ยุทธการกวนน้ำให้ขุ่น เริ่มแล้ว ตั้งแต่เห็นแม่นางสมจิตต์ ช่อง 7 ออกมาตั้งคำถามกะจะรุกไล่นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงการใช้ ม.44 ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว แทนกฏอัยการศึกให้จนมุม เมื่อคืนที่ผ่านมา จนท่านนายกฯชี้หน้าบอกว่าสมจิตต์ “ไม่ใช่คนไทย”..อิว์จอบถึงงอลล์ !
สอดประสานกับ ไมเคิล ยอน นักข่าวสงครามชาวอเมริกัน ปัจจุบันเป็นคนสนิทของบางพรรคการเมืองยิ่งนัก ก็ได้โพสท์เฟสบุคเรียกร้องให้นายกฯคืนประชาธิปไตยให้คนไทย อย่าสืบทอดอำนาจ..เหมือนนัดกันไว้ !
เมื่อข่าวแพร่ออกไป ว่าแม่นางสมจิตต์ “ถูกนายกฯด่า” แทนที่คนส่วนใหญ่ จะเข้าข้างสมจิตต์หรือไมเคิล ยอน แต่กลับสมน้ำหน้า เพราะย้อนคิดไปถึงพฤติกรรมเก่าๆของทั้ง 2 ที่มีพฤติกรรมเลือกข้าง ฝักใฝ่ จึงมองว่าทั้งคู่มีปลอกคอ และน่าจะมีวาระซ่อนเร้นในการตั้งคำถามและการโพสท์ครั้งนี้..แหงมๆ !
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ! อะไรคือวาระซ่อนเร้น ?? ใครคือเจ้าของปลอกคอ ?? คำถามที่ถามนั้นและสิ่งที่โพสท์ลงไปนั้น ทำแทนประชาชนในฐานะนักข่าว หรือว่าทำแทนใคร หรือมีใครใช้ให้มาถาม ถามเพื่อให้เป็นอะไร หรือกวนน้ำให้ขุ่นเพื่อเป็นตัวตั้งในการทำอะไรต่อไป..ผมมโนนะ !
อตีเต กาเล..หากย้อนไปเมื่อพฤษภา 2535 ที่มีประชาชนออกมาประท้วงพล.อ.สุจินดา คราประยูร ครั้งนั้น มีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งได้ชื่อว่า “พรรคเทพ”เป็นตัวตั้งตัวตีออกมาไฮปาร์คโจมตีพล.อ.สุจินดา จนเหตุการณ์ลุกลามบานปลายจนมีประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก เมื่อเหตุการณ์จบลง มีการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ กำหนดให้นายกฯมาจากการเลือกตั้ง พรรคนี้จึงได้รับเลือกตั้งเป็นเสียงข้างมาก..ในฐานะพระเอก
และหากย้อนไปถึงในปี 2534 ก่อนคณะ รชส. จะเข้ายึดอำนาจรัฐบาลชาติชาย พรรคนี้ถูกเตะโด่งออกมาจากการร่วมรัฐบาล เมื่อมาเป็นฝ่ายค้าน ก็สร้างวาทะกรรมโจมตีใส่ร้ายรัฐบาลชาติชายอย่างหนักหน่วง ในข้อหา“บุฟเฟต์คาบิเนต” มีท่าทีเกี๊ยะเชี้ยกับทหาร สุดท้ายคณะ รสช. เข้ายึดอำนาจในเดือนกุมภาพันธ์ 2534 มีคนเชื่อกันว่าพรรคนี้ “สมคบคิด”เพื่อล้มรัฐบาล..หวังมาเป็นรัฐบาล
แต่ครั้นพอเห็นท่าว่า รสช.จะสืบทอดอำนาจ ส่ง พล.อ.สุจินดา เข้ามาเป็นนายกฯ และเห็นทีว่าตนเองจะไม่ได้รับประโยชน์ ก็เริ่มปลุกปั่นประชาชน พาคนไปประท้วง อ้างว่า “นายกฯต้องมาจากการเลือกตั้ง” จนกลายเป็นเหตุการณ์บานปลายมีคนเจ็บคนตายเมื่อพฤษภาปี 2535 จำนวนมาก..กระนี้
