ออกตัวก่อนเลยค่ะว่า เราเป็นมุสลิม นับถือศาสนาอิสลาม และสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือชาวโรฮิงญา
(ซึ่ง "ความช่วยเหลือ" ในที่นี้ ไม่ได้จำเพาะเจาะจงรูปแบบนะคะ แค่พูดแบบกว้างๆ)
แค่อยากจะนำเสนออีกด้านหนึ่งที่ตั้งแต่ดูๆข่าวเรื่องนี้มาแล้วรู้สึกมีข้อสงสัยและบางมุมมองที่ต่างจากคนอีกหลายๆคนในที่นี้
**กระทู้นี้ค่อนข้างยาวนะคะ ไม่เหมาะสำหรับคนเร่งรีบและผู้ที่ไม่ชอบการอ่านเกิน 7 บรรทัด**
ขอลิสต์เป็นประเด็นๆแล้วกันนะคะ เริ่มตั้งแต่
1. เริ่มกันตั้งแต่ข้อมูลประวัติ ที่มาที่ไป ของชาวโรฮิงญา ดูเหมือนว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยทีเดียวที่เชื่ออย่างสุดหัวจิตหัวใจว่า
ชาวโรฮิงญาต้องไม่ใช่คนพม่าอย่างแน่นอน ซึ่งก็เข้าใจได้นะคะ เพราะข้อมูลจำนวนไม่น้อยที่หลายๆคนหยิบยกมาก็บอกอย่างนั้น
สิ่งที่แปลกใจก็คือ ปัจจุบัน เรารับข้อมูลจากแหล่งข่าวบางแหล่งและพร้อมจะเชื่อถือข้อมูลนั้น 100% โดยไม่เผื่อใจไว้สำหรับ
ข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่อาจจะอยู่นอกเหนือการรับรู้ของเรา การมีมุมมองและความประพฤติทางการรับข่าวสารข้อมูลของคนปัจจุบัน
ดูแคบเกินไปหรือเปล่าคะ?
เรื่องที่น่าแปลกกว่านั้นก็คือ การสรุปเรื่องที่มาที่ไปของชาวโรฮิงญา ดูจะเป็นไปในลักษณะคล้ายกันไปแทบทุกเว็บ คล้ายกับว่า ได้รับ
ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลไม่กี่แหล่งและทำการสรุปกันไป แชร์กันไป ไปสรุปกันใหม่ แชร์กันใหม่ โดยคนที่สรุปในตอนหลังๆก็ดูจะไม่ได้
ทราบด้วยซ้ำว่า ข้อมูลอ้างอิงจริงๆที่ "น่าเชื่อถือ/มีหลักฐานชัดเจน" มาจากแหล่งใดกันแน่ สักแต่ว่า "อ่านแล้ว เข้าใจว่าอย่างนี้นะ จะสรุปให้ฟัง..."
ซึ่งช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ได้พยายามอ่านข้อมูลที่มีการแชร์กันในเฟสบุ๊คเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของชาวโรฮิงญา แทบจะไม่เจอ
ลิงค์เว็บหรือข้อมูลที่มี "หลักฐานชัดเจน" เกี่ยวกับเรื่องที่กล่าวอ้างเลย จะมีก็แต่ "เขาบอกไว้ว่า..." (เขาไหนก็ไม่รู้), "จากที่ได้อ่านมา..."
(อ่านจากไหนก็ไม่รู้), "ขอสรุปเรื่องโรฮิงญาแบบสั้นๆให้เข้าใจง่ายๆ...." (ข้อมูลอ้างอิงที่ใช้ในการอ่าน วิเคราะห์ สังเคราะห์ ก่อนจะมาสรุป
ก็ไม่ทราบว่ามาจากแหล่งใดบ้าง เชื่อถือได้จริงหรือไม่) ฯลฯ
คือเราไม่เก็ทน่ะค่ะ ว่าทำไมคนไทยในโลกโซเชียลจำนวนไม่น้อย ไม่สนใจแหล่งข้อมูลอ้างอิง (ซึ่งมันเป็นเรื่องสำคัญมากๆ) ในการ
บอกเล่าข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลทางประวัติศาสตร์ซึ่งสมควรจะถูกสืบค้นจากวิทยานิพนธ์ แหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์ หรืออะไรเทือกๆนี้ด้วยซ้ำไป
หรือจากการสอบถามจากผู้ที่ถูกกล่าวถึง นั่นคือ ชาวโรฮิงญาเอง (อยากทราบว่าเคยมีใครสักคนได้สอบถามชาวโรฮิงญาตรงๆดูบ้างหรือยังคะ)
