บทความนี้ไม่ได้อยากเขียนเพราะอยากดังอะไรมากมาย แต่เห็นน้องๆที่กำลังจะจบ หรือกำลังเตะฝุ่นกะล๊อกก๊อกแก๊กหางานอยู่ บางคนมั่นในเกรดซะจนแบบว่า ไปไหนเค้าก็เอา แต่ความเป็นจริงแล้ว การสัมภาณณ์นี่แหล่ะครับ เป็นการคัดคนด้าน EQ และเป็นด่านที่หินที่สุดแล้ว บางคนก็ลืมเอกสารนั่นนู่นนี่ เอาเป็นว่าบทความที่ผมจะเขียน หวังว่าคงเป็นประโยชน์ ขอแจงเป็นข้อๆเพื่อให้ได้อ่านกันง่ายๆนะครับ (สัมภาษณ์มาแล้ว 20 กว่าๆ ได้มา 18 ที่ แต่ละที่ดังๆ แต่ที่ไม่ไปเพราะไม่มี skill ในการลาออกเนื่องจากเกรงใจหัวหน้าเก่า T^T)
1.ขั้นแรกเลย เตรียมเอกสารให้ครบครับ เพราะการมีเอกสารครบ ครอบคลุมที่สุดถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี เริ่มจาก
1.1 รูปถ่ายหน้าตรง 1 - 2 นิ้ว จำนวน 2 รูปเป็นอย่างต่ำ / 1 ที่ (หน้าๆไม่เป็นไรครับ เพราะตอนสัมภาษณ์เค้าจะเจอตัวจริงเราอีกที)
1.2 สำเนาบัตรประชาชน
1.3 สำเนาทะเบียนบ้าน
1.4 สำเนาใบรับรองจบ หรือ สำเนาใบรับรองคาดว่าจะจบ
1.5 สำเนาใบรับรองการฝึกงาน (ในกรณีที่มี แต่ส่วนมากจะมีนะ)
1.6 สำเนาใบประกาศนียบัตรต่างๆ ในกรณีสัมภาษณ์งานที่เกี่ยวข้องกับใบประกาศนั้นๆ (สำคัญมาก ยิ่งมีเยอะยิ่งได้เปรียบ ถ้าไม่มี หรือมีไม่เยอะ จะกล่าวในคราวถัดไปนะครับ)
1.7 ประสบการณ์การทำงาน เขียนใส่ word สัก 1 ใบ ไม่มีก็ได้ แต่ถ้ามีใส่ให้หมด ไม่ว่าจะรับจ้างตัดหญ้า ไถนา หรืออะไรใส่ให้หมด อย่าอายครับ เพราะมันจะเป็นการเพิ่มคะแนนว่า รับมีประสบการณ์ในการทำงานในเรื่องอื่นๆมากแค่ไหน (คะแนนดีเพราะไอนี่แหล่ะ ที่สำคัญ ควรทำจริง อย่าโกหก โลกมันกลมนะครับ)
2.เสื้อผ้าหน้าผม ต้องเรียบร้อย ดูดี ไม่กุ๊ย จะจัดผมก็จัดได้ จะย้อมสีก็ทำได้ แต่อย่าให้ดูเกินผู้เกินคนมากเกินไป เอาเป็นว่าแต่งตัวเหมือนไปเดท แต่สไตล์ผู้ใหญ่ๆหน่อยหล่ะครับ....แหม่.... (พอเข้าไปทำงานได้แล้วจะแต่งเป็นตัวอะไร ก็ไม่มีใครว่าครับ ยกเว้นบ.ที่มีกฎโหดๆ)
3.ตกไปนิดนึง อย่าลืมหาข้อมูลด้วยนะครับ ว่างานที่จะไปสมัครทำอะไร บริษัทเขาทำอะไร ควรศึกษาคล่าวๆ หากไม่แน่ใจ ก่อนวันสัมภาษณ์หรือวันหยุด ควรนั่งรถเมล์ขำๆไปดูก่อนครับ ว่าบริษัทอยู่ไหน เพื่อความรวดเร็วในการไปสัมภาษณ์จริง ข้อนี้ใครทำก็ดีไป ใครไม่ทำก็ไม่เป็นไร ถ้ามั่นใจว่าไม่ตกม้าตายหลงทางตอนไปสัมภาษณ์
