Wander to Wonder "Nepal" ตอนที่ 2 : บักตาปูร์เมืองแคปซูลกาลเวลา

***Fighting Nepal 25 April 2015 : สำหรับเพื่อนๆที่จะร่วมบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เนปาลสามารถร่วมบริจาคผ่านสภากาชาดไทยได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย สำนักสีลม ชื่อบัญชี "สภากาชาดไทย เพื่อภัยพิบัติ" ประเภทบัญชี "กระแสรายวัน" เลขที่ 001-1-34567-0

+++++++++++++++++++++++++++

ตอนที่แล้ว Wander to Wonder "Nepal" ตอนที่ 1 : ก้าวแรกก็หลงซะละ
http://ppantip.com/topic/33547849

สำหรับวันที่สองแผนการเดินทางคือไปเมืองบักตาปูร์ เมืองโบราณ 1 ใน 3 ของ Three Kingdoms (Kathmandu - Patan - Bhaktapur) เมืองโบราณนี้ได้ชื่อว่าเป็น "City of Devotees" หรือเมืองของผู้มีศรัทธาอยู่ห่างไปจากกาฐมาณฑุประมาณ 30km เคยเป็นสถานีการค้าของเส้นทางการค้ากับทิเบต


ขอเริ่มวันที่สองด้วยภาพเด็กน้อยกับคุณยายใส่ชุดพื้นเมืองเดินอยู่หน้าโรงแรมตอนเช้าๆ หน้าตาคนเนปาลบางคนจะออกแนวจีนๆ บางคนก็อินเดียมากๆ บางส่วนก็กึ่งๆ แต่โดยมากจะออกไปทางอินเดีย

ตลาดเริ่มกี่โมงไม่รู้แต่จะซาๆไปตอนประมาณ 10 โมง

อากาศตอนเช้าค่อนข้างเย็นก็ต้องมีการอาบแดดกันบ้างแก้หนาว

ร้านขนมส่งกลิ่นหอมยามเช้า

ส่วนร้านนี้ ร้านขายปลาและสัตว์ทะเล ด้วยความสงสัยในที่มาเนื่องจากเนปาลเป็นประเทศไม่ติดทะเลเลยเข้าไปถาม ได้ความว่าปลาตัวเล็กฝั่งขวามาจากแม่น้ำ ส่วนตัวปลาตัวเป้งด้านซ้ายกับกุ้งมาจากอินเดีย ร้านนี้อยู่ใกล้ที่พัก จะออกไปไหนก็ต้องผ่าน วันแรกก็ส่งกลิ่นดี วันหลังๆกลิ่นเริ่มแรงแต่ก็มีคนซื้อเรื่อยๆ ลืมถามคนขายว่าเก็บยังไงเพราะตลอดสี่วันที่เนปาลไม่เจอน้ำแข็งสักก้อน ส่วนตู้แช่ก็ใช่ว่าจะมีกันเยอะ หลังจากเดินผ่านหน้าร้านก็เจอฝรั่งคนนึงมาบ่นสงสัยจะได้ยินเราถามคนขาย "ไอว่า (ด้วยความหวังดีนะพวก) อยู่นี่อย่าซื้ออย่าสั่งอาหารทะเลเลย ไอลองมาแล้ว!" จขกท.ก็ฟังหูไว้หูนะ (บ้านตาฝรั่งนี่อาจจะอยู่ข้างสะพานปลา) แต่ดูในหนังสือ Lonely Planet ก็มีรีวิวร้านอาหารญี่ปุ่นดีๆราคาไม่แพงเหมือนกัน

ถนนไม่มีทางเท้า จะเดินจะขนของก็คือลงบนถนนเลย การเดินเป็นศิลปะอย่างนึง คนมาใหม่ๆกับคนมาอยู่พักนึงเห็นการเดินนี่รู้เลย ถ้าเห็นเดินแบบกลัวๆรถจะชนพวกนี้เพิ่งมา แต่ถ้าเดินแบบไม่หวั่นเกรงอันตรายนี่แสดงว่ามีวิชาแล้ว

เช้าๆจูงแพะออกมาเล็มใบไม้ อินดี้ดี
---------------------------------------------------

จขกท.เดินจากที่พักไปท่ารถบัสเพื่อไปเมืองบักตาปูร์ จริงๆแล้วสามารถนั่ง taxi ไปบักตาปูร์ได้ด้วยราคาประมาณ 800 รูปี (250บาท) แต่แบบว่ามานไม่ได้ฟีลเลยจะนั่งรถบัสท้องถิ่นไปแทน ที่สำคัญคือราคา 25 รูปี "8 บาท"เองนะ

แต่ปัญหาคือ...ต้องหาท่ารถให้เจอ เมื่อคืนที่หลงมาจนหาทางออกได้ละปรากฏว่าตอนเช้าบรรดาแผงขายของ ร้านเดิมๆพี่แกเก็บเรียบเลย เป็นร้านค้าปกติที่เปิดกลางวันแทน แลนด์มาร์คที่จำได้หายหมด เลยต้องคลำทางกันใหม่ เล่นบทเสี่ยวหลงกันต่อ (เมืองอะไรไม่รุ ดูแผนที่นี่เดินง่ายชะมัด พอเดินจริงอย่างกะเขาวงกต)
---------------------------------------------------