ข้อมูลที่จะขอแชร์มาให้อ่านต่อไปนี้ เป็นการเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของชาวโรฮิงญาจากคนที่มีเชื้อสายโรฮิงญาเองค่ะ
(ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน ว่าจะมีมุมมองต่อเรื่องราวนี้อย่างไร เราคงบังคับให้ใครเชื่อไม่ได้ เพียงแต่อยากนำเสนอข้อมูลในส่วนที่หลายๆคน
อาจยังไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้ ขออนุญาตใส่ลิงค์เว็บอ้างอิงไว้ในสปอยล์นะคะ เพราะเนื้อความค่อนข้างยาว)
โรฮิงยา เป็นชาวบังคลาเทศอย่างที่พม่ากล่าวหาจริงหรือ?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/missmamuang/posts/870156989723807:0
โรฮิงยา ในรัฐสภาพม่า จากอดีต จนถึงปัจจุบัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/missmamuang/photos/a.869280086478164.1073741828.841961335876706/871050816301091/?type=1&__mref=message_bubble
นี่เป็นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของชาวโรฮิงญาที่ถูกเล่าโดยคนเชื้อสายโรฮิงญาเอง (ซึ่งเจ้าของกระทู้ไม่ใช่เจ้าของเพจดังกล่าวนะคะ)
อยากให้ลองรับข้อมูลอีกด้านดูบ้าง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับชาวโรฮิงญาที่ถูกมองเป็นคนชั่ว คนเลว ในสายตาหลายๆคนไปแล้ว
(ใครมีข้อสงสัยหรือข้อมูลที่จะแลกเปลี่ยน ก็ส่งข้อความไปทางเพจเฟสบุ๊คที่แนบลิงค์ไว้ให้ได้เลยนะคะ สอบถามเขาได้โดยตรงเลย)
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ประเด็นที่ 2 กับตรรกะที่ว่า "ถ้าสงสารโรฮิงญานัก ก็รับไปอยู่ที่บ้านสักคนสองคนสิ"
บอกตามตรงนะคะ อ่านเจอตอนแรกก็เฉยๆหรอกค่ะ อ่านไปอ่านมาชักรู้สึกตลกแบบต้องส่ายหัว แต่เจออีกเรื่อยๆรู้สึกรำคาญค่ะ รู้สึกว่าไร้สาระจัง
คือ อย่างแรกเลย เดี๋ยวนี้เราไม่สามารถ "รู้สึก" สงสารผู้อื่นได้แล้วหรือคะ คนเดี๋ยวนี้แม้กระทั่งการสงสารก็ดูจะเป็นเรื่องผิดไปแล้วหรือคะ?
เวลาเราเห็นคนที่ดูด้อยกว่าเรา เช่น ขอทาน คนไม่สมประกอบ คนพิการ ฯลฯ แล้วหากเรารู้สึกสงสารเขา เราก็จะต้องรับอุปการะเขาเสมอไปหรือคะ?
การที่เรา "มีความสามารถไม่เพียงพอ" ที่จะรับเขามาอุปการะ ทำให้เราไม่สามารถที่จะ "แสดงความสงสาร" ต่อผู้อื่นได้หรือคะ?
งงจริงๆนะคะ แค่ "ความสงสาร" กับ "ความสามารถ" ไม่สอดคล้องกัน ทำไมจึงจะต้องถูกเสียดสีด้วยตรรกะพิลึกพิลั่นแบบนี้ด้วยคะ
ขอเล่าเรื่องตลกอีกนิดนะคะ ล่าสุดก่อนจะมาตั้งกระทู้นี้ ได้ไปอ่านเจอข่าวโรฮิงญา หลังจากที่มีคนคอมเม้นต์ด้วยตรรกะนี้ ประมาณว่า
"ถ้าสงสารนัก ก็รับไปเลี้ยงที่บ้านสักคนสองคนเลยสิ"
แล้วก็มีคอมเม้นต์หนึ่งตอบกลับอย่างจริงจัง ประมาณว่า
"ถ้ามีเด็กชาวโรฮิงญาที่ไม่มีพ่อแม่จริงๆ ก็ว่าจะรับมาเลี้ยงสักคนสองคนอยู่เหมือนกัน"
ก็มีคนมาบอกอีกว่า "จะรับทั้งที รับแค่คนสองคนเองหรอ รับไปหลายๆครอบครัวเลยสิ!"
