เรื่องวันเกิด
๑.)
จากหนังสือ "สัมมาทิฏฐิฯ"
http://www.sangharaja.org/index.php?option=com_content&view=article&id=1&Itemid=3
หน้า ๔๓
อันความก่อกำเนิดขึ้นในครรภ์ของมารดานี้ ได้มีพระพุทธภาษิตแสดงอธิบายไว้ ว่าอาศัยองค์ประกอบ ๓ ประการ คือ
๑ มารดาบิดาอยู่ด้วยกัน
๒ มารดามีระดู
๓ คันธัพพะ หรือที่เรียกกันว่าคนธรรพ์ หมายถึงสัตว์ที่จะมาถือกำเนิด หรือหมายถึงปฏิสนธิมาปรากฏขึ้น
เมื่อประกอบด้วยองค์ ๓ ประการนี้
ครรภ์ก็ตั้งขึ้น หรือเรียกตามคำแปลตามศัพท์ภาษาบาลีว่า ความก้าวลงแห่งครรภ์
ก็ย่อมมี ๓
อันคำว่าครรภ์นี้ก็หมายถึงสัตว์ผู้มาบังเกิดในท้องของแม่ ที่เรียกว่าตั้งครรภ์ ก็คือความก้าวลงของครรภ์
ก้าวลงของสัตว์ที่จะมาบังเกิดในครรภ์ ก็ย่อมมีขึ้น
และก็เรียกว่าเป็นปฐมจิตปฐมวิญญาณตั้งแต่นั้น และอาศัยความเติบโตขึ้นมาโดยลำดับ จนถึงครบถ้วน ๙ เดือน ๑๐ เดือน
ก็คลอดออกจากครรภ์ของมารดา
ชาติคือความเกิดนั้นก็นับตั้งแต่คันธัพพะหรือคนธรรพ์ หรือปฏิสนธิวิญญาณมาปรากฏก่อขึ้น เป็นปฐมจิตปฐมวิญญาณ
แต่ตามที่นับกันคือนับอายุ ก็มักจะนับตั้งแต่เมื่อได้คลอดออกมาจากครรภ์ของมารดาแล้ว จึงจะเรียกว่าเกิด
และก็นับอายุกันมาตั้งแต่นั้น
หน้า ๑๔
..... จึงได้มีแสดงเอาไว้ในบางพระสูตรว่า เมื่อมีชาติคือความเกิด ตั้งต้นแต่เกิดขึ้นในครรภ์ของมารดา
เริ่มก่อเกิดขึ้นก็มีปฏิสนธิวิญญาณ ซึ่งมีคำเรียกว่า คันธัพพะ คนธรรพ์ เข้ามาสู่ครรภ์ของมารดาอีกส่วนหนึ่ง
มาประกอบเข้ากับส่วนประกอบที่เป็นรูป
เมื่อเป็นดั่งนี้สัตว์จึงเริ่มมีชาติคือความเกิดขึ้นมา และเมื่อคันธัพพะ หรือปฏิสนธิวิญญาณเข้าสู่ครรภ์ของมารดา
ในขณะที่ได้เริ่มก่อรูปขึ้น ตั้งต้นแต่เป็นกลละ และก็เริ่มเติบโตขึ้นแตกเป็น ปัญจะสาขา มีอายตนะที่บริบูรณ์ขึ้นโดยลำดับ
ก็จะต้องมีปฏิสนธิวิญญาณประกอบอยู่ด้วยตลอด ......
๒.)
ตามบัตรประชาชน ผมเกิดวันที่ ๓๑ มีค.๙๑
เตี่ย ถามวันเกิดจริงจาก นสพ.จีน เทียบได้เป็นวันที่ ๒๗ สค.๙๐
๓.) จากข้อ ๑.) และ ข้อ ๒.)
ผมคนเดียว สมมุติวันเกิดได้ ๔วัน
๔.) แล้วตกลง ผมเป็นใคร ? ใครเป็นผม ? ครับ
วันเกิด
๑.)
