เส้นทางหลบร้อน ปั่นในป่า เส้นทางที่ 3 น้ำเอ่อ ศาลเลาด้าห์ พุเตย (1/2)

คอลัมน์นี้ เราตั้งใจไปเที่ยวสุพรรณบุรี อุทยานแห่งชาติพุเตย โดย จะแบ่งเขียนเป็น 2 ตอน
ตอนแรก เส้นทางปั่น บ้านน้ำเอ่อ  ตอนที่สอง  ที่พักอุทยานพุเตย ศาลเลาด้าห์ ป่าสนสองใบ

          เด็ก ๆ รุ่นใหม่ วันนี้ ต้อง เหน็ดเหนื่อยอย่างมากกับการเรียน และการสอบ แม่ปุ้ม เลยต้องหาทางจูงใจเด็กน้อยกันซะหน่อย เป็นเครื่องกระตุ้นให้มีกำลังใจในการอ่านหนังสือของสอบเด็ก ๆ โดยให้สัญญาว่า สอบเสร็จจะพาไปเที่ยวฉลอง 2 สาวน้อยบ้านปานมณี สังกัดบางแก้วไบค์ น้องป่าน (8 ขวบ) พี่ปิ่น 12 (ขวบ) ร้องเฮ้ เสียงดังลั่นบ้าน  พร้อมกับวางหนังสือที่อ่านอยู่ในมือลงทันที วินาทีนี้ เที่ยวสำคัญที่สุด คิดถึง เพื่อนวัยเดียวกัน น้องเอิรน์ คู่หูจอมป่วน กับพี่ออยพี่ใหญ่ ที่ชอบเล่าเรื่องผีให้น้อง ๆ ฟัง แล้วรีบหยิบโทรศัพท์ ชักชวนคู่หู เพื่อให้ไปเที่ยวด้วยกัน ทริปนี้ เรารวบรวมสมาชิกได้ 4 ครอบครัว ผู้ใหญ่ 11 เด็ก 5  เพราะมีเด็กผู้ชายเพิ่มมาอีก 1 ชื่อน้องแซน อายุ 11 ขวบ รายนี้บอกผมยังสอบไม่เสร็จครับอาปุ้ม แต่ขอไปด้วย เดี๊ยวค่อยกลับมาอ่านทีหลัง ผมอยากไป ผมอยากไป อยากไป ก็ให้ไปค่ะ
เนื่องจากทริปนี้ มีเด็กเยอะ และเป็นหน้าร้อน แม่ปุ้มเลยต้องทำการบ้านอย่างหนักเพื่อเลือกสถานที่ที่เหมาะสม เน้นที่ เส้นทางที่ปั่นต้องไม่อันตรายเกินไป ต้องไม่ไกลเกินไป และ ต้องไม่ร้อนเกินไป ด้วยเงื่อนไข ต่าง ๆ เราเลยคิดว่า คงต้องพาไปปั่นตามอุทยานแห่งชาติ แล้วเราก็เลือกปักหมุด ไปที่ อุทยานแห่งชาติพุเตย เหตุผลหลักหรอคะ ก็มันไม่ไกลมาก แค่  240  กิโลจาก ย่านบางนา ถนนที่ใช้ขี่เป็นถนนตัดป่าที่สามารถนำรถเซอร์วิสเข้าไปได้ ตลอดเส้นทาง ฉนั้น ที่นี่แหละ เหมาะสมที่สุดแล้ว รีบจัดการโทรจองสถานที่พักอุทยานแห่งชาติพุเตย หน่วยที่ 2  โทร -0819342240 แล้วเราก็ได้ที่พักตามต้องการในวันที่ 6-8 มีนาคม 58 ทริป 3 วัน 2 คืน ทริป ปิ่นป่านปั่นไปป่า ณ. พุเตย เกิดขึ้นแล้ว
เช้ามืดของ วันศุกร์ที่  6 มีนาคม เวลาตีห้า เป็นเวลาที่เด็ก ๆ รอคอย ไม่ต้องปลุกเลย พี่ปิ่นและน้องป่าน สามารถตื่นได้เอง ทำเอาแม่ปุ้มประหลาดใจเป็นอย่างมาก แล้วทุกคนบ้านปานมณีพร้อมสำหรับออกเดินทางกันเวลาตีห้าครึ่ง รถ ISUSU คันเก่าของเรา ทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ ในการ ขนอุปรกรณ์ เต้นท์ เสบียงต่างๆ รวมถึง รถจักรยานเสือภูเขาอีก 5 คัน โหลดเต็มพิกัด ก็เริ่มออกเดินทาง เรานัดกันกับกลุ่มเพื่อนๆ ที่เหลือ แถว ๆ สุพรรณบุรี เสียงพี่ปิ่นบอกว่า ป๊า หนูพร้อมแล้ว ไปเลย ออกเดินทาง
