บ้านน้ำเอ่อ ไกรเกรียง ในวันหยุดยาว วันแรงงาน 3 วัน 2 คืน ในแพพี่เชิดน้ำเอ่อ ตอนที่ 1 ค่ะ
สถานที่แห่งนี้ “ บ้านน้ำเอ่อ ไกรเกรียง “ ปุ้มเชื่อว่า นักปั่นจักรยาน ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ถ้าบอกชื่อนี้ออกมาลอยๆหลายคนคงงงว่ามันคืออะไร มันคือที่ไหน แต่สำหรับนักท่องไพร และนักตกปลา ส่วนใหญ่จะรู้จักในชื่อแพ็คคู่ มักจะเรียกคู่กันว่า น้ำเอ่อ ไกรเกรียง อืมม์ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับจักรยานหละเนี่ยะ
น้ำเอ่อ เคยกล่าวไปบ้างแล้วในบทความก่อนหน้า เส้นทางหลบร้อน ปั่นในป่า เส้นทางที่ 3 น้ำเอ่อ ศาลเลาด้าห์ พุเตย ปุ้มสัญญากับลูก ๆ ไว้ ว่า เราจะกลับมาพักแพที่นี่ และเราก็กลับมาตามคำสัญญา วันนี้ เรากลับมาเยือนที่นี่ ดังที่ตั้งใจไว้ บรรยากาศ ยังคงสวยเหมือนเดิม แต่ปริมาณน้ำลดลงมาก เล่ามาตั้งนาน แล้วไกรเกรียงเกรียงหล่ะ ไกรเกรียงคืออะไร ”ไกรเกรียง” เป็นชื่อของของหน่วย ศร ซึ่งเป็นหน่วยหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เส้นทางก็คือ ถนนลูกรังจากบ้านน้ำเอ่อ ตรงลึกเข้าไปจนสุดทาง เราก็จะพบกับ หน่วยไกรเกรียง
ระยะทางจาก สมุทราปราการ ไปบ้านน้ำเอ่อ ประมาณ 271 กิโลเมตร เราใช้เวลาเดินทาง กัน ประมาณ 4 ชั่วโมง เรามุ่งหน้าไปยังทุ่งมะกอก ผ่าน ด่านตรวจอุทยานแห่งชาติศรีนครินทร์(เขากระชาย) ไปแพน้ำเอ่อ จากแยกบ้านทุ่งมะกอก ถึง แพน้ำเอ่อ เป็นทางดิน รวมระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
ที่บ้านน้ำเอ่อ ไม่มี ไฟฟ้า และสัญญานโทรศัพท์ ร้านขายของก็ไม่มี มีแต่อาหารที่สั่งจากแพพักได้ เน้นปลาเป็นหลัก ฉนั้น หากต้องการตุนสะเบียงให้แว๊ะ บ้านม่วงเฒ่า เป็นชุมชนใหญ่สุดท้ายที่แนะนำให้จอดซื้อหาเสบียงติดรถไปให้ครบ จากจุดนี้ไปแล้วจะหาซื้อลำบากแล้วค่ะ
ก่อนออกจากบ้านม่วงเฒ่า จะเห็นเสาโทรศัพท์ของ AIS ต้นนี้เป็นต้นสุดท้าย หลังจากนี้แล้วจะไม่มีสัญญานโทรศัพท์ ใครมีธุระกิจใด ๆ ค้างอยู่ คุยซะให้เรียบร้อยในจุดนี้นี้นะคะ ประมาณ 4-5 กิโลเมตร ก็จะถึงด่านตรวจอุทยานแห่งชาติศรีนครินทร์ (เขากระชาย) หลังจากผ่านด่านนี้ไปก็ถือว่าเข้าเขตป่าแล้วหล่ะค่ะ (ขาแรง สามารถปั่นจากตรงนี้เข้าน้ำเอ่อได้เลยนะคะ เส้นทางสวยงาม ทริป เส้นทางหลบร้อน ปั่นในป่า เส้นทางที่ 3 น้ำเอ่อ ศาลเลาด้าห์ พุเตย เราเริ่มปั่นจากด่านนี้เข้าไปยังแพน้ำเอ่อค่ะ)
