Tomorrow Land
ภาพยนตร์แนวยูโทเปีย ที่หาดูได้ยากแล้วในยุคดิสโทเปียครองเมือง
หนังมี 2 พาร์ค ครึ่งแรกก่อนเข้าสู่ Tomorrowland และครึ่งหลังจากเข้าสู่โลกของ Tomorrowland แล้ว
เริ่มเรื่องที่เล่าถึงตัวเอกชายในวัยเด็กของเขา(แฟรงก์ วอคเกอร์) ยุคเฟื่องฟูของนักประดิษฐ์
งานแฟร์ คือสิ่งที่เด็กๆ ทั่วโลกใฝ่ฝันถึง จินตนาการสุดล้ำแห่งโลกอนาคตของคนยุค 1965
ยุคเฟื่องฟูแห่งยูโทเปีย โลกอนาคตสวยงาม อุปกรณ์ไฮเทคสุดล้ำ กำเนิดสตาร์วอร์ สตาร์เทรค
และหนังยูโทเปียอีกหลายๆ เรื่อง ที่บอกเล่าถึงโลกแห่งอนาคตที่น่าอยู่
พวกเขาเหล่านั้นมีความฝัน เป็นนักคิด และเราได้เห็นจินตนาการของเด็กๆ ยุคนั้น
Tomorrowland ในยุคของแฟรงค์ ทั้งสวยงาม ตระการตา ไฮเทค
แล้วตัดมาที่ตัวเอกหญิงของเรา(เคย์ซี่ นิวตัน) เด็กที่เป็นตัวแทนของคนยุค 2015
แน่นอน เรามีสิ่งประดิษฐ์ของคนรุ่น ก่อนๆ คิดค้นขึ้นมาเพื่อความสะดวกสบาย
เพื่อความสวยงาม iPhone คอนโดโมเดิร์นสุดล้ำ รถยนต์ไฮเทคสุดหรู
อุปกรณ์ไอที สั่งงานด้วยเสียง ทัชสกรีน สแกนม่านตา มันเป็นสิ่งที่ คนรุ่น 1965
ได้แต่จินตนาการถึง มันเป็นจริงแล้ว มันสำเร็จแล้ว
แต่ความคาดหวังในเรื่องโลกอนาคตกลับสวนทางกัน เรามีเทคโนโลยีที่ดีขึ้น
แต่เราคาดหวังในโลกอนาคตลดน้อยลง หนังแนวดิสโทเปีย กำลังได้รับความนิยม
มันสะท้อนถึงอะไร The Hunger Game, Divergent, Mad Max, Book of Eli, Walking Dead, I am Legend, 2012 etc.
เรามองแต่ความสิ้นหวังในโลกอนาคต โลกของ Tomorrowland ที่เคย์ซี่เดินทางไปถึง
มันคือจินตนาการของคนรุ่นนี้ ไม่มีอะไร มีแต่ความรกร้าง สกปรก ว่างเปล่า สิ้นหวัง ไม่สวยงาม
เราทุกคนสิ้นหวังกับโลกอนาคต เรากอดความสิ้นหวังนั้นไว้ โลกจะแตก น้ำจะท่วมโลก เกิดความอดอยากไปทั่ว
อาชญากรรม สงคราม จะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เราได้แต่นั่งดู แล้วรอวันที่มันจะเกิดขึ้น แต่ไม่มีใครคิดจะแก้ไขอะไรเลย
ทุกคนเห็นอนาคตในแบบดิสโทเปีย และยอมรับมัน รอวันให้มันเกิดขึ้น
แต่เชื่อเถอะ บนโลกใบนี้ยังมีกลุ่มคนแบบเคย์ซี่ คนที่เป็นนักคิด นักฝัน และไม่ยอมแพ้ พวกเขาพร้อมที่จะสร้าง Tomorrowland
ที่สวยงามขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งรถยนต์ไฮโดรเจน พลังงานสะอาด พลังงานทดแทน ขยะแบบรีไซเคิล
ยังมีคนอีกมากมายที่ไม่ยอมแพ้ และสู้เพื่ออนาคตที่ดีกว่า
แล้วเราจะมีส่วนช่วยสร้าง Tomorrowland ขึ้นมาได้อย่างไร
ก็ตามที่เคย์ซี่บอกนั่นแหละ ฉันเป็นคนคิดบวก และไม่ยอมแพ้
เรากำลังถูกล้างสมอง ถูกกรอกหูทุกวัน เรื่องดิสโทเปีย เรื่องโลกแตก เรื่องสงคราม
เราวิตกกังวล และคิดลบ เรายอมแพ้ เรายอมรับมัน
มีหมาป่าสองตัวมักจะทะเลาะกันเสมอๆ ตัวหนึ่ง สิ้งหวังและคิดลบ ตัวหนึ่งไม่ยอมแพ้และคิดบวก
คุณคิดว่าหมาป่าตัวไหนจะชนะ
สปอยล์รุนแรง ปมมอนิเตอร์และตอนจบของหนัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เดิมทีโลกของ Tomorrow Land นั้นจะคัดเลือกคนด้วย AI อัจฉริยะ อธีน่า
โดยโปรแกรมของอธีน่าในรุ่นแรกนั้นคือการค้นหา นักคิด นักฝัน อัจฉริยะแห่งยุค
ทุกๆ ศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น นักวิทยาศาสตร์ นักดนตรี จิตรกร
แล้วเชิญพวกเขาเหล่านั้นมาร่วมสร้าง Tomorrow Land ด้วยกัน
โลกของ Tomorrow Land ในช่วงยุคของแฟรงค์จึงมีการประดิษฐ์คิดค้น อย่างไม่หยุดหย่อน
พัฒนาจินตนาการอย่างสร้างสรรค์ และทำให้มันเป็นจริง
มอนิเตอร์คืออะไร
มอนิเตอร์คือผลงานสิ่งประดิษฐ์ของ แฟรงค์ วอคเกอร์ เป็นสิ่งที่ไม่ควรสร้าง
และทำให้เขาถูกเนรเทศออกจาก Tomorrow Land
แฟรงค์นำความสิ้นหวังมาสู่ผู้คนทั้ง สองโลก ผ่านมอนิเตอร์
มอนิเตอร์สามารถ คำนวณวันตายของคนได้อย่างแม่นยำ
ถ้าเกิดคนเราทุกคนรู้วันตายที่แน่นอนล่ะ เราจะทำอะไรบ้าง สิ้นหวัง รอความตาย
และหยุดสร้างผลงานอะไรใหม่ๆ อย่างนั้นเหรอ แน่นอนว่าไม่ทุกคน
แต่ส่วนใหญ่ก็สิ้นหวัง รอความตาย มอนิเตอร์ของแฟรงค์นั้น ยังสามารถทำนาย
อนาคตของทุกๆ สิ่งบนโลกได้ด้วย แล้วก็พบกับจุดจบของโลก
หลังจากเนรเทศ แฟรงค์ วอคเกอร์ ออกจาก Tomorrow Land
ผู้ว่าการนิกซ์ แห่ง Tomorrow Land พยายามบอกทุกคนบนโลก
พยายามเตือน พยายามให้พวกเขาสู้ แต่พวกเขาก็มีผลลัพธ์คล้ายๆ กับคนใน Tomorrow Land
ผู้ว่าการนิกซ์ผิดหวังกับมนุษย์โลก จึงหยุดการค้นหาคน
กำจัดอธีน่า แยกชิ้นส่วนนาง และรอดูวันที่โลกถึงการแตกดับ ผ่านมอนิเตอร์ของแฟรงค์
แต่อธีน่า หนีออกมาจาก Tomorrow Land ไม่ยอมรับการแยกชิ้นส่วน
นางยังคงทำหน้าที่ของนางต่อไป คือการค้นหาผู้คน แต่นางเปลี่ยนเป้าหมาย
นางเปลี่ยนจากการค้นหา อัจฉริยะแห่งยุค เป็นค้นหาผู้ที่ไม่ยอมแพ้ และคิดบวกแทน
จนนางได้พบกับเคย์ซี่
ตอนจบของหนัง เคย์ซี่บอกว่า เพราะมอนิเตอร์เปิดอยู่ตลอด มันกระจายสัญญาณ
ล้างสมองทุกคน ให้สิ้นหวัง ยอมรับจุดจบของโลก เราต้องปิดมอนิเตอร์นั่นซะ
จะว่าไปมอนิเตอร์ก็เหมือนสื่อสมัยนี้ เต้าข่าว มั่ว เสี้ยม สร้างแต่ความรู้สึกด้านลบให้ผู้รับสาร
กรอกหูทุกวัน ล้างสมองทุกวัน จนทุกคนคิดลบ สิ้นหวังกับโลกใบนี้
การปิดมอนิเตอร์ เหมือนเป็นการบอกนัยๆ ว่า "กรุณาเสพสื่อ อย่างมีวิจารณญาณ"
เลือกเอาแต่ Inspiration จากสื่อมาสร้างกำลังใจ และต่อสู้กับข่าวแย่ๆ อย่างสร้างสรรค์
นั่นคือสาเหตุที่เคย์ซี่เชื่อว่า ถ้าเราทำลายมอนิเตอร์ โลกจะมีโอกาสรอด
ในตอนจบของหนัง เคย์ซี่ เลือกที่จะสร้าง AI แบบอธีน่า ขึ้นมาใหม่ แต่ให้ความคิด อิสระ
