[CR] แบ่งปันประสบการณ์ สัมภาษณ์วีซ่านักเรียนอเมริกา

กระทู้รีวิว
แรงบันดาลใน มาจาก ตอนตัวเองสนใจอยากจะไปเรียนก็ได้หาข้อมูลจาก พันทิพ เหมือนกันค่ะ
พอsearch เจออะไรก็ชอบอ่าน เลยคิดว่า อาจจะเป็นประโยชน์กับคนที่ใจ แล้วก็เป็นไดอารี่เก็บไว้อ่านเหมือนกันค่ะ
เริ่มแรก เราก็เลือกรัฐที่จะไปและเมืองที่จะไปก่อนนะคะ
จขกท นั้นเลือกเมืองที่ตัวเองคิดว่า การคมนาคมสะดวกค่ะ ซึ่งไม่รู้จริงหรือเปล่า ต้องลองไปดูก่อน

สำหรับเรื่องโรงเรียนสอนภาษานั้น
ตอนแรกสนใจสถาบันภาษาตามมหาวิทยาลัยในเมืองนั้นๆค่ะ แต่ข้อจำกัดอยู่ที่ส่วนมากมักจะเปิดครอสตามเวลาเปิดมหาวิทยาลัย ซึ่งอาจจะไม่ใช่เวลาที่เราสะดวกที่จะไปหนะค่ะ เลยต้องตัดไป
ต่อมาเลยมาดู โรงเรียน สอนภาษาที่เป็นของเอกชนค่ะ

การสมัคร เราสมัครผ่านเอเยนซี่นะคะ เพราะว่า ตอนเราสมัครมันมีโปรโมชั่นลดค่าเรียน อะค่ะ แล้วก็สะดวกดี คือ
เค้าจะบอกว่าเค้าไม่ชาร์ตเรา เพราะว่า เค้าเป็นตัวแทนของโรงเรียนสอนภาษา เค้าได้เงินจากโรงเรียนนั้นๆที่ลูกค้าสมัครไปค่ะ ซึ่งก่อนเชื่อเราก็เตือนตัวเองเสมอว่าโปรดใช้วิจารณญาณ เราก็เลยไปที่เว็บของโรงเรียนสอนภาษาที่เราจะสมัคร โชคดีที่เว็บเค้ามีโปรแกรมที่ให้คำนวณค่าเรียนและค่าใช้จ่ายต่างๆ (ซึ่งเป็นคนละเว็บกับเว็บของเอเยนซี่นะคะ)
พอเราได้พินิจพิจารณาดีแล้วว่า เออสมัครผ่านเอเยนซี่ครั้งนี้ ถูกกว่า(เพราะได้โปรโมชั่น)และสบายกว่า เพราะเค้าจะดำเนินการในเรื่องขอ เอกสาร I-20 จากโรงเรียนให้เราค่ะ
(เอกสาร I20 เป็นเอกสารที่จำเป็นมากในการขอวีซ่า)

ระหว่าง รอ I-20 เอเยนซี่ก็จะส่ง ไฟล์exelซึ่งเป็นตัวอย่างของการกรอก DS160 มาให้เรา
พอเรากรอกไปแล้ว เอเยนซี่จะไปตรวจดู และกรอกลงในเว็บให้ค่ะ
ซึ่งข้อมูลใน DS 160 ก็จะเป็น ข้อมูลของเรานั่นแหละค่ะ
หมายเหตุ เนื่องจากเจ้าของกระทู้สมัครผ่านเอเยนซี่นั่นแหละ ขั้นตอนไม่เป๊ะเท่าไหร่เพราะไม่ได้ทำเองนะคะ แต่ก็เข้าไปหาอ่านรีวิวของคนนู้นที คนนี้ที เป็นความรู้บ้าง จะได้ไม่งง เวลาที่เอเยนซี่อธิบาย
รีวิวที่เราเห็นว่า เขียนละเอียดดีมากคือ รีวิวของ คนนี้ค่ะ
ขออนุญาตแปะลิ้งนะคะ : http://www.onnbaby.com/latest-update/travel-%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%A3-2/

มาถึงวันไปสัมภาษณ์ที่สถานทูตอเมริกาค่ะ

เอกสารที่เตรียมไปคือ
กรณีนี้คือเราไปทุน พก นะคะ คือพ่อเป็นสปอนเซอร์ค่ะ
เราจะแบ่งเป็น
เอกสารของสปอนเซอร์ นะคะ
1. สำเนาบัตรปชช
2. สำเนาทะเบียนสมรส
3. หนังสือรับรองการทำงาน
4. สเตทเม้นย้อนหลัง 6 เดือน
5. BANK GUARUNTEE