จากด่านฯประมาณ 7 กิโลเมตร จะเจอแยก สังเกตุป้ายแพที่พักจำนวนมาก ให้เลี้ยวซ้ายนะคะ ถ้าตรงไปจะไปบ้านน้ำพุ ช่วงหน้าฝน ดินนิ่ม รถเก๋งจะลำบากหน่อยนะคะ ไม่แนะนำคะสำหรับรถเก๋ง หน้าแล้ง รถเก๋งพอเข้าได้ค่ะ จากแยกที่มีป้ายแพพักเยอะๆไปประมาณ 9 กิโลเมตร ก็จะถึงปากทางเข้าแพแล้วคะ
ทริปนี้ พวกเราถึงแพพี่เชิดซึ่งเป็นแพ แรก ๆ ของน้ำเอ่อ เราเลือกพักที่เพราะถึงก่อนแพอื่น ๆ และบริเวณลานจอดรถ กว้างขวางสะดวกดีค่ะ
จอดรถ ถึงที่หมายประมาณเกือบบ่ายโมง หิว ตาลาย สั่งอาหารมาทานกัน จุใจ ที่นี่ปลา อร่อย สดและถูกค่ะ อย่างปลานิลทอด ตัวขนาด 2 โล กว่า ๆ ราคา 200 เท่านั้นเองค่ะ อาหารทั่ว ๆ ไปผัดผัก ก็ราคาประมาณ 60 บาทจานใหญ่มาก ถ้าไม่อยากทำกินเอง กลัวเหนื่อย ฝากท้องกับแม่ครัวที่นี่ได้เลยค่ะ รับรองถูก แน่ ๆ หลังจากอิ่มกันเรียบร้อย เห็นแสงแดด เลยยังไม่กล้า ออกปั่นกัน นั่งคุยเล่นฆ่าเวลารอแดดร่มลมตกกว่านี้หน่อย จนได้เวลาประมาณ บ่าย 3 แสงแดด ก็ยังไม่ลดลง แต่ด้วยความที่อยากออกปั่นกันมากแล้วรอต่อไม่ได้ปั่นแน่ แดดหาย ก็คงมืดพอดี จึงยอมลุยสู้แสงแดด แต่ไม่น่าเชื่อ พอปั่นออกจากแพมา 500 เมตร เข้าสู่ถนนหลัก เราก็เจอบรรยากาศร่มรื่น ตามภาพเลยค่ะ (คิดในใจไม่น่ารอเลย ลืมคิดไปว่า ปั่นในป่า ยังไง เราก็ได้ร่มเงาของต้นไม้ ช่วยบดบังแสงแดดอยู่แล้ว)
เส้นทางสวยงามร่มรื่น ล้อมรอบด้วยภูเขาตลอด ทาง แต่ขอบอก เนินค่อนข้างชัน พอสมควร น้องป่าน กับพี่ปิ่น ปั่นไม่ไหว เข็นกันไปตามระเบียบค่ะ ตามภาพ
จากแพพัก ไปจุดหมายแรกของเรา คือ “น้ำตกนิรนาม” เส้นทางปั่น ให้เริ่มปั่นออกจากแพพัก เจอสามแยกตรงทางหลัก ให้เลี้ยวซ้าย ใช้ แล้วปั่นตรงไปเรื่อย ๆ ประมาณ 2 กิโล ลักษณะเส้นทางเป็นทางเนิน ขึ้นตลอด จนสุดทาง ก็จะเป็นทางไหลลง ยาว เบี้ยงโค้ง ให้สังเกตุทางขวามือค่ะจะมีสามแยก ก่อนที่จะไต่เนินอีกครั้ง สังเกตุด้านขวามือ ตรงแอ่งกระทะ ก่อนขึ้นเนิน ชันอีกครั้ง จะมีน้ำตกสวยงามที่ใคร ๆ แถว นี้เรียกน้ำตกนิรนาม เพราะมันเป็นน้ำตกไม่มีชื่อค่ะ
