สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 36
เช็ดน้ำตา แล้วฟังให้ดีนะครับ
โดยปกติการฝากทรัพย์อื่นๆที่ไม่ใช่เงิน กรรมสิทธิ์ในทรัพย์จะเป็นของคุณอยู่
แต่การฝากเงินกับธนาคารเนี่ยมันจะแปลกอยู่อย่างครับ กรรมสิทธิ์ในเงินนั้นจะกลายเป็นของธนาคารทันที ธนาคารจะมีเพียง "หน้าที่" คืนเงินให้เท่ากับจำนวนที่คุณฝากครับ
ถามว่าผลต่างไหม ต่างมากครับ กรณีฝากทรัพย์อื่นๆ กรรมสิทธิ์มันเป็นของคุณอยู่ หากทรัพย์หายไปคุณจึงเป็นผู้เสียหาย
แต่กรณีฝากเงิน เนื่องจากเงินกลายเป็นกรรมสิทธิ์ของธนาคารไปแล้ว จำนวนเงินที่หายไป มันไม่ใช่ของคุณครับ ฉะนั้นคุณไม่ใช่ผู้เสียหาย
แจ้งความไป ตำรวจก็รับเรื่องไว้เฉยๆ เอาไปเรียกร้องอะไรกับใครก็ไม่ได้ ถึงแม้จับตัวร้ายที่ลักเอาไปได้ คุณก็ไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีอยู่ดี
แต่ส่วนสำคัญของเรื่อง ที่จะรู้ว่าใครเป็นผู้เสียหายที่แท้จริงคือ วิธีการเบิกเงิน วิธีการโอน จำนวนที่มันหายไป
ในการทำธุรกรรม โดยใช้บัตรATM จะแยกเป็น สองกรณี
กรณีแรก ใช้บัตร ATM ตัวจริง แล้วเบิกเงินออกมา กรณีนี้ถือว่า ธนาคารได้ทำ "หน้าที่" ใช้เงินที่คุณฝากไว้คืนให้คุณแล้ว ไม่ว่าใครจะเป็นคนเบิกออกมาก็ตาม ถ้าหากบัตรถูกขโมยไป แต่คุณไม่แจ้งอายัด ก็ถือเป็นความประมาทของคุณ
กรณีที่สอง มีการปลอมบัตรATMปลอม มาเบิกเงิน หรือ โอนเงิน อันนี้ ถือเป็นความผิดของธนาคาร ที่ปล่อยให้มีการใช้บัตรที่ปลอมมาเบิกเงินได้ หรืออาจจะเกิดจากความผิดพลาดของระบบก็ได้เช่นบัญชีอื่นเป็นผู้ทำธุรกรรม แต่มาหักเงินในบัญชีคุณเป็นต้น ธนาคารก็จะเป็นผู้เสียหายไม่ใช่คุณ
ในกรณีที่สองนี้ "หน้าที่" การจ่ายเงินของธนาคารยังอยู่เหมือนเดิม ระบบการตัดทอนบัญชีของธนาคารที่แสดงในสมุดบัญชี ก็เป็นแค่การดำเนินการทางบัญชีของธนาคารเท่านั้น ไม่ทำให้ "หน้าที่" ที่ธนาคารมีต่อคุณหายไป
ทางออกของเรื่อง ให้คุณแจ้งให้ธนาคาร ให้คืนเงินจำนวนดังกล่าวให้คุณ ถ้าธนาคารไม่คืน ก็บอกว่าคุณไม่ใช่ผู้เสียหาย อ้างฐานที่อยู่โดยแสดงหลักฐานเบื้องต้น ถ้าอยู่บนเครื่องบินก็ยิ่งง่ายเลย เอาตั๋วเดินเดินทางไปแสดงว่าไม่มีทางเป็นไปได้
ธนาคารต้องเป็นฝ่ายตรวจสอบว่าใครเป็นคนโอนหรือเบิกเงินจำนวนดังกล่าว ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของคุณที่ต้องมานั่งแจ้งความนั่นโน่นนี่ให้ธนาคาร กรณีนี้ ธนาคารต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอร้องให้คุณช่วย ไม่ใช่คุณที่ต้องไปนั่งขอร้องให้ธนาคารช่วย
ถ้าธนาคารไม่คืน ให้คุณฟ้องศาลเรียกเงินในส่วนดังกล่าวคืนพร้อมคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 นับแต่วันที่คุณบอกให้ธนาคารคืน
หรือถ้าคุยไม่รู้เรื่องแล้ว ธนาคารยังคงโยนขี้ไปมาในหน่วยงานตีหน้าเศร้า สงสารคุณ ก็ฟ้องศาลได้เลย ได้คืน 100% เอาหัวเป็นประกัน
