ย้อนไปเมื่อประมาณ สิบกว่าปีก่อน สมัยเป็น นศ. เคยคบกับรุ่นน้องคนนึง หน้าตาธรรมดา-แย่, สมมติชื่อ กล้วย
กล้วยเป็น ผช.ที่มีพื้นฐานทางบ้านแย่แถมชอบเล่นพนัน ไม่ค่อยส่งเงินมาให้กล้วย กล้วยมาคบกะเราก็อาศัยเงินที่พ่อแม่ส่งมาให้เรา เบียดเบียนค่ากิน ใช้มือถือเรา ใช้รถเรา แถมชอบกินหมูกะทะ กินมันวันเว้นวัน คบกันได้สักพักกล้วยมันก็อ้วนขึ้นแบบว่าเห็นได้ชัดเลย(สูง 168 หนักทีแรกประมาณ67-68กก. ต่อมาหนัก 94-95) คนรอบข้างเริ่มทัก(เวลาเดินคู่กันจะแตกต่างกันมาก เพราะเราสมัยนั้นหุ่น ok หน้าตากลางๆไทยๆแต่ก็พอรับงานพริตตี้ได้) กล้วยนิสัยแย่ หลงตัวเอง คิดว่าตัวเองเรียนเก่ง ฉลาด หุ่นดี เสียงเพราะ เจ้าชู้มากจีบไปทั่วใครให้ก็เอาไม่เลือกคนเลยใกล้ใครเอาหมด (--") มีความสกปรกเป็นสรณะ กินข้าวไม่ล้างจาน เล็บดำ ชอบเกาตรูด ฯลฯ
เราก็พยายามคบไปเรื่อยๆด้วยความที่คิดว่าเราจะทำให้เขาเปลี่ยนแปลงได้ ...เปล่าเลย...ยิ่งคบยิ่งแย่ยิ่งถูกเอาเปรียบ จนมีเหตุการณ์นึงที่ทำให้เราตัดสินใจได้ว่า ต้องเลิกแล้วล่ะเรารับไม่ได้
คือมีโมเดลลิ่งติดต่อเสนองาน work ให้ 100K  แต่เราปฏิเสธไปเราไม่รับงานแบบนั้น ไอ่กล้วยก็มาคะยั้นคะยอให้เรารับงาน บอกว่าเงินตั้งแสนนึงเอาไปจัดงานแต่งกับเราได้เลยนะ !!!....
อารัมภบทมานาน เข้าเรื่องนะ
-ไอ่กล้วยน้ำหนักขึ้นจากเดิมเกือบ30โล แถมสุขอนามัยยอดแย่ ไหวมะ?.... เราเองตอนนั้นคิดว่าไหว...(เอิ่มมมม...)
-ไอ่กล้วยใช้เงินของเรา ใช้มือถือเรา รถเรา แถมจะให้เราไปขายตัวเอาเงินมาใช้แต่งงาน คือ ...ถามว่าไหวมั๊ย...ได้คำตอบชัดๆเลยว่า ไม่ไหว!!!