อ่านจบนี่ต้องร้อง "เอ๊าาา" เลยค่ะ คือ คนประเภทนี้ต้องการอะไรจากสังคมหรือคะ? อ่านแล้วเพลียเลยค่ะ
ตรรกะแบบนี้ไม่ควรถูกแชร์ต่อจริงๆนะคะ มันดูตลกจะตายไปที่เราคนไทยแยกแยะระหว่าง "การแสดงความสงสาร" กับ "ความสามารถที่มี" ไม่ออก
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ประเด็นที่ 3 เท่าที่ตามอ่านข่าวเรื่องนี้มา ซึ่งส่วนมากก็จะเจอกับข้อมูลในเชิงไม่เห็นด้วย ไม่ชอบเลยกับการที่โรฮิงญาเข้ามาในไทย
ซึ่งตามที่ได้เจอมา ประมาณ 70% ไม่เห็นด้วย ไม่โอเคเลยกับการที่สื่อจะประโคมข่าวเรื่องโรฮิงญา
แต่ 99% ของคนไม่เห็นด้วย (ประมาณเอาตามที่ได้อ่านเจอน่ะค่ะ) มีแทบนับคนได้ ที่จะพูดถึง "ต้นตอ" ของการที่สื่อไทยต้องทำข่าวโรฮิงญา
เอาจริงๆนะคะ เราเจอแต่คนที่บอกแต่ว่า เลิกทำข่าวโรฮิงญาได้แล้ว, ไล่ออกนอกประเทศไป, ฯลฯ
แทบหาไม่เจอเลย คนไทยที่จะออกมาบอกว่า จริงๆแล้ว เรื่องนี้ไทยมีส่วนผิดอย่างมาก ที่ลักลอบ "ค้ามนุษย์" ซึ่งเป็นต้นตอให้สื่อจับประเด็น
เรื่องชาวโรฮิงญาเป็นพิเศษ (ไม่ได้บอกว่าไม่มีคนประนามนะคะ บอกว่ามี แต่หาได้น้อยมาก)
อย่างน้อยถ้าเราจะไม่ชอบชาวโรฮิงญาเพราะเหตุผลบางประการ เราก็ไม่ควรลืมความเลวร้ายที่คนไทยบางส่วนทำกับพวกเขา ไม่ใช่หรือคะ?
(ซึ่งข่าวการค้ามนุษย์ควรถูกพูดให้ดังกว่าข่าวความประพฤติแย่ๆของชาวโรฮิงญาในศูนย์กักกันเสียอีก)
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ประเด็นที่ 4 เห็นกล่าวกันมากเหลือเกินว่า "สมแล้วที่ชาวโรฮิงญาถูกไล่และไม่ยอมรับจากประเทศพม่า ก็เพราะไปทำเขาก่อน
พวกมุสลิมโรฮิงญาไปปล้น ฆ่า แถมยังข่มขืนบรรดาผู้หญิง...ก็เหมาะสมแล้วที่จะถูกเขาทำกลับบ้าง"
ประเด็นนี้มันก็ดูจะสอดคล้องกับประเด็นที่ 1 ล่ะค่ะ ว่าด้วยเรื่องการรับข้อมูลทางประวัติศาสตร์ แต่คำกล่าวแนวๆนี้ มันดูจะมีนัยยะอื่นแฝงด้วย
แถมหลายๆความเห็น ก็ไม่ได้ทำให้มันเป็นนัยยะแฝง ด้วยการสรุปเองด้วยทำนองว่า "ศาสนานี้นี่เลวร้ายจริงๆ"
เป็นข้อสรุปที่ฉาบฉวยและบ่งบอกถึงทัศนคติที่คับแคบสุดๆไปเลยค่ะ
เราเอาข้อมูล (ผิดๆ) ที่ถูกสรุปโดยคนบางกลุ่ม มาตัดสินศาสนาได้ด้วยหรือคะ?
สมมตินะคะ ว่ามุสลิมกว่าครึ่งโลก วิ่งไล่ฆ่าคนอื่นอย่างไม่มีเหตุผล ทั้งที่บัญญัติศาสนาบอกไว้ว่า การฆ่าผู้อื่นเป็นบาปใหญ่
เราก็จะสรุปหรือคะว่า คนมุสลิมจำนวนมากฆ่าผู้อื่น ศาสนาสอนมาแบบนี้ คนมุสลิมเลวร้ายจริงๆ
แล้วคนมุสลิมอีกครึ่งโลกที่ไม่ได้ทำล่ะคะ พวกเขาไม่มีความหมายพอจะถูกเอ่ยถึงได้ใช่ไหมคะ?
โปรดอย่าให้อคติลบความเป็นธรรมที่ควรจะมีเลยค่ะ
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ประเด็นที่ 5 ความเป็นห่วงอันเหลือล้นต่อปากท้องของตนเองและคนในชาติ (นี่ถ้าเราเห็นต่าง เราจะถูกกล่าวว่าเป็น "พวกโลกสวย" ไหมคะ?)
