สวัสดีครับ ช่วงหยุดยาวปีใหม่ที่ผ่านมา หลายคนคงออกเดินทางไปเที่ยว ณ.สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆกันเยอะ
ส่วนผมไม่อยากไปแย่งสถานที่กิน ที่เที่ยวกับเขา จึงหาสถานที่สงบๆในการพักผ่อน และเพื่อนก็ได้แนะนำสถานที่นี้ให้ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก
กรุงเทพมากนัก เช้าวันที่2มกราคม จึงได้ออกเดินทางด้วยรถกระบะ ไปกับเพื่อนสองคน
ผมออกเดินทางจากกรุงเทพประมาณ9โมงเช้า มุ่งหน้าจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งไปได้หลายทางครับ แต่ที่สะดวกที่สุดจากกรุงเทพฯ เราเลือกใช้เส้นทางจากบางบัวทองมุ่งหน้าสู่ จ.สุพรรณบุรี เลี้ยวซ้ายที่ถนนบายพาส ไปตามเส้นทางสู่ดอนเจดีย์ ก่อนถึง อ.ด่านช้างประมาณ 5 กม. เลี้ยวซ้ายไปตามทาง อช.พุเตย ถ้ำธารลอด … ผ่านปลักประดู่ และแวะหาซื้อเสบียงสำหรับคืนนี้ แล้วมุ่งหน้าสู่ บ้านน้ำเอ่อ(มีป้ายบอกทางไปวัดโบสถ์สแตนเลส)
เมื่อถึง สามแยกที่เลี้ยวขวาจะพาไป อช.พุเตย ตะเพินคี่ ให้ขับตรงไป … บนถนนลูกรังสู่ปลายทางที่ น้ำเอ่อ – ไกรเกรียง ระยะทางประมาณไม่เกิน 30 กม. เส้นทางเป็นลูกรังใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมง ก็จะมาถึงบ้านน้ำเอ่อ
ที่บ้านน้ำเอ่อ อยู่ริมเขื่อนศรีนครินทร์ตอนเหนือ เป็นสถานที่พักผ่อนบรรยากาศคล้ายๆกับปางอุ๋ง แต่อุณหภมิไม่ใช่ในเวลาเที่ยงอย่างนี้
ที่นี่มีร้านอาหารและแพขนาดใหญ่ไว้คอยบริการ ล่องแพพักผ่อน หรือจะพาเที่ยวชมเขื่อน และเที่ยวชมไหว้พระที่วัดโบสถ์สแตนเลส
ราคาค่าบริการก็มีทั้งเรือที่หากจะเหมาไปไหว้พระชมโบสถ์สแตนเลส ตั้งแต่800ขึ้นไป(อยู่ที่จำนวนผู้โดยสาร) หรือบรรดาแพพักที่มีให้เลือกมากกว่า 10 แห่ง สนนราคาก็อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน โดยมีให้เลือกตั้งแต่ระดับ 8 – 9 ร้อย ไปถึง 2 – 3 พันบาท แต่ถ้าอยากให้ลากออกไปเลือกมุมสวยตามใจก็จะอยู่ในราว 4 พันขึ้น … ระดับความหรูหราสะดวกสบายของแพพักในย่านนี้ก็ไม่หนีกันเท่าไหร่ โดยถ้าจะให้ดาวจากเรื่องความหรูหรา สะดวกสบายคงจะได้คนละดาว ครึ่งดาว แต่หากจะวัดจากความสงบเงียบเรียบง่าย กลมกลืนกับธรรมชาติก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 5 ดาวแน่นอนมากันเป็นกลุ่มใหญ่ก็จะคุ้มกว่า
ทานข้าวกลางวันเสร็จเราก็ออกเดินทางต่อ จากบ้านน้ำเอ่อ สู่หน่วยฯไกรเกรียง ซึ่งห่างจากบ้านน้ำเอ่อประมาณ10กิโลเมตร
ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเราก็มาถึง หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ศร.9ไกรเกรียง ที่นี่เงียบสงบแม้จะเป็นช่วงปีใหม่ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนประมาณ10กว่าคน
เจ้าหน้าที่บอกว่าน้ำแห้งมา2ปีแล้ว จึงทำให้อ่างหน้าที่ทำการหน่วยฯ มีน้ำน้อย มีต้นไม้ขึ้นแทน และวัวลงมาหาอาหารกิน
มีนก มาคอยหากินอยู่มากมาย
หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ศร.9ไกรเกรียง ตั้งอยู่เหนือสุดของอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบรี เป็นต้นๆน้ำของเขื่อนศรีฯ รอยต่อจังหวัด กาญจนบุรี-สุพรรณบุรี-อุทัยธานี ติดกับลำห้วยขาแข้ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
ถึงน้ำจะแห้ง แต่ก็ยังมีมนต์เสน่ห์ความสวยงามให้ประจักษ์เห็นอยู่ครับ
ค่ำลงเมื่อสิ้นแสงอาทิตย์ กางเต๊นท์เรียบร้อย ที่นี่ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรครับ แค่ช่วยกันรักษาความสะอาดหน่อย
เจ้าหน้าบอกว่าช่วงนี้กางเต๊นท์และก่อไฟได้ แต่มีบางช่วงที่อาจมีช้างป่าเข้ามาหากินแถวนี้ เจ้าหน้าที่จะห้ามกางเต๊นท์เพราะกลัวอันตราย
กางคืนอากาศเย็นสบาย และดาวบนท้องฟ้าก็สวยงามมาก สงบเพราะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ค่ายใดๆมารบกวน
ตื่นเช้ามาเราก็ออกจากเต๊นท์ มาสูดอากาศบริสุทธ์กัน ได้สัมผัสอากาศหนาวๆ และมีหมอกให้ชมด้วย พร้อมชมพระอาทิตย์ขึ้นด้วยเลย
หลังจากทำภารกิจส่วนตัวเสร็จ ก็ลงมาเก็บภาพอีกนิดก่อนกลับ
ที่นี่มีห้องน้ำ บ้านพักไว้คอยบริการ แต่ไม่มีอาหารนะครับ จะต้องจัดเตรียมเข้ามาทานกันเอง เหมาะแก่การพักผ่อรส่วนตัว หรือจะเป็นครัอบครัว เส้นทางอาจจะลำบากช่วงหน้าแล้งทางขรุขระแต่รถทั่วไปก็พอไปได้ ทางที่ดีควรเป็นรถกระบะครับ เพราะบางช่วงบางตอนเป็นหลุมเป็นบ่อ ควรระมัดระวัง
ข้อมูลเพิ่มเติม
https://www.facebook.com/%E0%B8%85%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87-777767002337887/?ref=hl
[CR] เหนือสุดของเขื่อนศรีฯ...ณ.ที่นี้ มีไกรเกรียง
ส่วนผมไม่อยากไปแย่งสถานที่กิน ที่เที่ยวกับเขา จึงหาสถานที่สงบๆในการพักผ่อน และเพื่อนก็ได้แนะนำสถานที่นี้ให้ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก
กรุงเทพมากนัก เช้าวันที่2มกราคม จึงได้ออกเดินทางด้วยรถกระบะ ไปกับเพื่อนสองคน
ผมออกเดินทางจากกรุงเทพประมาณ9โมงเช้า มุ่งหน้าจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งไปได้หลายทางครับ แต่ที่สะดวกที่สุดจากกรุงเทพฯ เราเลือกใช้เส้นทางจากบางบัวทองมุ่งหน้าสู่ จ.สุพรรณบุรี เลี้ยวซ้ายที่ถนนบายพาส ไปตามเส้นทางสู่ดอนเจดีย์ ก่อนถึง อ.ด่านช้างประมาณ 5 กม. เลี้ยวซ้ายไปตามทาง อช.พุเตย ถ้ำธารลอด … ผ่านปลักประดู่ และแวะหาซื้อเสบียงสำหรับคืนนี้ แล้วมุ่งหน้าสู่ บ้านน้ำเอ่อ(มีป้ายบอกทางไปวัดโบสถ์สแตนเลส)
เมื่อถึง สามแยกที่เลี้ยวขวาจะพาไป อช.พุเตย ตะเพินคี่ ให้ขับตรงไป … บนถนนลูกรังสู่ปลายทางที่ น้ำเอ่อ – ไกรเกรียง ระยะทางประมาณไม่เกิน 30 กม. เส้นทางเป็นลูกรังใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมง ก็จะมาถึงบ้านน้ำเอ่อ
ที่บ้านน้ำเอ่อ อยู่ริมเขื่อนศรีนครินทร์ตอนเหนือ เป็นสถานที่พักผ่อนบรรยากาศคล้ายๆกับปางอุ๋ง แต่อุณหภมิไม่ใช่ในเวลาเที่ยงอย่างนี้
ที่นี่มีร้านอาหารและแพขนาดใหญ่ไว้คอยบริการ ล่องแพพักผ่อน หรือจะพาเที่ยวชมเขื่อน และเที่ยวชมไหว้พระที่วัดโบสถ์สแตนเลส
