สวัสดีครับนี่เป็นกระทู้แรกของผม
วันนี้ผมจะมารีวิว เจ้า Benelli BN600J ครับ เพื่อ เป็นการช่วยในการตัดสินใจของหลายๆท่านที่จะตัดสินใจซื้อครับ
เริ่มเลยละกัน ผมได้ขับเจ้า BN600J เนี่ยมาก็ ประมาณ30เดือน และระยะทางกว่า 15,000กิโลเมตร
นี่คือหน้าปัดเรือนไมล์ของผมครับ
เริ่มด้วยมุมมองรอบๆตัวรถครับ
ด้านหน้า
ด้านหลัง
ด้านข้าง
เริ่มรื้อรถเลยนะครับ
แกะแฟริ่งที่คลุมถีงน้ำมันอยู่จะพบว่ามีแฟริ่งอยู่ไม่กี่ชิ้นครับ
แกะมาจะพบกับถังน้ำมันจริง ที่อยู่ข้างใต้แฟริ่งครับ
ถังน้ำมันจริงขนาดความจุ 15 ลิตร ซึ่งมากเพียงพอที่จะเดินทางไกลครับ
***Edit แก้ไขความจุถังน้ำมันครับจำผิดไป***
เมื่อยกถังน้ำมันขึ้นจะพบว่ามีช่องที่ทำไว้หลบกล่องกรองอากาศนั่นเอง
หน้าตาเจ้ากล่องกรองอากาศครับ
ทำการชำแหละเจ้ากล่องนี้กันครับ
แผ่นกรองอากาศ
เมื่อยกเจ้ากล่องกรองอากาศออก จะพบกับรางหัวฉีด ใช่ครับเจ้าแท่งสี่เหลี่ยมยาวๆนี่แหละครับ
เขยิบขึ้นมาหน่อยจะพบกับตัววัดค่า O2ต่อตรงเข้ากับหัวเทียน 1ตัว/1หัวเทียน เพื่อที่การจุดระเบิดจะออกมาได้ประสิทธิภาพสูงสุดครับ
ลงมาที่ท่อ จะพบว่ามี O2 Sensor 1ตัว/1ท่อ
ใต้ถังน้ำมันยังมี หม้อพักน้ำครับ ใช่ครับ หม้อพักน้ำ มาทำบ้าอะไรอยู่ใต้ถังฟะ
ลงมาที่ใต้เบาะกันมั่งครับ จะพบกับแบตเตอร์รี่ ขนาด 12V 8Ah
และชุด รีเรย์ทั้งคัน
จบแล้วครับกับข้างในตัวเครื่องยนต์
มาดูรอบนอกของตัวรถกันบ้างครับ
โครงถักครับ อันนี้ ความชอบส่วนตัวครับ
ต่อมาก็โช๊คที่สามารถปรับค่าได้ละเอียดพอสมควร
• สามารถปรับความหนืดได้
• สามารถปรับความแข็งของสปริงได้
ส่วนตัวผมว่าโช๊คสามารถทำหน้าที่ของมันได้ดีพอสมควรเลย เทโค้งจนหมดหน้ายางกันได้โดยไม่มีอาการสบัดหรือยวบยาบแต่อย่างใด
ยางหลังของเดิมติดรถ ให้ยาง ยี่ห้อ Metzler Sportec ขนาด 120/70 -- 180/55 ขอบ17
เกียร์โยง กับปั้มกระทุ้งเบรคหลังที่มีกระปุกน้ำมันเบรคแบบ Build-in
พักเท้าหลัง ที่ดูเหมือน จะไม่แข็งแรง ยางแปะเอาไว้ที่ดูเหมือนน่าจะหลุดง่าย
แต่ป่าวเลยครับใช้มาไม่มีเผยอแม้แต่น้อย ติดแน่นมากครับ แฟนซ้อนแทบทุกวัน
แต่ขอบอกเลยครับว่าชุดสี ทำไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ของผม ตรงที่เป็นจุดยึดน็อตสีแตกคร๊าบบ
ส่วนเรื่องที่หลายๆคนกังขากันซะส่วนใหญ่คือระบบเบรคที่ไม่มี ABS มาให้ ขอบอกเลยนะครับว่าถึงจะไม่มี ABS แต่ก็ทำการเบรคได้อย่างดีเยี่ยม
ด้วยระบบโช๊คหน้า ปั้มเบรค ต่างๆที่ ทาง Brembo และทาง Mazocchi OEM ให้
***OEM คือการที่บริษัท Part ต่างๆผลิตให้กับ แบรนของค่ายรถ โดยไม่ตีตราเจ้าของแบรนเอาไว้แต่จะตีตราของแบรนรถแทนครับ***
โช๊คหน้าขนาดแกน 50mm และ ปั้มเบรคหน้า Size เทียบเท่ากับ Brembo M4
ปั้มเบรคหลังไม่น้อยหน้า ให้มาเทียบเท่ากับ Brembo ตัวปักข้าง
หลายคนอาจจะบอกว่าผมมโนไปเองรึเปล่า ผมจะเทียบเบรคหลังให้ดูครับระหว่าง Brembo ผีเสื้อปักบนกับของเดิมติดรถ Benelli
ปั้มอันอื่นผมไม่มีของเทียบ ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
เทียบขนาดผ้าเบรคครับ
ขอจบการ Review เจ้า Benelli BN600 ไว้ ณ ที่นี้ครับ
ลืมไปครับ
• อัตราการซดน้ำมัน ในเมืองครับ 16-19 กม./ล. (ขึ้นอยู่กับนิสัยการบิดของแต่ละบุคคล)
• อัตราการจิบน้ำมัน เวลาออกทริปทางไกลๆครับ ประมาณ 23-26 กม./ล. (เทียบจากการไปทริปน่าน ระยะทาง 2100กม.)
