๋Just Love Good Food
"น้ำผึ้ง" สุดยอดของดีที่คนไม่รู้
มันคือความสุดยอดดอะ เข้าใจเลยครับว่าทำไมเวลาเราป่วย คนจะบอกว่า "กินมะนาวกับน้ำผึ้งสิ" น้ำผึ้งมีคุณสมบัติรักษาโรคได้จริงๆครับ คือๆๆ ถ้าใส่น้ำผึ้ง 4-8%ของ ของเหลวทั้งหมดจะมีคุณสมบัติ ยับยั้งแบคทีเรีย (Bacteriostatic) แต่ถ้าใส่ 5-10% เมื่อไหร่ จะมีคุณสมบัติฆ่าแบคทีเรียเลย (Bacteriocide) คล้ายๆหน้าที่ของยาปฏิชีวนะ ยาปฏิชีวนะจะทำลายผนังเซลล์ของแบคทีเรียและหยุดการทำงานภายใน แต่น้ำผึ้งมีความหวาน จะดูดน้ำออกจากตัวแบคทีเรียให้แห้งจนทำงานไม่ได้ น้ำผึ้งมีความเป็นกรด pH 3.2-4.5 ซึ่งความเป็นกรดนี้ ยับยั้งการทำงานของแบคทีเรียได้ และสำคัญที่สุดอยู่ตรงนี้ครับ น้ำผึ้งมี Hydrogen peroxide และ Phytochemicals ปกติแล้วแพทย์ใช้ Hydrogen peroxide ในการฆ่าเชื้อโรค แต่ๆๆๆๆๆ เพราะมันทำลายเนื้อเยื่อ และอักเสบ จึงไม่นิยมแล้ว ส่วนน้ำผึ้งเจือจางจากที่แพทย์ใช้ประมาณ 1,000 เท่า และมี Phytochemicals ซึ่งเป็น สารต่อต้านอนุมูลอิสระ สารนี้จะไม่ทำให้เนื้อเยื่อเกิดการอักเสบ แต่จะลดการอักเสบด้วยซ้ำ เออ น้ำผึ้งฟังดูดีมากๆๆๆๆ ไม่จบแค่นี้ครับ ตอนสงครามโลกครั้งที่1 รัสเซีย กับ เยอรมัน ใช้น้ำผึ้งรักษาบาดแผลด้วย! สุดยอดๆๆๆ แต่มีวิจัยบอกแล้วครับว่า น้ำผึ้งรักษาบาดแผลไฟไหม้ดี แต่ถ้าเป็นแผลสด หรือแผลเปื่อย ได้ผลปานกลาง - ต่ำ คือๆๆถ้ามีแผลก็ไปหาหมอ ใช้วิชาแพทย์สมัยใหม่ก็น่าจะดีกว่าทาน้ำผึ้งครับ 55555 แต่ก็นะถ้าสมมุติคุณอยู่ไกลจากชุมชน (เช่นในป่า) ถ้าเกิดบาดแผลฉกรรจ์ น้ำผึ้งอาจะช่วยคุณได้ครับ ต่อๆๆๆ เมื่อเราใส่น้ำผึ้งไปในอาหาร หรือ เครื่องดื่ม เพราะน้ำผึ้งมีคุณสมบัติรักษาโรค ตัวมันจึงเป็นเหมือน "สารกันบูด แบบธรรมชาติ!" อู้วววว!! สารกันบูดแบบธรรมชาติอะๆๆ ฟังดูดีมากๆๆ มีวิเคราะห์กันมาแล้วครับว่า นมที่ใส่น้ำผึ้ง กับไม่ได้ใส่ นมที่ใส่สามารถเก็บได้นานกว่าครับ แถมมจ้า ถ้าใส่ไปในโยเกิร์ตละ มีวิจัยมาแล้วเหมือนกันว่า น้ำผึ้งไม่มีผลใดๆกับ แลคโตบาซิลัสครับ ปกติ : D
.
