พระไตรปิฎก เล่มที่ ๔ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๔
มหาวรรค ภาค ๑
เรื่องยสกุลบุตร
[๓๒]
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราพ้นแล้วจากบ่วงทั้งปวง ทั้งที่เป็นของทิพย์ ทั้งที่เป็นของมนุษย์
แม้พวกเธอก็พ้นแล้วจากบ่วงทั้งปวงทั้งที่เป็นของทิพย์ ทั้งที่เป็นของมนุษย์
พวกเธอจงเที่ยวจาริก เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ชนหมู่มาก เพื่ออนุเคราะห์โลก
เพื่อประโยชน์เกื้อกูลและความสุขแก่ทวยเทพและมนุษย์
พวกเธออย่าได้ไปรวมทางเดียวกันสองรูป จงแสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด
จงประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถทั้งพยัญชนะครบบริบูรณ์ บริสุทธิ์
สัตว์ทั้งหลายจำพวกที่มีธุลีคือกิเลสในจักษุน้อย มีอยู่ เพราะไม่ได้ฟังธรรมย่อมเสื่อม
ผู้รู้ทั่วถึงธรรม จักมี
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เราก็จักไปยังตำบลอุรุเวลาเสนานิคม เพื่อแสดงธรรม.
(สมัยที่ตรัสนั้น มีพระอรหันต์เกิดขึ้นในโลกแล้ว ๖๑ องค์)
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=4&A=576&Z=777
☆☆☆☆☆☆☆☆
พระอริยสาวกรุ่นแรกๆ เช่น พระยสะ พระสุพาหุ พระวิมละ พระปุณณชิ พระควัมปติ เป็นต้น
ที่พระพุทธองค์
ทรงส่งไปเผยแพร่ ประกาศพระศาสนา ก็สอนและถ่ายทอดคำสอนของพระศาสดาว่า
พระศาสดาสอนอย่างนี้ๆ (ให้เห็นว่า versus กับคำสอนของ
เจ้าลัทธิอื่นๆ) แก่
นอกพุทธบริษัท
หรือพวกที่
ยังไม่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เพราะตอนนั้นพระธรรมและพระสงฆ์ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักทั่วไป
จึงเป็นธรรมดาจะพูดว่า พระศาสดาทรงสอนอย่างนี้ๆ
แต่ตอนนี้พระศาสดาก็ได้ประกาศรัตนะครบ 3 แล้วคือ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ (พระอริยสงฆ์)
ดังนั้น เมื่อแสดงธรรม
ในพุทธบริษัทอยู่แล้ว จึงไม่เห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องมาบอกว่า ลักษณะพิเศษของคำของพระศาสดา ...
ไม่อย่างนั้น คนก็จะเข้าใจผิดได้ว่า คำสอนของ
อริยสาวกเป็นปฏิปักษ์กับคำสอนของพระศาสดาหรืออย่างไร
ถึงได้กล่าวแปลกแยกอย่างนั้น
หลวงปู่หลวงตา พระอาจารย์ยุคนี้ ยกไว้ แต่พระอริยสงฆ์สมัยพุทธกาลซึ่งเป็นสังฆรัตนะ ย่อมสมควรอยู่ในสถานะ
ที่เราเคารพบูชาอย่างแน่นอน
อย่าทำกรรมหนักโดยพยายาม ตัด/ข่ม สังฆรัตนะออกจากพระรัตนตรัย
เพราะพระอริยสาวกเหล่านั้น ก็เผยแพร่คำสอนของพระศาสดาอยู่แล้ว
อย่างเช่น พระอริยสาวกรุ่นแรกๆ ที่กล่าวมาข้างบน ท่านก็ไม่ได้เป็นเอตทัคคะใดๆ พระศาสดาก็ยังทรงวางพระทัย
มอบหมายให้พวกท่านไปเผยแพร่พระศาสนา
ข้าพระพุทธเจ้านี้ ขอถึงพระผู้มีพระภาค พระธรรม และพระสงฆ์ ว่าเป็นสรณะ
ขอพระองค์จงทรงจำข้าพระพุทธเจ้าว่า เป็นอุบาสกผู้มอบชีวิตถึงสรณะจำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป.
ก็เศรษฐีผู้คหบดีนั้น (บิดาของยสกุลบุตร) ได้เป็นอุบาสกกล่าวอ้างพระรัตนตรัย เป็นคนแรกในโลก.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/tipitaka_seek.php?text=%E0%BB%E7%B9%CA%C3%B3%D0&book=1&bookZ=45
สังฆรัตนะ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/tipitaka_seek.php?text=%CA%D1%A7%A6%C3%D1%B5%B9&book=1&bookZ=45
... ข้าพระพุทธเจ้านี้ ขอถึงพระผู้มีพระภาค พระธรรม และพระสงฆ์ ว่าเป็นสรณะ ...