ส่วนตัวไม่เคยคิดว่า การสนับสนุนการรับโรฮิงญาเข้ามาเรื่อยๆจะเป็นการแก้ปัญหา แต่ก็ไม่เคยคิดว่า การปล่อยเขาออกไปตายกลางทะเล
จะเป็นการแก้ปัญหาเช่นกัน เหมือนที่มีบางคนบอกว่า มันก็เป็นแค่การ "ปัดสวะให้พ้นตัว" (ซึ่งส่วนตัวก็ไม่ได้รู้สึกโอเคกับการเปรียบคนเป็นสวะหรอกนะคะ)
แต่เรื่องที่ตกใจมากเป็นพิเศษคือ รู้สึกเหมือนคนไทยเดี๋ยวนี้ใจร้ายกันจัง เราสามารถแสดงความคิดเห็นในเชิงว่า "ก็ปล่อยให้ตายๆไป ไม่เกี่ยวกับเรา"
ได้อย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไร เราทำเหมือนว่าชีวิตคนหลายๆชีวิตเป็นผักปลา จะหยิบ ทิ้ง ขว้าง โยน ปล่อยให้ตาย ก็ดูไม่เป็นปัญหาอะไร ดีเสียอีก ขอแค่เรา
ไม่เดือดร้อนก็เป็นพอ แค่นี้เราก็ลำบากจะตายอยู่แล้ว...ฯลฯ
พระไพศาล วิสาโล ชี้ปล่อยให้ชาวโรฮีนจาตายกลางทะเล ไม่ใช่วิถีที่มนุษย์ทำ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://hilight.kapook.com/view/120610
เหมือนเรากำลังสอน
ลูกหลานของเราว่า
'แม้คนกำลังจะตาย ขอน้ำดื่ม
ก็อย่าเพิ่งให้เขาดื่มน้ำ
ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมเขาก่อน
คำนวณด้วยว่า ถ้าให้น้ำเขาไป
เราจะมีน้ำดื่มพอไหม ในอีก ๑๐ ปีข้างหน้า
หากเขาไม่สะอาด เราต้องใส่ถุงมือขณะยื่น
อื้ม ไม่ต้องยื่นก็ได้ เดี๋ยวเขาจะขอจากเราอีก'
และเขาก็ตายลงตรงหน้าเรา
พร้อม ๆ ความเป็นมนุษย์ของเรา
ที่ตายไปแล้ว
ความฉลาด
ทำให้เราใช้สมองมาก จนลืมใช้หัวใจ
เราคิดอะไรมากมาย จนลืมไปว่า
บางเรื่อง ให้หัวใจได้ทำงานบ้าง
เช่นเรื่องความรัก และมนุษยธรรม
เป็นต้น.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/KruKnompang/posts/367826253408030?fref=nf
เราห่วงปากท้องของเราและคนในชาติ จนกระทั่งว่า ล่าสุดเจอเพจที่แชร์โปสเตอร์เชิญชวนบริจาคเงินให้กับเด็กอดอยาก ผอมแห้งชาวซูดาน
ก็จะมีคอมเม้นต์ประมาณนี้มาเรื่อยๆว่า "ปากท้องตัวเองยังเอาไม่รอด, เอาเงินไปดูแลคนในประเทศก่อนดีกว่า, ฯลฯ"
เรากลายเป็นคนแบ่งแยกไปแล้วว่า ชาติอื่นอย่าเพิ่งช่วย เอาคนในชาติเราก่อนสิ ทั้งๆที่ไม่นานมานี้ เรายังเป็นประเทศที่ให้การช่วยเหลือเนปาล
อย่างเต็มกำลังความสามารถอยู่เลย และไม่เห็นมีใครออกมาบอกว่า "ช่วยคนในชาติที่ลำบากก่อนเถอะ" เลยสักคน
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ประเด็นที่ 6 ขอฝากคอมเม้นต์หนึ่งที่เจอมาแล้วกันนะคะ (ขออนุญาตเจ้าของคอมเม้นต์ด้วยนะคะ ไม่ทราบว่าอยากให้ออกชื่อหรือเปล่า เลยนำมาแต่
ข้อความที่เป็นความคิดเห็น)