คือทำไมมันดูดีอย่างนี้เนี่ยย ยังมีข้อดีอีกไหม.... เอ่อ.... มีครับ น้ำผึ้งมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่เยอะมากๆ คือจำพวก Flavanoids เช่น apigenin, pinocembrin, kaempferol, quercetin, galangin, chrysin and hesperetin) *** ข้ามๆไปก็ได้นะ ***, phenolic acids (such as ellagic, caffeic, p-coumaric and ferulic acids), ascorbic acid, tocopherols, catalase, superoxide dismutase, reduced glutathione เยอะแยะไปหมด พวกนี้คือสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งแก้การอักเสบในร่างกาย ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น และป้องกันเกี่ยวกับโรคมะเร็งด้วยนะ มีเคล็ดลับมาบอก!!!! สารต่อต้านอนุมูลอิสระเนี่ย เกี่ยวข้องโดยตรงกับสีของน้ำผึ้ง กล่าวคือถ้าน้ำผึ้งยิ่งสีเข้ม จะยิ่งมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระเยอะนั่นเอง สุดท้ายย พวกสาร Flavanoids นั่นแหละจะลดอัตราการเกิดโรคหัวใจ คือลด LDL คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ลดไตกรีเซอไรด์ และก็เพิ่ม HDL คอเลสเตอรอลชนิดดี นิ๊ดดดนึง
ข้อดีเยอะ แต่ๆๆๆๆ ก็มีข้อควรระวังนะครับ คือมันดีไงพ่อ แม่จึงเอาให้เด็กทารกกิน คือๆๆ เด็กที่อายุต่ำกว่าหนึ่งปีไม่ควรกินน้ำผึ้งเพราะ ในน้ำผึ้งมีสปอร์ของ Clostridium botulinum อยู่กินปุ๊ปจะไปเกิดพิษในท้องของเด็กทารกได้ แต่ผู้ใหญ่ไม่เป็นแล้วเพราะกระเพาะผู้ใหญ่ปรับตัวได้แล้ว และก็อีกเรื่องที่ต้องระวังของน้ำผึ้งคือ ภูมิแพ้ครับ บางคนแพ้ดอกไม้ ทานน้ำผิ้ง เพราะผึ้งเก็บน้ำหวานมาจากดอกไม้ ก็อาจเกิดอาการแพ้ได้นะครับ
.
สุดท้าย จะบอกว่าน้ำผึ้งมันดีโคดๆๆๆๆอะ แต่คนไทย (รวมทั้งตัวผมด้วย) กินน้ำผึ้งน้อยนะ ผมถามตัวเอง 1 เดือนผมกินน้ำผึ้งกี่ครั้ง ไม่ถึง 10 ครั้งอะ ก็จะกินให้มากขึ้นๆๆๆ ตอนนี้ผมใส่น้ำผึ้งไปในขนมปังปิ้ง ถั่วเขียวต้ม (ต้มเสร็จแล้วค่อยใส่นะครับ เพราะน้ำผึ้งโดนความร้อนแล้วเอนไซม์ในน้ำผึ้งจะหายไป) น้ำเต้าหู้ เมื่อวานซืนพ่อผมป่วย ผมจึงต้มถั่วแดงเม็ดเล็ก แล้วใส่น้ำผึงให้แกทาน พอวันรุ่งขึ้นเสียงแกดีขึ้นเลย ดีใจมาก :3 แต่ก็อย่าทานน้ำผึ้งเยอะเกินไปนะครับบ เด่วน้ำตาลในกระแสเลือดสูง เบาหวานจะถามหานะคร้าบบ
ติดตามโพสต์เก่าๆได้ที่ Facebook:
https://www.facebook.com/pages/Just-Love-Good-Food/961789493844962
.
หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3758027/
.
.