โดยปกติการฝากทรัพย์อื่นๆที่ไม่ใช่เงิน กรรมสิทธิ์ในทรัพย์จะเป็นของคุณอยู่
แต่การฝากเงินกับธนาคารเนี่ยมันจะแปลกอยู่อย่างครับ กรรมสิทธิ์ในเงินนั้นจะกลายเป็นของธนาคารทันที ธนาคารจะมีเพียง "หน้าที่" คืนเงินให้เท่ากับจำนวนที่คุณฝากครับ
ถามว่าผลต่างไหม ต่างมากครับ กรณีฝากทรัพย์อื่นๆ กรรมสิทธิ์มันเป็นของคุณอยู่ หากทรัพย์หายไปคุณจึงเป็นผู้เสียหาย
แต่กรณีฝากเงิน เนื่องจากเงินกลายเป็นกรรมสิทธิ์ของธนาคารไปแล้ว จำนวนเงินที่หายไป มันไม่ใช่ของคุณครับ ฉะนั้นคุณไม่ใช่ผู้เสียหาย
แจ้งความไป ตำรวจก็รับเรื่องไว้เฉยๆ เอาไปเรียกร้องอะไรกับใครก็ไม่ได้ ถึงแม้จับตัวร้ายที่ลักเอาไปได้ คุณก็ไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีอยู่ดี
แต่ส่วนสำคัญของเรื่อง ที่จะรู้ว่าใครเป็นผู้เสียหายที่แท้จริงคือ วิธีการเบิกเงิน วิธีการโอน จำนวนที่มันหายไป
ในการทำธุรกรรม โดยใช้บัตรATM จะแยกเป็น สองกรณี
กรณีแรก ใช้บัตร ATM ตัวจริง แล้วเบิกเงินออกมา กรณีนี้ถือว่า ธนาคารได้ทำ "หน้าที่" ใช้เงินที่คุณฝากไว้คืนให้คุณแล้ว ไม่ว่าใครจะเป็นคนเบิกออกมาก็ตาม ถ้าหากบัตรถูกขโมยไป แต่คุณไม่แจ้งอายัด ก็ถือเป็นความประมาทของคุณ
กรณีที่สอง มีการปลอมบัตรATMปลอม มาเบิกเงิน หรือ โอนเงิน อันนี้ ถือเป็นความผิดของธนาคาร ที่ปล่อยให้มีการใช้บัตรที่ปลอมมาเบิกเงินได้ หรืออาจจะเกิดจากความผิดพลาดของระบบก็ได้เช่นบัญชีอื่นเป็นผู้ทำธุรกรรม แต่มาหักเงินในบัญชีคุณเป็นต้น ธนาคารก็จะเป็นผู้เสียหายไม่ใช่คุณ
ในกรณีที่สองนี้ "หน้าที่" การจ่ายเงินของธนาคารยังอยู่เหมือนเดิม ระบบการตัดทอนบัญชีของธนาคารที่แสดงในสมุดบัญชี ก็เป็นแค่การดำเนินการทางบัญชีของธนาคารเท่านั้น ไม่ทำให้ "หน้าที่" ที่ธนาคารมีต่อคุณหายไป
ทางออกของเรื่อง ให้คุณแจ้งให้ธนาคาร ให้คืนเงินจำนวนดังกล่าวให้คุณ ถ้าธนาคารไม่คืน ก็บอกว่าคุณไม่ใช่ผู้เสียหาย อ้างฐานที่อยู่โดยแสดงหลักฐานเบื้องต้น ถ้าอยู่บนเครื่องบินก็ยิ่งง่ายเลย เอาตั๋วเดินเดินทางไปแสดงว่าไม่มีทางเป็นไปได้
ธนาคารต้องเป็นฝ่ายตรวจสอบว่าใครเป็นคนโอนหรือเบิกเงินจำนวนดังกล่าว ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของคุณที่ต้องมานั่งแจ้งความนั่นโน่นนี่ให้ธนาคาร กรณีนี้ ธนาคารต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอร้องให้คุณช่วย ไม่ใช่คุณที่ต้องไปนั่งขอร้องให้ธนาคารช่วย
ถ้าธนาคารไม่คืน ให้คุณฟ้องศาลเรียกเงินในส่วนดังกล่าวคืนพร้อมคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 นับแต่วันที่คุณบอกให้ธนาคารคืน
หรือถ้าคุยไม่รู้เรื่องแล้ว ธนาคารยังคงโยนขี้ไปมาในหน่วยงานตีหน้าเศร้า สงสารคุณ ก็ฟ้องศาลได้เลย ได้คืน 100% เอาหัวเป็นประกัน
ความคิดเห็นที่ 10
แนะนำให้ทำแบบผมครับ
