ตามไปอ่านเรื่องราวความรักได้ที่นี่นะคะ
https://ppantip.com/topic/37132128
ฝากเพจมาพูดคุยกันได้ที่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/sapaixiaolongbao/


         

1 การขอหนังสือรับรองการเป็นโสดของชาวไต้หวัน
-กรอกใบคำร้อง (ให้แฟนเราไปที่ศูนย์เศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปกรอกใบคำร้องขอรับรองโสด)
ใบรับรองโสดของฝั่งแฟนเรามาขอที่ไทยเท่านั้นนะคะ ไม่ใช่วิ่งไปขอมาจากไต้หวันมาอันนี้ทางสถานทูตเค้าไม่รับเด้อ เราเจอมาเด๋อมากกกก555555

-พาสปอร์ตว่าที่คุณสาในอนาคตอันใกล้ พร้อมสำเนา 1 ชุด และสำเนาวีซ่า (VISA) ที่เข้ามาประเทศไทย 1 ชุด

-ทะเบียนบ้านไต้หวันฉบับภาษาจีนทั้งชุดของฝั่งคุณแฟนให้ไปขอที่สำนักงานเขตบ้านเค้า เอาฉบับตัวเต็มมามันจะเป็นปึกเป็นเล่ม
จำนวน 2 ชุด (อายุไม่เกิน 3 เดือน)

-สำเนาหนังสือเดินทางหรือบัตรประชาชนของเราเอง ก็ถ่ายเอกสารไปหมดนั่นล่ะ พาสปอร์ตนี่เราถ่ายเอกสารไปให้คุณสถานทูตแบบทุกหน้า
ที่มีแสตมป์ไม่ว่าเกี่ยวไม่เกี่ยวกับไต้หวันก็ถ่ายเอกสารให้เค้าไป

    ระหว่างรอใบรับรองโสดของคุณแฟนที่ศูนย์เศรษฐกิจฯ เราเองก็ต้องไปขอของเรา โดยใบรับรองโสดขอฝั่งสตรีไทยให้ไปขอที่เขตบ้านเราแหละค่ะ ไม่ต้องไปไกลยันสำนักทะเบียนกลางที่นางเลิ้ง โดยเอาทะเบียนบ้านตัวจริง บัตรประชาชนก็ต้องเอาไป พร้อมด้วยสำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประชาชนตัวเราเอง พร้อมทั้งพยานจะเป็นคนในครอบครัวก็ได้หรือเพื่อนก็ได้อย่างน้อย2คน แล้วแต่เจ้าหน้าที่เขตนะคะว่าชีต้องการพยานกี่คน ฝั่งพยานก็เอาสำเนาทะเบียนบ้านกับสำเนาบัตรประชาชนไปด้วยเพื่อยืนยันตัวนะคะ พอได้ใบรับรองโสดมาก็เอาไปแปลเป็นภาษาอังกฤษและให้กระทรวงการต่างประเทศรับรองที่ถนนแจ้งวัฒนะอันนั้นแหละค่ะ

-พอคุณแฟนได้รับใบรับรองโสดให้เอาไปแปลเป็นภาษาไทย และผ่านกระทรวงการต่างประเทศไทยรับรอง หลังจากนั้นให้นำไปจดทะเบียนสมรสที่เขต

-ไปจดทะเบียนสมรสที่เขต แล้วก็เอาใบทะเบียนสมรส เอกสารยืนยันการสมรสไปแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วก็รับรองอย่างเดิม

      อ่ะเหนื่อยรึยังถึงตรงนี้ 55555 พักดื่มชาอูหลงก่อนได้ค่ะ  รินน้ำชาให้ รับขนมโมจิทานเคียงกับชาด้วยไหมคะ

2 การนัดสัมภาษณ์และรับรองเอกสาร: ยื่นเอกสารที่ช่องหมายเลข 9 พร้อมกรอกใบคำร้องขอรับรองเอกสาร 1 ชุด, แบบฟอร์มเกี่ยวกับสัมภาษณ์แต่งงาน และใบคำร้องขอวีซ่า ( กรอกฟอร์มใน website https://visawebapp.boca.gov.tw แล้วสั่งพิมพ์คำร้องที่กรอกสมบูรณ์แล้ว) พร้อมรูปถ่ายสี 2 นิ้ว 3ใบ และเตรียมเอกสารที่จะต้องรับรอง ยังไม่จบเรื่องการเตรียมเอกสารหรอกค่ะโนวววววววว

