“ศุภาลัยเวลลิงตัน1” โอนห้องช้า งานภายในไม่ดี ไม่ยอมจ่าค่าปรับล่าช้าตามสัญญา
สวัสดีครับเพื่อนๆสมาชิก ขอออกตัวก่อนว่าปกติไม่เล่น Pantip แต่สมัครเข้ามาเพื่อโพสเรื่องนี้เลยครับเพราะคิดว่าเป็นสื่อที่ใหญ่อันดับต้นๆในประเทศเรา เรื่องที่ได้จะได้ไปสู่หลายๆคนที่กำลังตัดสินใจซื้อคอนโดจากบริษัทนี้
ผมได้ตั้งกระทู้นี้เนื่องจากเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการซื้อคอนโดมิเนียมของบริษัทที่มีชื่อเสียงในเรื่องบ้านและคอนโดบริษัทนึงของประเทศเรา เพราะโครงการเยอะ โฆษณาเยอะ ล่าสุดผมเห็นโฆษณาว่า “ศุภาลัย คือ บ้านที่ดี” เลยรู้สึกสะอึกนิดๆครับ เพราะเท่าที่ตัวเองเจอมา ไม่ใช่แบบคำโฆษณานั้นๆ หรืออาจเป็นเพราะโครงการที่ผมซื้อเป็น “คอนโด” ไม่ใช่ “บ้าน” .. เท่าที่ทราบตอนนี้มีลูกบ้านจำนวนพอสมควรที่มีปัญหา และได้ตั้งกลุ่มไว้เพื่อปรึกษาหารือถึงแนวทางที่กำลังจะดำเนินการต่อไปแล้วครับ ทั้งการยื่นเรื่องไปที่ สคบ. และ สื่อต่างๆ เห็นบางท่านก็จ้างทนายส่งฟ้องของคืนห้องแล้ว
ผมเป็นคนวัยทำงาน ด้วยรูปแบบภาระงานทำให้ปลีกตัวเข้าไปดูงานในโครงการได้น้อยมาก จึงเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดมาก ที่ของที่เราซื้อ ผู้ขายทำไม่เรียบร้อย แต่กลับต้องมาทำให้เราเสียงานเสียการ จัดการแบ่งเวลาไปตามแก้ ตามยื่นเรื่อง ผมซื้อห้องโครงการนี้ไว้จำนวน 2 ยูนิต เป็นเงินที่มากพอสมควรสำหรับผม และถือว่าเป็นคอนโดที่แรกในชีวิตที่จะอยู่กับครอบครัว เพราะเพิ่งทำงานหาเงินพอที่จะมีกำลังผ่อนได้บ้าง ตั้งแต่ทำสัญญาซื้อขาย เริ่มผ่อนดาวน์ ก็จ่ายตรงมาตลอด พอใกล้ถึงกำหนดตามสัญญาว่าห้องจะแล้วเสร็จ (พร้อมโอนภายในวันที่ 9 มกราคม 2558) ผมไม่เห็นมีใครติดต่อมาเลยโทรไปถามเรื่องเอง ปรากฎได้คำตอบว่าห้องยังไม่เสร็จ คาดว่าห้องจะเสร็จประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ผมก็ช่างมัน ช้าไปนิดเดียว ไม่เป็นไรรอได้ พอได้รับการติดต่อให้เข้าไปตรวจห้องครั้งแรก ถึงกับอึ้งครับ ปัญหาเยอะมาก ต้องแก้หลายจุด คนที่ผมจ้างไปตรวจนี่ถึงกับบอกว่าปกติเค้าไม่ค่อยจะเจองานแก้ที่เยอะขนาดนี้ …. วันนั้นผมเซ็งมาก เพราะซื้อไว้ 2 ยูนิต รู้สึกคิดผิด ทำไมซื้อคอนโดที่แรกแทนที่จะได้ห้องดีๆ โครงการดีๆ กลับมาเจอปัญหาแบบนี้ ส่งเรื่องแก้ที่ฝ่ายรับเรื่องที่โครงการหลังจากนั้นก็รอครับ พักๆก็โทรไปตามเรื่อง ก็บอกใกล้เสร็จแล้วๆ บ้างก็บอกเดี๋ยวถามช่างให้ วันนี้ช่างไม่อยู่ ฯลฯ ที่ถามแล้วหนักสุดบอกว่าทางสำนักงานใหญ่ส่งเรื่องมาว่าผมส่งจดหมายไปขอคืนห้อง ห้องที่ผมซื้อเลยยังไม่ได้รับการแก้ไขให้เสร็จ ! ผมงงหนักมาก เพราะจดหมายที่ผมมีส่งไปคือ จดหมายถึง “ คุณ ประทีป ตั้งมติธรรม (ประธานกรรมการบริษัทและประธานกรรมการบริหาร) และ คุณ อัจฉรา ตั้งมติธรรม (กรรมการบริษัทและรองประธานกรรมการบริหาร) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ” ซึ่งเป็นจดหมายทวงถามค่าปรับล่าช้า และ จดหมายที่ย้ำว่ายังรับสิทธิ์การได้ส่วนลดจาก การจ่ายค่าผ่อนดาวน์ตรงเวลามาตลอด (ตามสัญญาลูกค้าจะได้ส่วนลด) เพราะกลัวโครงการจะอ้างว่า โอนกรรมสิทธิ์ไม่ตรงตามสัญญาที่ระบุว่าภายในวันที่ 9 มกราคม 2558 (ก็ที่ไม่ตรงเพราะมันผิดที่โครงการทำห้องให้ไม่เรียบร้อยเองหนิ ลูกค้าไม่ได้ไม่มีความพร้อมเรื่องการเงิน) ไม่รู้ทางสำนักงานใหญ่ดูเรื่องเอกสารยังไง หรือแค่เห็นว่าเป็นจดหมายากลูกบ้านส่งมา เนื้อหาไม่อ่าน ก็เหมารวมไปว่าเป็นจดหมายขอคืนห้อง ..
พอผมไปเคลียร์ที่โครงการเองว่า ผมไม่ได้จะขอคือห้อง จดหมายที่ส่งไปเป็นแบบที่กล่าวมา โครงการก็รับปากจะเร่งช่างให้ ผ่านไประยะนึงผมก็โทรไปถามอีก เค้าบอกใกล้แล้วๆ ผมเลยเข้าไปดูงานว่าไปถึงไหน ปรากฎ ไม่ถึงไหนเลยครับ ที่เห็นแก้ก็เพียงไม่กี่จุด ที่หนักและเซ๊งอีกครั้งคือ กำแพงบริเวณติดห้องน้ำมีคราบน้ำซึมครับ ชื้นๆ เป็นแนวยาวและลามไปอีกยูนิตที่ติดกัน (ผมซื้อ 2 ยูนิตติดกัน) และในอีกยูนิตนั้น กำแพงบริเวณห้องน้ำอีกห้องก็มีน้ำซึมอีกด้วยครับ … อยู่ยังไม่ทันอยู่ มีน้ำซึมแล้ว ที่ผมเซ็งเพราะที่อยู่ปัจจุบันมีปัญหาน้ำซึมกำแพงซึ่งซึมเป็นแนวมาจากห้องน้ำ ได้จ้างช่างมาดู ช่างบอกต้องทุบกำแพงเพื่อแก้ไขเรื่องท่อ เรื่องใหญ่ครับสำหรับผม .. พอมาเจอแบบนี้เลยคิดว่า งานเป็นแบบนี้ ปัญหาเดิมยังแก้ไม่เสร็จ นี่มามีเรื่องน้ำซืมอีก พอไปแจ้งปัญหาใหม่กับเจ้าหน้าที่ ก็ได้รับคำตอบว่า “ต้องแก้ตามคิว คนที่ตกลงโอนกรรมสิทธิ์จะได้รับการแก้ก่อน” ผมเลยถาม แล้วคุณไม่คิดว่าผมอยากโอนหรือไง เงินผมพร้อม ธนาคารพร้อม เฟอร์นิเจอร์ติดต่อแล้วทั้งหมด ส่วนที่ต้องทำกึ่งๆบิ้วท์อิน ก็เรียกช่างมาวัดพื้นที่ และ สั่งทำเฟอร์แล้ว ทุกอย่างมันติดที่โครงการคุณ … ถ้าผมไม่อยากรีบโอน แล้วผมจะมาโทรถาม เข้ามาดูงาน เพื่อ ? แต่งานโครงการเป็นแบบนี้ แก้ก็ไม่เสร็จ ใครจะกล้านัดโอน ?? พอเห็นผมเริ่มโมโห เค้าเลยหยิบกระดาษแจ้งซ่อมมาจดปัญหาที่ต้องแก้เพิ่มเพื่อส่งบอกช่างให้แก้งานต่อไป แต่ยังไม่จบครับ