1. เปิดบัญชี 2 บัญชี
1.1 บัญชีเงินเก็บ (มีเงินอยู่เยอะสุด) บัญชีนี้ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ทั้งบัตรเดบิต บัตรเครดิต เว๊ปช๊อปปิ่ง ไม่ต้องทำซักอย่างครับ พูดง่ายๆคือ ถ้าจะเบิกจะถอน ต้องใช้สมุดอย่างเดียว
1.2 บัญชีใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน (บัญชีนี้ให้เหลือเงินติดบัญชี ให้แค่พอใช้ ซักอาทิตย์ หรือครึ่งเดือน พอครับ) บัญชีนี้ทำปรกติ เดบิต เครดิต ว่าไป
ถ้าเงินในบัญชีนี้ใกล้หมด ให้ถอดจาก บัญชีแรก มาเติมเอา เป็นครั้งๆไป
ข้อดี คือ เราได้อัพเดร บัญชีเราอยู่เรื่อยๆ เพราะเราต้องไปถอนจากบัญชีแรก มาใส่บัญชีที่สอง อยู่ประจำ ทำให้เราได้รู้ความเคลื่อนไหวของบัญชีได้
อีกอย่าง หากโชคร้าย บัตรโดนปลอม อย่างน้อยความเสียหายที่เกิดก็เป็นเพียงเงินจำนวนน้อยที่อยู่ในบัญชีที่สอง พอทำใจได้ ไม่ร้อนรนมากนัก
ของผมก็ทำแบบนี้ครับ
1. เปิดบัญชี 2 บัญชี
1.1 บัญชีเงินเก็บ (มีเงินอยู่เยอะสุด) บัญชีนี้ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ทั้งบัตรเดบิต บัตรเครดิต เว๊ปช๊อปปิ่ง ไม่ต้องทำซักอย่างครับ พูดง่ายๆคือ ถ้าจะเบิกจะถอน ต้องใช้สมุดอย่างเดียว
1.2 บัญชีใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน (บัญชีนี้ให้เหลือเงินติดบัญชี ให้แค่พอใช้ ซักอาทิตย์ หรือครึ่งเดือน พอครับ) บัญชีนี้ทำปรกติ เดบิต เครดิต ว่าไป
ถ้าเงินในบัญชีนี้ใกล้หมด ให้ถอดจาก บัญชีแรก มาเติมเอา เป็นครั้งๆไป
ข้อดี คือ เราได้อัพเดร บัญชีเราอยู่เรื่อยๆ เพราะเราต้องไปถอนจากบัญชีแรก มาใส่บัญชีที่สอง อยู่ประจำ ทำให้เราได้รู้ความเคลื่อนไหวของบัญชีได้
อีกอย่าง หากโชคร้าย บัตรโดนปลอม อย่างน้อยความเสียหายที่เกิดก็เป็นเพียงเงินจำนวนน้อยที่อยู่ในบัญชีที่สอง พอทำใจได้ ไม่ร้อนรนมากนัก
ของผมก็ทำแบบนี้ครับ
ความคิดเห็นที่ 28
ช่วงนี้ มีคนโดนกันเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
อันนี้ อาจจะช่วยไร จขกท ไม่ได้ แต่คิดว่าคงโดนเหมือนเรา
คือ บัญชี ของ จขกท อาจจะโดน ไปผูกกับ บัญชี paypal paysabuy ฯลฯ โดยที่ไม่รู้ตัว
มีข้อมูลส่วนไหน ของ จขกท อยุ่ บน โลก ออนไลน์ หรือป่าวคะ? เอาบัญชีไป ซึ้ออะไร จองโรงแรม อะไรพวกนี้บ้างหรือป่าวคะ
คือ จะต้องมีคนเอา เลขที่บัญชี ของ จขกท ไปเปิด Paypal แล้ว กดทำรายการจาก Paypal (หรือ เว็บบริการที่ คล้ายคลึงกัน)
ซึ่งถามว่าทำได้มั้ย สมมิตนะคะ เราได้เลขที่บัญชี ของ นางสาว สวยมากกก มา เราสมัคร อีเมล์ใหม่ ใช้ ชื่อว่า สวยมากกกก
แล้วเอาอีเมลนี้ ไปสมัคร เว็บ โอนเงินทั้งหลาย ผูกเข้ากับเลขที่บัญชี ของ นางสาว สวยมากกก ตัวจริง
ก็เปิดใช้ บัญชี เหล่านี้ และ รูดเงินโดยหักผ่าน บัญชีได้
สังเกตได้จากยอดเงิน จะทำถี่ๆ เพระาอะไร เพราะ คนเอาไปใช้ เค้าไม่รู้งัย ว่า คุณมีเงินในบัญชีเท่าไร ก็ทำยอดผ่านไปเรื่อยๆๆๆๆ ได้เท่าไรก็เอาเท่านั้น