• ความร้อนในเมือง 98-103 องศา (สามารถเปลี่ยนเทอโมเป็นของรถยนต์Mazda ได้ T จะอยู่ประมาณ 86-95องศา)
• ความร้อนนอกเมือง 88-93 องศา (เมื่อเปลี่ยนแล้ว T จะอยู่ที่ประมาณ 83-89 องศา)
• การเข้าโค้งค่อนข้างยากถ้าเป็นมือใหม่มีโอกาศล้มพับได้ง่ายมากๆ
• การเทโค้งในสนามถือว่าดีในระดับหนึ่ง สามารถเทโค้งจนหมดหน้ายางได้สบายๆ
• การเกาะถนนถือว่าดีเยี่ยมครับ เกาะดีไม่ร่อนแม้จะอยู่ในความเร็วสูง
• บิดหมดปลอก รถผมได้ 237 (บางคันก็ไม่ถึง บางคันก็เกินอยู่ที่คนขับและอื่นๆ)
พวกเรา Benelli อยู่กันเป็นครอบครัวครับ มีจัดทริปออกเที่ยวกันแทบทุกเดือน
ท่านประธาน ผู้เฒ่าเต่า เอ้ย พี่วิทย์ครับ
อันนี้ผมกับเจ้าม้าศึกคู่ใจครับ
ชาญนารีคลับ
ภาพตอนลงสนามแข่งกันครับ คุณจักร แซงหน้ารถสปอร์ตในคลาสเดียวกัน คว้าที่1 มาได้
ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้เลยนะครับ
[CR] **Review Benelli BN600**
วันนี้ผมจะมารีวิว เจ้า Benelli BN600J ครับ เพื่อ เป็นการช่วยในการตัดสินใจของหลายๆท่านที่จะตัดสินใจซื้อครับ
เริ่มเลยละกัน ผมได้ขับเจ้า BN600J เนี่ยมาก็ ประมาณ30เดือน และระยะทางกว่า 15,000กิโลเมตร
นี่คือหน้าปัดเรือนไมล์ของผมครับ
เริ่มด้วยมุมมองรอบๆตัวรถครับ
ด้านหน้า
ด้านหลัง
ด้านข้าง
เริ่มรื้อรถเลยนะครับ
แกะแฟริ่งที่คลุมถีงน้ำมันอยู่จะพบว่ามีแฟริ่งอยู่ไม่กี่ชิ้นครับ
แกะมาจะพบกับถังน้ำมันจริง ที่อยู่ข้างใต้แฟริ่งครับ
ถังน้ำมันจริงขนาดความจุ 15 ลิตร ซึ่งมากเพียงพอที่จะเดินทางไกลครับ
***Edit แก้ไขความจุถังน้ำมันครับจำผิดไป***
เมื่อยกถังน้ำมันขึ้นจะพบว่ามีช่องที่ทำไว้หลบกล่องกรองอากาศนั่นเอง
หน้าตาเจ้ากล่องกรองอากาศครับ
ทำการชำแหละเจ้ากล่องนี้กันครับ
แผ่นกรองอากาศ
เมื่อยกเจ้ากล่องกรองอากาศออก จะพบกับรางหัวฉีด ใช่ครับเจ้าแท่งสี่เหลี่ยมยาวๆนี่แหละครับ
เขยิบขึ้นมาหน่อยจะพบกับตัววัดค่า O2ต่อตรงเข้ากับหัวเทียน 1ตัว/1หัวเทียน เพื่อที่การจุดระเบิดจะออกมาได้ประสิทธิภาพสูงสุดครับ
ลงมาที่ท่อ จะพบว่ามี O2 Sensor 1ตัว/1ท่อ
ใต้ถังน้ำมันยังมี หม้อพักน้ำครับ ใช่ครับ หม้อพักน้ำ มาทำบ้าอะไรอยู่ใต้ถังฟะ
ลงมาที่ใต้เบาะกันมั่งครับ จะพบกับแบตเตอร์รี่ ขนาด 12V 8Ah
และชุด รีเรย์ทั้งคัน
จบแล้วครับกับข้างในตัวเครื่องยนต์
มาดูรอบนอกของตัวรถกันบ้างครับ
โครงถักครับ อันนี้ ความชอบส่วนตัวครับ
ต่อมาก็โช๊คที่สามารถปรับค่าได้ละเอียดพอสมควร
• สามารถปรับความหนืดได้
• สามารถปรับความแข็งของสปริงได้
ส่วนตัวผมว่าโช๊คสามารถทำหน้าที่ของมันได้ดีพอสมควรเลย เทโค้งจนหมดหน้ายางกันได้โดยไม่มีอาการสบัดหรือยวบยาบแต่อย่างใด