จัดการคัดหาผู้คนยุคใหม่ เลือดใหม่ เข้ามาร่วมสร้าง Tomorrow Land กันขึ้นมาใหม่
โดยเปลี่ยนเป้าหมายจากการค้นหา อัจฉริยะแห่งยุค เปลี่ยนเป็นค้นหาคนที่คิดบวก และไม่ยอมแพ้แบบเคย์ซี่แทน
ในตอนท้ายเราจะเห็น ผู้ที่ได้รับการคัดเลือก คือผู้คนทั่วไป ที่ไม่ได้เป็นคนพิเศษ
แต่พวกเขาพร้อมที่จะเป็นกำลังใจ เป็นแรงบรรดาลใจ ให้ผู้คนอีกนับหมื่น นับล้านบนโลกใบนี้
CG ตระการตา อย่าได้หาเหตุผลของหนัง เพราะหนังมันกำลังปั้นจินตนาการในวัยเด็กของเด็ก 2 ยุคให้เป็นจริงขึ้นมา
ตอนเราเป็นเด็ก เราก็จินตนาการไม่ใช่หรอ โลกอนาคตน่ะ หอไอเฟลเป็นจรวด
โลกอีกมิตินึง ที่สวยงาม เพื่อนในจินตนาการที่เหนือมนุษย์แบบอธีน่า มันเป็นจินตนาการในวัยเด็กเราทั้งนั้น
หนังไม่บู๊เลย บู๊น้อยมาก ไสตล์เด็กๆ อย่าหวังหนังบู๊ ปมของหนังมาแล้ว คลี่คลายเร็วมาก เพราะหนังมันเป็นหนังเด็ก
ดิสนีย์กำลังปั้นเด็กรุ่นใหม่ ให้มีความคิดฝัน จินตนาการเวอร์วัง และไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ แบบคนรุ่น 1965
9/10 เลย สำหรับคนที่มโนเก่งอย่างผม
Tomorrow Land ภาพยนตร์แนวยูโทเปีย ที่หาดูได้ยากแล้วในยุคดิสโทเปียครองเมือง เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ
ภาพยนตร์แนวยูโทเปีย ที่หาดูได้ยากแล้วในยุคดิสโทเปียครองเมือง
หนังมี 2 พาร์ค ครึ่งแรกก่อนเข้าสู่ Tomorrowland และครึ่งหลังจากเข้าสู่โลกของ Tomorrowland แล้ว
เริ่มเรื่องที่เล่าถึงตัวเอกชายในวัยเด็กของเขา(แฟรงก์ วอคเกอร์) ยุคเฟื่องฟูของนักประดิษฐ์
งานแฟร์ คือสิ่งที่เด็กๆ ทั่วโลกใฝ่ฝันถึง จินตนาการสุดล้ำแห่งโลกอนาคตของคนยุค 1965
ยุคเฟื่องฟูแห่งยูโทเปีย โลกอนาคตสวยงาม อุปกรณ์ไฮเทคสุดล้ำ กำเนิดสตาร์วอร์ สตาร์เทรค
และหนังยูโทเปียอีกหลายๆ เรื่อง ที่บอกเล่าถึงโลกแห่งอนาคตที่น่าอยู่
พวกเขาเหล่านั้นมีความฝัน เป็นนักคิด และเราได้เห็นจินตนาการของเด็กๆ ยุคนั้น
Tomorrowland ในยุคของแฟรงค์ ทั้งสวยงาม ตระการตา ไฮเทค
แล้วตัดมาที่ตัวเอกหญิงของเรา(เคย์ซี่ นิวตัน) เด็กที่เป็นตัวแทนของคนยุค 2015
แน่นอน เรามีสิ่งประดิษฐ์ของคนรุ่น ก่อนๆ คิดค้นขึ้นมาเพื่อความสะดวกสบาย
เพื่อความสวยงาม iPhone คอนโดโมเดิร์นสุดล้ำ รถยนต์ไฮเทคสุดหรู
อุปกรณ์ไอที สั่งงานด้วยเสียง ทัชสกรีน สแกนม่านตา มันเป็นสิ่งที่ คนรุ่น 1965
ได้แต่จินตนาการถึง มันเป็นจริงแล้ว มันสำเร็จแล้ว
แต่ความคาดหวังในเรื่องโลกอนาคตกลับสวนทางกัน เรามีเทคโนโลยีที่ดีขึ้น
แต่เราคาดหวังในโลกอนาคตลดน้อยลง หนังแนวดิสโทเปีย กำลังได้รับความนิยม
มันสะท้อนถึงอะไร The Hunger Game, Divergent, Mad Max, Book of Eli, Walking Dead, I am Legend, 2012 etc.