เอกสารของเรา
1. ปริญญาบัตรภาษาอังกฤษ + สำเนารับรองสำเนาถูกต้อง
2. ใบทรานสคริป + สำเนารับรองสำเนาถูกต้อง
3. หนังสือรับรองการทำงาน
หมายเหตุ ในส่วนนี้ จขกท มีปัญหานิดหน่อยค่ะ เพราะไม่ได้ทำงานบริษัทเอกชน หรือ รัฐบาล
พูดง่ายๆว่า เป็นฟรีแลนซ์ ซึ่งก็ถูกพี่ที่เอเย้นกดดันมาว่า อเมริกาเค้าชอบคนที่มีการทำเป็นหลักแหล่งนะ
เราก็เลยไปขอให้คนที่เราเคยทำงานด้วย ให้เค้าเซ็นหนังสือรับรองการทำงานให้เรา แล้วเราก็หอบเอกสารที่มีการลงชื่อรับรองว่าเราเคยทำงานจริงๆนะ ไปด้วย พร้อมกับเอกสารต่างๆนานา ที่จะยืนยันว่าชั้นทำงานจริงๆนะไปด้วย
4. Passport + สำเนารับรองสำเนาถูกต้อง
5. รูป 2*2 นิ้วเป๊ะๆ นะคะ
6 .ใบเสร็จค่าสมัครวีซ่า
7. ฟอร์ม DS160ที่เรากรอกและกดsubmit แล้ว
ที่บอกว่าต้องกด submitแล้ว ค่อยปริ้นเพราะว่า ตอนไปสถานทูตมีคนปริ้นที่ยังไม่กดsubmitไปแล้วเค้าต้องไปวิ่งหาที่กดแล้วค่อยปริ้นนี่มันจะยุ่งอะค่ะ
8. สำเนาบัตร ปชช
* กรณีถ้าเคยเปลี่ยนชื่อ สกุล ก็ต้องเอาเอกสารไปด้วยนะคะ
** ถ้าแต่งงานหรือเคยแต่งงานก็เอาเอกสารที่เกี่ยวข้องไปด้วยค่ะ
วันที่สัมภาษณ์เราจองไว้ที่เวลา9.00น. ค่ะ แบบว่าถือฤกษ์งามยามดี จริงๆคือกลัวไปไม่ทันค่ะ
แต่เอาเข้าจริง ออกจากหอพักเพื่อนตั้งแต่ 6 .40 กลัวรถติด ไปถึงหน้าสถานทูต เกือบ 7โมง เช้ามาก
คนต่อคิวหน้าสถานทูตเพียบเลย เราเลยไปนั่งรอที่ สตาร์บัคตรงข้ามสถานทูต จนเวลา8โมงนิดๆเราก็ไปเข้าแถวอีกที พร้อมเอกสาร

นับตั้งแต่หน้าสถานทูตก็จะมีคนขอดูเอกสารDS160 ของเราและถามว่าเรานัดกี่โมง
พอเราบอกเวลาไปว่า 9โมงเค้าก็จะใช้ปากกาไฮไลต์เขียนเวลาของเราไว้ แล้วก็จะให้เราเข้ามาข้างในค่ะ
ก่อนจะเข้ามาถึงข้างในจะมีที่ตรวจกระเป๋า และสแกนตัวเอง เหมือนที่สนามบินตอนจะเข้าgate อะค่ะ
เค้าก็จะถามว่ามีโทรศัพท์ไหม แต่วันนั้นเราฝากเพื่อนไว้ที่ร้านกาแฟค่ะ
เราก็เดินมาแต่ตัวพร้อมเอกสาร วางของในตะกร้า เค้าจะเอาลอดเครื่องสแกน
ส่วนเราก็จะโดน คนสแกนโดยใช้เจ้าด้ามๆอะค่ะ แต่วันนั้นเราใส่สูทไปค่ะ เค้าก็ให้ถอดสูทออกก่อนกางแขนสแกน

พอตรวจเสร็จเรียบร้อยดีก็เดินเข้าไปนั่งรอตรงที่นั่ง รอให้เค้าเรียกเวลานัดค่ะ นี่ไปก็นั่งรอนานพอสมควร (ไม่น่าพี่ที่เอเยนซี่บอกไปถึงก่อน 15 นาทีก็พอ แต่เราถือคติมาเร็วยังดีกว่ามาช้า ฮ่าๆๆๆ)

พอเรียกคิว เค้าจะมีช่องให้เราไปยื่นเอกสาร ไม่รู้เค้าเอาเอกสารเราไปทำอะไร เพราะเค้าบอกให้เราจดtracking No. สำหรับกรณีที่วีซ่าผ่านแล้ว เอาไว้ตามเอกสาร เราเลยลืมดูว่าเค้าทำอะไร
พอเสร็จจากตรงนี้ เราก็เดินเข้าไปในห้องที่มี กงสุลจะสัมภาษณ์
แต่ก่อนจะเจอกงสุลนั้นเราก็ต้องไปยื่นเอกสารที่จำเป็นกับ จนท ช่อง12-15 ก่อน
เรายื่นกับคุณ จนท ช่อง 14 ไม่พูดพล่ามทำเพลงให้เสียเวลา บอกเอาสแกนนิ้วเลย เครื่องสแกนนิ้ว เค้าก็ดี๊ดี สแกนปุ๊บ ติดปั๊บ ต่างกับตอนสแกนนิ้วทำบัตรปชช นัก ที่เช็ดมือแล้วเช็ดมืออีกยังสแกนไม่ติด