ยางหลังของเดิมติดรถ ให้ยาง ยี่ห้อ Metzler Sportec ขนาด 120/70 -- 180/55 ขอบ17
เกียร์โยง กับปั้มกระทุ้งเบรคหลังที่มีกระปุกน้ำมันเบรคแบบ Build-in
พักเท้าหลัง ที่ดูเหมือน จะไม่แข็งแรง ยางแปะเอาไว้ที่ดูเหมือนน่าจะหลุดง่าย
แต่ป่าวเลยครับใช้มาไม่มีเผยอแม้แต่น้อย ติดแน่นมากครับ แฟนซ้อนแทบทุกวัน
แต่ขอบอกเลยครับว่าชุดสี ทำไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ของผม ตรงที่เป็นจุดยึดน็อตสีแตกคร๊าบบ
ส่วนเรื่องที่หลายๆคนกังขากันซะส่วนใหญ่คือระบบเบรคที่ไม่มี ABS มาให้ ขอบอกเลยนะครับว่าถึงจะไม่มี ABS แต่ก็ทำการเบรคได้อย่างดีเยี่ยม
ด้วยระบบโช๊คหน้า ปั้มเบรค ต่างๆที่ ทาง Brembo และทาง Mazocchi OEM ให้
***OEM คือการที่บริษัท Part ต่างๆผลิตให้กับ แบรนของค่ายรถ โดยไม่ตีตราเจ้าของแบรนเอาไว้แต่จะตีตราของแบรนรถแทนครับ***
โช๊คหน้าขนาดแกน 50mm และ ปั้มเบรคหน้า Size เทียบเท่ากับ Brembo M4
ปั้มเบรคหลังไม่น้อยหน้า ให้มาเทียบเท่ากับ Brembo ตัวปักข้าง
หลายคนอาจจะบอกว่าผมมโนไปเองรึเปล่า ผมจะเทียบเบรคหลังให้ดูครับระหว่าง Brembo ผีเสื้อปักบนกับของเดิมติดรถ Benelli
ปั้มอันอื่นผมไม่มีของเทียบ ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
เทียบขนาดผ้าเบรคครับ
ขอจบการ Review เจ้า Benelli BN600 ไว้ ณ ที่นี้ครับ
ลืมไปครับ
• อัตราการซดน้ำมัน ในเมืองครับ 16-19 กม./ล. (ขึ้นอยู่กับนิสัยการบิดของแต่ละบุคคล)
• อัตราการจิบน้ำมัน เวลาออกทริปทางไกลๆครับ ประมาณ 23-26 กม./ล. (เทียบจากการไปทริปน่าน ระยะทาง 2100กม.)
• ความร้อนในเมือง 98-103 องศา (สามารถเปลี่ยนเทอโมเป็นของรถยนต์Mazda ได้ T จะอยู่ประมาณ 86-95องศา)
• ความร้อนนอกเมือง 88-93 องศา (เมื่อเปลี่ยนแล้ว T จะอยู่ที่ประมาณ 83-89 องศา)
• การเข้าโค้งค่อนข้างยากถ้าเป็นมือใหม่มีโอกาศล้มพับได้ง่ายมากๆ
• การเทโค้งในสนามถือว่าดีในระดับหนึ่ง สามารถเทโค้งจนหมดหน้ายางได้สบายๆ
• การเกาะถนนถือว่าดีเยี่ยมครับ เกาะดีไม่ร่อนแม้จะอยู่ในความเร็วสูง
• บิดหมดปลอก รถผมได้ 237 (บางคันก็ไม่ถึง บางคันก็เกินอยู่ที่คนขับและอื่นๆ)
พวกเรา Benelli อยู่กันเป็นครอบครัวครับ มีจัดทริปออกเที่ยวกันแทบทุกเดือน
ท่านประธาน ผู้เฒ่าเต่า เอ้ย พี่วิทย์ครับ
อันนี้ผมกับเจ้าม้าศึกคู่ใจครับ
ชาญนารีคลับ
ภาพตอนลงสนามแข่งกันครับ คุณจักร แซงหน้ารถสปอร์ตในคลาสเดียวกัน คว้าที่1 มาได้
ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้เลยนะครับ