-หนังสือแสดงสถานภาพสมรสของฝ่ายไทย เรียกง่ายๆว่าใบรับรองโสดแหละ เอาไปแปลเป็นภาษาอังกฤษและก็รับรองเอกสารมาให้เรียบร้อย
อย่าลืมจ่ายตังค์ให้กับคนแปลเอกสารด้วยนะคะ555

-ใบสำคัญการสมรสไทย (ค.ร. 3) และ ใบทะเบียนสมรสไทย (ค.ร. 2) เอาเอกสารไปแปลเป็นอังกฤษและรับรองด้วย

-ทะเบียนบ้านไทยทั้งเล่ม (หากมีข้อมูลอยู่ในทะเบียนบ้านปัจจุบันไม่ถึง 1 ปี จะต้องขอย้อนหลังไปให้ได้ครบ 1 ปี) อันนี้ก็แปลและรับรองด้วยค่ะ

-ใบสำคัญการหย่า และใบทะเบียนการหย่า (ในกรณีที่เคยหย่า)

-ใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)

**สำหรับข้อ (7) และ (8) สามารถยื่นภายหลังได้

-หนังสือรับรองความประพฤติ (กำหนดอายุไม่เกิน 6 เดือน) ไปขอที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรง ถ.ปทุมวัน แถวๆพาราก้อน
การเดินทาง BTS Siam, BTSชิดลม  เอกสารจะได้มาเป็นภาษาอังกฤษเลย แต่เราก็เอาไปรับรองที่กงสุลที่เดิม
-ใบรับรองแพทย์: (กำหนดอายุไม่เกิน 3 เดือน) ต้องเป็นแบบฟอร์มที่ทางศูนย์เศรษฐกิจกำหนดเท่านั้น อันนี้คุณสะใภ้ไปตรวจที่ไต้หวันค่ะ
ถ้าตรวจที่ไทยต้องไปตามโรงพยาบาลที่สถานทูตกำหนดเท่านั้น

** เอกสาร (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) ข้างต้นให้แปลเป็นภาษาอังกฤษและผ่านกระทรวงการต่างประเทศไทย รับรอง พร้อมสำเนา 1 ชุด

** กรณี คู่สมรสฝ่ายไทยที่ไม่ต้องการย้ายไปอยู่ในไต้หวัน กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบและไม่ต้องยื่นแบบฟอร์มวีซ่า,รูปถ่าย ,หนังสือรับรองความประพฤติ และ ใบรับรองแพทย์

-ใบตั้งชื่อจีนของคู่สมรสฝ่ายไทย (中文姓名聲明書) ยื่นภายหลังได้ (ต้องมายื่นด้วยตัวเอง)
ใครมีชื่อแซ่จีนเดิมก็ใส่ไป ใครที่ยังไม่มีไม่ต้องตกใจไปค่ะไปตามหาซินแสให้แกตั้งชื่อให้จะได้มงคล555

-ฝ่ายหญิงที่มีการจดทะเบียนหย่าไม่เกิน 6 เดือน กับผู้คนเก่า ให้แสดงใบรับรองแพทย์ที่แสดงว่าไม่ได้ตั้งครรภ์

-หนังสือเดินทางฝ่ายหญิงและชายต้องระบุ วัน เดือน ปี เกิดให้ครบถ้วน พร้อมวีซ่าเข้าประเทศไทยของชาว ไต้หวันถ่ายสำเนา 2 ชุด

-ทะเบียนบ้านที่คัดจากทะเบียนราษฎร์ไต้หวันฉบับภาษาจีนทั้งชุดต้องมีบันทึกช่องหมายเหตุให้ครบถ้วน (กำหนดอายุไม่เกิน 3 เดือน) ตัวจริงและสำเนาอย่างละ 1 ชุด

-กรณีที่เราเคยไปทำงานที่ไต้หวัน ต้องแสดงใบกาม่าที่เคยเข้าไปทำงานพร้อมสำเนา 2 ชุดหากยังไม่หมดสัญญาจ้างงาน จะต้องมีหนังสือยกเลิกการจ้างงานจากสภาแรงงานของไต้หวันและสำเนาหนังสือเดินทางและใบกาม่าที่เข้าไปทำงานมาแสดงด้วย
-กรณีที่เราเคยแต่งกับผู้ไต้หวันคนก่อนแล้วหย่ากับคนไต้หวันจะต้องแสดง ทะเบียนบ้านไต้หวันของสามีเก่าซึ่งบันทึกการหย่าแล้ว