ออกจากบ้าน บางนา เราใช้ทางด่วนบางนา ไปลงยังแจ้งวัฒนะ - บางบัวทอง เราขับผ่านบางบัวทอง มาสักระยะ เราเริ่มได้ยินเสียง ซ่า ๆๆ จากวิทยุสื่อสาร ที่มีการนัดแสตนบายกันเอาไว้ ทำให้เรารู้เลยว่ากลุ่มเพื่อนเรา อยู่ไม่ใกล้ ไม่ไกล ในรัศมี 5 กิโลนี้แน่นอน น้องป่านดีใจยิ้มเห็นฟันจอบ รีบยกวิทยุสื่อสาร เรียก เอิรน์ ๆ โหล ๆ ป่านเรียก สักพักได้ยินเสียงน้องเอิรน์ ตอบ โหล ๆ ป่าน ได้ยินแล้วป่าน อยู่ไหน ถึงไหนแล้ว เสียงเด็ก ๆ ทักทายผ่านวิทยุสื่อสาร กันสนุกสนาน ไม่ช้าเราก็เจอรถ ISUSU คันสีน้ำเงิน มีสติก์เกอร์ ข่าว CNN ติดอยู่ด้านหน้า พี่ปิ่นเห็นก่อนใคร พร้อม ตะโกน ป๊า ป๊า นั่นไง รถบ้านเอิรน์ แล้วเราก็ขับตาม กันมาโดยใช้เส้น บ้านแพ้ว ตามที่นัดแนะกับบ้านของน้องแซนเอาไว้ พอใกล้ถึงจุดนัดพบ เราก็ได้ยินเสียงน้องแซน รอดผ่านวิทยุสื่อสาร หวัดดีครับ ณ.จุดนี้ กลุ่มรวมตัวกันครบทีม เราก็ขับรถมุ่งหน้าต่อไปยังตัวเมืองสุพรรณ แว๊ะเติมพลังคน และ เติมน้ำมันรถ ระหว่างทาง ผ่านร้านขายกุ้งแม่น้ำ ก็เลยถือโอกาส แว๊ะซื้อกุ้งแม่น้ำตัวเป็น ๆ ระหว่างทางมาด้วย สำหรับ ปาร์ตี้ มื้อดึก ของเรา ที่อุทยาน พุเตย คืนนี้
เราเดินทาง โดยใช้เส้นทางมุ่งหน้าสู่อุทยานพุเตยที่ 1 ซึ่งเราตั้งใจจะมาเส้นทางนี้ ทั้ง ๆ  ที่ดู review ใน internet มาแล้วว่าเส้นทางไม่ค่อยดี แต่ด้วยเหตุผลที่อยากสำรวจเส้นทาง ที่จะต้องใช้ปั่นในวันพรุ่งนี้ ก่อนปั่นจริง และคิดว่าหน้าแล้ง รถน่าจะเข้าได้ทุกคัน ทั้งรถเก๋ง และรถกระบะ เส้นทางหลังผ่าน อุทยานที่1 ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ รถเก๋ง ต้องค่อย ๆ ขับ (เออ ขอ เรียกว่าคลานจะดีกว่า) เรามากันเรื่อย ๆ จนเหลือ ระยะทางที่โชว์ใน GPS บอกว่า อีก ไม่ถึง 10 โล เราจะถึงอุทยานพุเตยที่ 2 ขับมาได้อีก สัก 200 เมตร กลุ่ม เราก็ได้สวนทางกับรถเจ้าหน้าที่ อุทยาน เจ้าหน้าที่แจ้งให้เรา วกกลับออกไปทางเดิม พร้อมกับบอกว่า ทางข้างหน้า รถเก๋ง เข้าไม่ได้ ยิ่งรถเล็กอย่าง Jass  ยิ่งไปไม่ได้ใหญ่ จะไปได้เฉพาะรถกระบะเท่านั้น และขอให้รถเล็กขับออกไปทางเดิม เพื่อไปใช้เส้นทางบ้านไร่ ในการไปอุทยาน โอ้ แย่แล้วสิ แต่ทำไงได้ มาด้วยกัน ก็ต้องไป ด้วยกัน เราตัดสินใจขับออกกันหมด