เรามองแต่ความสิ้นหวังในโลกอนาคต โลกของ Tomorrowland ที่เคย์ซี่เดินทางไปถึง
มันคือจินตนาการของคนรุ่นนี้ ไม่มีอะไร มีแต่ความรกร้าง สกปรก ว่างเปล่า สิ้นหวัง ไม่สวยงาม
เราทุกคนสิ้นหวังกับโลกอนาคต เรากอดความสิ้นหวังนั้นไว้ โลกจะแตก น้ำจะท่วมโลก เกิดความอดอยากไปทั่ว
อาชญากรรม สงคราม จะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เราได้แต่นั่งดู แล้วรอวันที่มันจะเกิดขึ้น แต่ไม่มีใครคิดจะแก้ไขอะไรเลย
ทุกคนเห็นอนาคตในแบบดิสโทเปีย และยอมรับมัน รอวันให้มันเกิดขึ้น
แต่เชื่อเถอะ บนโลกใบนี้ยังมีกลุ่มคนแบบเคย์ซี่ คนที่เป็นนักคิด นักฝัน และไม่ยอมแพ้ พวกเขาพร้อมที่จะสร้าง Tomorrowland
ที่สวยงามขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งรถยนต์ไฮโดรเจน พลังงานสะอาด พลังงานทดแทน ขยะแบบรีไซเคิล
ยังมีคนอีกมากมายที่ไม่ยอมแพ้ และสู้เพื่ออนาคตที่ดีกว่า
แล้วเราจะมีส่วนช่วยสร้าง Tomorrowland ขึ้นมาได้อย่างไร
ก็ตามที่เคย์ซี่บอกนั่นแหละ ฉันเป็นคนคิดบวก และไม่ยอมแพ้
เรากำลังถูกล้างสมอง ถูกกรอกหูทุกวัน เรื่องดิสโทเปีย เรื่องโลกแตก เรื่องสงคราม
เราวิตกกังวล และคิดลบ เรายอมแพ้ เรายอมรับมัน
มีหมาป่าสองตัวมักจะทะเลาะกันเสมอๆ ตัวหนึ่ง สิ้งหวังและคิดลบ ตัวหนึ่งไม่ยอมแพ้และคิดบวก
คุณคิดว่าหมาป่าตัวไหนจะชนะ
สปอยล์รุนแรง ปมมอนิเตอร์และตอนจบของหนัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
CG ตระการตา อย่าได้หาเหตุผลของหนัง เพราะหนังมันกำลังปั้นจินตนาการในวัยเด็กของเด็ก 2 ยุคให้เป็นจริงขึ้นมา
ตอนเราเป็นเด็ก เราก็จินตนาการไม่ใช่หรอ โลกอนาคตน่ะ หอไอเฟลเป็นจรวด
โลกอีกมิตินึง ที่สวยงาม เพื่อนในจินตนาการที่เหนือมนุษย์แบบอธีน่า มันเป็นจินตนาการในวัยเด็กเราทั้งนั้น
หนังไม่บู๊เลย บู๊น้อยมาก ไสตล์เด็กๆ อย่าหวังหนังบู๊ ปมของหนังมาแล้ว คลี่คลายเร็วมาก เพราะหนังมันเป็นหนังเด็ก
ดิสนีย์กำลังปั้นเด็กรุ่นใหม่ ให้มีความคิดฝัน จินตนาการเวอร์วัง และไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ แบบคนรุ่น 1965
9/10 เลย สำหรับคนที่มโนเก่งอย่างผม