ราคาค่าบริการก็มีทั้งเรือที่หากจะเหมาไปไหว้พระชมโบสถ์สแตนเลส ตั้งแต่800ขึ้นไป(อยู่ที่จำนวนผู้โดยสาร) หรือบรรดาแพพักที่มีให้เลือกมากกว่า 10 แห่ง สนนราคาก็อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน โดยมีให้เลือกตั้งแต่ระดับ 8 – 9 ร้อย ไปถึง 2 – 3 พันบาท แต่ถ้าอยากให้ลากออกไปเลือกมุมสวยตามใจก็จะอยู่ในราว 4 พันขึ้น … ระดับความหรูหราสะดวกสบายของแพพักในย่านนี้ก็ไม่หนีกันเท่าไหร่ โดยถ้าจะให้ดาวจากเรื่องความหรูหรา สะดวกสบายคงจะได้คนละดาว ครึ่งดาว แต่หากจะวัดจากความสงบเงียบเรียบง่าย กลมกลืนกับธรรมชาติก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 5 ดาวแน่นอนมากันเป็นกลุ่มใหญ่ก็จะคุ้มกว่า
ทานข้าวกลางวันเสร็จเราก็ออกเดินทางต่อ จากบ้านน้ำเอ่อ สู่หน่วยฯไกรเกรียง ซึ่งห่างจากบ้านน้ำเอ่อประมาณ10กิโลเมตร
ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเราก็มาถึง หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ศร.9ไกรเกรียง ที่นี่เงียบสงบแม้จะเป็นช่วงปีใหม่ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนประมาณ10กว่าคน เจ้าหน้าที่บอกว่าน้ำแห้งมา2ปีแล้ว จึงทำให้อ่างหน้าที่ทำการหน่วยฯ มีน้ำน้อย มีต้นไม้ขึ้นแทน และวัวลงมาหาอาหารกิน
มีนก มาคอยหากินอยู่มากมาย
หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ศร.9ไกรเกรียง ตั้งอยู่เหนือสุดของอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบรี เป็นต้นๆน้ำของเขื่อนศรีฯ รอยต่อจังหวัด กาญจนบุรี-สุพรรณบุรี-อุทัยธานี ติดกับลำห้วยขาแข้ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
ถึงน้ำจะแห้ง แต่ก็ยังมีมนต์เสน่ห์ความสวยงามให้ประจักษ์เห็นอยู่ครับ
ค่ำลงเมื่อสิ้นแสงอาทิตย์ กางเต๊นท์เรียบร้อย ที่นี่ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรครับ แค่ช่วยกันรักษาความสะอาดหน่อย
เจ้าหน้าบอกว่าช่วงนี้กางเต๊นท์และก่อไฟได้ แต่มีบางช่วงที่อาจมีช้างป่าเข้ามาหากินแถวนี้ เจ้าหน้าที่จะห้ามกางเต๊นท์เพราะกลัวอันตราย
กางคืนอากาศเย็นสบาย และดาวบนท้องฟ้าก็สวยงามมาก สงบเพราะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ค่ายใดๆมารบกวน
ตื่นเช้ามาเราก็ออกจากเต๊นท์ มาสูดอากาศบริสุทธ์กัน ได้สัมผัสอากาศหนาวๆ และมีหมอกให้ชมด้วย พร้อมชมพระอาทิตย์ขึ้นด้วยเลย
หลังจากทำภารกิจส่วนตัวเสร็จ ก็ลงมาเก็บภาพอีกนิดก่อนกลับ
ที่นี่มีห้องน้ำ บ้านพักไว้คอยบริการ แต่ไม่มีอาหารนะครับ จะต้องจัดเตรียมเข้ามาทานกันเอง เหมาะแก่การพักผ่อรส่วนตัว หรือจะเป็นครัอบครัว เส้นทางอาจจะลำบากช่วงหน้าแล้งทางขรุขระแต่รถทั่วไปก็พอไปได้ ทางที่ดีควรเป็นรถกระบะครับ เพราะบางช่วงบางตอนเป็นหลุมเป็นบ่อ ควรระมัดระวัง
ข้อมูลเพิ่มเติมhttps://www.facebook.com/%E0%B8%85%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87-777767002337887/?ref=hl
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น