ทั้งกระบะ 2 คัน และ Jass 1 ค้น  เรากลับรถออกทางเดิม ระยะทางใหม่ที่ GPS เราเช็คได้ จากที่เราเหลือ ไม่ถึง 10 โลเปลี่ยนเป็น กว่า 70 โล แต่ก็ถือเป็นการดี เราใช้เส้นทางบานไร่ ถนนสวยงาม เหมาะ กับการปั่นจักรยาน หน้าหนาว เพราะ ถนนสวย แต่อาจจะร้อนเกินไปสำหรับหน้าร้อน เราก็เลยถือโอกาสเก็บข้อมูลก่อน เผื่อว่า หน้าหนาวได้จะได้มาลองปั่นเส้นทางนี้
เราวนรถออกมาใช้เวลาอีก 2 ชั่วโมง เนื่องจากไม่คุ้นทาง และขับไปเรื่อย ๆ ชมวิว ทำให้เรา ใช้เวลาเพิ่มเติมจากที่คาดการณ์ไว้ เด็ก ๆ หิวโซ เราจึงตัดสินใจ แวะกินข้าวที่ปากทางเข้าอุทยาน ก่อนเดินทางต่อ ไปยังที่พักอุทยาน เพื่อเก็บของบางส่วนเข้าที่พัก  เวลาล่วงเลยเข้าไปก็เกือบบ่ายสองโมงแล้ว เรา ไม่รอข้า หลังจากเก็บสัมพาระเรียบร้อย ก็ขับรถยนต์ ออกมาเพื่อตั้งหลักปั่นกันที่ บ้านน้ำเอ่อ ตามที่ตั้งใจไว้ โดยขอจอดรถยนต์กันที่ ด่านป่าไม้ด่านแรกนะคะ
ที่มาที่ไปของชื่อน้ำเอ่อ เป็นเพราะมีการสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ ด้วยความที่เป็นเขื่อนใหญ่มาก ด้านบนของเขื่อนซึ่งเป็นขุนเขาที่สูงใหญ่ ก็มีน้ำเอ่อขึ้นมาถึง แล้วมีการสร้างหมุ่บ้าน แพพัก กันตรงนั้น ก็เลยมีชื่อเรียกกันว่าบ้านน้ำเอ่อ ส่วนไกรเกรียง เป็นชื่อของหน่วย ศร9 หรือ ศรีนครินทร์ที่9 ซึ่งเป็นหน่วยหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์
เวลาขณะนี้ ประมาณ เกือบบ่าย 3 โมง ถือว่า เกินกว่ากำหนดการ ไปพอสมควร และวันนี้เป็นวันที่อากาศค่อนข้างอบอ้าว เราเริ่มพร้อมออกปั่นในเวลาบ่ายแก่ ๆ ก็ช่วยลดความร้อนของอากาสลงไปได้มาก แต่เราก็ยังกังวลถึงเวลาเริ่มปั่นที่ ค่อนข้างจะเริ่มช้ากว่ากำหนดการ จึงทำให้เรา ต้องสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ถึงเส้นทางอีกครั้ง และเราก็ได้ความว่า ระยะทางจุดนี้ สู่แพบ้านน้ำเอ่อ ประมาณ 20 กิโล จากด่าน ไปเป็นบ้านน้ำเอ่อ เป็นทางลงเนินซะเป็นส่วนาก เราคิดว่า เราปั่น เข้าออก 40  กิโลน่าจะทันก่อนมืดสำหรับผู้ใหญ่ และ เราก็คิดว่า เด็ก ๆ เข้าไปถึงปลายทางแน่ ๆ แต่คิดว่าปั่นออกมาไม่ไหว เพราะขาออก เป็นทางขาขึ้นเนิน และต้อง ต้องทำความเร็ว จึงตัดสินใจได้ในทันทีว่า ให้ มีการขับรถเซอร์วิสตามเข้าไปด้วย เส้นทางปั่นโดยภาพรวมเป็นทรายละเอียดค่อนช้างลื่น และเป็นทางไหลลง เด็ก ๆ จึงต้องขับด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ







          น้องป่าน กับ น้องเอิรน์ ขับได้ สักประมาณ ครึ่งทาง ดูเหมือนเบรคกันไม่ค่อยอยู่ เพราะดูได้จาก เบรคแล้วท้ายปัด อาจจะเป็นเพราะน้ำหนักตัวน้อย และควบคุมรถจักรยาน คันใหญ่ ทำให้แม่ปุ้มกังวล และ คิดว่า ไม่ค่อยปลอดภัย เลยเรียกให้เด็ก ๆ ขึ้นรถ เซอร์วิสเพื่อความปลอดภัย ขอเก็บตัวนักกีฬารุ่นเล็กก่อนนะคะ ส่วนเด็ก โต ที่ควบคุมรถเก่งกว่า ทั้ง พี่ปิ่น พี่อออย และน้องแซน สามารถ ขับสู่ปลายบ้านน้ำเอ่อได้ ตามที่คาดการ์ไว้ เก่งมาก ๆ เลย





วิวปลายทางบ้านน้ำเอ่อ ต้องขอบอกว่า สวยงาม มาก เมื่อถึง หายเหนื่อยเลย




         เวลาเย็น เราสามารถเห็นพระอาทิตย์ตกจ๋อมตรงหน้าเลยค่ะ พวกเรานั่งพักเหนื่อย ดื่มด่ำกับธรรมชาติ สักพัก แล้วก็ต้องรีบกลับ เพราะพระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำแล้ว




         ทั้งที่ใจ เราอยากนั่งอยู่รอจนพระอาทิตย์ตกจ๋อมตรงหน้า แล้วค่อยอำลา แต่เพราะกลัวว่าขาออก จะมืดจนเกินไป ไม่เหมาะกับการปั่น แม่ปุ้มเรียกเด็กๆ ขึ้นรถเซอร์วิส ตามที่วางแผนไว้ ปล่อยให้ผู้ใหญ่ ปั่นออก เพื่อเรียกเหงื่อ สนุกสนานกันไปตามระเบียบ เด็ก ๆ แอบนัดแนะกันว่า แล้วพี่ออย ก็เอ่ยขึ้นลอย ๆ ว่า คราวหน้าเรามานอนที่นี่ได้ไหม น้าปุ้ม จะให้ตอบว่า อะไรได้ นอกจาก OK ค่ะ เด็กๆ เฮ กันยกใหญ่ ลูก ๆ มีความสุข บรรดาพ่อแม่ก็มีความสุข

เส้นทางวันพรุ่งนี้ พุเตย ศาลเลาห์ด้า ตามมาติดตามกันนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่