จากหนังสือ "สัมมาทิฏฐิฯ"
http://www.sangharaja.org/index.php?option=com_content&view=article&id=1&Itemid=3
หน้า ๔๓
อันความก่อกำเนิดขึ้นในครรภ์ของมารดานี้ ได้มีพระพุทธภาษิตแสดงอธิบายไว้ ว่าอาศัยองค์ประกอบ ๓ ประการ คือ
๑ มารดาบิดาอยู่ด้วยกัน
๒ มารดามีระดู
๓ คันธัพพะ หรือที่เรียกกันว่าคนธรรพ์ หมายถึงสัตว์ที่จะมาถือกำเนิด หรือหมายถึงปฏิสนธิมาปรากฏขึ้น
เมื่อประกอบด้วยองค์ ๓ ประการนี้
ครรภ์ก็ตั้งขึ้น หรือเรียกตามคำแปลตามศัพท์ภาษาบาลีว่า ความก้าวลงแห่งครรภ์
ก็ย่อมมี ๓
อันคำว่าครรภ์นี้ก็หมายถึงสัตว์ผู้มาบังเกิดในท้องของแม่ ที่เรียกว่าตั้งครรภ์ ก็คือความก้าวลงของครรภ์
ก้าวลงของสัตว์ที่จะมาบังเกิดในครรภ์ ก็ย่อมมีขึ้น
และก็เรียกว่าเป็นปฐมจิตปฐมวิญญาณตั้งแต่นั้น และอาศัยความเติบโตขึ้นมาโดยลำดับ จนถึงครบถ้วน ๙ เดือน ๑๐ เดือน
ก็คลอดออกจากครรภ์ของมารดา
ชาติคือความเกิดนั้นก็นับตั้งแต่คันธัพพะหรือคนธรรพ์ หรือปฏิสนธิวิญญาณมาปรากฏก่อขึ้น เป็นปฐมจิตปฐมวิญญาณ
แต่ตามที่นับกันคือนับอายุ ก็มักจะนับตั้งแต่เมื่อได้คลอดออกมาจากครรภ์ของมารดาแล้ว จึงจะเรียกว่าเกิด
และก็นับอายุกันมาตั้งแต่นั้น
หน้า ๑๔
..... จึงได้มีแสดงเอาไว้ในบางพระสูตรว่า เมื่อมีชาติคือความเกิด ตั้งต้นแต่เกิดขึ้นในครรภ์ของมารดา
เริ่มก่อเกิดขึ้นก็มีปฏิสนธิวิญญาณ ซึ่งมีคำเรียกว่า คันธัพพะ คนธรรพ์ เข้ามาสู่ครรภ์ของมารดาอีกส่วนหนึ่ง
มาประกอบเข้ากับส่วนประกอบที่เป็นรูป
เมื่อเป็นดั่งนี้สัตว์จึงเริ่มมีชาติคือความเกิดขึ้นมา และเมื่อคันธัพพะ หรือปฏิสนธิวิญญาณเข้าสู่ครรภ์ของมารดา
ในขณะที่ได้เริ่มก่อรูปขึ้น ตั้งต้นแต่เป็นกลละ และก็เริ่มเติบโตขึ้นแตกเป็น ปัญจะสาขา มีอายตนะที่บริบูรณ์ขึ้นโดยลำดับ
ก็จะต้องมีปฏิสนธิวิญญาณประกอบอยู่ด้วยตลอด ......
๒.)
ตามบัตรประชาชน ผมเกิดวันที่ ๓๑ มีค.๙๑
เตี่ย ถามวันเกิดจริงจาก นสพ.จีน เทียบได้เป็นวันที่ ๒๗ สค.๙๐
๓.) จากข้อ ๑.) และ ข้อ ๒.)
ผมคนเดียว สมมุติวันเกิดได้ ๔วัน
๔.) แล้วตกลง ผมเป็นใคร ? ใครเป็นผม ? ครับ