เปิด Netflix เห็นหนังชุดใหม่เรื่องอนาคต เปิดดูเรื่องแรก นิราศแกะดำ เรื่องนี้ชื่นชมนักแสดงทั้งตัวเอกชาย คนอื่นๆยังต้องฝึกหัดอีก บทเดินไปด้วยแรงผลักของนักเล่าเรื่อง จึงอ่อนเรื่องความเป็นไปได้-เหตุผลและความสมจริง สิ่งที่หนังทำได้คือฉากที่เป็นจินตนาการ เช่นการ สร้างหัวใจ ฉากการโคลนสมอง อาจเพราะเทคนิคคอมพิวเตอร์กราฟฟิคไม่ต้องมีเหตุผล หนังจึงขาดเสน่ห์ของการเล่าเรื่องอย่างที่ควรเป็น ดูทั้งเรื่องจบ ชื่นชมนักแสดงชาย (ปกรณ์-บอย) และการทำภาพกราฟฟิคที่ดี บทอ่อน การกำกับอ่อนเกินมาตรฐาน Netflix ฉากขโมยศพ บุกจับตัว ดวงจันทร์ อ่อนเกินจนไม่น่าเชื่อว่าจะผ่านมาตรฐาน netflix
ดูเรื่องที่สอง เทคโนโยนี เหมือนดูหนังปกขาวฉบับไม่ปกปิด บวกหนังเอ็กซ์ ไม่มีศิลปะของการแสงและเงา หรือการเล่าเรื่องเลย ศิลปะของภาพยนตร์ยับเยินหมด (หนังเอกซ์ยังชวนดูดีกว่า)
ดูเรื่องที่สาม ศาสดาต้า น่าสลดใจที่กองภาพยนตร์ กระทรวงวัฒนธรรมปล่อยผ่านกับบทนี้ได้อย่างไร ถ้านี่คือการตีความแบบใหม่ ก็น่าตกใจ เรื่อง บท คำสนทนาทำลายศาสตร์ของภาพยนตร์พร้อมกับหลักคิดพื้นฐานของศาสนาจนหมดสิ้น และเหยียบย่ำความเจริญของเทคโนโลยีไปพร้อมกัน ดูแล้วเหมือนเด็กแปดขวบพยายามอธิบายพระไตรปิฏก สิ่งที่เด็กพูดและเห็นก็เพียงแค่ตู้และกระจก ตำหนิติติงสันปก สี และ font เหตุผลที่นำมาเล่าเรื่องไม่สนับสนุนจินตนาการที่สร้างไว้ คำสนทนาของตัวละครเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เรื่องน่าสนใจ เพราะมันสะท้อนสันดานดิบแบบสัตว์โลก
ดูหนังทั้งสาม ขอเขียนบันทึกไว้ว่า ไม่มีศิลปะของการเล่าเรื่องแบบภาพยตร์ มีเทคนิคของแสงและเงาน้อย ไม่มีวรรณศิลป์ในการลำดับภาพ มีศิลปะการถ่ายภาพ แต่มีเทคนิคของคอมพิวเตอร์และตรรกะเล่าเรื่องแบบเกมคอมพิวเตอร์ (ปะ-ฉะ-ดะ) ทำให้คนดูไม่ต้องคิดอะไร เพราะหนังจับยัดคำถาม-คำตอบให้เสร็จ ดูแล้วเอาสะใจ ไม่ต้องคิดมาก ไม่จรรโลงใจ ไม่สร้างปมคิดใหม่
หนังสาธุว่า แย่แล้ว อนาคต นับเป็นซีรีย์ที่หนักกว่าหลายเท่า (อดคิดไม่ได้ว่าการตีความใหม่แบบนี้ ตั้งใจทำลายวัฒนธรรมและศาสตร์ภาพยนตร์ไทยหรือเปล่าหนอ เอาเรื่องแย่ๆ แล้วมาแนะนำตัวอย่างที่ดีจากเรื่องแย่ๆ มันจะเป็นไปได้หรือ ??