น้ำที่น้ำตกนี้ ใส แจ๋ว เลยนะคะ ขนาดว่าเป็นหน้าแล้งยังมีน้ำ เดินลึกเข้าไป ด้านใน เป็นผาน้ำตกสวยงาม น่าเสียดายที่ไม่ได้ถือกล้องเข้าไปด้วย และกลัวเวลาไม่พอ เลยรีบเดินออก มายังด้านหน้า เพื่อจะออกปั่นต่อจุดหมายปลายทางที่ตั้งใจไว้คือ “หน่วยไกรเกรียง” ค่ะ ระยะทางจากน้ำตกนิรนาม ไปไกรเรียง มีป้ายบอกทางว่า อีก 12 โล จะถึงหน่วยไกรเกรียง เด็ก ๆ ขอเล่นน้ำ กันที่นี่ แม่ปุ้มก็ตามใจ เพราะมีผู้ใหญ่บางคนหมดแรงแล้ว และ ขออาสานั่งเล่นเป็นเพื่อนเด็กๆ ตรงนี้เหลือ แม่ปุ้ม ป๋าหนุ่ม โกว และตากล้องพี่วุฒิ ปั่นเพื่อสำรวจเส้นทาง กันต่อ 4 คน เวลาตอนนั้น ประมาณ 4 โมงเย็น คำณวนในใจ 12 กิโลไปกลับ 2-3 ชั่วโมงน่าจะกลับทันสบาย ๆ ก่อนมึด คิดในใจเช่นนั้น แล้ว ก็รีบปั่นต่อ ด้วยเวลาที่เร่ง รัดเข้าไปทุกที
เราเริ่มออกปั่นไปต่อ ก็เจอเนินแรก ถึงกับเหงื่อซึม ปั่นดันเนิน กันไป เนิน แล้ว เนินเล่า ระดับความชันมากขึ้นทุกที ตามความสวยงามที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
แค่เพียง ประมาณ 5 กิโลเมตร เราใช้เวลากัน กว่า หนึ่งชั่วโมง เริ่มท้อ กลัวกลับไม่ทัน ในใจเริ่มกังวลว่าไปต่อดี หรือกลับดี ตอนนี้ เราปั่นขึ้นเนินมาจนคิดว่า อยู่จุดสูงสุดของภูเขาแล้ว ดูจากวิว ตรงนี้ มองเห็น น้ำไกล ๆ อีกครั้ง พร้อมลำแสงที่สาดส่องลงมา พระอาทิตย์กำลังจะลับของภูผา สวยงามเกินว่าจะบรรยายด้วยคำพูด ดูกันด้วยภาพดีกว่านะคะ อยากจะบอกว่า ที่นี่เหมือนปางอุ๋งภาคกลาง ก็คงว่าได้ในความรู้สึกของปุ้ม ณ.จุดที่ยืนชมวิวตรงนี้
ถ่ายรูปกันเสร็จ เหลือบมองนาฬิกา โอ๊ย เวลาทำไมเดินเร็วอย่างนี้ 5 กว่าแล้ว เอาไงดี ไปต่อ หรือกลับก่อน อีกไกล ไหมเนี่ยะ คิดในใจ พอดีมีรถกระบะท้องถิ่นสวนมา ก็ถือเป็นโชคดีของเราไป รีบโบกรถ พี่ค๊ะพี่ค๊ะ เสียงเรียก พร้อมโบกมือ ให้รถหยุด พี่ชายใจดี จอดรถตรงกลางเนิน ชัน เพื่อให้เราถามทาง พูดคุยถามไถ่ ได้ใจความว่า ลงเนินยาว นี้ แล้ว ขึ้นเขาต่ออีก 1 ลูก แบบเขาที่เราข้ามมา แล้วก็ลงเขาอีกรอบ ก็จะถึงหน่วยไกรเกรียง เรามาได้ครึ่งทางแล้ว ถ้าจะไปต่อ ก็อีกครึ่งทาง มองนาฬิกา คำณวนเวลา พยักหน้าพร้อมกันว่า พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่(พาเพื่อน ๆ กับเด็ก ๆ มาด้วย) อยากให้ทุกคนเห็นความสวยงามจากตรงนี้ด้วยกัน แล้ว เราก็ยกมือไหว้ ขอบคุณ ในคำแนะนำของพี่ชาย ที่อุตส่าห์จอดรถกลางเนิน เพื่อให้เราถามรายละเอียด อย่างที่บอกเนินชัน กว่ารถกระบะจะออกตัวได้ รถดับไปตั้ง 2 รอบ 555 แอบรู้สึกผิดในใจ แต่ ทำไงได้ วิว มุมนี้สวยมาก ทำให้เราต้องจอดกลางเนิน เพื่อถ่ายภาพ เก็บไว้ เป็นที่ระลึก
ขากลับปั่นไปสมทบกับเด็ก ๆ โหปั่นขึ้น ชั่วโมงกว่า ๆ ปั่นกลับ 15 นาทีเอง รวมตัวกับเด็ก ๆ แล้วเราก็ปั่นกลับพร้อมกันถึงแพพัก ก็ประมาณ 6 โมงเย็น เราหาขนมกินกัน ปอกแตงโม กับทุเรียน รองท้อง ก่อนกินอาหารเย็น ระหว่างรอ ก็ขออาบน้ำอาบท่าให้สบายตัวสักหน่อย ห้องอาบน้ำทริปนี้ กว้างขวางมาก บรรยากาศ โรแมนติก พวกเราอาบน้ำกันจน มืด เกือบ 2 ทุ่ม คืนนี้เป็นคืนวันเพ็ญ พระจันเต็มดวงอาบน้ำนอนดูดาว อะไรจะสุขไปกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว น้ำที่นี่แปลกมาก ด้านบนอุ่นสบาย ด้านล่าง เย็น ลมพัดตลอดเวลา มีความสุขจริง ๆค่ะ นอนลอยคอ บนน้ำอุ่น ๆ (เสียดาย บรรยากาศ ภาพ จันทร์เต็มดวง ดาวเต็มท้องฟ้าตอนอาบน้ำ ไม่ไดเก็บมาให้ดู ลองนึกภาพตามไปเองก่อนแล้วกันนะคะ หรือไม่ก็ต้องไปดูด้วยตาตนเองค่ะ)
ขอ จบเท่านี้ก่อนนะคะ รอติดตามชมตอนต่อไป ว่าสุดทาง ไกรเกรียง จะเป็นอย่างไรด้วยนะคะ
พิกัด GPS
บ้านม่วงเฒ่า - N14.78146 E99.35555
แยกทุ่งมะกอก - N14.83944 E99.32559
ด่านตรวจ อช.เขื่อนศรี (เขากระชาย) - N14.87286 E99.29786
แยกน้ำเอ่อ-น้ำพุ - N14.91062 E99.25391
ปากทางเข้าแพน้ำเอ่อ - N14.94425 E99.19625
แพน้ำเอ่อ - N14.94493 E99.19471
จุดผูกแพ - N14.94730 E99.18630
วัดปากลำขาแข้ง (อุโบสถสแตนเลส) - N14.92556 E99.12194
น้ำตกนิรนาม - N14.95071 E99.19594
ขอบคุณ เครดิตภาพสวย ๆ จาก พี่วุฒิ จาก บางแก้วไบค์ด้วยค่ะ