ขอให้สนุกกับการเล่นสงกรานต์คร้าาาบทุกคน : D
[Food] "น้ำผึ้ง" สุดยอดของดีที่คนไม่รู้
"น้ำผึ้ง" สุดยอดของดีที่คนไม่รู้
มันคือความสุดยอดดอะ เข้าใจเลยครับว่าทำไมเวลาเราป่วย คนจะบอกว่า "กินมะนาวกับน้ำผึ้งสิ" น้ำผึ้งมีคุณสมบัติรักษาโรคได้จริงๆครับ คือๆๆ ถ้าใส่น้ำผึ้ง 4-8%ของ ของเหลวทั้งหมดจะมีคุณสมบัติ ยับยั้งแบคทีเรีย (Bacteriostatic) แต่ถ้าใส่ 5-10% เมื่อไหร่ จะมีคุณสมบัติฆ่าแบคทีเรียเลย (Bacteriocide) คล้ายๆหน้าที่ของยาปฏิชีวนะ ยาปฏิชีวนะจะทำลายผนังเซลล์ของแบคทีเรียและหยุดการทำงานภายใน แต่น้ำผึ้งมีความหวาน จะดูดน้ำออกจากตัวแบคทีเรียให้แห้งจนทำงานไม่ได้ น้ำผึ้งมีความเป็นกรด pH 3.2-4.5 ซึ่งความเป็นกรดนี้ ยับยั้งการทำงานของแบคทีเรียได้ และสำคัญที่สุดอยู่ตรงนี้ครับ น้ำผึ้งมี Hydrogen peroxide และ Phytochemicals ปกติแล้วแพทย์ใช้ Hydrogen peroxide ในการฆ่าเชื้อโรค แต่ๆๆๆๆๆ เพราะมันทำลายเนื้อเยื่อ และอักเสบ จึงไม่นิยมแล้ว ส่วนน้ำผึ้งเจือจางจากที่แพทย์ใช้ประมาณ 1,000 เท่า และมี Phytochemicals ซึ่งเป็น สารต่อต้านอนุมูลอิสระ สารนี้จะไม่ทำให้เนื้อเยื่อเกิดการอักเสบ แต่จะลดการอักเสบด้วยซ้ำ เออ น้ำผึ้งฟังดูดีมากๆๆๆๆ ไม่จบแค่นี้ครับ ตอนสงครามโลกครั้งที่1 รัสเซีย กับ เยอรมัน ใช้น้ำผึ้งรักษาบาดแผลด้วย! สุดยอดๆๆๆ แต่มีวิจัยบอกแล้วครับว่า น้ำผึ้งรักษาบาดแผลไฟไหม้ดี แต่ถ้าเป็นแผลสด หรือแผลเปื่อย ได้ผลปานกลาง - ต่ำ คือๆๆถ้ามีแผลก็ไปหาหมอ ใช้วิชาแพทย์สมัยใหม่ก็น่าจะดีกว่าทาน้ำผึ้งครับ 55555 แต่ก็นะถ้าสมมุติคุณอยู่ไกลจากชุมชน (เช่นในป่า) ถ้าเกิดบาดแผลฉกรรจ์ น้ำผึ้งอาจะช่วยคุณได้ครับ ต่อๆๆๆ เมื่อเราใส่น้ำผึ้งไปในอาหาร หรือ เครื่องดื่ม เพราะน้ำผึ้งมีคุณสมบัติรักษาโรค ตัวมันจึงเป็นเหมือน "สารกันบูด แบบธรรมชาติ!" อู้วววว!! สารกันบูดแบบธรรมชาติอะๆๆ ฟังดูดีมากๆๆ มีวิเคราะห์กันมาแล้วครับว่า นมที่ใส่น้ำผึ้ง กับไม่ได้ใส่ นมที่ใส่สามารถเก็บได้นานกว่าครับ แถมมจ้า ถ้าใส่ไปในโยเกิร์ตละ มีวิจัยมาแล้วเหมือนกันว่า น้ำผึ้งไม่มีผลใดๆกับ แลคโตบาซิลัสครับ ปกติ : D
.