Tomorrow (พรุ่งนี้) ซี่รีย์เกาหลีที่ตีความนรกแบบใหม่, Death’s Game (ตาย12 ชาติ) ที่ตีความเรื่องเวียนว่ายตายเกิดเป็นกฎแห่งกรรม มันลุ่มลึก และเข้ากันได้กับศาสตร์ภาพยนตร์
อยากเชียร์คนไทยทำหนัง แต่ก็ขอวิพากษ์วิจารณ์ตามความเป็นจริง คุณภาพแบบนี้ต้องเรียน ต้องฝึกอีกเยอะ
อดแปลกใจกับการคัดเลือกคุณภาพ หรือ มาตรฐานของ Netflix
ถ้าช่อง คัดเลือกมาตรฐานระดับนี้ แล้วคิดว่า มาตรฐานการคัดเลือกหนังไทยจะต่ำ แต่คิดอีกที หรือ ช่องไม่กล้ากำหนดเกณฑ์ แต่ให้คนดู เป็นคนคัดเลือกและตัดสินเอง อย่างนี้ก็ถือว่าช่องใจดำ มีอะไรก็ยัดเยียดให้คนดู (ซึ่งเสียตังค์) ดูเอง เลือกเอง ตัดสินใจเอง
สาธุว่าแย่แล้ว ก็มีความเป็นภาพยนตร์ดีกว่า ซี่รี่ย์ อนาคน หลายช่วงตัว
[CR] ซีรี่ย์ อนาคต/Netflix สร้างสรรค์หรือทำลาย ภาพยนตร์ไทย
ดูเรื่องที่สอง เทคโนโยนี เหมือนดูหนังปกขาวฉบับไม่ปกปิด บวกหนังเอ็กซ์ ไม่มีศิลปะของการแสงและเงา หรือการเล่าเรื่องเลย ศิลปะของภาพยนตร์ยับเยินหมด (หนังเอกซ์ยังชวนดูดีกว่า)
ดูเรื่องที่สาม ศาสดาต้า น่าสลดใจที่กองภาพยนตร์ กระทรวงวัฒนธรรมปล่อยผ่านกับบทนี้ได้อย่างไร ถ้านี่คือการตีความแบบใหม่ ก็น่าตกใจ เรื่อง บท คำสนทนาทำลายศาสตร์ของภาพยนตร์พร้อมกับหลักคิดพื้นฐานของศาสนาจนหมดสิ้น และเหยียบย่ำความเจริญของเทคโนโลยีไปพร้อมกัน ดูแล้วเหมือนเด็กแปดขวบพยายามอธิบายพระไตรปิฏก สิ่งที่เด็กพูดและเห็นก็เพียงแค่ตู้และกระจก ตำหนิติติงสันปก สี และ font เหตุผลที่นำมาเล่าเรื่องไม่สนับสนุนจินตนาการที่สร้างไว้ คำสนทนาของตัวละครเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เรื่องน่าสนใจ เพราะมันสะท้อนสันดานดิบแบบสัตว์โลก
ดูหนังทั้งสาม ขอเขียนบันทึกไว้ว่า ไม่มีศิลปะของการเล่าเรื่องแบบภาพยตร์ มีเทคนิคของแสงและเงาน้อย ไม่มีวรรณศิลป์ในการลำดับภาพ มีศิลปะการถ่ายภาพ แต่มีเทคนิคของคอมพิวเตอร์และตรรกะเล่าเรื่องแบบเกมคอมพิวเตอร์ (ปะ-ฉะ-ดะ) ทำให้คนดูไม่ต้องคิดอะไร เพราะหนังจับยัดคำถาม-คำตอบให้เสร็จ ดูแล้วเอาสะใจ ไม่ต้องคิดมาก ไม่จรรโลงใจ ไม่สร้างปมคิดใหม่
หนังสาธุว่า แย่แล้ว อนาคต นับเป็นซีรีย์ที่หนักกว่าหลายเท่า (อดคิดไม่ได้ว่าการตีความใหม่แบบนี้ ตั้งใจทำลายวัฒนธรรมและศาสตร์ภาพยนตร์ไทยหรือเปล่าหนอ เอาเรื่องแย่ๆ แล้วมาแนะนำตัวอย่างที่ดีจากเรื่องแย่ๆ มันจะเป็นไปได้หรือ ??
Tomorrow (พรุ่งนี้) ซี่รีย์เกาหลีที่ตีความนรกแบบใหม่, Death’s Game (ตาย12 ชาติ) ที่ตีความเรื่องเวียนว่ายตายเกิดเป็นกฎแห่งกรรม มันลุ่มลึก และเข้ากันได้กับศาสตร์ภาพยนตร์
อยากเชียร์คนไทยทำหนัง แต่ก็ขอวิพากษ์วิจารณ์ตามความเป็นจริง คุณภาพแบบนี้ต้องเรียน ต้องฝึกอีกเยอะ
อดแปลกใจกับการคัดเลือกคุณภาพ หรือ มาตรฐานของ Netflix
ถ้าช่อง คัดเลือกมาตรฐานระดับนี้ แล้วคิดว่า มาตรฐานการคัดเลือกหนังไทยจะต่ำ แต่คิดอีกที หรือ ช่องไม่กล้ากำหนดเกณฑ์ แต่ให้คนดู เป็นคนคัดเลือกและตัดสินเอง อย่างนี้ก็ถือว่าช่องใจดำ มีอะไรก็ยัดเยียดให้คนดู (ซึ่งเสียตังค์) ดูเอง เลือกเอง ตัดสินใจเอง
สาธุว่าแย่แล้ว ก็มีความเป็นภาพยนตร์ดีกว่า ซี่รี่ย์ อนาคน หลายช่วงตัว
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้