นึกภาพออกนะคะ
อันนี้ เราไม่ได้ปรักปรำ เว็บ โอนเงินใดๆ นะคะ คือ เกิดได้กับทุกเว็บคะ สำหรับเราเอง โดนผ่าน paypal คะ ผูกบัตร เครดิตไว้
ดีตรงที่ว่า บัญชี paypal เป็นของเราเอง เราเห็น ความผิดปกติ จาก บัญชีเรา ด้วยตัวเอง แล้วก็รีบแจ้ง paypal ว่าชั้นไม่ได้ทำรายการนี้นะ
ทาง paypal ก็ดี รับเรื่อง รีบตรวจสอบ และ โอนเงินคืนให้ ภายใน 5-7 วัน เราก็รีบเอาเงินออก เลย และ ไม่กล้าใช้ paypal ต่อไป
ยกเลิกการผูกทุกบัญชี ใน paypal กลัวคะ ถึงแม้จะ ไม่ใช่ความผิด ของ paypal ก็ตาม แต่เราไม่ร็ว่า คนแฮค เค้าเอาข้อมูลเรามาจากไหนงัยคะ
ของเราคือ โดนแฮค เข้า paypal เลย คือ บัญชีเรา บัตรเครดิต เรา เลย แล้ว ลอกอิน เข้าไปใช้
แต่ จขกท น่าจะ โดน เอาเลข บัญชี ไปเปิด พวก บัญชี paypal เอง ซึ่งกรณีนี้ ถ้า ธนาคาร ไม่แจ้ง ก็จะไม่มีทางรู้ได้เลย (ถ้าไม่ได้อัพ สมุดบ่อยๆ) ว่ามีคน กำลังทำรายการอยู่ เพราะ เห็น รายการ ในหน้าบัญชี ของ จขกท ว่า VSSEC มันคือ VISA Ecommerce WITHDRAWAL CASH-S/A รายการที่ลูกค้าชื้อสินค้าและบริการ E-Commerce โดยตัดเงินจากบัญชี Saving
นั่นคือ รายการ เกิดขึ้น ออนไลน จากการผูกบัญชี ไว้กับ บัญชี ออนไลน สัก บัญชีอะคะ
แล้ว มันน่ากลัว ตรงที่ บัญชีเเหล่านี้ เปิดง่าย มี เมล มีโทรศัพท์ มีเลขบัญชี ก็เปิดได้แล้วอะ แล้ว ถ้ามิจฉาชีพ เอา ทุกอย่างปลอมอะ คือ ใช้เลขที่บัญชี จขกท แต่ใช้เบอร โทรตัวเอง สมัคร เวลา ส่ง otp มา มันก็ส่ง เข้า ของ มิจฉาชีพ ส่งเมล แจ้งเตือน ให้ กับมิจฉาชีพ เพราะข้อมูลอยุ๋ที่ มิจฉาาชีพ หมด ยกเว้น บัญชี ที่เป็ฯของ จขกท พอได้มา มันก็พยายาม เอาเงินออก โดย การ ซ์้อของ เพราะ มันโอนออกไม่ได้ ต้องซื้ออย่างเดียว ถ้าโอน ต้องโอนให้ บัญชี ชื่อเดียวกัน ประมาณนั้น
คิดว่าที่จขกท โดน น่าจะลักษณะ นี้
ถามว่า ธนาคาร กรุงไทย ผิดมั้ย???
ตอบเลย ว่าไม่ผิด แล้ว จขกท ผิดหรอ ก็ไม่
แต่เคสนี้ กรุงไทย ควรจะมีอะไรรองรับ บ้าง แบบ hold เงิน หรืออะไรแบบนี้ น่าจะมีช่องให้ทำแบบนี้ เพื่อให้ คนที่โดนมิจฉาาชีพ มีทางออก
อย่างของเรา คือ paypal ระงับให้เลยอะคะ แต่ก็ บริบท ต่างกัน คือ เราผูกบัตร เครดิต ธนาคาร เข้ากับ paypal แล้ว จ่ายผ่าน paypal ฉะนั้น paypal จะเป็น ปลายทางที่ระงับได้ ไม่ใช่ ธนาคาร เจ้าของบัตรเครดิต นึกออกเนาะ เพราะ บัตรเครดิต โดนรูดไปแล้ว
แต่ของ จขกท จะระงับ ผ่าน บัญชี ออนไลน์ พวกนั้นก็คงยาก เพระา ไม่ใช่ คนเปิดบัญชีเอง ไม่มีทางรู้ว่า บัญชีใช้ชื่ออะไร แล้วจะแจ้งให้ระงับได้อย่างไร ต้องหวังพึ่ง ธ กรุงไทย สถานเดียว