และแล้วก็เจอนายคนนี้ เข้ามาชวนคุย (ภาษาอังกฤษดีมากกก) บอกว่าเป็นศิลปินมาจากอินเดียมี Gallery ใกล้ๆ "โอ้ย จะไปท่ารถเหรอ ทางผ่านพอดี เด๋วนำทางไป ไม่คิดตังค์ๆๆ" ว่าแล้วก็พาไปเข้าตลาดโบราณผ่านวัดสวยๆ แต่ซักพักดูมานไม่ใช่ละ บอกจะพาไปท่ารถแต่ที่ไหนได้ จะพาวนเข้าวัดท่าเดียว เลยบอกว่าบอกทางมาเหอะไม่ต้องพาไปละขอบคุณมากๆ เจอคำตอบเลย get "เราไม่เอา เราไม่ต้องการเงินนายเลย แต่ถ้านายมีไมตรีจิต เราขอแค่อาหาร...เลี้ยงเราซักมื้อละกัน" โหหหห... ก็นะ เราก็รีบจะนั่งรถไปก็อีกไกล (ระหว่างทางก็ดันถามนู่นนี่ซะเยอะเลย) นายเอาเงินเราไปซื้ออาหารเถอะ ว่าแล้วก็ให้ไป 100 รูปีค่าเสียเวลา ...จากกันไปด้วยดี (ว่าแต่นายพาเรามาอยู่ไหนเนี่ยยยย!!)
---------------------------------------------------

ทางที่นายคนนั้นชี้บอกว่าเป็นทางไปท่ารถบังเอิญเค้ากำลังกวาดถนนกันอยู่ แล้วเราจะผ่านไปอย่างไร? จะเรียกกลับมาให้พาออกไปด้วยก็กลัวจะต้องเลี้ยงอีกมื้อ

อื้อหือออ++ กว่าจะถึงท่ารถปอดไม่ตันพอดีรึ!!!

เจอสามล้อผ่านมาพอดีเลยเรียกเลย คิดค่าจ้าง 1-2$ ไม่รู้ละใกล้ไกลเพราะหลงอยู่

ปั่นอยู่นานกว่าจะถึงท่ารถ ไกลกว่าพี่คนเมื่อวานอีก แทบอยากจะให้เพิ่มเลยทีเดียว
---------------------------------------------------

ท่ารถและถนนใหญ่ เนื่องจากเป็นเส้นระหว่างเมืองถนนจึงกว้าง ติดอย่างเดียวที่ไม่มีสัญญาณไฟ ทุกแยกใหญ่ๆจะมีจราจรคอยโบกแทน คงเพราะเนปาลไฟดับบ่อย ขืนใช้สัญญาณไฟคงชนกันทุกครึ่งวัน

รถมินิบัสไปบักตาปูร์ รถยี่ห้อตาต้าสภาพดูดี มีเพลงแขกมันส์ๆให้ฟังตลอดทางด้วยนะ

กระเป๋ารถ น้องตะโกนตลอดทุกครั้งที่รถจอด "Bhaktapur %#@$%^++ Bhaktapur" น่าจะประมาณว่า "บักตาปูร์มั้ยพี่ บักตาปูร์"

สภาพท้องถนนบนทางหลวงระหว่างเมือง มีรถเมล์บางคันด้านล่างเป็นผู้โดยสารปกติ หลังคาดันมีแพะยืนอยู่ (ใครรู้บอกทีมานไปอยู่บนนั้นได้ไง)

บนรถเจอกลุ่มคนไทยด้วย มาเที่ยวกันเอง 5 คน บิน MH เหมือนกันแต่มาช้ากว่า 1 วัน กำลังจะเดินทางไปพักที่บักตาปูร์

รถวิ่งๆจอดๆ หลับๆตื่นๆอยู่เกือบชั่วโมงก็มาถึงจุดหมาย ก่อนลงเลยถามพี่เค้าว่าได้หลับบ้างมั้ย?

..."พี่เห็นเค้าขับรถแล้วพี่หลับไม่ลง"
---------------------------------------------------

ถึงแล้วบักตาปู๋วววว เมืองดูเก่าสมคำล่ำลือจริงๆ ถ้านั่งรถบัสมาจากกาฐมาณฑุจะมีที่จอดสองที่ ที่แรกจะจอด Navpokhu Pokhari ซึ่งก็คือสระน้ำขนาดใหญ่ (มากๆ) ส่วนอีกที่จะจอดห่างไปประมาณ 100 เมตร (และไม่เจอสระน้ำ)

หลังจากร่ำลาจากกลุ่มคนไทยก็เริ่มเดินชมเมืองเลยยย+++
---------------------------------------------------
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่