ตามสัญญาโครงการระบุไว้ว่า “จะแล้วเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ภายใน วันที่ 9 มกราคม 2558 หากผู้จะขายไม่โอนกรรมสิทธิ์ในห้องชุดให้แก่ผู้ซื้อภายในกำหนดสัญญา และผู้จะซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้จะขายยินยอมให้ผู้จะซื้อปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละ 0.01 ของราคาขายห้องชุดที่จะซื้อจะขาย” นี่มันอะไรครับล่าช้ามาก ผมมีติดต่อ บริษัท ศุภาลัย ทางฝ่ายร้องเรียน ก็บอกขอรับเรื่องและจะแจ้งทางผู้มีส่วนเกี่ยวของให้ (ฝ่ายนี้ขอชมครับ คนรับเรื่อง พูดจาดี ฟังปัญหาแล้วเข้าใจง่าย ไม่ต้องวนไปวนมา) , ฝ่ายบริการลูกค้าที่รับเรื่องตึกที่ผมซื้อ (คุณขนิฐา) และ ติดต่อที่โครงการเองโดยตรง แต่กลับได้รับคำตอบมาว่า “ทางบริษัท ไม่มีนโยบายจ่ายค่าปรับ งานก่อสร้างที่ล่าช้าไม่ตรงตามสัญญา ก็ถือว่าต้องเลื่อนออกไปโดยปริยาย“ (คำพูดอาจจะไม่ตรงทุกคำ แต่ความหมายเป็นแบบนี้) แต่ครับแต่ มีครั้งนึงที่ผมไม่พอใจมาก คือ ทางสำนักงานใหญ่ โอนสายให้ผมไปฝ่ายบริการลูกค้าที่ไม่ใช่คุณขนิฐา ทางนั้นก็พูดแบบเดิมว่าไม่มีนโยบายจ่ายค่าปรับ แต่คำพูดและน้ำเสียงทำเหมือนผมเป็นคนที่ฐานะต่ำต้อยที่ต้องไปง้อโครงการ คือคอนโดคุณ ไม่ใช่ราคาสองสามแสน ผมต้องจ่ายให้คุณแปดเก้าล้านบาทแต่คุณมาพูดแบบนี้ ผมวางสายเลย โมโหมาก แต่ไม่อยากด่า ถือว่าอโหสิให้คนประเภทนี้ .. ตอนแรกผมว่าผมคงโดนคนเดียว พอมีกลุ่มลูกบ้านที่ซื้อโครงการนี้มาคุยกัน ปรากฎว่าผู้ที่มีปัญหาแบบเดียวกันกับผม ก็ได้รับคำตอบแบบนี้จากโครงการกันหมด
สรุปจนถึงตอนนี้ เรื่องตามทวงเบี้ยปรับล่าช้าร้อยละ 0.01 ต่อวันตามสัญญา คือ “เงียบ” ครับ
มีใครเจอปัญหาแบบนี้กับโครงการนี้อีกบ้างครับ จริงๆยังมีเรื่องของส่วนกลางที่ไม่เป็นไปตามคำโฆษณาที่ทุกคนได้ข้อมูลมาในช่วงตอนเปิดขายโครงการอีกนะครับ
P.S. โครงการที่ผมซื้อยังจัดการไม่เรียบร้อยดี ก็ไปสร้างโครงการใกล้ๆกัน “ศุภาลัย เวลลิงตัน2" ซะแล้ว …