คือทำไมมันดูดีอย่างนี้เนี่ยย ยังมีข้อดีอีกไหม.... เอ่อ.... มีครับ น้ำผึ้งมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่เยอะมากๆ คือจำพวก Flavanoids เช่น apigenin, pinocembrin, kaempferol, quercetin, galangin, chrysin and hesperetin) *** ข้ามๆไปก็ได้นะ ***, phenolic acids (such as ellagic, caffeic, p-coumaric and ferulic acids), ascorbic acid, tocopherols, catalase, superoxide dismutase, reduced glutathione เยอะแยะไปหมด พวกนี้คือสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งแก้การอักเสบในร่างกาย ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น และป้องกันเกี่ยวกับโรคมะเร็งด้วยนะ มีเคล็ดลับมาบอก!!!! สารต่อต้านอนุมูลอิสระเนี่ย เกี่ยวข้องโดยตรงกับสีของน้ำผึ้ง กล่าวคือถ้าน้ำผึ้งยิ่งสีเข้ม จะยิ่งมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระเยอะนั่นเอง สุดท้ายย พวกสาร Flavanoids นั่นแหละจะลดอัตราการเกิดโรคหัวใจ คือลด LDL คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ลดไตกรีเซอไรด์ และก็เพิ่ม HDL คอเลสเตอรอลชนิดดี นิ๊ดดดนึง
ข้อดีเยอะ แต่ๆๆๆๆ ก็มีข้อควรระวังนะครับ คือมันดีไงพ่อ แม่จึงเอาให้เด็กทารกกิน คือๆๆ เด็กที่อายุต่ำกว่าหนึ่งปีไม่ควรกินน้ำผึ้งเพราะ ในน้ำผึ้งมีสปอร์ของ Clostridium botulinum อยู่กินปุ๊ปจะไปเกิดพิษในท้องของเด็กทารกได้ แต่ผู้ใหญ่ไม่เป็นแล้วเพราะกระเพาะผู้ใหญ่ปรับตัวได้แล้ว และก็อีกเรื่องที่ต้องระวังของน้ำผึ้งคือ ภูมิแพ้ครับ บางคนแพ้ดอกไม้ ทานน้ำผิ้ง เพราะผึ้งเก็บน้ำหวานมาจากดอกไม้ ก็อาจเกิดอาการแพ้ได้นะครับ
.
สุดท้าย จะบอกว่าน้ำผึ้งมันดีโคดๆๆๆๆอะ แต่คนไทย (รวมทั้งตัวผมด้วย) กินน้ำผึ้งน้อยนะ ผมถามตัวเอง 1 เดือนผมกินน้ำผึ้งกี่ครั้ง ไม่ถึง 10 ครั้งอะ ก็จะกินให้มากขึ้นๆๆๆ ตอนนี้ผมใส่น้ำผึ้งไปในขนมปังปิ้ง ถั่วเขียวต้ม (ต้มเสร็จแล้วค่อยใส่นะครับ เพราะน้ำผึ้งโดนความร้อนแล้วเอนไซม์ในน้ำผึ้งจะหายไป) น้ำเต้าหู้ เมื่อวานซืนพ่อผมป่วย ผมจึงต้มถั่วแดงเม็ดเล็ก แล้วใส่น้ำผึงให้แกทาน พอวันรุ่งขึ้นเสียงแกดีขึ้นเลย ดีใจมาก :3 แต่ก็อย่าทานน้ำผึ้งเยอะเกินไปนะครับบ เด่วน้ำตาลในกระแสเลือดสูง เบาหวานจะถามหานะคร้าบบ
ติดตามโพสต์เก่าๆได้ที่ Facebook: https://www.facebook.com/pages/Just-Love-Good-Food/961789493844962
.
หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3758027/
.
.
ขอให้สนุกกับการเล่นสงกรานต์คร้าาาบทุกคน : D