4.บุคลิกการนั่ง การเดิน คุยโทรศัพท์ เนื่องจากในกรณีมีคนมาสัมภาษณ์เยอะ ระวังพวก head hunter ด้วยครับ พวกนี้จะดูโดยรอบๆ มีในบางบริษัท โดยเฉพาะบริษัทใหญ่ๆมักจะมีพวกนี้มาจับผิดมารยาท หรือพฤติกรรมผู้สมัคร หากแหลม หรือเด่นเกินไป (ในทางที่ไม่ดี) ก็เตรียมตัวถ่ายเอกสารการสมัครงานชุดต่อไปได้เลยครับ
5.เตรียมสคริปสตรอเบอร์รี่ ดราม่าโหมดเอาไว้นะครับ เพื่อเป็นคำตอบอ้อนวอนให้คนสัมภาษณ์สงสาร (ต้องใช้ประสบการณ์สักหน่อย อาจจะใส่สีไปบ้าง เพื่อความดุเด็ดเผ็ดมันส์และเป็นที่น่าสงสารของผู้สัมภาษณ์เรา)
6.เมื่อเขาเรียกสัมภาษณ์ จงเดินเข้าไปอย่างภาคภูมิ และมืออ่อน จะนั่งก็ไหว้ สวัสดีครับ/ค่ะ ยิ้มแย้มแจ่มใส นั่งตัวตรงไม่ต้องเกร็งมาก วางมาดนิดๆ ให้ดูน่าเชื่อถือ อย่าเดินสะดุด ทำตัวเก้งก้าง (เก้งกวางไม่เป็นไรนะฮ๊ะ)
7.ในกรณีที่เจอคำถามง่าย ๆ ให้ตอบแบบฉะฉาน (ไม่ใช่ตะโกน) พกความมั่นใจ และความตั้งใจว่าจะทำงานที่นี่เอาไว้ในกรณีแรกๆ อาจจะตื่นเต้น อันนี้พี่เข้าใจ แต่จงคุมสติให้อยู่ คิดไว้ว่า ถ้ายังจะตื่นเต้น อาจจะได้เตะฝุ่นต่อ
8.ในกรณีเจอคำถามยาก ไม่ต้องรีบตอบ ให้คิดสักนิดหรือไว้เชิงด้วยการถามว่า ขอคำถามอีกครั้งค่ะ แต่อย่าบ่อยไม่งั้นอาจจะได้ขึ้นบัญชีเป็นผู้ทุพลภาพทางหูได้ เอาเป็นว่าคิดก่อนตอบ ถ้าไม่รู้ ก็บอกว่าไม่รู้ อย่าอ้อมค้อมเพราะนั่นจะเป็นการแถ และไม่มีงานรองรับคุณได้
9.ตอนแนะนำตัว (เอ้ายากหล่ะสิจะพูดอะไร) จำไว้นะครับ พี่มีตัวอย่าง
? : เอ้าน้อง แนะนำตัวมาให้พี่รู้จักหน่อย
จิงโจ้ : ชื่อปัญวุฒิ ทรัพย์วัฒนาครับ ชื่อเล่นว่า โจ้ เรียกสั้นๆว่าจิงโจ้ (ไอ้เรียกสั้นๆนี่ ควรดูคนสัมภาษณ์ด้วยว่าเขาขี้เล่นหรือจริงจังแค่ไหน เพื่อความคุ้นเคยระหว่างผู้สัมภาษณ์และผู้ถูกสัมภาษณ์) เรียนจบจาก ม.อ.ส.ส.ส.น.น. (ไม่ต้องพูดเต็มก็ได้ครับ มหาลัยไทยมีไม่กี่ที่ ถ้าเขาถามค่อยตอบ) ปัจจุบันทำงานอยู่บริษัท อึ้งกิมกี่ โอเปอร์เรชั่น ตำแหน่ง พนักงานบัญชี อายุงานก็ 1 ปีสี่เดือนครับ (แค่นั้นพอ แบ่งให้เขาถามบ้างไม่ใช่พูดหมด ไม่งั้นเด๋วเขาจะว่าเราเยอะ)