มหาวรรค ภาค ๑
เรื่องยสกุลบุตร
[๓๒] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราพ้นแล้วจากบ่วงทั้งปวง ทั้งที่เป็นของทิพย์ ทั้งที่เป็นของมนุษย์
แม้พวกเธอก็พ้นแล้วจากบ่วงทั้งปวงทั้งที่เป็นของทิพย์ ทั้งที่เป็นของมนุษย์
พวกเธอจงเที่ยวจาริก เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ชนหมู่มาก เพื่ออนุเคราะห์โลก
เพื่อประโยชน์เกื้อกูลและความสุขแก่ทวยเทพและมนุษย์
พวกเธออย่าได้ไปรวมทางเดียวกันสองรูป จงแสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด
จงประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถทั้งพยัญชนะครบบริบูรณ์ บริสุทธิ์
สัตว์ทั้งหลายจำพวกที่มีธุลีคือกิเลสในจักษุน้อย มีอยู่ เพราะไม่ได้ฟังธรรมย่อมเสื่อม
ผู้รู้ทั่วถึงธรรม จักมี
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เราก็จักไปยังตำบลอุรุเวลาเสนานิคม เพื่อแสดงธรรม.
(สมัยที่ตรัสนั้น มีพระอรหันต์เกิดขึ้นในโลกแล้ว ๖๑ องค์)
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=4&A=576&Z=777
พระอริยสาวกรุ่นแรกๆ เช่น พระยสะ พระสุพาหุ พระวิมละ พระปุณณชิ พระควัมปติ เป็นต้น
ที่พระพุทธองค์ทรงส่งไปเผยแพร่ ประกาศพระศาสนา ก็สอนและถ่ายทอดคำสอนของพระศาสดาว่า
พระศาสดาสอนอย่างนี้ๆ (ให้เห็นว่า versus กับคำสอนของเจ้าลัทธิอื่นๆ) แก่นอกพุทธบริษัท
หรือพวกที่ยังไม่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เพราะตอนนั้นพระธรรมและพระสงฆ์ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักทั่วไป
จึงเป็นธรรมดาจะพูดว่า พระศาสดาทรงสอนอย่างนี้ๆ
แต่ตอนนี้พระศาสดาก็ได้ประกาศรัตนะครบ 3 แล้วคือ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ (พระอริยสงฆ์)
ดังนั้น เมื่อแสดงธรรมในพุทธบริษัทอยู่แล้ว จึงไม่เห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องมาบอกว่า ลักษณะพิเศษของคำของพระศาสดา ...
ไม่อย่างนั้น คนก็จะเข้าใจผิดได้ว่า คำสอนของอริยสาวกเป็นปฏิปักษ์กับคำสอนของพระศาสดาหรืออย่างไร
ถึงได้กล่าวแปลกแยกอย่างนั้น
หลวงปู่หลวงตา พระอาจารย์ยุคนี้ ยกไว้ แต่พระอริยสงฆ์สมัยพุทธกาลซึ่งเป็นสังฆรัตนะ ย่อมสมควรอยู่ในสถานะ
ที่เราเคารพบูชาอย่างแน่นอน
อย่าทำกรรมหนักโดยพยายาม ตัด/ข่ม สังฆรัตนะออกจากพระรัตนตรัย
เพราะพระอริยสาวกเหล่านั้น ก็เผยแพร่คำสอนของพระศาสดาอยู่แล้ว
อย่างเช่น พระอริยสาวกรุ่นแรกๆ ที่กล่าวมาข้างบน ท่านก็ไม่ได้เป็นเอตทัคคะใดๆ พระศาสดาก็ยังทรงวางพระทัย
มอบหมายให้พวกท่านไปเผยแพร่พระศาสนา
ขอพระองค์จงทรงจำข้าพระพุทธเจ้าว่า เป็นอุบาสกผู้มอบชีวิตถึงสรณะจำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป.
ก็เศรษฐีผู้คหบดีนั้น (บิดาของยสกุลบุตร) ได้เป็นอุบาสกกล่าวอ้างพระรัตนตรัย เป็นคนแรกในโลก.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/tipitaka_seek.php?text=%E0%BB%E7%B9%CA%C3%B3%D0&book=1&bookZ=45
สังฆรัตนะ http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/tipitaka_seek.php?text=%CA%D1%A7%A6%C3%D1%B5%B9&book=1&bookZ=45