"ก็ไม่ได้โลกสวยอะไรหรอกนะ แต่อ่านความเห็นแต่ละคนแล้ว เรียกโรฮิงญามันอย่างนั้น มันอย่างนี้ ดูถูกสารพัด พวกเขาก็เป็นมนุษย์เป็นคนเหมือนกัน แต่การศึกษาไม่ค่อยมี โดนกดขี่ทำร้ายตั้งแต่เกิด ถ้าจะป่าเถื่อนไร้มารยาทไร้ความรู้ก็ไม่น่าแปลกใจ แต่คนที่มีความรู้การศึกษาดีก็จิกเรียกดูถูกพวกเขายังกับไม่ใช่มนุษย์ ไม่มีใครอยากได้ชาวอพยพก็เข้าใจได้แต่ก็เรียกสรรพนามดีๆก็ได้"
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ถ้าอดทนอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ อยากย้ำจุดประสงค์การตั้งกระทู้ว่า แค่อยากนำเสนอข้อมูลอีกด้านหนึ่งเท่านั้นค่ะ และหากอยากแลกเปลี่ยน ก็ขอให้แลกเปลี่ยนกันด้วยมารยาทและคำพูดที่ดีด้วยนะคะ
"โรฮิงญา" ข้อมูลอีกด้านที่คนไทยจำนวนมากยังไม่รู้
(ซึ่ง "ความช่วยเหลือ" ในที่นี้ ไม่ได้จำเพาะเจาะจงรูปแบบนะคะ แค่พูดแบบกว้างๆ)
แค่อยากจะนำเสนออีกด้านหนึ่งที่ตั้งแต่ดูๆข่าวเรื่องนี้มาแล้วรู้สึกมีข้อสงสัยและบางมุมมองที่ต่างจากคนอีกหลายๆคนในที่นี้
**กระทู้นี้ค่อนข้างยาวนะคะ ไม่เหมาะสำหรับคนเร่งรีบและผู้ที่ไม่ชอบการอ่านเกิน 7 บรรทัด**
ขอลิสต์เป็นประเด็นๆแล้วกันนะคะ เริ่มตั้งแต่
1. เริ่มกันตั้งแต่ข้อมูลประวัติ ที่มาที่ไป ของชาวโรฮิงญา ดูเหมือนว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยทีเดียวที่เชื่ออย่างสุดหัวจิตหัวใจว่า
ชาวโรฮิงญาต้องไม่ใช่คนพม่าอย่างแน่นอน ซึ่งก็เข้าใจได้นะคะ เพราะข้อมูลจำนวนไม่น้อยที่หลายๆคนหยิบยกมาก็บอกอย่างนั้น
สิ่งที่แปลกใจก็คือ ปัจจุบัน เรารับข้อมูลจากแหล่งข่าวบางแหล่งและพร้อมจะเชื่อถือข้อมูลนั้น 100% โดยไม่เผื่อใจไว้สำหรับ
ข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่อาจจะอยู่นอกเหนือการรับรู้ของเรา การมีมุมมองและความประพฤติทางการรับข่าวสารข้อมูลของคนปัจจุบัน
ดูแคบเกินไปหรือเปล่าคะ?
เรื่องที่น่าแปลกกว่านั้นก็คือ การสรุปเรื่องที่มาที่ไปของชาวโรฮิงญา ดูจะเป็นไปในลักษณะคล้ายกันไปแทบทุกเว็บ คล้ายกับว่า ได้รับ
ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลไม่กี่แหล่งและทำการสรุปกันไป แชร์กันไป ไปสรุปกันใหม่ แชร์กันใหม่ โดยคนที่สรุปในตอนหลังๆก็ดูจะไม่ได้
ทราบด้วยซ้ำว่า ข้อมูลอ้างอิงจริงๆที่ "น่าเชื่อถือ/มีหลักฐานชัดเจน" มาจากแหล่งใดกันแน่ สักแต่ว่า "อ่านแล้ว เข้าใจว่าอย่างนี้นะ จะสรุปให้ฟัง..."
ซึ่งช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ได้พยายามอ่านข้อมูลที่มีการแชร์กันในเฟสบุ๊คเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของชาวโรฮิงญา แทบจะไม่เจอ
ลิงค์เว็บหรือข้อมูลที่มี "หลักฐานชัดเจน" เกี่ยวกับเรื่องที่กล่าวอ้างเลย จะมีก็แต่ "เขาบอกไว้ว่า..." (เขาไหนก็ไม่รู้), "จากที่ได้อ่านมา..."
