ตอนผมเรียนอยู่ ม. ปลาย มีนิสัยแย่มาก จนเพื่อนต้องเข้ามาเตือนว่า ตายไปไม่กลัวตกนรกเหรอ
ผมก็บอกไปด้วยความมั่นใจว่า ทำไมจะต้องกลัว ไม่เห็นจะต้องกลัวนรกเลย เพราะตายไปแล้ว ก็จำอะไรไมไ่ด้อยู่ดี ถ้าต้องตกนรก ก็เหมือนกับให้อีกคนมารับโทษแทน เพราะตัวผมตายไปก็จำอะไรไม่ได้อยู่แล้วนิ ก็เหมือนนาย ก. ทำชั่ว ตายไปตกนรก แต่กลายเป็น นาย ข. มารรับโทษทัณฑ์แทน แล้วตัวนาย ก. จะต้องกลัวอะไร ก็ทำชั่ว โกงกินทุจริตมันทุกรูปแบบเลยสิ แค่หาทางไม่ให้ถูกตำรวจจับได้ก็พอแล้ว
แต่เมื่อเรียนจบมหาลัย ได้ทำงานสักพัก จนได้มาศึกษาธรรมแล้ว ถึงได้รู้ว่า พระพุทธเจ้าทรงแสดงความจริงถึงกำเนิดของสัตว์ 4 ประเภท ว่าสามารถกำเนิดได้ใน 4 รูปแบบ คือ
๑. อัณฑชะ กำเนิดของสัตว์ที่เกิดในไข่
๒. ชลาพุชะ กำเนิดของสัตว์ที่เกิดในครรภ์
๓. สังเสทชะ กำเนิดของสัตว์ที่เกิดในเหงื่อไคล
๔. โอปปาติกะ กำเนิดของสัตว์ที่เกิดผุดขึ้นเป็นตัวทันที โดยฉับพลัน
การกำเนิดของมนุษย์นั้น จิตปฏิสนธิในครรภ์มารดา พร้อมกัมมชรูปจากจุดที่เล็กที่สุด แล้วค่อยๆ เติบโตขึ้นด้วยอาหารชรูป โดยต้องใช้เวลาอยู่ในครรภ์มารดานานถึง 8-9 เดือน จึงทำให้จำอะไรไม่ได้
แต่การเกิดในนรก หรือสวรรค์ หรือเกิดในภูมิเปรต จะเป็นการเกิดแบบโอปปาติกะ คือผุดขึ้นเป็นตัวเต็มวัยทันที จึงยังทำให้มีความทรงจำของชาติเดิมอยู่ว่าเคยเป็นใครมา เพราะผลกรรมอะไรจึงทำให้เกิดมาเป็นเทวดา หรือต้องเกิดเป็นสัตว์นรก หรือเป็นเปรตที่หิวกระหายทนทุกข์ทรมานตลอดเวลา
เปรียบเสมือนกับ เวลาที่เราหลับไปแล้ว ตื่นขึ้นมาอีกที ปรากฏว่าอยู่ในนรกที่มีแต่ไฟร้อนแรงแผดเผา มีแต่สภาวะที่ทุกข์ทนทรมานแสนสาหัสยาวนานตลอดเวลาไม่รู้จักจบสิ้น
มันคงน่าสยองมากๆ เลย ถ้าคืนนี้เราหลับไปแล้ว ตื่นมาอีกที กลายเป็นว่าต้องติดอยู่ในสถานที่ที่มีแต่การลงทัณฑ์ทรมานอย่างโหดสยองตลอดเวลา จะร้องเรียกให้แม่จ๋าช่วยหนูด้วย พ่อจ๋ามาช่วยลูกที ก็ไม่มีใครจะมาช่วยได้
อย่าเพิ่งมั่นใจมากว่าตายจากชาตินี้ไปแล้ว ถึงแม้จะต้องตกนรก ก็ไม่เป็นไร ไม่เดือดไม่ร้อน เพราะจำอะไรไม่ได้อยู่ดี
ผมก็บอกไปด้วยความมั่นใจว่า ทำไมจะต้องกลัว ไม่เห็นจะต้องกลัวนรกเลย เพราะตายไปแล้ว ก็จำอะไรไมไ่ด้อยู่ดี ถ้าต้องตกนรก ก็เหมือนกับให้อีกคนมารับโทษแทน เพราะตัวผมตายไปก็จำอะไรไม่ได้อยู่แล้วนิ ก็เหมือนนาย ก. ทำชั่ว ตายไปตกนรก แต่กลายเป็น นาย ข. มารรับโทษทัณฑ์แทน แล้วตัวนาย ก. จะต้องกลัวอะไร ก็ทำชั่ว โกงกินทุจริตมันทุกรูปแบบเลยสิ แค่หาทางไม่ให้ถูกตำรวจจับได้ก็พอแล้ว
แต่เมื่อเรียนจบมหาลัย ได้ทำงานสักพัก จนได้มาศึกษาธรรมแล้ว ถึงได้รู้ว่า พระพุทธเจ้าทรงแสดงความจริงถึงกำเนิดของสัตว์ 4 ประเภท ว่าสามารถกำเนิดได้ใน 4 รูปแบบ คือ
๑. อัณฑชะ กำเนิดของสัตว์ที่เกิดในไข่
๒. ชลาพุชะ กำเนิดของสัตว์ที่เกิดในครรภ์
๓. สังเสทชะ กำเนิดของสัตว์ที่เกิดในเหงื่อไคล
๔. โอปปาติกะ กำเนิดของสัตว์ที่เกิดผุดขึ้นเป็นตัวทันที โดยฉับพลัน
การกำเนิดของมนุษย์นั้น จิตปฏิสนธิในครรภ์มารดา พร้อมกัมมชรูปจากจุดที่เล็กที่สุด แล้วค่อยๆ เติบโตขึ้นด้วยอาหารชรูป โดยต้องใช้เวลาอยู่ในครรภ์มารดานานถึง 8-9 เดือน จึงทำให้จำอะไรไม่ได้
แต่การเกิดในนรก หรือสวรรค์ หรือเกิดในภูมิเปรต จะเป็นการเกิดแบบโอปปาติกะ คือผุดขึ้นเป็นตัวเต็มวัยทันที จึงยังทำให้มีความทรงจำของชาติเดิมอยู่ว่าเคยเป็นใครมา เพราะผลกรรมอะไรจึงทำให้เกิดมาเป็นเทวดา หรือต้องเกิดเป็นสัตว์นรก หรือเป็นเปรตที่หิวกระหายทนทุกข์ทรมานตลอดเวลา
เปรียบเสมือนกับ เวลาที่เราหลับไปแล้ว ตื่นขึ้นมาอีกที ปรากฏว่าอยู่ในนรกที่มีแต่ไฟร้อนแรงแผดเผา มีแต่สภาวะที่ทุกข์ทนทรมานแสนสาหัสยาวนานตลอดเวลาไม่รู้จักจบสิ้น
มันคงน่าสยองมากๆ เลย ถ้าคืนนี้เราหลับไปแล้ว ตื่นมาอีกที กลายเป็นว่าต้องติดอยู่ในสถานที่ที่มีแต่การลงทัณฑ์ทรมานอย่างโหดสยองตลอดเวลา จะร้องเรียกให้แม่จ๋าช่วยหนูด้วย พ่อจ๋ามาช่วยลูกที ก็ไม่มีใครจะมาช่วยได้