ฮอร์สแรดิช (Horseradish) เป็นรากพืชที่มีรส และกลิ่นฉุน เป็นพืชที่ใช้รากเป็นเครื่องเทศ
ชาวกรีกยุคแรกใช้เป็นยาถูเพื่อบรรเทาอาการปวดหลังส่วนล่าง
ชื่อฮอร์สแรดิช เพราะหมายถึง “ม้า” สื่อถึงขนาดใหญ่และความหยาบ ส่วน “แรดิช” มาจากภาษาละติน “radix” ซึ่งหมายถึงราก
มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย และต้านมะเร็ง
ฮอร์สแรดิชมีต้นกำเนิดมาจากทางตะวันออกของยุโรป เป็นผักที่กินได้ ยืนต้น ตระกูลเดียวกับมัสตาร์ด วาซาบิ กะหล่ำปลี และเคล บรอคโคลี
ลักษณะเป็นรากยาว ๆ สีขาวและมีใบสีเขียว เมื่อรากถูกตัด จะกลายเป็นน้ำมันชื่อ อัลลิลไอโซไทโอไซยาเนท ซึ่งให้กลิ่นและรสที่ทำให้ตา จมูก และคอระคายเคืองได้
ปกติจะขูดรากแล้วหมักในน้ำส้มสายชู เกลือ และน้ำตาล ใช้ในการปรุงรส
หรือผสมกับมายองเนสหรือซาวครีม
เรามักสับสนระหว่างฮอร์สแรดิช และวาซาบิ เพราะรสชาติจะคล้ายกันมาก
วาซาบิที่วางขายในท้องตลาดส่วนใหญ่ จะเป็น ฮอร์สแรดิช ขูดผสมสีเขียว เพราะวาซาบิจริงๆ เมื่อขูดทิ้งไว้นานๆ จะเสียรสชาติ มีปัญหาในการวางขาย
ฮอสเรดิช 1 ช้อนโต๊ะ 15 กรัม
โปรตีนน้อยกว่า 1 กรัม
ไขมันน้อยกว่า 1 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 2 กรัม
ใยอาหาร 0.5 กรัม
มีแคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม โฟเลต และสารอาหารรองอื่น ๆ เล็กน้อย
สารในฮอร์สแรดิช เช่น ซินิกริน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต่อสู้กับการถูกทำลายของเซลล์ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ
ต้านแบคทีเรีย
อัลลิลไอโซไทโอไซยาเนท คือน้ำมันจากฮอสเรดิชมีคุณสมบัติการต่อต้านแบคทีเรียที่ดีมาก
ช่วยให้ระบบทางเดินหายใจสุขภาพดีขึ้น
การกินทำให้เกิดความร้อนในโพรงจมูก จมูก และคอ จึงถูกใช้ในการบรรเทาอาการหวัดและแก้ปัญหาระบบหายใจ
ผลข้างเคียงของฮอร์สแรดิช
ฮอร์สแรดิชนั้นมีกลิ่นฉุน จึงควรที่จะใช้ในปริมาณที่น้อย ๆ
ความเผ็ดอาจระคายเคืองปาก จมูก หรือกระเพาะอาหารหากบริโภคมากเกินไป
โดยเฉพาะผู้ที่มีแผลในกระเพาะอาหาร มีปัญหาระบบย่อยอาหาร หรือมีภาวะลำไส้อักเสบเรื้อรัง ควรระมัดระวัง
ฮอร์สแรดิช (Horseradish)
ชาวกรีกยุคแรกใช้เป็นยาถูเพื่อบรรเทาอาการปวดหลังส่วนล่าง
ชื่อฮอร์สแรดิช เพราะหมายถึง “ม้า” สื่อถึงขนาดใหญ่และความหยาบ ส่วน “แรดิช” มาจากภาษาละติน “radix” ซึ่งหมายถึงราก
มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย และต้านมะเร็ง
ฮอร์สแรดิชมีต้นกำเนิดมาจากทางตะวันออกของยุโรป เป็นผักที่กินได้ ยืนต้น ตระกูลเดียวกับมัสตาร์ด วาซาบิ กะหล่ำปลี และเคล บรอคโคลี ลักษณะเป็นรากยาว ๆ สีขาวและมีใบสีเขียว เมื่อรากถูกตัด จะกลายเป็นน้ำมันชื่อ อัลลิลไอโซไทโอไซยาเนท ซึ่งให้กลิ่นและรสที่ทำให้ตา จมูก และคอระคายเคืองได้
ปกติจะขูดรากแล้วหมักในน้ำส้มสายชู เกลือ และน้ำตาล ใช้ในการปรุงรส
หรือผสมกับมายองเนสหรือซาวครีม
เรามักสับสนระหว่างฮอร์สแรดิช และวาซาบิ เพราะรสชาติจะคล้ายกันมาก
วาซาบิที่วางขายในท้องตลาดส่วนใหญ่ จะเป็น ฮอร์สแรดิช ขูดผสมสีเขียว เพราะวาซาบิจริงๆ เมื่อขูดทิ้งไว้นานๆ จะเสียรสชาติ มีปัญหาในการวางขาย
ฮอสเรดิช 1 ช้อนโต๊ะ 15 กรัม
โปรตีนน้อยกว่า 1 กรัม
ไขมันน้อยกว่า 1 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 2 กรัม
ใยอาหาร 0.5 กรัม
มีแคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม โฟเลต และสารอาหารรองอื่น ๆ เล็กน้อย สารในฮอร์สแรดิช เช่น ซินิกริน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต่อสู้กับการถูกทำลายของเซลล์ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ
ต้านแบคทีเรีย
อัลลิลไอโซไทโอไซยาเนท คือน้ำมันจากฮอสเรดิชมีคุณสมบัติการต่อต้านแบคทีเรียที่ดีมาก
ช่วยให้ระบบทางเดินหายใจสุขภาพดีขึ้น
การกินทำให้เกิดความร้อนในโพรงจมูก จมูก และคอ จึงถูกใช้ในการบรรเทาอาการหวัดและแก้ปัญหาระบบหายใจ
ผลข้างเคียงของฮอร์สแรดิช
ฮอร์สแรดิชนั้นมีกลิ่นฉุน จึงควรที่จะใช้ในปริมาณที่น้อย ๆ ความเผ็ดอาจระคายเคืองปาก จมูก หรือกระเพาะอาหารหากบริโภคมากเกินไป โดยเฉพาะผู้ที่มีแผลในกระเพาะอาหาร มีปัญหาระบบย่อยอาหาร หรือมีภาวะลำไส้อักเสบเรื้อรัง ควรระมัดระวัง