อันนี้ฝาก ทางธนาคารด้วย ถ้าเข้ามาอ่าน ว่าตอนนี้ มีเคส แบบนี้เกิดขึ้นเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก จริงๆ ควรจะมี อะไรมารองรับเพื่อช่วยเหลือ ผู้เสียหายบ้าง เช่น hold ยอดได้ หรือ ไม่ว่า จะมีอะไร ก็ควรส่ง ข้อความเข้ามือถือ จข บัญชี ทุกครั้ง ทุกการใช้จ่าย อาจจะดูเยอะ และน่ารำคาญ แต่ มันช่วยได้จริงๆ
ท้ายนี้ ถ้าไม่โดนกับตัวไม่ร็หรอก จริงๆนะ เก็บ ข้อมูลส่วนตัวทุกอย่าง ไว้ในลิ้นชัก ไม่ใช่ บนโลกออนไลน
ฝากไว้กับทุกๆคนที่ได้เข้ามาอ่าน มันสำคัญจริงๆ
วันเดือนปี เกิด เลขที่บ้าน สถานทีททำงาน ที่อยู่ ชื่อพ่อแม่ บัตรประชาชน เลขที่บัตร ต่างๆ เลขบัญชีต่างๆ อย่าให้มันมาอยุ๋บน ออนไลน ได้เด็ดขาด
เพราะ ธุรกรรม ออนไลน์ เค้าไม่เห็ฯหน้าเรา เค้าเช็คจากข้อมูล แล้วเค้าถามอะไร เค้าถาม วันเดือนปีเกิด เลขบัตรประชาชน เลขบัตรเครดิต ที่อยู๋ บลาๆๆๆ ซึ่งพวกนี้ ถ้าลองไปอยุ๋บนออนไลน์นะ สวรรค์ ของมิจฉาชีพเลย อันตรายมากๆ
สำหรับเราเอง ค่อนข้างตั้งค่า ความเป็นส่วนตัวสูงมากบนโลกออนไลน จึงเดาไม่ออกว่า โดนจากทางไหน
แต่ ก่อนหน้าจะโดน สัก 1 อาทิตย เพิ่งจองโรงแรม ผ่านระบบ ออนไลน์ โดยตัดบัตร ส่วนนึงก็สงสัยนะ ว่าเว็บปลอดภัยแค่ไหน มี การดักข้อมูลมั้ย? เพราะเหมือนจะมีคนอื่นโดนเช่นกัน
หรือ อาจจะเป็ฯ มัลแวร ในเครื่อง เพราะช่วงนึง ที่บริษํท โดน มัลแวร DNS changer เปลี่ยค่า DNS ไป ยูเครนเลย แล้วเราใช้บัญชี ออนไลน ต่างๆ ที่ออฟฟิศ ด้วย
ตอนนี้ บอกตามตรงเลยนะ ไม่กล้าใช้เลย ออนไลน์ ที่บริษํท จะใช้ก็ที่บ้านเท่านั้น หรือถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง เดินลงไปทำรายการที่ตู้ คะ back to the basic ปลอดภัยกว่าคะ
ฝากทุกๆคนระวังด้วยนะคะ
อันนี้ อาจจะช่วยไร จขกท ไม่ได้ แต่คิดว่าคงโดนเหมือนเรา
คือ บัญชี ของ จขกท อาจจะโดน ไปผูกกับ บัญชี paypal paysabuy ฯลฯ โดยที่ไม่รู้ตัว
มีข้อมูลส่วนไหน ของ จขกท อยุ่ บน โลก ออนไลน์ หรือป่าวคะ? เอาบัญชีไป ซึ้ออะไร จองโรงแรม อะไรพวกนี้บ้างหรือป่าวคะ
คือ จะต้องมีคนเอา เลขที่บัญชี ของ จขกท ไปเปิด Paypal แล้ว กดทำรายการจาก Paypal (หรือ เว็บบริการที่ คล้ายคลึงกัน)
ซึ่งถามว่าทำได้มั้ย สมมิตนะคะ เราได้เลขที่บัญชี ของ นางสาว สวยมากกก มา เราสมัคร อีเมล์ใหม่ ใช้ ชื่อว่า สวยมากกกก
แล้วเอาอีเมลนี้ ไปสมัคร เว็บ โอนเงินทั้งหลาย ผูกเข้ากับเลขที่บัญชี ของ นางสาว สวยมากกก ตัวจริง
ก็เปิดใช้ บัญชี เหล่านี้ และ รูดเงินโดยหักผ่าน บัญชีได้
สังเกตได้จากยอดเงิน จะทำถี่ๆ เพระาอะไร เพราะ คนเอาไปใช้ เค้าไม่รู้งัย ว่า คุณมีเงินในบัญชีเท่าไร ก็ทำยอดผ่านไปเรื่อยๆๆๆๆ ได้เท่าไรก็เอาเท่านั้น
นึกภาพออกนะคะ
อันนี้ เราไม่ได้ปรักปรำ เว็บ โอนเงินใดๆ นะคะ คือ เกิดได้กับทุกเว็บคะ สำหรับเราเอง โดนผ่าน paypal คะ ผูกบัตร เครดิตไว้
ดีตรงที่ว่า บัญชี paypal เป็นของเราเอง เราเห็น ความผิดปกติ จาก บัญชีเรา ด้วยตัวเอง แล้วก็รีบแจ้ง paypal ว่าชั้นไม่ได้ทำรายการนี้นะ