เจ้าหน้าที่ของ บ. ศุภาลัย แจ้งว่าไม่มีนโบายจ่ายค่าปรับล่าช้า แต่ระบุไว้ในสัญญาทำไมครับ
สวัสดีครับเพื่อนๆสมาชิก ขอออกตัวก่อนว่าปกติไม่เล่น Pantip แต่สมัครเข้ามาเพื่อโพสเรื่องนี้เลยครับเพราะคิดว่าเป็นสื่อที่ใหญ่อันดับต้นๆในประเทศเรา เรื่องที่ได้จะได้ไปสู่หลายๆคนที่กำลังตัดสินใจซื้อคอนโดจากบริษัทนี้
ผมได้ตั้งกระทู้นี้เนื่องจากเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการซื้อคอนโดมิเนียมของบริษัทที่มีชื่อเสียงในเรื่องบ้านและคอนโดบริษัทนึงของประเทศเรา เพราะโครงการเยอะ โฆษณาเยอะ ล่าสุดผมเห็นโฆษณาว่า “ศุภาลัย คือ บ้านที่ดี” เลยรู้สึกสะอึกนิดๆครับ เพราะเท่าที่ตัวเองเจอมา ไม่ใช่แบบคำโฆษณานั้นๆ หรืออาจเป็นเพราะโครงการที่ผมซื้อเป็น “คอนโด” ไม่ใช่ “บ้าน” .. เท่าที่ทราบตอนนี้มีลูกบ้านจำนวนพอสมควรที่มีปัญหา และได้ตั้งกลุ่มไว้เพื่อปรึกษาหารือถึงแนวทางที่กำลังจะดำเนินการต่อไปแล้วครับ ทั้งการยื่นเรื่องไปที่ สคบ. และ สื่อต่างๆ เห็นบางท่านก็จ้างทนายส่งฟ้องของคืนห้องแล้ว
ผมเป็นคนวัยทำงาน ด้วยรูปแบบภาระงานทำให้ปลีกตัวเข้าไปดูงานในโครงการได้น้อยมาก จึงเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดมาก ที่ของที่เราซื้อ ผู้ขายทำไม่เรียบร้อย แต่กลับต้องมาทำให้เราเสียงานเสียการ จัดการแบ่งเวลาไปตามแก้ ตามยื่นเรื่อง ผมซื้อห้องโครงการนี้ไว้จำนวน 2 ยูนิต เป็นเงินที่มากพอสมควรสำหรับผม และถือว่าเป็นคอนโดที่แรกในชีวิตที่จะอยู่กับครอบครัว เพราะเพิ่งทำงานหาเงินพอที่จะมีกำลังผ่อนได้บ้าง ตั้งแต่ทำสัญญาซื้อขาย เริ่มผ่อนดาวน์ ก็จ่ายตรงมาตลอด พอใกล้ถึงกำหนดตามสัญญาว่าห้องจะแล้วเสร็จ (พร้อมโอนภายในวันที่ 9 มกราคม 2558) ผมไม่เห็นมีใครติดต่อมาเลยโทรไปถามเรื่องเอง ปรากฎได้คำตอบว่าห้องยังไม่เสร็จ คาดว่าห้องจะเสร็จประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ผมก็ช่างมัน ช้าไปนิดเดียว ไม่เป็นไรรอได้ พอได้รับการติดต่อให้เข้าไปตรวจห้องครั้งแรก ถึงกับอึ้งครับ ปัญหาเยอะมาก ต้องแก้หลายจุด คนที่ผมจ้างไปตรวจนี่ถึงกับบอกว่าปกติเค้าไม่ค่อยจะเจองานแก้ที่เยอะขนาดนี้ …. วันนั้นผมเซ็งมาก เพราะซื้อไว้ 2 ยูนิต รู้สึกคิดผิด ทำไมซื้อคอนโดที่แรกแทนที่จะได้ห้องดีๆ โครงการดีๆ กลับมาเจอปัญหาแบบนี้ ส่งเรื่องแก้ที่ฝ่ายรับเรื่องที่โครงการหลังจากนั้นก็รอครับ พักๆก็โทรไปตามเรื่อง ก็บอกใกล้เสร็จแล้วๆ บ้างก็บอกเดี๋ยวถามช่างให้ วันนี้ช่างไม่อยู่ ฯลฯ ที่ถามแล้วหนักสุดบอกว่าทางสำนักงานใหญ่ส่งเรื่องมาว่าผมส่งจดหมายไปขอคืนห้อง ห้องที่ผมซื้อเลยยังไม่ได้รับการแก้ไขให้เสร็จ ! ผมงงหนักมาก เพราะจดหมายที่ผมมีส่งไปคือ จดหมายถึง “ คุณ ประทีป ตั้งมติธรรม (ประธานกรรมการบริษัทและประธานกรรมการบริหาร) และ คุณ อัจฉรา ตั้งมติธรรม (กรรมการบริษัทและรองประธานกรรมการบริหาร) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ” ซึ่งเป็นจดหมายทวงถามค่าปรับล่าช้า และ จดหมายที่ย้ำว่ายังรับสิทธิ์การได้ส่วนลดจาก การจ่ายค่าผ่อนดาวน์ตรงเวลามาตลอด (ตามสัญญาลูกค้าจะได้ส่วนลด) เพราะกลัวโครงการจะอ้างว่า โอนกรรมสิทธิ์ไม่ตรงตามสัญญาที่ระบุว่าภายในวันที่ 9 มกราคม 2558 (ก็ที่ไม่ตรงเพราะมันผิดที่โครงการทำห้องให้ไม่เรียบร้อยเองหนิ ลูกค้าไม่ได้ไม่มีความพร้อมเรื่องการเงิน) ไม่รู้ทางสำนักงานใหญ่ดูเรื่องเอกสารยังไง หรือแค่เห็นว่าเป็นจดหมายากลูกบ้านส่งมา เนื้อหาไม่อ่าน ก็เหมารวมไปว่าเป็นจดหมายขอคืนห้อง ..
พอผมไปเคลียร์ที่โครงการเองว่า ผมไม่ได้จะขอคือห้อง จดหมายที่ส่งไปเป็นแบบที่กล่าวมา โครงการก็รับปากจะเร่งช่างให้ ผ่านไประยะนึงผมก็โทรไปถามอีก เค้าบอกใกล้แล้วๆ ผมเลยเข้าไปดูงานว่าไปถึงไหน ปรากฎ ไม่ถึงไหนเลยครับ ที่เห็นแก้ก็เพียงไม่กี่จุด ที่หนักและเซ๊งอีกครั้งคือ กำแพงบริเวณติดห้องน้ำมีคราบน้ำซึมครับ ชื้นๆ เป็นแนวยาวและลามไปอีกยูนิตที่ติดกัน (ผมซื้อ 2 ยูนิตติดกัน) และในอีกยูนิตนั้น กำแพงบริเวณห้องน้ำอีกห้องก็มีน้ำซึมอีกด้วยครับ … อยู่ยังไม่ทันอยู่ มีน้ำซึมแล้ว ที่ผมเซ็งเพราะที่อยู่ปัจจุบันมีปัญหาน้ำซึมกำแพงซึ่งซึมเป็นแนวมาจากห้องน้ำ ได้จ้างช่างมาดู ช่างบอกต้องทุบกำแพงเพื่อแก้ไขเรื่องท่อ เรื่องใหญ่ครับสำหรับผม .. พอมาเจอแบบนี้เลยคิดว่า งานเป็นแบบนี้ ปัญหาเดิมยังแก้ไม่เสร็จ นี่มามีเรื่องน้ำซืมอีก พอไปแจ้งปัญหาใหม่กับเจ้าหน้าที่ ก็ได้รับคำตอบว่า “ต้องแก้ตามคิว คนที่ตกลงโอนกรรมสิทธิ์จะได้รับการแก้ก่อน” ผมเลยถาม แล้วคุณไม่คิดว่าผมอยากโอนหรือไง เงินผมพร้อม ธนาคารพร้อม เฟอร์นิเจอร์ติดต่อแล้วทั้งหมด ส่วนที่ต้องทำกึ่งๆบิ้วท์อิน ก็เรียกช่างมาวัดพื้นที่ และ สั่งทำเฟอร์แล้ว ทุกอย่างมันติดที่โครงการคุณ … ถ้าผมไม่อยากรีบโอน แล้วผมจะมาโทรถาม เข้ามาดูงาน เพื่อ ? แต่งานโครงการเป็นแบบนี้ แก้ก็ไม่เสร็จ ใครจะกล้านัดโอน ?? พอเห็นผมเริ่มโมโห เค้าเลยหยิบกระดาษแจ้งซ่อมมาจดปัญหาที่ต้องแก้เพิ่มเพื่อส่งบอกช่างให้แก้งานต่อไป แต่ยังไม่จบครับ