เส้นทางหลบร้อน ปั่นในป่า เส้นทางที่ 5 ศร.9 น้ำเอ่อ ไกรเกรียง ตอนที่ 1/2
สถานที่แห่งนี้ “ บ้านน้ำเอ่อ ไกรเกรียง “ ปุ้มเชื่อว่า นักปั่นจักรยาน ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ถ้าบอกชื่อนี้ออกมาลอยๆหลายคนคงงงว่ามันคืออะไร มันคือที่ไหน แต่สำหรับนักท่องไพร และนักตกปลา ส่วนใหญ่จะรู้จักในชื่อแพ็คคู่ มักจะเรียกคู่กันว่า น้ำเอ่อ ไกรเกรียง อืมม์ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับจักรยานหละเนี่ยะ
น้ำเอ่อ เคยกล่าวไปบ้างแล้วในบทความก่อนหน้า เส้นทางหลบร้อน ปั่นในป่า เส้นทางที่ 3 น้ำเอ่อ ศาลเลาด้าห์ พุเตย ปุ้มสัญญากับลูก ๆ ไว้ ว่า เราจะกลับมาพักแพที่นี่ และเราก็กลับมาตามคำสัญญา วันนี้ เรากลับมาเยือนที่นี่ ดังที่ตั้งใจไว้ บรรยากาศ ยังคงสวยเหมือนเดิม แต่ปริมาณน้ำลดลงมาก เล่ามาตั้งนาน แล้วไกรเกรียงเกรียงหล่ะ ไกรเกรียงคืออะไร ”ไกรเกรียง” เป็นชื่อของของหน่วย ศร ซึ่งเป็นหน่วยหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เส้นทางก็คือ ถนนลูกรังจากบ้านน้ำเอ่อ ตรงลึกเข้าไปจนสุดทาง เราก็จะพบกับ หน่วยไกรเกรียง
ระยะทางจาก สมุทราปราการ ไปบ้านน้ำเอ่อ ประมาณ 271 กิโลเมตร เราใช้เวลาเดินทาง กัน ประมาณ 4 ชั่วโมง เรามุ่งหน้าไปยังทุ่งมะกอก ผ่าน ด่านตรวจอุทยานแห่งชาติศรีนครินทร์(เขากระชาย) ไปแพน้ำเอ่อ จากแยกบ้านทุ่งมะกอก ถึง แพน้ำเอ่อ เป็นทางดิน รวมระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
ที่บ้านน้ำเอ่อ ไม่มี ไฟฟ้า และสัญญานโทรศัพท์ ร้านขายของก็ไม่มี มีแต่อาหารที่สั่งจากแพพักได้ เน้นปลาเป็นหลัก ฉนั้น หากต้องการตุนสะเบียงให้แว๊ะ บ้านม่วงเฒ่า เป็นชุมชนใหญ่สุดท้ายที่แนะนำให้จอดซื้อหาเสบียงติดรถไปให้ครบ จากจุดนี้ไปแล้วจะหาซื้อลำบากแล้วค่ะ
ก่อนออกจากบ้านม่วงเฒ่า จะเห็นเสาโทรศัพท์ของ AIS ต้นนี้เป็นต้นสุดท้าย หลังจากนี้แล้วจะไม่มีสัญญานโทรศัพท์ ใครมีธุระกิจใด ๆ ค้างอยู่ คุยซะให้เรียบร้อยในจุดนี้นี้นะคะ ประมาณ 4-5 กิโลเมตร ก็จะถึงด่านตรวจอุทยานแห่งชาติศรีนครินทร์ (เขากระชาย) หลังจากผ่านด่านนี้ไปก็ถือว่าเข้าเขตป่าแล้วหล่ะค่ะ (ขาแรง สามารถปั่นจากตรงนี้เข้าน้ำเอ่อได้เลยนะคะ เส้นทางสวยงาม ทริป เส้นทางหลบร้อน ปั่นในป่า เส้นทางที่ 3 น้ำเอ่อ ศาลเลาด้าห์ พุเตย เราเริ่มปั่นจากด่านนี้เข้าไปยังแพน้ำเอ่อค่ะ)