ทาง paypal ก็ดี รับเรื่อง รีบตรวจสอบ และ โอนเงินคืนให้ ภายใน 5-7 วัน เราก็รีบเอาเงินออก เลย และ ไม่กล้าใช้ paypal ต่อไป
ยกเลิกการผูกทุกบัญชี ใน paypal กลัวคะ ถึงแม้จะ ไม่ใช่ความผิด ของ paypal ก็ตาม แต่เราไม่ร็ว่า คนแฮค เค้าเอาข้อมูลเรามาจากไหนงัยคะ
ของเราคือ โดนแฮค เข้า paypal เลย คือ บัญชีเรา บัตรเครดิต เรา เลย แล้ว ลอกอิน เข้าไปใช้
แต่ จขกท น่าจะ โดน เอาเลข บัญชี ไปเปิด พวก บัญชี paypal เอง ซึ่งกรณีนี้ ถ้า ธนาคาร ไม่แจ้ง ก็จะไม่มีทางรู้ได้เลย (ถ้าไม่ได้อัพ สมุดบ่อยๆ) ว่ามีคน กำลังทำรายการอยู่ เพราะ เห็น รายการ ในหน้าบัญชี ของ จขกท ว่า VSSEC มันคือ VISA Ecommerce WITHDRAWAL CASH-S/A รายการที่ลูกค้าชื้อสินค้าและบริการ E-Commerce โดยตัดเงินจากบัญชี Saving
นั่นคือ รายการ เกิดขึ้น ออนไลน จากการผูกบัญชี ไว้กับ บัญชี ออนไลน สัก บัญชีอะคะ
แล้ว มันน่ากลัว ตรงที่ บัญชีเเหล่านี้ เปิดง่าย มี เมล มีโทรศัพท์ มีเลขบัญชี ก็เปิดได้แล้วอะ แล้ว ถ้ามิจฉาชีพ เอา ทุกอย่างปลอมอะ คือ ใช้เลขที่บัญชี จขกท แต่ใช้เบอร โทรตัวเอง สมัคร เวลา ส่ง otp มา มันก็ส่ง เข้า ของ มิจฉาชีพ ส่งเมล แจ้งเตือน ให้ กับมิจฉาชีพ เพราะข้อมูลอยุ๋ที่ มิจฉาาชีพ หมด ยกเว้น บัญชี ที่เป็ฯของ จขกท พอได้มา มันก็พยายาม เอาเงินออก โดย การ ซ์้อของ เพราะ มันโอนออกไม่ได้ ต้องซื้ออย่างเดียว ถ้าโอน ต้องโอนให้ บัญชี ชื่อเดียวกัน ประมาณนั้น
คิดว่าที่จขกท โดน น่าจะลักษณะ นี้
ถามว่า ธนาคาร กรุงไทย ผิดมั้ย???
ตอบเลย ว่าไม่ผิด แล้ว จขกท ผิดหรอ ก็ไม่
แต่เคสนี้ กรุงไทย ควรจะมีอะไรรองรับ บ้าง แบบ hold เงิน หรืออะไรแบบนี้ น่าจะมีช่องให้ทำแบบนี้ เพื่อให้ คนที่โดนมิจฉาาชีพ มีทางออก
อย่างของเรา คือ paypal ระงับให้เลยอะคะ แต่ก็ บริบท ต่างกัน คือ เราผูกบัตร เครดิต ธนาคาร เข้ากับ paypal แล้ว จ่ายผ่าน paypal ฉะนั้น paypal จะเป็น ปลายทางที่ระงับได้ ไม่ใช่ ธนาคาร เจ้าของบัตรเครดิต นึกออกเนาะ เพราะ บัตรเครดิต โดนรูดไปแล้ว
แต่ของ จขกท จะระงับ ผ่าน บัญชี ออนไลน์ พวกนั้นก็คงยาก เพระา ไม่ใช่ คนเปิดบัญชีเอง ไม่มีทางรู้ว่า บัญชีใช้ชื่ออะไร แล้วจะแจ้งให้ระงับได้อย่างไร ต้องหวังพึ่ง ธ กรุงไทย สถานเดียว
อันนี้ฝาก ทางธนาคารด้วย ถ้าเข้ามาอ่าน ว่าตอนนี้ มีเคส แบบนี้เกิดขึ้นเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก จริงๆ ควรจะมี อะไรมารองรับเพื่อช่วยเหลือ ผู้เสียหายบ้าง เช่น hold ยอดได้ หรือ ไม่ว่า จะมีอะไร ก็ควรส่ง ข้อความเข้ามือถือ จข บัญชี ทุกครั้ง ทุกการใช้จ่าย อาจจะดูเยอะ และน่ารำคาญ แต่ มันช่วยได้จริงๆ
ท้ายนี้ ถ้าไม่โดนกับตัวไม่ร็หรอก จริงๆนะ เก็บ ข้อมูลส่วนตัวทุกอย่าง ไว้ในลิ้นชัก ไม่ใช่ บนโลกออนไลน
ฝากไว้กับทุกๆคนที่ได้เข้ามาอ่าน มันสำคัญจริงๆ
