ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่น คิดได้ไง vol.2

เรื่องเล่าเฮฮาก่อนหน้านี้ตามlinkด้านล่างเลยค่ะ เผื่อใครอยากอ่านเรียงตั้งแต่แรก จะได้รู้จักกัน^^
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**นิวเยียร์ที่บ้านสุโดว์ ตอนป้าแมรี่สอนทำอาหาร** http://ppantip.com/topic/33550999
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ตอน นิวเยียร์บ้านสุโดว์ วันจริง!!** http://ppantip.com/topic/33564436
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ตอน กินเลี้ยงปีใหม่ ตอนป้าแมรี่กับพระเจ้า** http://ppantip.com/topic/33612600
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่น คิดได้ไง vol.1** http://ppantip.com/topic/33626409

เมื่อวานเพิ่งจะแซ่บ vol.1 ไป
วันนี้ทันที vol.2
ช่วงนี้อึดอัด ต้องการประโยคบอกเล่ามากเป็นพิเศษ

เมื่อวานดูทีวี
นักวิจัยชาติ...ใตในโลกนี่แหละ วิจัยออกมาแล้วว่า
"ครอบครัวที่ ภริยาร่าเริงยิ้มแย้มแจ่มใส สามีทำงานมากกว่า50ชม.ต่อสัปดาห์"
(กรณีที่ตัวเมียเป็นแม่บ้านนะ)
เยอะหรือน้อย ไม่ทราบแน่ชัด
นับเวลาทำงานนะ ไม่ได้นับเวลาออกจากบ้าน
สาเหตุ อาจเป็นเพราะ เวลาสามีอยู่บ้าน HEเกะกะ จะทำความสะอาดHEก็นั่งอืดอยู่ที่โซฟาหน้าทีวี
เดินผ่านก็บ่นว่าบังทีวี จะทำกับข้าวก็สั่งเยอะเหลือเกิน ไม่มีไอ้นี้หรือ ไม่มีไอ้นั้นหรอ ไรงี้
(ทีวีมันบอกมานะ ไม่ใช่ประสบการณ์ตรงของนางสุโดว์)
สรุปง่ายๆ ถ้าทำงานน้อยกว่า50ชม. เจอหน้ากันนานไป เมียเบื่อ

แต่วันนี้จะมาเล่าเรื่อง...MANUAL ของชาวเจแปนนีส
ประเทศญี่ปุ่นถือว่า หนังสือคู่มือ วิธีปฎิบัติ ข้อกำหนดต่างๆ พระเจ้ามากมาย
ก่อนทำงาน จะมีฝึกอบรม ซ้อม สอบ เทส เทสก่อนเทสจริง เทสจริง เทสหลังเทส เทสก่อนไปทำงานจริง จะเทสทำเทสอะไร
ก่อนเริ่มงานแต่ละวันก็จะมีสรุปงาน บรีฟงาน เมื่อวานเป็นอย่างไร วันนี้เป็นอย่างไร พรุ่งนี้เอาไงกับพวกดี
คนญี่ปุ่นเองก็ยอมรับนะ ว่า we love manual มากมาย
โทโมะยังบอกเลย คนญี่ปุ่น บ้าMANUAL