เลิกกะกล้วยเสร็จ เราก็มาคบพี่แตงโม พี่แตงโมแก่กว่าเรา 10 ปีแน่ะ แต่ด้วยความที่พี่แตงโมเคยเป็นนายแบบสมัยหนุ่มๆมาบ้าง พี่แตงโมเลยหุ่นดูดี (สูง 185 หนักทีแรก 79 ต่อมาหนัก 95)
แรกๆเรากับพี่แตงโมเข้ากันได้ดีมาก เขาเป็นหนุ่มออฟฟิศ ทำงานคาบเกี่ยวครึ่งวันบ่ายถึงดึก ระหว่างนั้นเราก็รับงานพริตตี้ไปเรื่อย เรียนโทไปด้วยแต่ยังไม่มีงานประจำทำ ถึงกระนั้นพี่เขาก็ไม่ได้เลี้ยงเรานะ พ่อแม่เรายังคงส่งเราอยู่ พี่แตงโมเป็นผู้ชายไร้โปรฯ ไม่โรแมนติก ไม่มีวันพิเศษ ไม่เคยมีของขวัญ ไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานกะเราเลย แต่เราก็คบเขาด้วยคำว่ารัก คบกันได้เกือบ3ปีเราก็ได้งานประจำทำแต่ต้องไปอยู่ ตปท. (งานสายการบิน) ทีนี้พี่แตงโมตกงานเพราะบริษัทปิดตัว ได้เงินชดเชยมาก็เอาไปลงทุนแล้วเจ๊ง บวกกับพี่แตงโมช่างฝัน คิดว่าจะต้องทำนู่นทำนี่ ต้องมีเงินเดือนเกิน 100K ถึงจะลงหลักปักฐานกับใคร พี่แตงโมเสียเวลาในการตามล่าฝันอยู่เป็นปี เงินเก็บร่อยหรอ จนช่วงนึงพี่แกก็เคยมายืมเงินเราร่วมๆ 80K เขาเพ้อฝันมากและเชื่อเรื่องหมอดูสุดๆ(ตรงข้ามกะเรา) วันนึงเขาโทรมาบอกว่ามีหมอดูเขาว่ากันว่าแม่นมาก เราเลยบอกว่าจะดูเรื่องชีวิต เรื่องงาน เรื่องอะไรก็ดูไป แต่ขอว่าอย่าดูเรื่องความรักเพราะเราอยู่ตัวแล้ว ถึงแม้เขาจะเปลี่ยนไปไม่ดูดีเหมือนแต่ก่อนเราก็ยังรักยังผูกพันกะเขาเหมือนเดิม วันแรกที่รักยังไงจนวันนี้ก็ยังรักไม่เปลี่ยน
หลายวันผ่านไป เราก็โทรไปคุยกับเขาเหมือนปกติ(ว่างจากบินจะโทรหาเขาตลอด)
ปรากฏว่าเขาไปคุยกะหมอดูมาแล้ว และแน่นอน...เขาดูเรื่องเนื้อคู่..เราแอบเพลียนิดหน่อยแต่ก็ฟังที่เขาเล่า
พี่แตงโมบอกว่า ดวงของเขาเป็นดวงไร้คู่ และหมอประหลาดใจว่าทำไมคบเราได้ยาวถึงเกือบ4ปี หมอดูบอกอีกว่าถ้างั๊นให้คบต่อให้เลยปีที่4ไป แต่***ห้าม*** แต่งงานกะเราเด็ดขาด เพราะถ้าแต่งแล้วเราจะมีชู้ !!!
ตอนนั้นในใจร้อง เฮ้ยยยย...คือไร??!! คนเค้าคบกันมาอยู่ดีๆจะมากำกับให้เค้าทำแบบนั้นแบบนี้!!!
แต่ที่เจ็บในหัวใจเราสุดๆคงเป็นคำพูดพี่แตงโมที่บอกว่า "งั๊นพี่ก็คิดถูกมาตลอดที่ไม่คิดจะแต่งงานกับเธอ..."
มาถึงตอนนี้หัวใจเราเบาหวิวเลย คิดไรไม่ออก น้ำตามันอยากจะไหลแต่มันไม่ไหล ทำงานไปก็เบลอๆเหม่อๆ จิตใจมันหม่นหมองมาก จนวันนึงเราตัดสินใจว่าเราคงไปไม่รอดกับคนๆนี้แล้ว เราอยากมีชีวิตครอบครัวกับใครสักคนที่ดีมีลูกน่ารัก อยากมีอนาคตที่สดใส
สุดท้ายเราก็บอกเลิกพี่แตงโม

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ เราอยากจะบอกว่า การที่มีแฟนแล้วแฟนกลายร่าง จะอ้วนขึ้น หล่อลง จะตกงาน หรือเงินเดือนน้อยจนชักหน้าไม่ถึงหลัง มันคงไม่สำคัญไปกว่าเรื่องที่ผ่านมาว่าคุณรักกันอย่างไร รักและให้เกียรติกัน รักและซื่อสัตย์ต่อกัน รักแล้วเกื้อหนุนกันและกัน
เราว่ามันสำคัญมากนะสำหรับเรา