พอเสร็จเค้าก็บอกให้เราไปช่อง 10 โดยยื่นเอกสารด้านที่มีบาร์โค้ดแนบที่กระจกให้เค้ายิง แล้วสแกนนิ้วอีกที
เสร็จจากตรงนี้ก็ไปรอสัมภาษณ์กับกงสุล

เราได้สัมภาษณ์กับกงสุลช่อง 8 เป็นฝรั่งผู้ชายค่ะ เห็นหน้าไม่ชัด เพราะกระจกมันสะท้อน

เค้าก็ถามเราว่า(เป็นภาษาไทย)
consul : จะไปเรียนภาษาที่รัฐ…หรอครับ
เรา : ค่ะ
consul : ทำไมเลือกเมือง…(เมืองที่เราไป)
เรา : เอเจนซี่บอกว่าเดินทางสะดวกแล้วก็อยากเห็นหิมะด้วยค่ะ
consul : มีคนรู้จักอยู่ที่นั่นไหม
เรา : ไม่มีค่ะ(จริงๆคือมี เพื่อนเรา แต่พี่ที่เอเยนให้บอกว่าไม่มี)
consul :  เรียนเสร็จแล้วจะกลับมาไหมครับ กลับมาทำอะไร
เรา : กลับค่ะ กลับมาสมัครงานใหม่
consul : ใครเป็นสปอนเซอร์ให้ครับ
เรา : พ่อค่ะ
consul : ขอดูเอกสารของสปอนเซอร์หน่อยครับ
เรา : ยื่นเอกสารให้
consul : เปิดดูแค่แบงค์การันตี แล้วถามว่า Mr. คนนี้เป็นใครครับ
เรา : เป็นพ่อค่ะ
consul : กลับมาแล้ว จะมาสมัครงานใหม่ ทำไมครับ
เรา : อยากได้เงินเดือนเยอะขึ้นหน่ะค่ะ
consul : วีซ่าคุณผ่านแล้วนะครับ  tracking no.นี้จดไว้รึยังครับ
เรา : จดแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ ยกมือไหว้งามๆโดยอัตโนมัติ แล้วมานึกออกว่า นี่คุยกับฝรั่งนี่ เลยตบท้ายว่า Thank you very much 
ปล ระหว่างที่เราตอบคำถาม เค้าถามมาเราลืมตัว พูดออกมาเลย ท่านกงสุลต้องชี้มือให้เราไปพูดใส่ไมค์ซึ่งอยู่ด้านซ้ายมือ เพราะเค้าไม่ได้ยิน

จบแล้วค่ะ เค้าไม่ถามอะไรเรามากเลย เราก็รู้สึกโชคดีเหมือนกัน เพราะพี่ที่เอเยนก็เตรียมคำถามสามร้อยแปด มาให้เราเหมือนกัน
แต่ทริคที่เอเย้นแนะนำมาคือ
- ถ้าเค้าถามว่าสัมภาษณ์อังกฤษหรือไทย ให้ตอบว่าอังกฤษไว้ก่อน เพราะถึงสัมภาษณ์จริง เรานึกคำพูดไม่ออก เราพูดไทยไปเค้าก็ฟังออก ถ้าเค้าฟังไม่ออกเค้าก็จะไปตามล่ามคนไทยมา
- แต่งตัว ต้องแต่งให้ดูดี ดูน่าเชื่อถือค่ะ นี่คือเหตุผลว่าร้อนมากแต่ ทำไมเราใส่สูทไป
- เวลาตอบคำถามต้องมีอายคอนแท็ค ซึ่งเราก็พยายามมองหาตาของท่านกงสุล เพราะกระจกสะท้อน เรามองไม่เห็น อิอิอิ จริงๆไม่ถึงขนาดนั้น  เรามองเห็นตากงสุลอยู่
- ตอบคำถามให้ ดูว่าจะกลับมาไทยให้มากที่สุด  และต้องเมคเซ้นส์ ด้วยนะคะ เรื่องนี้ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เพราะยังไงเราก็กลับ


ก่อนไปสัมภาษณ์ เราก็กังวลต่างๆนานา ว่าจะยาก
เอาเข้าจริงคือ ง่าย ชิว มาก
ถ้าเอกสารครบ ก็น่าจะไม่มีปัญหา ไม่ต้องตื่นเต้นมาก เราก็จะฟังและตอบคำถามรู้เรื่องค่ะ
หวังว่าจะมีประโยชน์นะคะ
ชื่อสินค้า:   วีซ่าอเมริกา
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่