เมื่อวันก่อน ไปซื้อแก้วSTARBUCKS
แก้วลายซากูระ
(ฮิตนะ ขายดีนะ ใครอยากได้ติดต่อหลังไมค์ด่วนนะ หมดเร็วนะ อินเทรนด์นะ)
ใครเคยซื้อของที่ญี่ปุ่นจะรู้ พนักงานชวนคุยเหลือเกิน
นันทิชาซื้อแก้วไป4ใบ
พนักงาน - ไม่ทราบว่าซื้อใช้เองหรือเป็นของขวัญคะ
นันทิชา - ของขวัญค่ะ
พนักงาน - ทั้ง 4 ใบ ห่อรวมกันหรือห่อแยกดีคะ
นันทิชา - แยกค่ะ
พนักงาน - แยกเดี่ยวๆทั้ง4ใบเลยนะคะ
นันทิชา - ค่ะๆ
พนักงาน - ใช้เวลาในการห่อสักครู่นะคะ ไม่ทราบว่าจะไปช๊อปปิ้งอย่างอื่นก่อนไหมคะ
นันทิชา - ค่อนข้างรีบนะคะ ใช้เวลานานไหมคะ
พนักงานเริ่มทำหน้างง - เอ่อออออ ประมาณ 10นาทีค่ะ
นันทิชา - งั้นห่อแค่กันกระแทก ไม่ให้มันแตกก็พอค่ะ
พนักงานงงกว่าเดิม นี่ยังไม่ทันถามเลยว่าจะผูกโบว์สีอะไรดี โดนให้ห่อกันกระแทกอย่างเดียว
พนักงานวิ่งงงงงไปถามหัวหน้า เอาไงดี ใส่ถุงลายอะไรดี
พนักกงานเดินมาถามอีก - ใส่ถุงกระดาษแยกแต่ละใบเลยไหมคะ หรือว่าใส่รวม
นันทิชา - แยกค่ะ
พนักงาน - เชิญนั่งรอได้นะคะ
นันทิชา - ไม่เป็นไรค่ะ (กดดันมัน)
พนักงาน - ไม่ทราบว่า ทราบวิธีใช้แก้วกับคูปองของ STARBUCKSหรือยังคะ
นันทิชา - (ที่จริงกูไม่ทราบหรอก แต่กูรีบ) รู้แล้วค่ะ
พนักงาน - งั้นขออณุญาตเปิดฝากแก้วใส่คูปองลงไปในแก้วเลยนะคะ
(นี่ผ่านมาจะครบ10แล้ว ยังไม่ห่ออะไรเรยยยยยยยยย)
แล้วก็เดินมาเสิร์ฟกาแฟฟรี1แก้วเล็ก
พนักงาน - เชิญดื่มรอได้นะคะ เป็นกาแฟเมนูใหม่ เม็ดกาแฟจาก โน่นนี่นั่น หอมมากเลยค่ะ
.
.
.
สรุปรอไป15นาที ฟังมันอธิบายอีกว่าถุงไหนใบไหนอีก3นาที
ห่อมาอย่างสวยงาม มีโบว์ติดเรียบร้อย
(นี่ขนาดขอแค่ห่อกันกระแทกอย่างเดียว)
ทำไม่ได้ หัวหน้าไม่บอกผ่าน

ถ้าใครเคยขึ้นรถไฟที่เจแปน ยิ่งเป็นพวกชินกันเซ็ง จะได้เห็นแน่นอน
พนักงานยืนชี้หน้าชี้หลังแถมพูดอะไรของมัน "ด้านหน้า เรียบร้อย"
"ด้านหลังเรียบร้อย"
"เตรียมตัวออกรถ"
"ออกรถเรียบร้อย"
หลังรถไฟไปแล้วมันยังต้องชี้ต่อ
"ชานชลา เรียบร้อย"
อะไรพวกนี้
แต่อันนี้ก็น่าMANUALเคร่งครัดนะ เพราะถ้าเกิดพลาดอะไรไปเสียหายยับเยิน
รถไฟ ขาดไป1ขบวน ประเทศญี่ปุ่นสั่นกระเทือนโดยไม่ต้องเกิดแผ่นดินไหว
เมื่อเดิอนมกราคมที่ผ่านมา
(ไม่เกี่ยวอะไรกับ MANUALอ่ะนะ)
กล้องวงจรปิดถ่ายมาได้ เกิดอุบัติเหต รถยนตร์เล็กชนกับรถไฟ กระจุย
คือ รถจอดติดรถไฟผ่าน (ไอ้ที่กั้นก็เลื่อนลงมา รถก็จอดเรียบร้อย)
แต่อยู่ดีๆ รถดันขยับ
ช้าๆ
ช้าๆ
เรื่อยๆ
ไหล
ชนที่กั้น
เข้าไปในราง จังหวะเดียวกับรถไฟผ่านพอดี๊พอดี
(นี่แค่รถไฟธรรมดา ไม่เร็วสูง)
กระจุย รถยนตร์เละ
แต่เอ๊ะ ทำไมไม่มีคนขับ
สรุป
ป้านางนึง จอดติดรถไฟ เลยลงรถไปเอาจดหมายหย่อนตู้ไปรษณีย์ หันมาอีกทีรถชนกับรถไฟเรียบร้อยแล้ว
เธออ้างว่าดึงเบรคมือแล้วนะ แต่รถไหลไปเอง
(เดาว่าเธอคงลืม)
สรุปวันนั้น รถไฟหยุดไป5ชม.
หยุดแค่5ชม. มีคนติดที่สถานีต่างๆ (ตามเส้นที่รถไฟสายนั้นวิ่ง) 9หมื่นคนเองป้า
แป๊ปเดียว 9หมื่นคนเองป้า
ไม่รู้ว่าตอนนี้ป้าโดนสาปแช่งไปถึงไหนแล้ว