(อ่านจากไหนก็ไม่รู้), "ขอสรุปเรื่องโรฮิงญาแบบสั้นๆให้เข้าใจง่ายๆ...." (ข้อมูลอ้างอิงที่ใช้ในการอ่าน วิเคราะห์ สังเคราะห์ ก่อนจะมาสรุป
ก็ไม่ทราบว่ามาจากแหล่งใดบ้าง เชื่อถือได้จริงหรือไม่) ฯลฯ
คือเราไม่เก็ทน่ะค่ะ ว่าทำไมคนไทยในโลกโซเชียลจำนวนไม่น้อย ไม่สนใจแหล่งข้อมูลอ้างอิง (ซึ่งมันเป็นเรื่องสำคัญมากๆ) ในการ
บอกเล่าข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลทางประวัติศาสตร์ซึ่งสมควรจะถูกสืบค้นจากวิทยานิพนธ์ แหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์ หรืออะไรเทือกๆนี้ด้วยซ้ำไป
หรือจากการสอบถามจากผู้ที่ถูกกล่าวถึง นั่นคือ ชาวโรฮิงญาเอง (อยากทราบว่าเคยมีใครสักคนได้สอบถามชาวโรฮิงญาตรงๆดูบ้างหรือยังคะ)
ข้อมูลที่จะขอแชร์มาให้อ่านต่อไปนี้ เป็นการเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของชาวโรฮิงญาจากคนที่มีเชื้อสายโรฮิงญาเองค่ะ
(ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน ว่าจะมีมุมมองต่อเรื่องราวนี้อย่างไร เราคงบังคับให้ใครเชื่อไม่ได้ เพียงแต่อยากนำเสนอข้อมูลในส่วนที่หลายๆคน
อาจยังไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้ ขออนุญาตใส่ลิงค์เว็บอ้างอิงไว้ในสปอยล์นะคะ เพราะเนื้อความค่อนข้างยาว)
โรฮิงยา เป็นชาวบังคลาเทศอย่างที่พม่ากล่าวหาจริงหรือ?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โรฮิงยา ในรัฐสภาพม่า จากอดีต จนถึงปัจจุบัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นี่เป็นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของชาวโรฮิงญาที่ถูกเล่าโดยคนเชื้อสายโรฮิงญาเอง (ซึ่งเจ้าของกระทู้ไม่ใช่เจ้าของเพจดังกล่าวนะคะ)
อยากให้ลองรับข้อมูลอีกด้านดูบ้าง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับชาวโรฮิงญาที่ถูกมองเป็นคนชั่ว คนเลว ในสายตาหลายๆคนไปแล้ว
(ใครมีข้อสงสัยหรือข้อมูลที่จะแลกเปลี่ยน ก็ส่งข้อความไปทางเพจเฟสบุ๊คที่แนบลิงค์ไว้ให้ได้เลยนะคะ สอบถามเขาได้โดยตรงเลย)
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ประเด็นที่ 2 กับตรรกะที่ว่า "ถ้าสงสารโรฮิงญานัก ก็รับไปอยู่ที่บ้านสักคนสองคนสิ"
บอกตามตรงนะคะ อ่านเจอตอนแรกก็เฉยๆหรอกค่ะ อ่านไปอ่านมาชักรู้สึกตลกแบบต้องส่ายหัว แต่เจออีกเรื่อยๆรู้สึกรำคาญค่ะ รู้สึกว่าไร้สาระจัง
คือ อย่างแรกเลย เดี๋ยวนี้เราไม่สามารถ "รู้สึก" สงสารผู้อื่นได้แล้วหรือคะ คนเดี๋ยวนี้แม้กระทั่งการสงสารก็ดูจะเป็นเรื่องผิดไปแล้วหรือคะ?
เวลาเราเห็นคนที่ดูด้อยกว่าเรา เช่น ขอทาน คนไม่สมประกอบ คนพิการ ฯลฯ แล้วหากเรารู้สึกสงสารเขา เราก็จะต้องรับอุปการะเขาเสมอไปหรือคะ?
การที่เรา "มีความสามารถไม่เพียงพอ" ที่จะรับเขามาอุปการะ ทำให้เราไม่สามารถที่จะ "แสดงความสงสาร" ต่อผู้อื่นได้หรือคะ?
งงจริงๆนะคะ แค่ "ความสงสาร" กับ "ความสามารถ" ไม่สอดคล้องกัน ทำไมจึงจะต้องถูกเสียดสีด้วยตรรกะพิลึกพิลั่นแบบนี้ด้วยคะ
ขอเล่าเรื่องตลกอีกนิดนะคะ ล่าสุดก่อนจะมาตั้งกระทู้นี้ ได้ไปอ่านเจอข่าวโรฮิงญา หลังจากที่มีคนคอมเม้นต์ด้วยตรรกะนี้ ประมาณว่า
"ถ้าสงสารนัก ก็รับไปเลี้ยงที่บ้านสักคนสองคนเลยสิ"
แล้วก็มีคอมเม้นต์หนึ่งตอบกลับอย่างจริงจัง ประมาณว่า
"ถ้ามีเด็กชาวโรฮิงญาที่ไม่มีพ่อแม่จริงๆ ก็ว่าจะรับมาเลี้ยงสักคนสองคนอยู่เหมือนกัน"
ก็มีคนมาบอกอีกว่า "จะรับทั้งที รับแค่คนสองคนเองหรอ รับไปหลายๆครอบครัวเลยสิ!"
