้องการ คือ คนที่อยากทำงาน เงินเป็นเพียง ผลตอบแทนจากการทำงาน
ผู้สมัครเป็นคนต่างชาติ ที่มีประสบการณ์ทำงานมาหลายแห่ง ในหลายประเทศ
ตั้งแต่เริ่มจนจบ เขาถามแต่ข้อมูล ด้านการผลิต การตลาด การเงิน การบริหารบุคคล ตลอดจน กฎหมาย การเมือง
ไม่ได้ถามเลยว่า ผลตอบแทนจะได้อะไร กินที่ไหน นอนโรงแรมหรือบ้านพัก มีรถให้กี่คัน จ้างนานแค่ไหน
คนสัมภาษณ์ ก็อดถามไม่ได้ว่า คุณต้องการอะไร
เขาก็บอกว่า ผมต้องการพาบริษัทให้เข้าไปอยู่อย่างมั่นคง เติบโตท่ามกลางการแข่งขัน และอยู่รอดในระยะยาว
ผมต้องการให้บริษัทจัดคน เครื่องจักร เงินลงทุนให้เพียงพอที่ผมจะทำงานได้
ผมอยากทราบนโยบาย เป้าหมาย ทิศทางที่บริษัทต้องการ
พอผมได้ข้อมูลพอว่า ผมจะทำอะไรได้แค่ไหนแล้ว ผมจะคุยเรื่องเงินเดือนของผมเอง
พวกนี้ไม่เป็นปัญหาอยู่แล้ว ถ้าผมทำได้ดี ผมเรียกเท่าไหร่ ผมก็ได้ เพราะผมแค่หยิบจากส่วนที่ผมทำให้ได้
ถ้าผมทำไม่ดี สิ่งที่ผมได้มา บริษัทก็เรียกคืนไปหมด เมื่อตอนไล่ผมออก
ถ้าเราพูดได้ว่า เราจะให้อะไรที่เขาต้องการได้
เขาจะให้สิ่งที่เหมาะสมกับความสามารถของเรา
เรายังไม่รู้เลยว่า การส่งเราไปทำงานต่างจังหวัด ต่างประเทศ เราไปทำอะไร เราสนใจเพียง เราจะได้อะไร
แค่คำถามข้อแรกข้อเดียว ก็บอกได้แล้วว่า เราอุทิศตนให้งานแค่ไหน งานกับเงินอะไรสำดัญสำหรับเรา
เราอยากได้เงิน และจะทำงานแลกเงิน
แต่ที่เขาต้องการ คือ คนที่อยากทำงาน เงินเป็นเพียง ผลตอบแทนจากการทำงาน
ความคิดเห็นที่ 29
ผมไม่เห็นด้วยกับ คนที่ออกความเห็นว่า จขกท ทั้งหมด.. ผมว่า จขกท มีสิทธิ์ที่จะถามข้อมูลเบื้องต้น รายได้ และสวัสดิการต่างๆ ถ้ายังไม่เคลียร์ชัดเจนแต่แรก เพราะส่วนใหญ่แล้ว การสัมภาษณ์งาน เราอาจจะลืมถามข้อมูลไป
คำถาม 1-4 ผมว่า มันเป็นเรื่องปกติ ที่ถามได้ แต่คำถาม 5 ดูจะไม่เหมาะสมครับ..
การปฎิเสธของนายจ้างโดยให้เหตุผล ตามที่ จขกท กล่าวมา ผมว่า อย่าไปทำกับบริษัทนี้เลยครับ .ง่ายไปที่มองคนแบบนี้. .
เราต้องคิดว่า เรามีคุณค่าที่จะทำงานให้บริษัท ไม่ใช่บริษัท มาเลือกเราฝ่ายเดียว
คำถาม 1-4 ผมว่า มันเป็นเรื่องปกติ ที่ถามได้ แต่คำถาม 5 ดูจะไม่เหมาะสมครับ..
การปฎิเสธของนายจ้างโดยให้เหตุผล ตามที่ จขกท กล่าวมา ผมว่า อย่าไปทำกับบริษัทนี้เลยครับ .ง่ายไปที่มองคนแบบนี้. .