จากด่านฯประมาณ 7 กิโลเมตร จะเจอแยก สังเกตุป้ายแพที่พักจำนวนมาก ให้เลี้ยวซ้ายนะคะ ถ้าตรงไปจะไปบ้านน้ำพุ ช่วงหน้าฝน ดินนิ่ม รถเก๋งจะลำบากหน่อยนะคะ ไม่แนะนำคะสำหรับรถเก๋ง หน้าแล้ง รถเก๋งพอเข้าได้ค่ะ จากแยกที่มีป้ายแพพักเยอะๆไปประมาณ 9 กิโลเมตร ก็จะถึงปากทางเข้าแพแล้วคะ
ทริปนี้ พวกเราถึงแพพี่เชิดซึ่งเป็นแพ แรก ๆ ของน้ำเอ่อ เราเลือกพักที่เพราะถึงก่อนแพอื่น ๆ และบริเวณลานจอดรถ กว้างขวางสะดวกดีค่ะ
จอดรถ ถึงที่หมายประมาณเกือบบ่ายโมง หิว ตาลาย สั่งอาหารมาทานกัน จุใจ ที่นี่ปลา อร่อย สดและถูกค่ะ อย่างปลานิลทอด ตัวขนาด 2 โล กว่า ๆ ราคา 200 เท่านั้นเองค่ะ อาหารทั่ว ๆ ไปผัดผัก ก็ราคาประมาณ 60 บาทจานใหญ่มาก ถ้าไม่อยากทำกินเอง กลัวเหนื่อย ฝากท้องกับแม่ครัวที่นี่ได้เลยค่ะ รับรองถูก แน่ ๆ หลังจากอิ่มกันเรียบร้อย เห็นแสงแดด เลยยังไม่กล้า ออกปั่นกัน นั่งคุยเล่นฆ่าเวลารอแดดร่มลมตกกว่านี้หน่อย จนได้เวลาประมาณ บ่าย 3 แสงแดด ก็ยังไม่ลดลง แต่ด้วยความที่อยากออกปั่นกันมากแล้วรอต่อไม่ได้ปั่นแน่ แดดหาย ก็คงมืดพอดี จึงยอมลุยสู้แสงแดด แต่ไม่น่าเชื่อ พอปั่นออกจากแพมา 500 เมตร เข้าสู่ถนนหลัก เราก็เจอบรรยากาศร่มรื่น ตามภาพเลยค่ะ (คิดในใจไม่น่ารอเลย ลืมคิดไปว่า ปั่นในป่า ยังไง เราก็ได้ร่มเงาของต้นไม้ ช่วยบดบังแสงแดดอยู่แล้ว)
เส้นทางสวยงามร่มรื่น ล้อมรอบด้วยภูเขาตลอด ทาง แต่ขอบอก เนินค่อนข้างชัน พอสมควร น้องป่าน กับพี่ปิ่น ปั่นไม่ไหว เข็นกันไปตามระเบียบค่ะ ตามภาพ
จากแพพัก ไปจุดหมายแรกของเรา คือ “น้ำตกนิรนาม” เส้นทางปั่น ให้เริ่มปั่นออกจากแพพัก เจอสามแยกตรงทางหลัก ให้เลี้ยวซ้าย ใช้ แล้วปั่นตรงไปเรื่อย ๆ ประมาณ 2 กิโล ลักษณะเส้นทางเป็นทางเนิน ขึ้นตลอด จนสุดทาง ก็จะเป็นทางไหลลง ยาว เบี้ยงโค้ง ให้สังเกตุทางขวามือค่ะจะมีสามแยก ก่อนที่จะไต่เนินอีกครั้ง สังเกตุด้านขวามือ ตรงแอ่งกระทะ ก่อนขึ้นเนิน ชันอีกครั้ง จะมีน้ำตกสวยงามที่ใคร ๆ แถว นี้เรียกน้ำตกนิรนาม เพราะมันเป็นน้ำตกไม่มีชื่อค่ะ
