พอด๊ลูกจะต้องเดินทางไปต่างประเทศ จะต้องใช้ใบสุติบัตรแปลเป็นภาษาอังกฤษ ก็ค้นหาที่รับแปล (แปลเองไม่ได้ เพราะต้องมีตราประทับรับรอง จากบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับการรับรองการแปลด้วย) ค่าใช้จ่ายก็ฉบับละ 300 บาทขึ้นไป ถ้าใครมีเปลี่ยนชื่อสกุล ต่างๆก็เยอะขึ้นไปอีก
แต่มาสะดุดกับข่าวนึง อ่านแล้วดีใจเลย (ตอนแรก)
"เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนโดยตรงในการลดขั้นตอนและเวลาการรับรองเอกสาร และลดภาระค่าใช้จ่ายในการแปลเอกสารของประชาชน จึงได้ร่วมกับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จัดทำเอกสารสองภาษาทั้งทะเบียนราษฎรและทะเบียนครอบครัว จำนวน 12 ประเภท อาทิ สูติบัตร ทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า ทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล ฯลฯ"
อ่านแล้วดีใจเลยครับ ต่อไปไม่ต้องไปจ้างแปลเสียค่าใช้จ่ายทุกครั้งที่จะติดต่อต่างประเทศ กำลังว่าจะไปขอสูติบัตร+สำเนาทะเบียนบ้าน ระบบ 2 ภาษาเลย แต่พออ่านรายละเอียดครับ โปรโมทว่า"
4 ขั้นตอนจบ!" บ้าไปแล้ว ให้เอกชนแปลขั้นตอนเดียวเอง แต่ราชการยุคใหม่ บอกออกเป็นของขวัญให้ประชาชนเพิ่มเป็น 4 ขั้นตอน ทำไปเพื่อ ???
ขั้นตอนแรกต้องไปขอเอกสารราชการแบบ 2 ภาษา จากอำเภอหรือเขตก่อน
ขั้นต้องที่ 2 ต้องเอาเอกสาร 2 ภาษาที่ได้ ไปให้กรมการกงสุล รับรองก่อนอีก (อ้าวอะไรฟะ เอกสารราชการออกมาเอง ยังไม่รับรองกันเองอีกเหรอ เดือดร้อน ประชาชนต้องวิ่งไป 2 รอบ 2 ที่อีกนิ)
ขั้นตอนที่ 3 ต้องเอาเอกสารไปติดต่อรับรองที่สถานทูตปลายทาง ของแต่ละประเทศอีก (ทำไมรัฐไม่ประสานสถานทูตตปท.ให้เรียบร้อยเลยครับว่าเป็นเอกสารราชการที่ถูกต้องได้รับการรับรองแล้ว)
ขั้นตอนที่ 4 ถึงนำไปใช้งานได้
ขั้นตอนอื่นไม่รู้นะครับว่ายากง่ายอย่างไร แต่
อย่างบัตรประชาชน หรือใบขับขี่เดี๋ยวนี้ที่มี 2 ภาษา ก็สามารรถนำไปใช้งานได้เลย โดยไม่ต้องแปลไม่ต้องรับรองอะไรเพิ่มเติม ทำไมเอกสารอื่นๆไม่ทำแบบเดียวกันละครับ ประชาชนจะได้ง่าย
ยิ่งขั้นตอนที่ 1 กับ 2 เป็นของรัฐเองแท้ๆ ยังไม่รวมกันให้เรียบร้อยเลย
ระดับประชาชนทั่วไปอย่างผมยังคิดได้ ทำไมคนเป็นนายก เป็นรัฐมนตรี เป็นอธิบดีต่างๆ ทำไมคิดกันไม่ได้ครับ ไม่เข้าใจ
ทำมาแบบนี้ใครจะไปใช้ครับ ผมจ้างเอกชนแปลแบบเดิมยังสะดวกกว่าครับ อย่างน้อยข้อ 1 กับ 2 ก็ไม่ต้องวิ่งไป 2 รอบ ส่วนใหญ่ไม่ต้องไปเองเลยด้วยซ้ำ
ที่มาของข่าวและข้อมูลครับ
https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/955489
http://www.consular.go.th/main/th/news/1379/98296-%E0%B8%81%E0%B8%95.-%E0%B8%A1%E0%B8%97.-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7-%22%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%22-%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%9B.html
