ถาม สิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรได้คืออะไร และมนุษย์ทุกวันนี้ เขาแสวงหาอะไร
ตอบ สิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรได้ก็คือสิ่งที่ตนพอใจ ใครพอใจสิ่งใดก็ควรจะได้สิ่งนั้น แต่ในความเห็นของคณะเห็นว่า ความสงบสุขเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรได้ ความสงบสุขในที่นี้ หมายถึงความสงบสุขอันเกิดจากความสงบกิเลสอันเกิดขึ้นทางกาย ทางวาจา และทางใจเป็นอย่างต่ำ เพราะเป็นความสงบเพียงชั่วคราว ไม่ถาวรเหมือนความสงบสุขอันเกิดจากการละกิเลสได้โดยสิ้นเชิงด้วยอรหัตตมัค อรหัตตผลอันมีนิพพานเป็นอารมณ์ ซึ่งถือว่าเป็นความสงบสุขอย่างสูง เพราะสงบจากกิเลสโดยแท้จริง ไม่มีกิเลสเกิดขึ้นมารบกวนจิตให้เร่าร้อนอีก ความปราศจากกิเลสโดยสิ้นเชิง จึงจัดเป็นความสงบสุขอย่างสูงสุด เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรจะได้
ส่วนที่ถามว่ามนุษย์ทุกวันนี้เขาแสวงหาอะไร
ขอเรียนว่า ส่วนมากเขาแสวงหากาม อันได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ตลอดไปจนถึงความมักใหญ่ใฝ่สูงที่แสวงหามาโดยไม่ชอบธรรม เพราะฉะนั้น ถ้าจะถือว่ามนุษย์ทุกวันนี้แสวงหาอกุศลกันเป็นส่วนใหญ่ก็คงจะไม่ผิด ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้เห็นและได้ยินแต่สิ่งที่ไม่เจริญตาเจริญหูกันอยู่ทุกวัน
พระพุทธเจ้าตรัสการแสวงหาไว้สองอย่างคือ อนริยปริเยสนา คือการแสวงหาที่ไม่ประเสริฐอย่างหนึ่ง และอริยปริเยสนา คือการแสวงหาที่ประเสริฐอย่างหนึ่ง
ก็การแสวงหาที่ไม่ประเสริฐนั้น หมายถึงการแสวงหาสิ่งที่มีชาติ ชรา พยาธิ มรณะ โสกะและความเศร้าหมองเป็นธรรมดา ทั้งนี้เพราะตัวของเราเองก็มีชาติ ชรา พยาธิ มรณะ โสกะและความเศร้าหมองเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ยังแสวงหาสิ่งที่มีชาติ ชรา พยาธิ มรณะ โสกะและความเศร้าหมองเป็นธรรมดานั้นอีก ก็คนส่วนมากที่แสวงหากามกันในปัจจุบันนี้ ก็หนีไม่พ้นจากการแสดงหาสิ่งที่ไม่ประเสริฐนี้เช่นกัน
ส่วนอริยปริเยสนา คือการแสวงที่ประเสริฐนั้น ได้แก่การแสดงหานิพพาน อันไม่มีสภาพเกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นต้นนั้น คนที่มีความเกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นธรรมดา จึงควรแสวงหาสิ่งที่พ้นจากความเกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นต้นเหล่านั้น เพราะฉะนั้น ในคำตอบของคณะที่ตอบไว้ในตอนต้นว่า ความสงบสุขที่เกิดจากความปราศจากกิเลสโดยสิ้นเชิง ว่ากันว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด จึงจัดอยู่ในการแสวงหาสิ่งที่ประเสริฐนี้
http://84000.org/tipitaka/book/nana.php?q=39
สิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรได้คืออะไร
ถาม สิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรได้คืออะไร และมนุษย์ทุกวันนี้ เขาแสวงหาอะไร
ตอบ สิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรได้ก็คือสิ่งที่ตนพอใจ ใครพอใจสิ่งใดก็ควรจะได้สิ่งนั้น แต่ในความเห็นของคณะเห็นว่า ความสงบสุขเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรได้ ความสงบสุขในที่นี้ หมายถึงความสงบสุขอันเกิดจากความสงบกิเลสอันเกิดขึ้นทางกาย ทางวาจา และทางใจเป็นอย่างต่ำ เพราะเป็นความสงบเพียงชั่วคราว ไม่ถาวรเหมือนความสงบสุขอันเกิดจากการละกิเลสได้โดยสิ้นเชิงด้วยอรหัตตมัค อรหัตตผลอันมีนิพพานเป็นอารมณ์ ซึ่งถือว่าเป็นความสงบสุขอย่างสูง เพราะสงบจากกิเลสโดยแท้จริง ไม่มีกิเลสเกิดขึ้นมารบกวนจิตให้เร่าร้อนอีก ความปราศจากกิเลสโดยสิ้นเชิง จึงจัดเป็นความสงบสุขอย่างสูงสุด เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรจะได้
ส่วนที่ถามว่ามนุษย์ทุกวันนี้เขาแสวงหาอะไร
ขอเรียนว่า ส่วนมากเขาแสวงหากาม อันได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ตลอดไปจนถึงความมักใหญ่ใฝ่สูงที่แสวงหามาโดยไม่ชอบธรรม เพราะฉะนั้น ถ้าจะถือว่ามนุษย์ทุกวันนี้แสวงหาอกุศลกันเป็นส่วนใหญ่ก็คงจะไม่ผิด ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้เห็นและได้ยินแต่สิ่งที่ไม่เจริญตาเจริญหูกันอยู่ทุกวัน
พระพุทธเจ้าตรัสการแสวงหาไว้สองอย่างคือ อนริยปริเยสนา คือการแสวงหาที่ไม่ประเสริฐอย่างหนึ่ง และอริยปริเยสนา คือการแสวงหาที่ประเสริฐอย่างหนึ่ง
ก็การแสวงหาที่ไม่ประเสริฐนั้น หมายถึงการแสวงหาสิ่งที่มีชาติ ชรา พยาธิ มรณะ โสกะและความเศร้าหมองเป็นธรรมดา ทั้งนี้เพราะตัวของเราเองก็มีชาติ ชรา พยาธิ มรณะ โสกะและความเศร้าหมองเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ยังแสวงหาสิ่งที่มีชาติ ชรา พยาธิ มรณะ โสกะและความเศร้าหมองเป็นธรรมดานั้นอีก ก็คนส่วนมากที่แสวงหากามกันในปัจจุบันนี้ ก็หนีไม่พ้นจากการแสดงหาสิ่งที่ไม่ประเสริฐนี้เช่นกัน
ส่วนอริยปริเยสนา คือการแสวงที่ประเสริฐนั้น ได้แก่การแสดงหานิพพาน อันไม่มีสภาพเกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นต้นนั้น คนที่มีความเกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นธรรมดา จึงควรแสวงหาสิ่งที่พ้นจากความเกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นต้นเหล่านั้น เพราะฉะนั้น ในคำตอบของคณะที่ตอบไว้ในตอนต้นว่า ความสงบสุขที่เกิดจากความปราศจากกิเลสโดยสิ้นเชิง ว่ากันว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด จึงจัดอยู่ในการแสวงหาสิ่งที่ประเสริฐนี้
http://84000.org/tipitaka/book/nana.php?q=39