น้ำที่น้ำตกนี้ ใส แจ๋ว เลยนะคะ ขนาดว่าเป็นหน้าแล้งยังมีน้ำ เดินลึกเข้าไป ด้านใน เป็นผาน้ำตกสวยงาม น่าเสียดายที่ไม่ได้ถือกล้องเข้าไปด้วย และกลัวเวลาไม่พอ เลยรีบเดินออก มายังด้านหน้า เพื่อจะออกปั่นต่อจุดหมายปลายทางที่ตั้งใจไว้คือ “หน่วยไกรเกรียง” ค่ะ ระยะทางจากน้ำตกนิรนาม ไปไกรเรียง มีป้ายบอกทางว่า อีก 12 โล จะถึงหน่วยไกรเกรียง เด็ก ๆ ขอเล่นน้ำ กันที่นี่ แม่ปุ้มก็ตามใจ เพราะมีผู้ใหญ่บางคนหมดแรงแล้ว และ ขออาสานั่งเล่นเป็นเพื่อนเด็กๆ ตรงนี้เหลือ แม่ปุ้ม ป๋าหนุ่ม โกว และตากล้องพี่วุฒิ ปั่นเพื่อสำรวจเส้นทาง กันต่อ 4 คน เวลาตอนนั้น ประมาณ 4 โมงเย็น คำณวนในใจ 12 กิโลไปกลับ 2-3 ชั่วโมงน่าจะกลับทันสบาย ๆ ก่อนมึด คิดในใจเช่นนั้น แล้ว ก็รีบปั่นต่อ ด้วยเวลาที่เร่ง รัดเข้าไปทุกที
เราเริ่มออกปั่นไปต่อ ก็เจอเนินแรก ถึงกับเหงื่อซึม ปั่นดันเนิน กันไป เนิน แล้ว เนินเล่า ระดับความชันมากขึ้นทุกที ตามความสวยงามที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
แค่เพียง ประมาณ 5 กิโลเมตร เราใช้เวลากัน กว่า หนึ่งชั่วโมง เริ่มท้อ กลัวกลับไม่ทัน ในใจเริ่มกังวลว่าไปต่อดี หรือกลับดี ตอนนี้ เราปั่นขึ้นเนินมาจนคิดว่า อยู่จุดสูงสุดของภูเขาแล้ว ดูจากวิว ตรงนี้ มองเห็น น้ำไกล ๆ อีกครั้ง พร้อมลำแสงที่สาดส่องลงมา พระอาทิตย์กำลังจะลับของภูผา สวยงามเกินว่าจะบรรยายด้วยคำพูด ดูกันด้วยภาพดีกว่านะคะ อยากจะบอกว่า ที่นี่เหมือนปางอุ๋งภาคกลาง ก็คงว่าได้ในความรู้สึกของปุ้ม ณ.จุดที่ยืนชมวิวตรงนี้
ถ่ายรูปกันเสร็จ เหลือบมองนาฬิกา โอ๊ย เวลาทำไมเดินเร็วอย่างนี้ 5 กว่าแล้ว เอาไงดี ไปต่อ หรือกลับก่อน อีกไกล ไหมเนี่ยะ คิดในใจ พอดีมีรถกระบะท้องถิ่นสวนมา ก็ถือเป็นโชคดีของเราไป รีบโบกรถ พี่ค๊ะพี่ค๊ะ เสียงเรียก พร้อมโบกมือ ให้รถหยุด พี่ชายใจดี จอดรถตรงกลางเนิน ชัน เพื่อให้เราถามทาง พูดคุยถามไถ่ ได้ใจความว่า ลงเนินยาว นี้ แล้ว