งี่เง่าจังราชการไทย ประกาศเปิดตัวเอกสารราชการ 2 ภาษา หลงดีใจคิดว่าดีจริง ปรากฏว่าไม่ต่างจากเดิมเลย แถมยุ่งยากขึ้นอีกด้วย
แต่มาสะดุดกับข่าวนึง อ่านแล้วดีใจเลย (ตอนแรก)
"เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนโดยตรงในการลดขั้นตอนและเวลาการรับรองเอกสาร และลดภาระค่าใช้จ่ายในการแปลเอกสารของประชาชน จึงได้ร่วมกับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จัดทำเอกสารสองภาษาทั้งทะเบียนราษฎรและทะเบียนครอบครัว จำนวน 12 ประเภท อาทิ สูติบัตร ทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า ทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล ฯลฯ"
อ่านแล้วดีใจเลยครับ ต่อไปไม่ต้องไปจ้างแปลเสียค่าใช้จ่ายทุกครั้งที่จะติดต่อต่างประเทศ กำลังว่าจะไปขอสูติบัตร+สำเนาทะเบียนบ้าน ระบบ 2 ภาษาเลย แต่พออ่านรายละเอียดครับ โปรโมทว่า"4 ขั้นตอนจบ!" บ้าไปแล้ว ให้เอกชนแปลขั้นตอนเดียวเอง แต่ราชการยุคใหม่ บอกออกเป็นของขวัญให้ประชาชนเพิ่มเป็น 4 ขั้นตอน ทำไปเพื่อ ???
ขั้นตอนแรกต้องไปขอเอกสารราชการแบบ 2 ภาษา จากอำเภอหรือเขตก่อน
ขั้นต้องที่ 2 ต้องเอาเอกสาร 2 ภาษาที่ได้ ไปให้กรมการกงสุล รับรองก่อนอีก (อ้าวอะไรฟะ เอกสารราชการออกมาเอง ยังไม่รับรองกันเองอีกเหรอ เดือดร้อน ประชาชนต้องวิ่งไป 2 รอบ 2 ที่อีกนิ)
ขั้นตอนที่ 3 ต้องเอาเอกสารไปติดต่อรับรองที่สถานทูตปลายทาง ของแต่ละประเทศอีก (ทำไมรัฐไม่ประสานสถานทูตตปท.ให้เรียบร้อยเลยครับว่าเป็นเอกสารราชการที่ถูกต้องได้รับการรับรองแล้ว)
ขั้นตอนที่ 4 ถึงนำไปใช้งานได้
ขั้นตอนอื่นไม่รู้นะครับว่ายากง่ายอย่างไร แต่อย่างบัตรประชาชน หรือใบขับขี่เดี๋ยวนี้ที่มี 2 ภาษา ก็สามารรถนำไปใช้งานได้เลย โดยไม่ต้องแปลไม่ต้องรับรองอะไรเพิ่มเติม ทำไมเอกสารอื่นๆไม่ทำแบบเดียวกันละครับ ประชาชนจะได้ง่าย ยิ่งขั้นตอนที่ 1 กับ 2 เป็นของรัฐเองแท้ๆ ยังไม่รวมกันให้เรียบร้อยเลย
ระดับประชาชนทั่วไปอย่างผมยังคิดได้ ทำไมคนเป็นนายก เป็นรัฐมนตรี เป็นอธิบดีต่างๆ ทำไมคิดกันไม่ได้ครับ ไม่เข้าใจ
ทำมาแบบนี้ใครจะไปใช้ครับ ผมจ้างเอกชนแปลแบบเดิมยังสะดวกกว่าครับ อย่างน้อยข้อ 1 กับ 2 ก็ไม่ต้องวิ่งไป 2 รอบ ส่วนใหญ่ไม่ต้องไปเองเลยด้วยซ้ำ
ที่มาของข่าวและข้อมูลครับ
https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/955489
http://www.consular.go.th/main/th/news/1379/98296-%E0%B8%81%E0%B8%95.-%E0%B8%A1%E0%B8%97.-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7-%22%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%22-%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%9B.html