10.ในกรณีเขาถามว่าเพราะอะไรถึงออก จงจำไว้ อย่าใส่ร้ายบริษัทเก่า หรือเอาข้อเสียบริษัทเก่ามาพูดให้เบี่ยงๆไปด้านอื่น เพื่อรักษาภาพว่า คนอย่างเราไม่สาวไส้หรอก เพราะไม่เช่นนั้น คุณเจอใบแดงแน่
11.เราจะวัดได้อย่างไรว่าเรามีโอกาสผ่าน หรือไม่ผ่าน ไม่ยากครับ การพรีเซนต์ การตอบคำถาม การคุยกับคนสัมภาษณ์ในกรณีที่ถามคำตอบคำ พูดน้อยต่อยไม่หนัก มีช่องว่างในการคุยเยอะ นั่นแหล่ะครับ เตรียมตัวไม่ผ่านเลย แต่หากคนสัมภาษณ์มีอารมณ์ร่วมไปกับเรา มีความเพลิดเพลินในการสัมภาษณ์ คุยกันไม่เบื่อ หรือเกิน 20 นาทีขึ้นไป ก็ขอยินดีด้วยครับคุณมีโอกาสได้งานที่นั่นถึง 90% (อีก 10% อยู่ที่ว่าคุณขอเงินเดือนไปเวอร์เกินจริงแค่ไหน อย่าเวอร์มากถ้ารู้ว่าตัวยังไม่เก๋า)
อย่าได้กลัวว่าบริษัทใหญ่หรือบริษัทเล็กการสัมภาษณ์ยากกว่า มันอยู่ที่ตัวเราครับ ว่าจะสัมภาษณ์ได้ลื่นไหล หรือ ติดหนึบแบบไม่ไปไหนหรือเปล่า มันอยู่ที่เราทั้งนั้น เพราะถ้าได้ขึ้นมา แสดงว่าคุณชนะตัวคุณเอง และผู้ที่มาสมัครในที่นั้นด้วย ขอให้เป็น The legend ครับ
*****************มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์การสัมภาษณ์งานกันนะครับ ^^
สัมภาษณ์งานแบบง่ายๆ สไตล์จิงโจ้ .......สัมภาษณ์ 20 ที่ได้ 18 ที่.......
1.ขั้นแรกเลย เตรียมเอกสารให้ครบครับ เพราะการมีเอกสารครบ ครอบคลุมที่สุดถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี เริ่มจาก
1.1 รูปถ่ายหน้าตรง 1 - 2 นิ้ว จำนวน 2 รูปเป็นอย่างต่ำ / 1 ที่ (หน้าๆไม่เป็นไรครับ เพราะตอนสัมภาษณ์เค้าจะเจอตัวจริงเราอีกที)
1.2 สำเนาบัตรประชาชน
1.3 สำเนาทะเบียนบ้าน
1.4 สำเนาใบรับรองจบ หรือ สำเนาใบรับรองคาดว่าจะจบ
1.5 สำเนาใบรับรองการฝึกงาน (ในกรณีที่มี แต่ส่วนมากจะมีนะ)
1.6 สำเนาใบประกาศนียบัตรต่างๆ ในกรณีสัมภาษณ์งานที่เกี่ยวข้องกับใบประกาศนั้นๆ (สำคัญมาก ยิ่งมีเยอะยิ่งได้เปรียบ ถ้าไม่มี หรือมีไม่เยอะ จะกล่าวในคราวถัดไปนะครับ)