เรื่องรถไฟปล่อยมันไป กลับมาเรื่อง MANUAL ต่อ

เมื่อก่อนโน้น สมัยยังไม่ได้เป็นนางสุโดว์
นางสาวนันทิชา เคยไปทำงานที่ universal studio japan
ใฝ่ฝันมาก สนุกแน่นอน ทำงานในสวนสนุก ไม่สนุกแล้วคงไม่เรียกว่าสวนสนุกแน่นอน
วันแรกไป ป๊าปปปป นั่งเรียนวิธี ใส่เครื่องแบบให้ถูกต้อง ตรวจเล็บ เล็บยาวบาป
แต่หน้าห้ามเข้ม ขนตาห้ามปลอม
ข้อห้ามมันเยอะ
ห้ามถือกล้องของลูกค้า ถ้ามิได้รับอณุญาต
(แน่ซิวะ อยู่ดีๆจะเดินไปหยิบกล้องใครมาถ่ายหรือไงวะ ยิ้ม)
ถ้ามีลูกค้ามาขอให้ถ่ายรูปให้ ให้รับกล้องทีละเครื่องเท่านั้น
(แบบมาเป็นแก๊งซ์ ถ่ายกล้องนี้ด้วย กล้องนี้ด้วย กล้องนี้ด้วยนะคะเพ่ ไรพวกนี้ ห้ามเด็ดขาด)
เหตุผลคือ "เดี๋ยวกล้องพัง"
ห้ามสัมผัสกระเป๋า และข้าวของเครื่องใช้ของลูกค้าเด็ดขาด
(เดี๋ยวของข้างในหาย แล้วจะโดนด่า)
ห้ามแตะต้องตัวลูกค้าเด็ดขาด
ห้ามนั่ง ห้ามยืนพักขา
เมื่อเสร็จงาน ออกจากUSJ แล้ว ห้ามเอาเครื่องแบบออกจากUSJ
ห้ามมีสัญลักษณ์อะไรที่บ่งบอกว่าทำงานอยู่ใน USJ เด็ดขาด
(บางที พนักงานก็มีลืม ติดเข็มกลัดUSJ ออกมาบ้าง)
ห้ามกูทำงานกับเลยดีกว่า
(ที่จริงห้ามเยอะกว่านี้ แต่...อ่านไม่ออก เลยเลยตามเลยไป)

แต่ Tokyo Disney resort ไม่เป็นนะ
เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับ "ความสำเร็จแบบดีสนี่ย์" เขียนไว้ว่า ในดีสนี่ย์ ไม่ค่อยมี MANUAL เท่าไหร่
เลยทำให้ ถามพนักงานคนไหนๆก็สามารถได้ข้อมูลเกี่ยวกับดีสนี่ย์
(แบบ พนักงานรักในหน้าที่และรักดีสนี่ย์ มากมาย ข้อมูลมาจากใจ ไม่ใช่ท่องจำ)