วันเดือนปี เกิด เลขที่บ้าน สถานทีททำงาน ที่อยู่ ชื่อพ่อแม่ บัตรประชาชน เลขที่บัตร ต่างๆ เลขบัญชีต่างๆ อย่าให้มันมาอยุ๋บน ออนไลน ได้เด็ดขาด
เพราะ ธุรกรรม ออนไลน์ เค้าไม่เห็ฯหน้าเรา เค้าเช็คจากข้อมูล แล้วเค้าถามอะไร เค้าถาม วันเดือนปีเกิด เลขบัตรประชาชน เลขบัตรเครดิต ที่อยู๋ บลาๆๆๆ ซึ่งพวกนี้ ถ้าลองไปอยุ๋บนออนไลน์นะ สวรรค์ ของมิจฉาชีพเลย อันตรายมากๆ
สำหรับเราเอง ค่อนข้างตั้งค่า ความเป็นส่วนตัวสูงมากบนโลกออนไลน จึงเดาไม่ออกว่า โดนจากทางไหน
แต่ ก่อนหน้าจะโดน สัก 1 อาทิตย เพิ่งจองโรงแรม ผ่านระบบ ออนไลน์ โดยตัดบัตร ส่วนนึงก็สงสัยนะ ว่าเว็บปลอดภัยแค่ไหน มี การดักข้อมูลมั้ย? เพราะเหมือนจะมีคนอื่นโดนเช่นกัน
หรือ อาจจะเป็ฯ มัลแวร ในเครื่อง เพราะช่วงนึง ที่บริษํท โดน มัลแวร DNS changer เปลี่ยค่า DNS ไป ยูเครนเลย แล้วเราใช้บัญชี ออนไลน ต่างๆ ที่ออฟฟิศ ด้วย
ตอนนี้ บอกตามตรงเลยนะ ไม่กล้าใช้เลย ออนไลน์ ที่บริษํท จะใช้ก็ที่บ้านเท่านั้น หรือถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง เดินลงไปทำรายการที่ตู้ คะ back to the basic ปลอดภัยกว่าคะ
ฝากทุกๆคนระวังด้วยนะคะ
ความคิดเห็นที่ 3
โทรติดต่อธนาคารแห่งประเทศไทยเลยค่ะ รู้สึกว่าจะรับเรื่องอะไรเร็วดีนะคะเราว่า
พอดีสังเกตเวลาธนาคารสาขานั้นๆมีปัญหา(อย่างจะขายบัตรเดบิตบวกประกัน แล้วคนโวยวายกันที่สาขาไม่ได้ แต่พอโวยวายที่ธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้)
เลยคิดว่าน่าจะดำเนินการเร็วและฉับไวกว่า
ไม่รู้มันจะแลดูข้ามขั้นตอนกันมั้ย แต่เราก็พอเข้าใจอารมณ์คนเดือดร้อนนะคะ มันก็อยากให้มีการแก้ไขให้เร็วที่สุดกันทั้งนั้น ยังไงลองลุยดูก่อนค่ะ
สู้ๆนะคะ ขอให้ได้เงินคืนค่ะ
พอดีสังเกตเวลาธนาคารสาขานั้นๆมีปัญหา(อย่างจะขายบัตรเดบิตบวกประกัน แล้วคนโวยวายกันที่สาขาไม่ได้ แต่พอโวยวายที่ธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้)
เลยคิดว่าน่าจะดำเนินการเร็วและฉับไวกว่า
ไม่รู้มันจะแลดูข้ามขั้นตอนกันมั้ย แต่เราก็พอเข้าใจอารมณ์คนเดือดร้อนนะคะ มันก็อยากให้มีการแก้ไขให้เร็วที่สุดกันทั้งนั้น ยังไงลองลุยดูก่อนค่ะ
สู้ๆนะคะ ขอให้ได้เงินคืนค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ทำไงดีคะ เงินหายจากบัญชี 5 หมื่น แต่ธนาคารบอกว่าโอกาสได้เงินคืนน้อยมาก T_T
ทางสำนักงานใหญ่กรุงไทย ได้ติดต่อมาว่ามีการโอนเงินผ่านบัตร ในลักษณะการบริจาคให้กับมูลนิธิ (โอนวันที่ 24/05/15) ซึ่งเป็นการโอนที่น่าสงสัย(โอน 7 ครั้ง ยอดรวมประมาณ 50,000 บาท) ทางธนาคารเลยติดต่อมาสอบถามว่าใช่จขกทไหมที่ทำรายการ
ทางนี้ก็ตกใจมาก เพราะในวันและเวลาดังกล่าว เจ้าของกระทู้ได้เดินทางกลับประเทศไทย และใช้เวลาตลอดทั้งวันอยู่บนเครื่องบิน ซึ่งชัดเลยว่าเงินโดนโจรกรรม!