ตามสัญญาโครงการระบุไว้ว่า “จะแล้วเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ภายใน วันที่ 9 มกราคม 2558 หากผู้จะขายไม่โอนกรรมสิทธิ์ในห้องชุดให้แก่ผู้ซื้อภายในกำหนดสัญญา และผู้จะซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้จะขายยินยอมให้ผู้จะซื้อปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละ 0.01 ของราคาขายห้องชุดที่จะซื้อจะขาย” นี่มันอะไรครับล่าช้ามาก ผมมีติดต่อ บริษัท ศุภาลัย ทางฝ่ายร้องเรียน ก็บอกขอรับเรื่องและจะแจ้งทางผู้มีส่วนเกี่ยวของให้ (ฝ่ายนี้ขอชมครับ คนรับเรื่อง พูดจาดี ฟังปัญหาแล้วเข้าใจง่าย ไม่ต้องวนไปวนมา) , ฝ่ายบริการลูกค้าที่รับเรื่องตึกที่ผมซื้อ (คุณขนิฐา) และ ติดต่อที่โครงการเองโดยตรง แต่กลับได้รับคำตอบมาว่า “ทางบริษัท ไม่มีนโยบายจ่ายค่าปรับ งานก่อสร้างที่ล่าช้าไม่ตรงตามสัญญา ก็ถือว่าต้องเลื่อนออกไปโดยปริยาย“ (คำพูดอาจจะไม่ตรงทุกคำ แต่ความหมายเป็นแบบนี้) แต่ครับแต่ มีครั้งนึงที่ผมไม่พอใจมาก คือ ทางสำนักงานใหญ่ โอนสายให้ผมไปฝ่ายบริการลูกค้าที่ไม่ใช่คุณขนิฐา ทางนั้นก็พูดแบบเดิมว่าไม่มีนโยบายจ่ายค่าปรับ แต่คำพูดและน้ำเสียงทำเหมือนผมเป็นคนที่ฐานะต่ำต้อยที่ต้องไปง้อโครงการ คือคอนโดคุณ ไม่ใช่ราคาสองสามแสน ผมต้องจ่ายให้คุณแปดเก้าล้านบาทแต่คุณมาพูดแบบนี้ ผมวางสายเลย โมโหมาก แต่ไม่อยากด่า ถือว่าอโหสิให้คนประเภทนี้ .. ตอนแรกผมว่าผมคงโดนคนเดียว พอมีกลุ่มลูกบ้านที่ซื้อโครงการนี้มาคุยกัน ปรากฎว่าผู้ที่มีปัญหาแบบเดียวกันกับผม ก็ได้รับคำตอบแบบนี้จากโครงการกันหมด
สรุปจนถึงตอนนี้ เรื่องตามทวงเบี้ยปรับล่าช้าร้อยละ 0.01 ต่อวันตามสัญญา คือ “เงียบ” ครับ
มีใครเจอปัญหาแบบนี้กับโครงการนี้อีกบ้างครับ จริงๆยังมีเรื่องของส่วนกลางที่ไม่เป็นไปตามคำโฆษณาที่ทุกคนได้ข้อมูลมาในช่วงตอนเปิดขายโครงการอีกนะครับ
P.S. โครงการที่ผมซื้อยังจัดการไม่เรียบร้อยดี ก็ไปสร้างโครงการใกล้ๆกัน “ศุภาลัย เวลลิงตัน2" ซะแล้ว …