1.7 ประสบการณ์การทำงาน เขียนใส่ word สัก 1 ใบ ไม่มีก็ได้ แต่ถ้ามีใส่ให้หมด ไม่ว่าจะรับจ้างตัดหญ้า ไถนา หรืออะไรใส่ให้หมด อย่าอายครับ เพราะมันจะเป็นการเพิ่มคะแนนว่า รับมีประสบการณ์ในการทำงานในเรื่องอื่นๆมากแค่ไหน (คะแนนดีเพราะไอนี่แหล่ะ ที่สำคัญ ควรทำจริง อย่าโกหก โลกมันกลมนะครับ)
2.เสื้อผ้าหน้าผม ต้องเรียบร้อย ดูดี ไม่กุ๊ย จะจัดผมก็จัดได้ จะย้อมสีก็ทำได้ แต่อย่าให้ดูเกินผู้เกินคนมากเกินไป เอาเป็นว่าแต่งตัวเหมือนไปเดท แต่สไตล์ผู้ใหญ่ๆหน่อยหล่ะครับ....แหม่.... (พอเข้าไปทำงานได้แล้วจะแต่งเป็นตัวอะไร ก็ไม่มีใครว่าครับ ยกเว้นบ.ที่มีกฎโหดๆ)
3.ตกไปนิดนึง อย่าลืมหาข้อมูลด้วยนะครับ ว่างานที่จะไปสมัครทำอะไร บริษัทเขาทำอะไร ควรศึกษาคล่าวๆ หากไม่แน่ใจ ก่อนวันสัมภาษณ์หรือวันหยุด ควรนั่งรถเมล์ขำๆไปดูก่อนครับ ว่าบริษัทอยู่ไหน เพื่อความรวดเร็วในการไปสัมภาษณ์จริง ข้อนี้ใครทำก็ดีไป ใครไม่ทำก็ไม่เป็นไร ถ้ามั่นใจว่าไม่ตกม้าตายหลงทางตอนไปสัมภาษณ์
4.บุคลิกการนั่ง การเดิน คุยโทรศัพท์ เนื่องจากในกรณีมีคนมาสัมภาษณ์เยอะ ระวังพวก head hunter ด้วยครับ พวกนี้จะดูโดยรอบๆ มีในบางบริษัท โดยเฉพาะบริษัทใหญ่ๆมักจะมีพวกนี้มาจับผิดมารยาท หรือพฤติกรรมผู้สมัคร หากแหลม หรือเด่นเกินไป (ในทางที่ไม่ดี) ก็เตรียมตัวถ่ายเอกสารการสมัครงานชุดต่อไปได้เลยครับ
5.เตรียมสคริปสตรอเบอร์รี่ ดราม่าโหมดเอาไว้นะครับ เพื่อเป็นคำตอบอ้อนวอนให้คนสัมภาษณ์สงสาร (ต้องใช้ประสบการณ์สักหน่อย อาจจะใส่สีไปบ้าง เพื่อความดุเด็ดเผ็ดมันส์และเป็นที่น่าสงสารของผู้สัมภาษณ์เรา)
6.เมื่อเขาเรียกสัมภาษณ์ จงเดินเข้าไปอย่างภาคภูมิ และมืออ่อน จะนั่งก็ไหว้ สวัสดีครับ/ค่ะ ยิ้มแย้มแจ่มใส นั่งตัวตรงไม่ต้องเกร็งมาก วางมาดนิดๆ ให้ดูน่าเชื่อถือ อย่าเดินสะดุด ทำตัวเก้งก้าง (เก้งกวางไม่เป็นไรนะฮ๊ะ)
7.ในกรณีที่เจอคำถามง่าย ๆ ให้ตอบแบบฉะฉาน (ไม่ใช่ตะโกน) พกความมั่นใจ และความตั้งใจว่าจะทำงานที่นี่เอาไว้ในกรณีแรกๆ อาจจะตื่นเต้น อันนี้พี่เข้าใจ แต่จงคุมสติให้อยู่ คิดไว้ว่า ถ้ายังจะตื่นเต้น อาจจะได้เตะฝุ่นต่อ
