พอดีมีเรื่องจะเเชร์นะคะ
เพื่อนเรามีนัดไปตรวจร่างกาย เพราะ H นี้บ่อยคะ เราว่างพอดีเลยมีโอกาสไปเป็นเพื่อน (ขอบอกก่อนนะคะ ว่า โรงพยาบาล นี้ เป็น โรงพยาบาลประจำจังหวัด เเละที่ที่เราอยู่เป็น เขตของพื้นที่การศึกษา เอาง่ายๆ ก็มีมหาวิทยาลัยนั้นเเหละ ) พอดีไปกับเพื่อน สิ่งที่ได้พบเห็น คือ ส่วนมากที่มารักษาเป็นนิสิต นักศึกษา บ้างรายหนักกว่านั้นคือ ยังไม่จบ ม.ปลายซะด้วยซ้ำ เรามองเเล้วรู้สึกเลยว่า สังคมปัจจุบันยังขาดความรู้ในการป้องกัน H มาก ก็อย่างว่าเเหละคะ เรื่องความรัก ความใคร่มันห้ามกันไม่ได้ บ้างรายที่ติดเชื้อ ก็จากคู่ของตัวเองบ้าง มั่วบ้าง บ้างรายไม่รู้ซะด้วยซ้ำว่าติดมาจากใคร เรารู้อย่างนี้รู้สึก ละเหี่ยใจมากคะ
มีรายนึงวันนั้นเราเห็นไปตรวจเชื้อเหมือนกันกับเพื่อนเรานี้เเหละคะ คราวนี้พอตกเย็น เราเห็นไปกินข้าวกับเเฟน ตัวเราเองนี้พอเห็นยังงั้น นั่งคิดเลยคะ 1. ว่าผู้หญิงที่เป็นเเฟนเขารู้มัยว่าเขามีเชื้อ
2. คนเป้นเเฟนกันต้องมีความสัมพันธ์ ลึกซึ้งกันอยู่เเล้ว (ถ้าป้องกันมันก็ดีไป เเต่ถ้าไม่ละคะ จะเป็นยังไง เเต่ที่คิดผู้ป่วยที่มีเชื้อ คงจะป้องกันตลอดอยู่เเล้ว เเต่ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ ที่เราไม่ได้ตั้งใจหล่ะคะ เช่น ถุงยางเเตกยังงี้หล่ะคะ จะทำยังไง)
ผู้ป่วยที่เราเห็นส่วนมาก เป็นคนที่หน้าตาดีทั้งนั้น รูปร่าง หน้าตา บุคลิก น่าใฝ่ฝันกันทั้งนั้น เห็นเเล้วเป็นต้องกริ๊ด ประเด็นคือ คนพวกนี้เดินสวนกับเราอยู่ตลอดเวลา ถ้าวันนึงเกิดเป็นเเฟนเราเอง เราจะทำยังไง ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ ถ้าเขาเองก็ไม่รู้ตัวหล่ะคะ ว่าเป็น H จะเป็นยังไง
ปล.โดยส่วนตัวนะคะ ไม่ได้รังเกียจคนที่มีเชื้อ เเต่เเค่กำลังคิดว่า ในสังคมที่เราใช้ชีวิตอยู่ทุกวันนี้ จะมีอีกกี่คนที่เป็น เเละที่น่ากลัวคือ คนที่เป็นเเล้วไม่รู้หล่ะ คนที่ไม่รู้เเล้วไม่ได้ตั้งใจเเพร่เชื้อให้คนอื่นๆอีกมากมาย เป็นเรื่องที่น่าคิดนะคะ เพราะอย่างต่ำๆ คนที่รู้ว่าตัวเองเป็น ก็มีโอกาสที่จะป้องกันที่จะไม่เเพร่เชื้อ รับยา และ ยังสามารถใช้ชีวิตต่อไปเหมือนคนปรกติคะ
ปล2. เเค่อยากให้ทุกคนเห็นคุณค่าของร่างกายที่ พ่อ เเม่ สร้างมาให้กับเรา ร่างกายนี้เป็นร่างกายที่ท่านตั้งใจเลี้ยงดู ให้เติบโต กว่าเราจะโตมาได้ขนาดนี้ ท่านเหนื่อยมาก เเค่อยากให้ถนอมตัวเองไว้ ใช้มันให้มีค่ามากที่สุด ไม่อยากให้ใช้เปลืองคะ
จะทำยังไงกับสังคม ปัจจุบัน เเล้วจะรู้ได้ไงว่าใครเป็นไม่เป็น เเล้วการสานความสัมพันจะเป็นยังไงต่อไป ??
