การที่สอนกันว่า พระพุทเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานตรงกันในวันวิสาขบูชานั้น เป็นการสอนแบบเด็กๆหรือบุคคลาทิษฐาน ที่คนรุ่หลังแต่งเติมขึ้นเพื่อเสริมให้ดูว่าพระพุทธเจ้านั้นมีอภินิหารเหนือธรรมชาติ เพื่อให้คนศรัทธาและเอาไว้แข่งกันศาสนาอื่น
แต่ถ้าจะเอาความจริง ที่เอาไว้สอนคนมีปัญญา ก็ต้องสอนแบบธรรมาทิษฐาน คือสอนว่า วันที่เจ้าชายสิทธัตถะทรงตรัสรู้อริยสัจ ๔ นั่นเอง ที่ทำให้สภาวะของพุทธะ (ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้ดบิกบาน) บังเกิดขึ้นมา และกิเลสในใจของพระองค์ก็ดับสิ้นไปอย่างสิ้นเชิง (ถาวร) ซึ่งการที่กิเลสดับสิ้นไปอย่างสิ้นเชิงนี้เองที่เรียกว่าปรินิพพาน
แล้วพระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร? สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ (ค้นพบ) ก็คือวิธีการปฏิบัติเพื่อให้จิตใจของเราในปัจจุบันไม่มีความทุกข์ ซึ่งความทุกข์ของจิตใจนี้เองที่เป็นปัญหาใหญ่หลวงที่สุดของมนุษย์ทุกคน
แต่ก็ยากที่มนุษย์จะสนใจเรื่องการดับทุกข์ เพราะมนุษย์นั้นถูกอวิชชา (ความรู้ว่ามีตนเอง) ครอบงำเอาไว้อย่างมิดชิด จึงไม่สนใจที่จะมาศึกษาและปฏิบัติเพื่อดับทุกข์ มนุษย์สนใจแต่เรื่องแสวงหาความสุข แต่เมื่อความทุกข์มาถึง จึงทำให้ไม่สามารถหลุดพ้นจากความทุกข์ไปได้ หรือแม้แต่จะบรรเทาให้ความทุกข์เบาบางลงก็ยังทำไม่ได้
วันวิสาขบูชา คือ วันที่พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน
แต่ถ้าจะเอาความจริง ที่เอาไว้สอนคนมีปัญญา ก็ต้องสอนแบบธรรมาทิษฐาน คือสอนว่า วันที่เจ้าชายสิทธัตถะทรงตรัสรู้อริยสัจ ๔ นั่นเอง ที่ทำให้สภาวะของพุทธะ (ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้ดบิกบาน) บังเกิดขึ้นมา และกิเลสในใจของพระองค์ก็ดับสิ้นไปอย่างสิ้นเชิง (ถาวร) ซึ่งการที่กิเลสดับสิ้นไปอย่างสิ้นเชิงนี้เองที่เรียกว่าปรินิพพาน
แล้วพระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร? สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ (ค้นพบ) ก็คือวิธีการปฏิบัติเพื่อให้จิตใจของเราในปัจจุบันไม่มีความทุกข์ ซึ่งความทุกข์ของจิตใจนี้เองที่เป็นปัญหาใหญ่หลวงที่สุดของมนุษย์ทุกคน
แต่ก็ยากที่มนุษย์จะสนใจเรื่องการดับทุกข์ เพราะมนุษย์นั้นถูกอวิชชา (ความรู้ว่ามีตนเอง) ครอบงำเอาไว้อย่างมิดชิด จึงไม่สนใจที่จะมาศึกษาและปฏิบัติเพื่อดับทุกข์ มนุษย์สนใจแต่เรื่องแสวงหาความสุข แต่เมื่อความทุกข์มาถึง จึงทำให้ไม่สามารถหลุดพ้นจากความทุกข์ไปได้ หรือแม้แต่จะบรรเทาให้ความทุกข์เบาบางลงก็ยังทำไม่ได้