ขึ้นเขาต่ออีก 1 ลูก แบบเขาที่เราข้ามมา แล้วก็ลงเขาอีกรอบ ก็จะถึงหน่วยไกรเกรียง เรามาได้ครึ่งทางแล้ว ถ้าจะไปต่อ ก็อีกครึ่งทาง มองนาฬิกา คำณวนเวลา พยักหน้าพร้อมกันว่า พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่(พาเพื่อน ๆ กับเด็ก ๆ มาด้วย) อยากให้ทุกคนเห็นความสวยงามจากตรงนี้ด้วยกัน แล้ว เราก็ยกมือไหว้ ขอบคุณ ในคำแนะนำของพี่ชาย ที่อุตส่าห์จอดรถกลางเนิน เพื่อให้เราถามรายละเอียด อย่างที่บอกเนินชัน กว่ารถกระบะจะออกตัวได้ รถดับไปตั้ง 2 รอบ 555 แอบรู้สึกผิดในใจ แต่ ทำไงได้ วิว มุมนี้สวยมาก ทำให้เราต้องจอดกลางเนิน เพื่อถ่ายภาพ เก็บไว้ เป็นที่ระลึก
ขากลับปั่นไปสมทบกับเด็ก ๆ โหปั่นขึ้น ชั่วโมงกว่า ๆ ปั่นกลับ 15 นาทีเอง รวมตัวกับเด็ก ๆ แล้วเราก็ปั่นกลับพร้อมกันถึงแพพัก ก็ประมาณ 6 โมงเย็น เราหาขนมกินกัน ปอกแตงโม กับทุเรียน รองท้อง ก่อนกินอาหารเย็น ระหว่างรอ ก็ขออาบน้ำอาบท่าให้สบายตัวสักหน่อย ห้องอาบน้ำทริปนี้ กว้างขวางมาก บรรยากาศ โรแมนติก พวกเราอาบน้ำกันจน มืด เกือบ 2 ทุ่ม คืนนี้เป็นคืนวันเพ็ญ พระจันเต็มดวงอาบน้ำนอนดูดาว อะไรจะสุขไปกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว น้ำที่นี่แปลกมาก ด้านบนอุ่นสบาย ด้านล่าง เย็น ลมพัดตลอดเวลา มีความสุขจริง ๆค่ะ นอนลอยคอ บนน้ำอุ่น ๆ (เสียดาย บรรยากาศ ภาพ จันทร์เต็มดวง ดาวเต็มท้องฟ้าตอนอาบน้ำ ไม่ไดเก็บมาให้ดู ลองนึกภาพตามไปเองก่อนแล้วกันนะคะ หรือไม่ก็ต้องไปดูด้วยตาตนเองค่ะ)
ขอ จบเท่านี้ก่อนนะคะ รอติดตามชมตอนต่อไป ว่าสุดทาง ไกรเกรียง จะเป็นอย่างไรด้วยนะคะ
พิกัด GPS
บ้านม่วงเฒ่า - N14.78146 E99.35555
แยกทุ่งมะกอก - N14.83944 E99.32559
ด่านตรวจ อช.เขื่อนศรี (เขากระชาย) - N14.87286 E99.29786
แยกน้ำเอ่อ-น้ำพุ - N14.91062 E99.25391
ปากทางเข้าแพน้ำเอ่อ - N14.94425 E99.19625
แพน้ำเอ่อ - N14.94493 E99.19471
จุดผูกแพ - N14.94730 E99.18630
วัดปากลำขาแข้ง (อุโบสถสแตนเลส) - N14.92556 E99.12194
น้ำตกนิรนาม - N14.95071 E99.19594
ขอบคุณ เครดิตภาพสวย ๆ จาก พี่วุฒิ จาก บางแก้วไบค์ด้วยค่ะ