8.ในกรณีเจอคำถามยาก ไม่ต้องรีบตอบ ให้คิดสักนิดหรือไว้เชิงด้วยการถามว่า ขอคำถามอีกครั้งค่ะ แต่อย่าบ่อยไม่งั้นอาจจะได้ขึ้นบัญชีเป็นผู้ทุพลภาพทางหูได้ เอาเป็นว่าคิดก่อนตอบ ถ้าไม่รู้ ก็บอกว่าไม่รู้ อย่าอ้อมค้อมเพราะนั่นจะเป็นการแถ และไม่มีงานรองรับคุณได้
9.ตอนแนะนำตัว (เอ้ายากหล่ะสิจะพูดอะไร) จำไว้นะครับ พี่มีตัวอย่าง
? : เอ้าน้อง แนะนำตัวมาให้พี่รู้จักหน่อย
จิงโจ้ : ชื่อปัญวุฒิ ทรัพย์วัฒนาครับ ชื่อเล่นว่า โจ้ เรียกสั้นๆว่าจิงโจ้ (ไอ้เรียกสั้นๆนี่ ควรดูคนสัมภาษณ์ด้วยว่าเขาขี้เล่นหรือจริงจังแค่ไหน เพื่อความคุ้นเคยระหว่างผู้สัมภาษณ์และผู้ถูกสัมภาษณ์) เรียนจบจาก ม.อ.ส.ส.ส.น.น. (ไม่ต้องพูดเต็มก็ได้ครับ มหาลัยไทยมีไม่กี่ที่ ถ้าเขาถามค่อยตอบ) ปัจจุบันทำงานอยู่บริษัท อึ้งกิมกี่ โอเปอร์เรชั่น ตำแหน่ง พนักงานบัญชี อายุงานก็ 1 ปีสี่เดือนครับ (แค่นั้นพอ แบ่งให้เขาถามบ้างไม่ใช่พูดหมด ไม่งั้นเด๋วเขาจะว่าเราเยอะ)
10.ในกรณีเขาถามว่าเพราะอะไรถึงออก จงจำไว้ อย่าใส่ร้ายบริษัทเก่า หรือเอาข้อเสียบริษัทเก่ามาพูดให้เบี่ยงๆไปด้านอื่น เพื่อรักษาภาพว่า คนอย่างเราไม่สาวไส้หรอก เพราะไม่เช่นนั้น คุณเจอใบแดงแน่
11.เราจะวัดได้อย่างไรว่าเรามีโอกาสผ่าน หรือไม่ผ่าน ไม่ยากครับ การพรีเซนต์ การตอบคำถาม การคุยกับคนสัมภาษณ์ในกรณีที่ถามคำตอบคำ พูดน้อยต่อยไม่หนัก มีช่องว่างในการคุยเยอะ นั่นแหล่ะครับ เตรียมตัวไม่ผ่านเลย แต่หากคนสัมภาษณ์มีอารมณ์ร่วมไปกับเรา มีความเพลิดเพลินในการสัมภาษณ์ คุยกันไม่เบื่อ หรือเกิน 20 นาทีขึ้นไป ก็ขอยินดีด้วยครับคุณมีโอกาสได้งานที่นั่นถึง 90% (อีก 10% อยู่ที่ว่าคุณขอเงินเดือนไปเวอร์เกินจริงแค่ไหน อย่าเวอร์มากถ้ารู้ว่าตัวยังไม่เก๋า)
อย่าได้กลัวว่าบริษัทใหญ่หรือบริษัทเล็กการสัมภาษณ์ยากกว่า มันอยู่ที่ตัวเราครับ ว่าจะสัมภาษณ์ได้ลื่นไหล หรือ ติดหนึบแบบไม่ไปไหนหรือเปล่า มันอยู่ที่เราทั้งนั้น เพราะถ้าได้ขึ้นมา แสดงว่าคุณชนะตัวคุณเอง และผู้ที่มาสมัครในที่นั้นด้วย ขอให้เป็น The legend ครับ
*****************มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์การสัมภาษณ์งานกันนะครับ ^^