เจ้าหน้าที่ ที่ติดต่อมาเลยแนะนำว่าให้ไปแจ้งความ แล้วไปติดต่อที่ธนาคารสาขาใกล้บ้านโดยด่วน จขกท ก็ออกไปจัดการ ตามที่บอกมาคือ ไปแจ้งความ,ไปติดต่อธนาคารสาขาใกล้บ้าน+แจ้งยกเลิกการทำรายการ
หลังจากนั้น จขกท ก็ติดต่อกลับเจ้าหน้าที่ศูนย์ใหญ่ว่า ความคืบหน้าจะเป็นอย่างไร โอกาสได้เงินคืนมีไหม ธนาคารจะช่วยเหลืออย่างไรบ้าง ทางเจ้าหน้าที่ที่ประสานมาก็บอกประมาณว่า "ตอนนี้ทางเราคงช่วยได้แค่ตามเรื่อง เนื่องจากความรับผิดชอบอยู่ที่ลูกค้า เพราะหลักฐานการโอนจ่ายเป็นชื่อเรา (อ้าวววว!???).."
เท่านั้นแหละ จขกทนี้ปล่อยโฮเลยค่ะ คือเงินจำนวนเยอะนะ แล้วมันความผิดลูกค้าหรอคะ เราเชื่อใจ ไว้ใจฝากเงินไว้ที่ธนาคารคุณ แต่พอเงินหาย ดันไม่มีหลักประกัน หรือการชดเชยใดๆ บอกแค่จ่ายผ่านชื่อลูกค้า ก็เออไง เขาแฮคบัญชีไป ก็ต้องจ่ายผ่านชื่อ จขกทไง แล้วไง!? คือ จขกท ผิดใช่ไหมคะ!?
หลังจากร้องไห้กลางธนาคาร เจ้าหน้าที่สาขาที่รับเรื่องคงสงสารจขกท พี่แกติดต่อกลับไปสำนักงานใหญ่ให้อีกรอบ แบบช่วยเต็มที่แหละ,, แต่คำตอบก็พอรู้ๆ ว่าคงไม่ได้เงินคืน T___T
เครียดมากกกกกก ตอนนี้ก็ได้แต่รอการติดต่อกลับจากธนาคาร(ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่)
ควรจะทำยังไงดีคะ รอต่อไป รึยังไงดี ตามตรงว่ากลัวโดนดองเรื่อง เงินห้าหมื่นนี้เยอะมากเลยนะคะ สำหรับจขกท
ปล. บัตรจขกท อยู่กับตัวตลอดค่ะ ไม่มีใครแตะ มีแค่จขกทที่รู้รหัส
ปล.2 จขกท เรียนที่สเปนค่ะ แต่ส่วนมากใช้บัตรกดเงินผ่านตู้ค่ะ ไม่ได้ใช้ e-banking ปกติจะเช็คยอดเงินก็คือให้คุณพ่อนำสมุดไปปรับให้ที่ธนาคาร
*เจ้าของกระทู้ ยืมไอดีพี่ชายมาโพสนะคะ
ด้านล่างคือหลักฐานการเดินทาง และ หน้า Book Bank นะคะ
****** อัพเดท ******
09:30 เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ไม่สามารถคืนเงินให้ จขกท ได้ เนื่องจากข้อมูลการโอนเป็นตัว จขกท ส่วนเงินโอนได้โอนไปที่บัญชีในประเทศอินเดีย จขกท ก็ยืนยันว่า วันและเวลาดังกล่าว จขกท ไม่ใช่คนทำรายการ เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่า "ทราบว่าคุณไม่ได้ทำรายการ แต่ข้อมูลมันยืนยันว่าเป็นตัวตนคุณเอง(เขาพูดถึงsms แจ้งเตือน ซึ่งจขกท ก็ไม่เคยได้รับนะคะ) คุณต้องหาหลักฐานมายืนยันนะว่าไม่ใช่คุณ"
15:18 เจ้าหน้าที่ศูนย์ใหญ่โทรมาแจ้งความคืบหน้า คุยประมาณ 10 นาที สรุปได้ความว่า ทางธนาคารจะดูแลเคสให้เป็นกรณีพิเศษ ตอนนี้ก็ให้จขกท รอให้เป็นไปตามกระบวนการการตรวจสอบของทางธนาคาร(ระยะเวลาประมาณ 30 วัน)
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นและคำแนะนำนะคะ ตอนนี้ก็ต้องรอดูผลต่อไป