เมื่อฉันต้องคอยเดาอารมณ์เพื่อนร่วมงาน และวันที่ฉันสติแตก

กระทู้สนทนา
สวัสดีเพื่อนๆในพันทิปกับคำยอดฮิต นี่เป็นกระทู้แรกของเราหลังจากที่มีล็อคอินเพื่อเข้ามาอ่านคอมเม้นเกือบปี5555
เริ่มเลยเน๊าะ ....
เราเป็นมนุษย์เงินเดือนค่ะ ทำงานในร้านอาหารแห่งหนึ่งหน้าที่ของเราทั่วไปคือ รับผิดชอบงานทุกอย่างดูแลเด็กๆในร้าน และคอยแทนตรงเคาท์เตอร์แคชเชียร์(ในวันหยุดของคนที่ทำประจำ) งานตรงแคชเชียร์ที่นี่ คือตั้งแต่คิดเงิน รับงานลูกค้า รับจองโต๊ะ ฯลฯ บลาๆชีวิตการทำงานผ่านมาก็แฮปปี้ดีค่ะ อาจจะมีปัญหาบ้างเช่น กระแทกของใส่ใส่อารมณ์ หงุดหงิดใส่ แต่ก็ปล่อยผ่านไป
เรื่องของเรื่องก็เริ่มจากปัญหาเล็กๆที่เราไม่ได้สนใจ พักเบรคนี่เข้าสายตลอด มาทำงานก็สาย เวลาทำงานพลาดไม่ถูกใจลูกค้าเราก็จะโดนลูกค้าต่อว่าแต่เค้าไม่เคยโทษว่าเป็นความผิดตัวเอง เอาง่ายๆคือเราทำอะไรไม่ค่อยถูกใจเค้าอ่ะคะ (ลืมบอกนิดนึงว่าเค้าเป็นผู้ชาย)นี่แหละค่ะ มันเกิดการสะสมหมักหมมมาหลายปี
หลายๆคนคงอยากได้เพื่อนร่วมงานที่ดีแชร์งานกับเราได้ปรึกษากันแต่สำหรับเรามันไม่ใช่ เพื่อนร่วมงานของเรา ค่อนข้างจะติสค่ะ หลักการเยอะ ซึ่งเราพยายามทำใจให้ชินมาตลอดเพราะคือเราต้องทำงานด้วยกันไงเลยไม่ค่อยอยากมีปัญหา เดี๋ยวทำงานลำบาก วันหยุดของเค้าเราก็จะมาทำงานแทน แทนในที่นี้หมายถึงทำงานต่อจากที่เค้าทำค้างอ่ะคะ ซึ้งที่ผ่านมาก็อาจจะถูกใจเค้าบ้างไม่ถูกใจบ้าง(แต่ส่วนมากมักจะไม่ถูกใจซะส่วนใหญ่) 5555
ที่นี่เรื่องมันมาถึงขีดสุดคือเมื่อหลังจากที่เราพักร้อน กลับมาเราต้องมาอยู่แทนเค้า2วัน และงานค้างค่อนข้างเยอะ บางงานเราไม่เข้าใจเราก็ไลน์ถาม บ้าง แต่ก็ไม่บ่อยนะ กลัวรบกวนเค้า ก็อาศัยปรึกษาพี่ที่เป็นหัวหน้าอีกคนเอา ช่วงนั้นที่เรามาทำแทน2วันลูกค้ามีติดต่อจองโต๊ะเยอะมากเราก็จดรายละเอียดเป็นใบงาน พอเค้ากลับมาทำงานสิ่งแรกคือหงุดหงิดมาเลยค่ะ อารมณ์เสีย มาเลย เราก็ไม่อยากคุยด้วยละ พอถามก็ไม่คอบกระแทกของใส่ชักสีหน้า เราก็ไม่คุยด้วยนะเพราะเดี๋ยวทะเลาะกัน หลังจากวันนั้นเค้าก็หยุดงานอีกค่ะ เราก็มาทำแทนปกติ วันนั้นเราก็รับงานไว้คุยรายละเอียดการจองอาหารเรียบร้อย ที่นี้มันเกิดเหตุแตกหักขึ้น เรื่องคือเราไม่รู้ว่าไม่ให้รับลูกค้าปกติขึ้นชั้นบนอันนี้เราไม่รู้จริงๆ แต่ที่เราคำนวนดูทุกอย่างทมันก็ยังโอเคนะคะลูกค้าก็น่ารักมาก ที่นี้พอพีแกกลับมาพี่แกกลับมาอาการเดิมค่ะคือหงุดหงิดมาเลย เราก็บอกงานเค้านะว่ามีลูกค้าจองโต๊ะไว้นะค่ะเป็นอาหารปกติ แกอ่านใบงานเสร็จแกก็ว่าเราเลยแล้วรับทำไม ไม่รู้หรอว่าเค้าไม่รับแบบนี้ เราบอกไม่รู้ เดี๋ยวโทรคุยกับลูกค้าให้ เพราะนี่คือลูกค้าที่ย่าส่งมาให้(เจ้าของร้าน) แกกดโทรศัพท์เลยจร้า เราเลยถามว่าจะโทรไปไหน แกว่าจะโทรไปต่อว่าย่า(ย้ำว่าเจ้าของร้านนะคะ)ว่าทำไมถึงส่งลูกค้าแบบนี้มาให้ เราเลยบอกว่าจะโทรไปทำไม ย่าไม่รู้ลายละเอียด เรื่องอาหาร