ก็เลยนึกมาถึงข่าว(ไม่ดัง)อยู่ช่วงนึง
ว่าสมัยนี้ วิชาวิทยาศาสตร์ คุณครูไม่ค่อยให้ทดลองจริง อ่านตามหนังสือแล้วให้เด็กจินตนาการเอา
(เหมือนการศึกษาไทยบางโรงเรียนนะ เรียนในห้องทดลองจริง แต่ไม่เคยจะได้จุดตะเกียงแอลกอฮอล์)
คนญี่ปุ่นรับไม่ได้สุดๆ ไม่ทดลองแล้วเด็กมันจะรู้เรื่องได้อย่างไร คุณครูมาอธิบายหน่อยเด๊ะ
คือ
ช่วงหลังๆมานี่ พวกปัญหา ถูกเนื้อต้องตัว ความปลอดภัยในโรงเรียน มันมีเยอะ
บางโรงเรียนออกกฎมาว่า ห้ามคุณครูเรียกชื่อเล่นนักเรียน ไม่ก็ห้ามลงท้าย "คุง" "จัง" ไรพวกนี้
เพราะ...ทำให้เกิดการแบ่งแยกว่าใครสนิทกับคุณครู แล้วนักเรียนคนอื่น ไม่ใช่นักเรียนของคุณหรือไง ทำไมคุณแบ่งแยก2มาครฐาน
อะไรทำนองนี้
มันก็จะเกิด "คู่มือ"การเป็นคุณครู
(มีใช้จริงนะ)
เขียนละเอียดมาก
เช่น
ก่อนทำการทดลองวิทยาศาสตร์ ต้องตรวจเช็คอุปกรณ์ให้เรียบร้อย
ก่อนจะจุดตะเกียงแอลกอฮอล์ (ด้วยไม้ขีดอ่ะนะ)
ก่อนที่จะเอาไม้ขีด ถูกับกล่องเพื่อให้เกิดประกายไฟลุกโชดโชน โอ้เมื่อมีไฟไฟไฟลุกขึ้นแจ่มจ้า
ตรวจสอบ เช็ครอบด้าน ด้านหน้า ข้างซ้ายขวา และหลัง มีใครอยู่ใกล้เกินรัศมีเท่าไหร่ๆ
คือ
อธิบายตั้งแต่หยิบไม้ขีดออกจากกล่องเลยป่ะหละ
มันก็เลยทำให้คุณครูยุคใหม่ เครียด และเครียด
(แน่ซิวะ ไม่เขียนด้วยเลยหละ ควรหยิบไม้ขีดด้ามที่อยู่ขาวสุดของกล่องก่อนตามลำดับ)
ก็เลยขี้เกียจจะทำการทดลอง การศึกษาปัจจุบันเลยถดถอย

พวกพ่อแม่ผู้ปกครองก็เยอะ
บางโรงเรียนเริ่มกลับมาให้นักเรียนทำความสะอาดห้องน้ำ และห้องเรียน
(โรงเรียนญี่ปุ่นมีเวรทำความสะอาดห้องน้ำด้วยนะคะ ไม่ธรรมดา)
ผู้ปกครองก็โวยวาย อย่าเลย ทำไม่เป็น เดี๋ยวติดไวรัส (ช่วงโนโรไวรัสมันเป็นข่าว) ทำให้ลูกป่วย โน่นนี่นั่น
ไม่เฉพาะผู้ปกครอง
คุณครูรุ่นใหม่ เครียดอีก เพราะยุคตัวเองไม่เคยทำความสะอาดห้องน้ำ เลยทำความสะอาดไม่เป็น
ไม่รู้จะสอนนักเรียนของตัวเองอย่างไรดีในการทำความสะอาดห้องน้ำให้สะอาดกริ๊บ
มันก็เลย
มี
"คู่มือ วิธีทำความสะอาดห้องน้ำ" แจกตามโรงเรียนอีก
อยู่ประเทศนี้ มีโรงพิมพ์ ไม่น่าจะตกงาน รับพิมพ์แต่คู่มือ มันน่าจะพออาศัยอยู่ได้แบบไม่ขาดแคลนทรัพย์


**ปล. ออก vol.3 แล้วนะคะ http://ppantip.com/topic/33654086/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่