เพื่อนเรามีนัดไปตรวจร่างกาย เพราะ H นี้บ่อยคะ เราว่างพอดีเลยมีโอกาสไปเป็นเพื่อน (ขอบอกก่อนนะคะ ว่า โรงพยาบาล นี้ เป็น โรงพยาบาลประจำจังหวัด เเละที่ที่เราอยู่เป็น เขตของพื้นที่การศึกษา เอาง่ายๆ ก็มีมหาวิทยาลัยนั้นเเหละ ) พอดีไปกับเพื่อน สิ่งที่ได้พบเห็น คือ ส่วนมากที่มารักษาเป็นนิสิต นักศึกษา บ้างรายหนักกว่านั้นคือ ยังไม่จบ ม.ปลายซะด้วยซ้ำ เรามองเเล้วรู้สึกเลยว่า สังคมปัจจุบันยังขาดความรู้ในการป้องกัน H มาก ก็อย่างว่าเเหละคะ เรื่องความรัก ความใคร่มันห้ามกันไม่ได้ บ้างรายที่ติดเชื้อ ก็จากคู่ของตัวเองบ้าง มั่วบ้าง บ้างรายไม่รู้ซะด้วยซ้ำว่าติดมาจากใคร เรารู้อย่างนี้รู้สึก ละเหี่ยใจมากคะ
มีรายนึงวันนั้นเราเห็นไปตรวจเชื้อเหมือนกันกับเพื่อนเรานี้เเหละคะ คราวนี้พอตกเย็น เราเห็นไปกินข้าวกับเเฟน ตัวเราเองนี้พอเห็นยังงั้น นั่งคิดเลยคะ 1. ว่าผู้หญิงที่เป็นเเฟนเขารู้มัยว่าเขามีเชื้อ
2. คนเป้นเเฟนกันต้องมีความสัมพันธ์ ลึกซึ้งกันอยู่เเล้ว (ถ้าป้องกันมันก็ดีไป เเต่ถ้าไม่ละคะ จะเป็นยังไง เเต่ที่คิดผู้ป่วยที่มีเชื้อ คงจะป้องกันตลอดอยู่เเล้ว เเต่ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ ที่เราไม่ได้ตั้งใจหล่ะคะ เช่น ถุงยางเเตกยังงี้หล่ะคะ จะทำยังไง)
ผู้ป่วยที่เราเห็นส่วนมาก เป็นคนที่หน้าตาดีทั้งนั้น รูปร่าง หน้าตา บุคลิก น่าใฝ่ฝันกันทั้งนั้น เห็นเเล้วเป็นต้องกริ๊ด ประเด็นคือ คนพวกนี้เดินสวนกับเราอยู่ตลอดเวลา ถ้าวันนึงเกิดเป็นเเฟนเราเอง เราจะทำยังไง ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ ถ้าเขาเองก็ไม่รู้ตัวหล่ะคะ ว่าเป็น H จะเป็นยังไง
ปล.โดยส่วนตัวนะคะ ไม่ได้รังเกียจคนที่มีเชื้อ เเต่เเค่กำลังคิดว่า ในสังคมที่เราใช้ชีวิตอยู่ทุกวันนี้ จะมีอีกกี่คนที่เป็น เเละที่น่ากลัวคือ คนที่เป็นเเล้วไม่รู้หล่ะ คนที่ไม่รู้เเล้วไม่ได้ตั้งใจเเพร่เชื้อให้คนอื่นๆอีกมากมาย เป็นเรื่องที่น่าคิดนะคะ เพราะอย่างต่ำๆ คนที่รู้ว่าตัวเองเป็น ก็มีโอกาสที่จะป้องกันที่จะไม่เเพร่เชื้อ รับยา และ ยังสามารถใช้ชีวิตต่อไปเหมือนคนปรกติคะ
ปล2. เเค่อยากให้ทุกคนเห็นคุณค่าของร่างกายที่ พ่อ เเม่ สร้างมาให้กับเรา ร่างกายนี้เป็นร่างกายที่ท่านตั้งใจเลี้ยงดู ให้เติบโต กว่าเราจะโตมาได้ขนาดนี้ ท่านเหนื่อยมาก เเค่อยากให้ถนอมตัวเองไว้ ใช้มันให้มีค่ามากที่สุด ไม่อยากให้ใช้เปลืองคะ