หนูเป็นคนคุยกับลูกค้าเอง แกกดโทรศัพท์เลยแล้วบอกว่า ดีเดี๋ยวจะโทรไปจัดหนัก เราโกรธมากเลยบอกจะโทรไปจัดหนักใครหนูเป็นคนรับงานเองคุยกับลูกค้าแล้ว แต่ไม่รู้ว่ารับลูกค้ากรณีนี้ เดี๋ยวโทรคุยกับลูกค้าเอง จะไม่รับใช่ไหม๊ เค้าบอกไม่รับมันไม่คุ้ม เราก็โอเคคุยกับลูกค้าดีๆ เพราะเราผิด จะไปว่าเค้าไม่ได้อีกอย่างคุณก็ไม่เคยบอกรายละเอียดแบบนี้ให้เรารู้ ทั้งที่ต้องทำงานด้วยกัน ทำไมไม่บอก คราวหลังก็ไม่อยากรับงานให้แล้ว เพราะมีปัญหาตลอด พูดเสร็จเราก็เดินหนี เพราะรู้ตัวว่าพูดไปเป็นเรื่องแน่นอน หลีกเลี่ยงค่ะ แป๊บนึงพี่แกเดินตามมาเลยบอกว่าคุยกันให้เข้าใจไปเลยนะว่าต่อไปไม่รับลูกค้าแบบนี้ (แต่แกใส่อารมณ์มาก ) เราอื่มเข้าใจ ใส่อารมณ์จิงๆกระแทกใบงานใส่เรา เราตะบะแตกจร้า หมดแล้วความอดทน เลยบอกว่า รู้ไหม๊ไม่มีใครชอบทำงานแทนคนอื่นหรอกนะ โดยเฉพาะทำงานแล้วต้องมาเดาอารมณ์ว่าวันนี้จะทำถูกใจไหม๊มันไม่มีความสุข เราทำผิดพลาดคุณบอกเราดีๆก็ได้อย่ามาใส่อารมณ์ พูดดีๆ เรื่องนี้เราไม่รู้จริงๆ แกเลยตวาดเราว่าแล้วทำไมไม่โทรถามโทรศัพท์มีทำไมมาโทร ตอนนั้นมันยุ่งมาก เราอยู่คนเดียวแต่จะโทรกลับไปคุยให้ แกเดินกลับไปแล้วทิ้งท้ายว่า คราวหลังก็ไม่ต้องเดินงานเองรับเรื่องไว้อย่างเดียวเราเลยด่าเลยจ้า ไม่ทำแล้ว ต่อไปไม่อยากทำงานกับคนนิสัยแบบนี้ อยากทำอะไรทำเลยที่สบายใจอ่ะ เพราะช่วยงานคนอื่นงานตัวเองก็ไม่เห็นมีใครมาช่วยรับผิดชอบ ยังต้องมาเจอเพื่อนร่วมงานนิสัยเสีย เห้ยทำงานให้อ่ะพลาดก็รับช่วยกับแก้ไขมันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย ไม่ทำแล้ว ยอมรับว่าพูดแรงค่ะเพราะเราหมดความอดทน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราทำงานเราเคารพเจ้านายเคารพสถานที่ ไม่อยากมีปัญหา แต่คือมันไม่ไหวเราพูดหมด ผู้ชายแมนๆเค้าไม่มากระแทกของชักสีหน้าด่าผู้หญิงหรอกเรื่องเล็กๆ ทำให้มีปัญหาตลอด เราไม่เคยเล่าให้ใครฟังแม้กระทั้งเจ้านายเพราะไม่อยากให้เค้าคิดมาก งานเค้าเยอะเหนื่อย ยังต้องมาเจอปัญหาลูกน้องไม่ลงลอยกันอีกเลยอดทนมาตลอด หลังๆมันหนักขึ้นถึงขึ้นไม่เกรงใจกันอยากตอนไหนก็มาเอาตัวเองเป็นหลักไม่ยอมรับความผิด เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆรู้ดี หลายๆคนเค้าก็โดนเหมือนเรา แต่เค้าไม่กล้าทนไม่ได้เค้าก็ลาออก จนตอนนี้ไม่มีใครแล้ว แต่ที่เราต้องพูดเรารู้ว่ามันไม่ดี แต่ถ้าเป็นแบบนี้เราไม่มีความสุข เราพูดเลยไม่มองหน้าค่ะไม่ร่วมงาน เราจะทำเฉพาะงานของเราเราทำงานกับคนแบบนี้สุขภาพจิตเสีย แต่อีกไม่นานเจ้านายก็ต้องรู้แน่ เรามั่นใจ เราก็จะพูดกับเค้าแบบนี้แหละเราทำงานกับคนแบบนี้ไม่ได้จริงๆ
แชร์ประสบการณ์ค่ะในเนื้อหาพยายามพูดสุภาพที่สุดค่ะจริงในบทสนทนามันหยาบคายมาก เพื่อนๆคิดว่าเราทำถูกไหม๊คะ ความจริงเราอยากอดทนให้มากกว่านี้ แต่ไม่ไหวจริงค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่