**ค่าธรรมเนียมในการรับรองเอกสาร 2,700 บาท อันได้แก่ 1. ค่ารับรองทะเบียนสมรส 2. บันทึกสมรส 3. ใบรับรองสถานภาพสมรส 4. ใบรับรองแพทย์ 5.ใบรับรองความประพฤติ 6. ใบตั้งชื่อ รวมทั้งหมด 6ฉบับ (ฉบับละ 450 บาท) และ ค่าธรรมเนียมวีซ่า 2,000 บาท
แล้วก็นัดสัมภาษณ์ ไปยื่นเอกสารทั้งหมดตอนเช้านะคะ

3. วันสัมภาษณ์ : เวลา 14.00 น. ให้คู่สมรสทั้งสองฝ่ายมาที่สำนักงานฯ เพื่อรอการเรียกสัมภาษณ์ (ห้องหมายเลข 6) โดยนำหนังสือเดินทางตัวจริงของทั้งคู่ (หากคู่สมรสฝ่ายไทยเคยไปไต้หวันให้นำหนังสือเดินทางเล่มนั้นมาแสดงด้วยรวมถึงใบกาม่า) และรูปถ่ายงานแต่ง ตลอดถึงรูปถ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณา แชททางไลน์ ทางเฟซก็ปริ้นๆไป ตอนนั้นที่คุณสะใภ้อ่านแชทเก่าก็จักกะจี้เหมือนกัน ทำไปได้5555 พร้อมทั้งใบเสร็จรับเงินที่ทางสำนักงานฯ ออกให้

     ไปตอบคำถามให้ตรงกันด้วยล่ะเอ้ออออ ฝ่ายแฟนเราถ้ามีปัญหาด้านการจำวันที่แบบละเอียดก็บอกแฟนเราว่าตอบกว้างๆ  ตอบแบบไม่ต้องดีเทล555555 ทางสถานทูตเค้ารู้ว่าฝั่งชายมักมีปัญหากับดีเทลพวกนี้55

4. เมื่อผ่านการสัมภาษณ์แล้ว ให้สามีเรานำเอกสารที่ผ่านการรับรองแล้ว (ประกอบด้วย 1.ใบสถานภาพสมรสของฝ่ายไทย 2.ใบสำคัญการสมรส 3. ใบทะเบียนสมรส 4. ใบตั้งชื่อจีน) ไปดำเนินการเข้าชื่อในทะเบียนบ้านตามขั้นตอนของทางไต้หวัน อันนี้ที่ไต้หวันก็ต้องติดต่อแปลเอกสารเป็นภาษาจีนและรับรองเอกสารอย่างเดิมแล้วค่อยไปดำเนินการเข้าชื่อในทะเบียนบ้านเค้า ที่สำนักงานเขตบ้านเค้า หากไม่กลับไปดำเนินเรื่องเอง จะต้องทำหนังสือมอบอำนาจให้ญาติหรือบุคคลอื่นกระทำการแทน)

5. การยื่นวีซ่า : รับบัตรคิวและติดต่อช่องหมายเลข 3, 4, 5 เพื่อขอยื่นวีซ่าโดยเตรียมเอกสาร ดังนี้ ;
(1) ทะเบียนบ้านที่คัดจากทะเบียนราษฎร์ไต้หวัน ซึ่งได้บันทึกชื่อพร้อมวัน เดือน ปีเกิด ของคู่สมรสฉบับภาษาจีนตัวจริงพร้อมสำเนา ซึ่งมีอายุไม่เกิน 3 เดือน ตัวจริงพร้อมสำเนา 1 ชุด
(2) หนังสือเดินทางตัวจริง (ต้องแก้ไขคำนำหน้าชื่อหรือนามสกุลสามีตามที่ได้ระบุไว้ในทะเบียนสมรส)
(3) ใบเสร็จรับเงินทั้งหมดที่ทางสำนักงานฯ ออกให้
6. การรับวีซ่า: คู่สมรสฝ่ายไทยต้องมารับการอบรมเวลา 9.30 น. ณ วันนัดรับวีซ่า และ สามารถรอรับวีซ่าในช่วงบ่าย วันเดียวกัน

เห้อออกว่าจะได้แต่งงง จุดนี้ขอให้ทุกคนสู้นะจ๊ะ