เราต้องคิดว่า เรามีคุณค่าที่จะทำงานให้บริษัท ไม่ใช่บริษัท มาเลือกเราฝ่ายเดียว
ความคิดเห็นที่ 1
สำหรับผมนะครับ คำถามพวกนี้น่าจะถามให้เคลียตั้งแต่ก่อนที่จะตัดสินใจสมัครแล้วอะครับ เมื่อคุณตัดสินใจที่จะสมัครนั้นหมายถึงคุณยอมรับเงื่อนไขค่าตอบแทนจองทางบริษัทไปแล้ว
พอ จขกท. มาถามที่หลังอาจจะเหมือน จขกท.ไม่มีความสบายใจในเรื่องค่าตอบแทน นั่นก็หมายถึงไม่ยอมรับค่าตอบแทนนี้ ตั้งแต่แรกแต่ฝืนสมัครเข้ามา เค้าก็กลัวว่า จขกท.จะทำงานได้ไม่นาน เดี๋ยวก็ออกไปทำที่อื่นไรงี้เปล่า ทางเค้าก็ต้องมาหาคนทำแทนใหม่อีก
พอ จขกท. มาถามที่หลังอาจจะเหมือน จขกท.ไม่มีความสบายใจในเรื่องค่าตอบแทน นั่นก็หมายถึงไม่ยอมรับค่าตอบแทนนี้ ตั้งแต่แรกแต่ฝืนสมัครเข้ามา เค้าก็กลัวว่า จขกท.จะทำงานได้ไม่นาน เดี๋ยวก็ออกไปทำที่อื่นไรงี้เปล่า ทางเค้าก็ต้องมาหาคนทำแทนใหม่อีก
แสดงความคิดเห็น
ผ่านการสัมภาษณ์งาน แต่ถูกยกเลิกการรับเข้าทำงาน เพราะคำถามนี้....
คือตอนนี้ผมกำลังจะเรียนจบ ได้ไปสัมภาษณ์งานที่บริษัทแห่งหนึ่งที่จังหวัดระยอง พี่HRโทรมาบอกว่าผมผ่านการสัมภาษณ์งานแล้ว มีอะไรสอบถามเพิ่มเติมไหม ผมก็บอกเค้าไปว่าจะสอบถามเพิ่มภายหลังทางอีเมลล์ (ตอนนั้นดีใจมาก คิดคำถามไม่ออก 555) คำถามที่ผมถามเค้าไปจะเป็นแบบนี้ แล้วก็คำตอบที่ได้รับ
1) บริษัทมีค่าทำงานต่างจังหวัด(ค่ากันดาร) เพิ่มอีกมั้ยครับ ถ้ามีเพิ่มเท่าไร
คำตอบ ค่าเช่าบ้านของเราก็คือค่ากันดาร
2) โบนัสประจำปีของปีที่แล้วได้เท่าไรครับ
คำตอบ ได้ 4 เดือน
3) บริษัทมีสวัสดิการสำหรับเรียนต่อหรือเปล่า (เผื่ออนาคตผมอาจจะเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยครับ)
คำตอบ ทางเราไม่มีสวัสดิการหรือเงินช่วยเหลือสำหรับการเรียนต่อ
4) ค่าโอทีคิดยังไง ทำได้สูงสุดกี่ชั่วโมงครับ
คำตอบ คิดตามกฎหมายแรงงานไทย 1เท่า สำหรับทำงานในวันหยุด, 1.5 สำหรับทำงานล่วงเวลาในวันธรรมดา, 3เท่า สำหรับทำงานล่วงเวลาในวันหยุด
5) ทางบริษัทสามารถเพิ่มฐานเงินเดือนได้อีกมั้ยครับ (จากเดิม17,000บาท)
คำตอบ ไม่สามารถเพิ่มได้แล้วสำหรับเด็กจบใหม่
หลังจากที่เค้าตอบกลับมา1วัน พี่HRเค้าก็โทรมาบอกว่า ทางบริษัทไม่รับผมเข้าทำงานแล้ว เนื่องจากผู้บริหารมองว่าผมยังไม่มีประสบการณ์และความสามารถพิเศษเพียงพอที่จะต่อรองเงินเดือนได้ ผู้บริหารก็บอกมาว่ายังไม่เริ่มงานก็จะต่อรองแล้ว แล้วถ้ารับเข้าไปทำงานจะต่อรองโน่นนี่นั่นอีก (ผมไม่ได้เป็นคนแบบนั้นเลย) ซึ่งทำให้ผมรู้สึกเฟลมาก เพราะผมอยากทำงานที่นี่จริงๆ (ผมบอกพี่HRผมไม่ซีเรียสเรื่องเงินเดือนเลย ผมแค่ต้องการสอบถามเฉยๆ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ผมยินดีที่จะทำงานที่นี่)
ผมเลยอยากถามเพื่อนๆใน Pantip ว่าคำถามที่ผมถามไปมันดูน่าเกลียดไปไหม ผู้บริหารบริษัทนี้ดูโหดร้ายเกินไปหรือเปล่า