ครอบครัวผมมีโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็ก เคยมีรายได้ 10-20 ล้านต่อปี
แต่ปัจจุบันมีรายได้ประมาณ 5 ล้านบาทต่อปี ในขณะที่รายจ่ายยังเท่าเดิม ทำให้ประสบปัญหาหนี้สินมากมาย
ธุรกิจนี้คุณพ่อผมเป็นคนเริ่มครับ ท่านเป็นวิศวกรที่เก่ง ที่ธุรกิจยังอยู่ได้เพราะอาศัยเครดิตของท่านล้วนๆ
บ.มีเครื่องจักรพร้อมผลิต ปกติผลิตชิ้นส่วน อะไหล่รถยนต์ และมอเตอร์ไซต์ หรือชิ้นส่วนต่างๆที่เป็นโลหะ
ปัญหาหลักตอนนี้คือ
1. การเงินของบริษัทย่ำแย่มาก ติดลบทุกเดือน ต่อให้ขายกิจการก็ยังใช้หนี้ไม่หมด
2. ลูกค้าเอา know-how ของบ.ไปผลิตเองและยกเลิกการผลิตทั้งหมดกับบ.ทำให้สูญรายได้มหาศาล
3. ลูกค้าปัจจุบันสั่งงานน้อยลง และจ่ายเงินช้า โดยให้เหตุผลเรื่องสภาพเศรษฐกิจ ทำให้บ.หมุนเงินไม่ทันต้องไปกู้นอกระบบ
4. ลูกค้าปัจจุบันที่สั่งงานล็อตใหญ่ มักมีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อมากดราคา และเรียก% จนแทบจะไม่เหลือกำไร
แต่ถ้าไม่ให้เค้า เค้าก็ไม่ให้งานผม
บางคนอาจจะบอกว่า ก็แจ้งไปยังเจ้าของบริษัท หรือผู้บริหารระดับสูงสิ
ผมขออนุญาตตอบไว้ล่วงหน้าก่อนเลยว่า เคยเจอแล้วครับ ที่ผู้บริหารระดับสูงย้ายผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อออกเพื่อป้องกันการทุจริต
แต่มันไม่ช่วยอะไรเลย คนใหม่มาก็กินเหมือนเดิม
5. หาลูกค้าใหม่ไม่ได้ ผมส่งตัวอย่างไปที่ฝ่ายจัดซื้อ ให้เสนอราคาแต่ก็เงียบตลอด
ตัวผมเองเปิดโรงเรียนอนุบาลเล็กๆ แต่รายได้ไม่มากพอที่จะเอามากู้สถานการณ์ที่บ.ได้ ทำได้แค่พยุงให้ผ่านไปแต่ละเดือน
ผมอยากรู้ว่าควรจะเริ่มต้นหาทางแก้ไขยังไง
สิ่งที่ผมคิดไม่ออกคือผมจะเอาสินค้าอะไรไปขายให้ตลาด และผมควรจะเลือกเข้าตลาดไหน
ผมจะค้นหายังไงดีครับว่า สินค้าอะไรที่จะกู้สถานการณ์ให้กับธุรกิจของครอบครัวผม และใครจะเป็นผู้ซื้อของผมดี
ควรจะหาข้อมูลยังไงบ้างครับ
ขอคำแนะนำจากทุกคนด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ
ปล. ผมลืมบอกเหตุผลไปที่ทำไมผมอยากกู้กิจการนี้
1. ผมคิดว่ากิจการนี้เคยทำได้ดีตลอดมา แต่ที่มาแย่ช่วงหลังเพราะปรับตัวไม่ทันกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปแต่บ.ยังมีการบริหารแบบเก่า
ดังนั้นถ้าเปลี่ยนวิธีการบริหาร การจัดการ การตลาดต่างๆ ก็น่าจะกลับมาทำเงินได้
2. ลำพังโรงเรียนของผม ไม่สามารถใช้หนี้ก้อนใหญ่ของครอบครัวได้
และไม่สามารถเพิกเฉยกับหนี้ก้อนนี้ได้ด้วยเพราะเป็นของผู้ใหญ่ที่ยื่นมือมาช่วยเหลือ
ถ้ากิจการนี้ฟื้นขึ้นมา จะสามารถคืนเงินกู้ได้หมดภายใน 5 ปี
(ผมคิดผิดหรือเปล่าครับ มันมีวิธีดู หรือใช้ปัจจัยอะไรในการพิจารณ์ไหมครับว่า ธุรกิจนี้ยังควรกอบกู้หรือเปล่า)