อ่านจบนี่ต้องร้อง "เอ๊าาา" เลยค่ะ คือ คนประเภทนี้ต้องการอะไรจากสังคมหรือคะ? อ่านแล้วเพลียเลยค่ะ
ตรรกะแบบนี้ไม่ควรถูกแชร์ต่อจริงๆนะคะ มันดูตลกจะตายไปที่เราคนไทยแยกแยะระหว่าง "การแสดงความสงสาร" กับ "ความสามารถที่มี" ไม่ออก
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ประเด็นที่ 3 เท่าที่ตามอ่านข่าวเรื่องนี้มา ซึ่งส่วนมากก็จะเจอกับข้อมูลในเชิงไม่เห็นด้วย ไม่ชอบเลยกับการที่โรฮิงญาเข้ามาในไทย
ซึ่งตามที่ได้เจอมา ประมาณ 70% ไม่เห็นด้วย ไม่โอเคเลยกับการที่สื่อจะประโคมข่าวเรื่องโรฮิงญา
แต่ 99% ของคนไม่เห็นด้วย (ประมาณเอาตามที่ได้อ่านเจอน่ะค่ะ) มีแทบนับคนได้ ที่จะพูดถึง "ต้นตอ" ของการที่สื่อไทยต้องทำข่าวโรฮิงญา
เอาจริงๆนะคะ เราเจอแต่คนที่บอกแต่ว่า เลิกทำข่าวโรฮิงญาได้แล้ว, ไล่ออกนอกประเทศไป, ฯลฯ
แทบหาไม่เจอเลย คนไทยที่จะออกมาบอกว่า จริงๆแล้ว เรื่องนี้ไทยมีส่วนผิดอย่างมาก ที่ลักลอบ "ค้ามนุษย์" ซึ่งเป็นต้นตอให้สื่อจับประเด็น
เรื่องชาวโรฮิงญาเป็นพิเศษ (ไม่ได้บอกว่าไม่มีคนประนามนะคะ บอกว่ามี แต่หาได้น้อยมาก)
อย่างน้อยถ้าเราจะไม่ชอบชาวโรฮิงญาเพราะเหตุผลบางประการ เราก็ไม่ควรลืมความเลวร้ายที่คนไทยบางส่วนทำกับพวกเขา ไม่ใช่หรือคะ?
(ซึ่งข่าวการค้ามนุษย์ควรถูกพูดให้ดังกว่าข่าวความประพฤติแย่ๆของชาวโรฮิงญาในศูนย์กักกันเสียอีก)
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ประเด็นที่ 4 เห็นกล่าวกันมากเหลือเกินว่า "สมแล้วที่ชาวโรฮิงญาถูกไล่และไม่ยอมรับจากประเทศพม่า ก็เพราะไปทำเขาก่อน
พวกมุสลิมโรฮิงญาไปปล้น ฆ่า แถมยังข่มขืนบรรดาผู้หญิง...ก็เหมาะสมแล้วที่จะถูกเขาทำกลับบ้าง"
ประเด็นนี้มันก็ดูจะสอดคล้องกับประเด็นที่ 1 ล่ะค่ะ ว่าด้วยเรื่องการรับข้อมูลทางประวัติศาสตร์ แต่คำกล่าวแนวๆนี้ มันดูจะมีนัยยะอื่นแฝงด้วย
แถมหลายๆความเห็น ก็ไม่ได้ทำให้มันเป็นนัยยะแฝง ด้วยการสรุปเองด้วยทำนองว่า "ศาสนานี้นี่เลวร้ายจริงๆ"
เป็นข้อสรุปที่ฉาบฉวยและบ่งบอกถึงทัศนคติที่คับแคบสุดๆไปเลยค่ะ
เราเอาข้อมูล (ผิดๆ) ที่ถูกสรุปโดยคนบางกลุ่ม มาตัดสินศาสนาได้ด้วยหรือคะ?
สมมตินะคะ ว่ามุสลิมกว่าครึ่งโลก วิ่งไล่ฆ่าคนอื่นอย่างไม่มีเหตุผล ทั้งที่บัญญัติศาสนาบอกไว้ว่า การฆ่าผู้อื่นเป็นบาปใหญ่
เราก็จะสรุปหรือคะว่า คนมุสลิมจำนวนมากฆ่าผู้อื่น ศาสนาสอนมาแบบนี้ คนมุสลิมเลวร้ายจริงๆ
แล้วคนมุสลิมอีกครึ่งโลกที่ไม่ได้ทำล่ะคะ พวกเขาไม่มีความหมายพอจะถูกเอ่ยถึงได้ใช่ไหมคะ?
โปรดอย่าให้อคติลบความเป็นธรรมที่ควรจะมีเลยค่ะ
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ประเด็นที่ 5 ความเป็นห่วงอันเหลือล้นต่อปากท้องของตนเองและคนในชาติ (นี่ถ้าเราเห็นต่าง เราจะถูกกล่าวว่าเป็น "พวกโลกสวย" ไหมคะ?)