ผมอยากกู้ธุรกิจของครอบครัวคืนมา จะทำยังไงดีครับ
แต่ปัจจุบันมีรายได้ประมาณ 5 ล้านบาทต่อปี ในขณะที่รายจ่ายยังเท่าเดิม ทำให้ประสบปัญหาหนี้สินมากมาย
ธุรกิจนี้คุณพ่อผมเป็นคนเริ่มครับ ท่านเป็นวิศวกรที่เก่ง ที่ธุรกิจยังอยู่ได้เพราะอาศัยเครดิตของท่านล้วนๆ
บ.มีเครื่องจักรพร้อมผลิต ปกติผลิตชิ้นส่วน อะไหล่รถยนต์ และมอเตอร์ไซต์ หรือชิ้นส่วนต่างๆที่เป็นโลหะ
ปัญหาหลักตอนนี้คือ
1. การเงินของบริษัทย่ำแย่มาก ติดลบทุกเดือน ต่อให้ขายกิจการก็ยังใช้หนี้ไม่หมด
2. ลูกค้าเอา know-how ของบ.ไปผลิตเองและยกเลิกการผลิตทั้งหมดกับบ.ทำให้สูญรายได้มหาศาล
3. ลูกค้าปัจจุบันสั่งงานน้อยลง และจ่ายเงินช้า โดยให้เหตุผลเรื่องสภาพเศรษฐกิจ ทำให้บ.หมุนเงินไม่ทันต้องไปกู้นอกระบบ
4. ลูกค้าปัจจุบันที่สั่งงานล็อตใหญ่ มักมีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อมากดราคา และเรียก% จนแทบจะไม่เหลือกำไร
แต่ถ้าไม่ให้เค้า เค้าก็ไม่ให้งานผม
บางคนอาจจะบอกว่า ก็แจ้งไปยังเจ้าของบริษัท หรือผู้บริหารระดับสูงสิ
ผมขออนุญาตตอบไว้ล่วงหน้าก่อนเลยว่า เคยเจอแล้วครับ ที่ผู้บริหารระดับสูงย้ายผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อออกเพื่อป้องกันการทุจริต
แต่มันไม่ช่วยอะไรเลย คนใหม่มาก็กินเหมือนเดิม
5. หาลูกค้าใหม่ไม่ได้ ผมส่งตัวอย่างไปที่ฝ่ายจัดซื้อ ให้เสนอราคาแต่ก็เงียบตลอด
ตัวผมเองเปิดโรงเรียนอนุบาลเล็กๆ แต่รายได้ไม่มากพอที่จะเอามากู้สถานการณ์ที่บ.ได้ ทำได้แค่พยุงให้ผ่านไปแต่ละเดือน
ผมอยากรู้ว่าควรจะเริ่มต้นหาทางแก้ไขยังไง
สิ่งที่ผมคิดไม่ออกคือผมจะเอาสินค้าอะไรไปขายให้ตลาด และผมควรจะเลือกเข้าตลาดไหน
ผมจะค้นหายังไงดีครับว่า สินค้าอะไรที่จะกู้สถานการณ์ให้กับธุรกิจของครอบครัวผม และใครจะเป็นผู้ซื้อของผมดี
ควรจะหาข้อมูลยังไงบ้างครับ
ขอคำแนะนำจากทุกคนด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ
ปล. ผมลืมบอกเหตุผลไปที่ทำไมผมอยากกู้กิจการนี้
1. ผมคิดว่ากิจการนี้เคยทำได้ดีตลอดมา แต่ที่มาแย่ช่วงหลังเพราะปรับตัวไม่ทันกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปแต่บ.ยังมีการบริหารแบบเก่า
ดังนั้นถ้าเปลี่ยนวิธีการบริหาร การจัดการ การตลาดต่างๆ ก็น่าจะกลับมาทำเงินได้
2. ลำพังโรงเรียนของผม ไม่สามารถใช้หนี้ก้อนใหญ่ของครอบครัวได้
และไม่สามารถเพิกเฉยกับหนี้ก้อนนี้ได้ด้วยเพราะเป็นของผู้ใหญ่ที่ยื่นมือมาช่วยเหลือ
ถ้ากิจการนี้ฟื้นขึ้นมา จะสามารถคืนเงินกู้ได้หมดภายใน 5 ปี
(ผมคิดผิดหรือเปล่าครับ มันมีวิธีดู หรือใช้ปัจจัยอะไรในการพิจารณ์ไหมครับว่า ธุรกิจนี้ยังควรกอบกู้หรือเปล่า)