ส่วนตัวไม่เคยคิดว่า การสนับสนุนการรับโรฮิงญาเข้ามาเรื่อยๆจะเป็นการแก้ปัญหา แต่ก็ไม่เคยคิดว่า การปล่อยเขาออกไปตายกลางทะเล
จะเป็นการแก้ปัญหาเช่นกัน เหมือนที่มีบางคนบอกว่า มันก็เป็นแค่การ "ปัดสวะให้พ้นตัว" (ซึ่งส่วนตัวก็ไม่ได้รู้สึกโอเคกับการเปรียบคนเป็นสวะหรอกนะคะ)
แต่เรื่องที่ตกใจมากเป็นพิเศษคือ รู้สึกเหมือนคนไทยเดี๋ยวนี้ใจร้ายกันจัง เราสามารถแสดงความคิดเห็นในเชิงว่า "ก็ปล่อยให้ตายๆไป ไม่เกี่ยวกับเรา"
ได้อย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไร เราทำเหมือนว่าชีวิตคนหลายๆชีวิตเป็นผักปลา จะหยิบ ทิ้ง ขว้าง โยน ปล่อยให้ตาย ก็ดูไม่เป็นปัญหาอะไร ดีเสียอีก ขอแค่เรา
ไม่เดือดร้อนก็เป็นพอ แค่นี้เราก็ลำบากจะตายอยู่แล้ว...ฯลฯ
พระไพศาล วิสาโล ชี้ปล่อยให้ชาวโรฮีนจาตายกลางทะเล ไม่ใช่วิถีที่มนุษย์ทำ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เหมือนเรากำลังสอน
ลูกหลานของเราว่า
'แม้คนกำลังจะตาย ขอน้ำดื่ม
ก็อย่าเพิ่งให้เขาดื่มน้ำ
ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมเขาก่อน
คำนวณด้วยว่า ถ้าให้น้ำเขาไป
เราจะมีน้ำดื่มพอไหม ในอีก ๑๐ ปีข้างหน้า
หากเขาไม่สะอาด เราต้องใส่ถุงมือขณะยื่น
อื้ม ไม่ต้องยื่นก็ได้ เดี๋ยวเขาจะขอจากเราอีก'
และเขาก็ตายลงตรงหน้าเรา
พร้อม ๆ ความเป็นมนุษย์ของเรา
ที่ตายไปแล้ว
ความฉลาด
ทำให้เราใช้สมองมาก จนลืมใช้หัวใจ
เราคิดอะไรมากมาย จนลืมไปว่า
บางเรื่อง ให้หัวใจได้ทำงานบ้าง
เช่นเรื่องความรัก และมนุษยธรรม
เป็นต้น.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราห่วงปากท้องของเราและคนในชาติ จนกระทั่งว่า ล่าสุดเจอเพจที่แชร์โปสเตอร์เชิญชวนบริจาคเงินให้กับเด็กอดอยาก ผอมแห้งชาวซูดาน
ก็จะมีคอมเม้นต์ประมาณนี้มาเรื่อยๆว่า "ปากท้องตัวเองยังเอาไม่รอด, เอาเงินไปดูแลคนในประเทศก่อนดีกว่า, ฯลฯ"
เรากลายเป็นคนแบ่งแยกไปแล้วว่า ชาติอื่นอย่าเพิ่งช่วย เอาคนในชาติเราก่อนสิ ทั้งๆที่ไม่นานมานี้ เรายังเป็นประเทศที่ให้การช่วยเหลือเนปาล
อย่างเต็มกำลังความสามารถอยู่เลย และไม่เห็นมีใครออกมาบอกว่า "ช่วยคนในชาติที่ลำบากก่อนเถอะ" เลยสักคน
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ประเด็นที่ 6 ขอฝากคอมเม้นต์หนึ่งที่เจอมาแล้วกันนะคะ (ขออนุญาตเจ้าของคอมเม้นต์ด้วยนะคะ ไม่ทราบว่าอยากให้ออกชื่อหรือเปล่า เลยนำมาแต่
ข้อความที่เป็นความคิดเห็น)
"ก็ไม่ได้โลกสวยอะไรหรอกนะ แต่อ่านความเห็นแต่ละคนแล้ว เรียกโรฮิงญามันอย่างนั้น มันอย่างนี้ ดูถูกสารพัด พวกเขาก็เป็นมนุษย์เป็นคนเหมือนกัน แต่การศึกษาไม่ค่อยมี โดนกดขี่ทำร้ายตั้งแต่เกิด ถ้าจะป่าเถื่อนไร้มารยาทไร้ความรู้ก็ไม่น่าแปลกใจ แต่คนที่มีความรู้การศึกษาดีก็จิกเรียกดูถูกพวกเขายังกับไม่ใช่มนุษย์ ไม่มีใครอยากได้ชาวอพยพก็เข้าใจได้แต่ก็เรียกสรรพนามดีๆก็ได้"
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ถ้าอดทนอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ อยากย้ำจุดประสงค์การตั้งกระทู้ว่า แค่อยากนำเสนอข้อมูลอีกด้านหนึ่งเท่านั้นค่ะ และหากอยากแลกเปลี่ยน ก็ขอให้แลกเปลี่ยนกันด้วยมารยาทและคำพูดที่ดีด้วยนะคะ