เมื่อเห็นสมจิตต์กับไมเคิล ยอน ออกมาเป็น “หน่วยหน้า”โวยวายกับท่านประยุทธ์ ทำให้ผมมโนนึกไปถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาเมื่อเดือนพฤษภา 35 เพราะมีแนวโน้มว่าจะเกิดซ้ำรอย ยิ่งเมื่อ กมธ.ยกร่าง รธน.ให้นายกฯไม่ต้องมาจาก สส. ด้วยแล้ว ดูมันช่าง “เข้าทาง”ที่จะเป็นข้ออ้างอย่างดีและชอบธรรมให้กับนักฉวยโอกาสทางการเมืองสำหรับ“คนหน้าเดิม”อีกครั้ง..เสียแล้ว
เหตุการณ์ล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่ผ่านมา ก็มีอัตตลักษณ์ รูปแบบ ขบวนการคล้ายๆกัน คือพาคนไปประท้วงโน่น นี่ นั่น สร้างความวุ่นวายให้ทหารออกมายึดอำนาจ จากนั้นก็ซุ่มฟังผล แต่ขณะนี้ เมื่อพิจารณาสถานการณ์ อาจเห็นท่าว่าจะไม่เป็นอย่างที่คิดเสียแล้ว ก็เริ่มเตรียมงานใหญ่..ส่งซิกกัน
ผมเองก็มโนไปเรื่อยว่า อีกไม่เกินอึดใจพระพุทธนี่แหละ เจ้าของปลอกคอ จะเริ่มปรากฏกายขึ้น จะพาพวกมาคลึง มาเค้น มาเคาะ มาขยำ มานวด ตรง“ช่องโหว่”ของรัฐธรรมนูญนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะ “นิ่ม”คามือได้ที่ จากนั้นก็จะกลายมาเป็นพระเอกอีกครั้ง..คอยดู !
แต่งานนี้ ผมไม่เข้าข้างใครนะ ผมดูเฉยๆ ฟังเฉยๆ ไม่แสดงความเห็น เพราะที่ผ่านมาก็เห็นชงกันเอง ตบกันเอง สนุกสนานกันในหมู่พรรคพวกกันเอง ต่อนี้ไป หากจะเกิดอะไรขึ้น ก็ว่ากันเอาเองก็แล้วกัน ผมไม่เกี่ยว ผมไม่ยุ่ง ผมไม่ว่าง..ผมจะไปธุระ !!!
ขออภัย แก้คำผิด !
...ผมมโนเอานะเนี่ยะ !...
สอดประสานกับ ไมเคิล ยอน นักข่าวสงครามชาวอเมริกัน ปัจจุบันเป็นคนสนิทของบางพรรคการเมืองยิ่งนัก ก็ได้โพสท์เฟสบุคเรียกร้องให้นายกฯคืนประชาธิปไตยให้คนไทย อย่าสืบทอดอำนาจ..เหมือนนัดกันไว้ !
เมื่อข่าวแพร่ออกไป ว่าแม่นางสมจิตต์ “ถูกนายกฯด่า” แทนที่คนส่วนใหญ่ จะเข้าข้างสมจิตต์หรือไมเคิล ยอน แต่กลับสมน้ำหน้า เพราะย้อนคิดไปถึงพฤติกรรมเก่าๆของทั้ง 2 ที่มีพฤติกรรมเลือกข้าง ฝักใฝ่ จึงมองว่าทั้งคู่มีปลอกคอ และน่าจะมีวาระซ่อนเร้นในการตั้งคำถามและการโพสท์ครั้งนี้..แหงมๆ !
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ! อะไรคือวาระซ่อนเร้น ?? ใครคือเจ้าของปลอกคอ ?? คำถามที่ถามนั้นและสิ่งที่โพสท์ลงไปนั้น ทำแทนประชาชนในฐานะนักข่าว หรือว่าทำแทนใคร หรือมีใครใช้ให้มาถาม ถามเพื่อให้เป็นอะไร หรือกวนน้ำให้ขุ่นเพื่อเป็นตัวตั้งในการทำอะไรต่อไป..ผมมโนนะ !
อตีเต กาเล..หากย้อนไปเมื่อพฤษภา 2535 ที่มีประชาชนออกมาประท้วงพล.อ.สุจินดา คราประยูร ครั้งนั้น มีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งได้ชื่อว่า “พรรคเทพ”เป็นตัวตั้งตัวตีออกมาไฮปาร์คโจมตีพล.อ.สุจินดา จนเหตุการณ์ลุกลามบานปลายจนมีประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก เมื่อเหตุการณ์จบลง มีการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ กำหนดให้นายกฯมาจากการเลือกตั้ง พรรคนี้จึงได้รับเลือกตั้งเป็นเสียงข้างมาก..ในฐานะพระเอก
และหากย้อนไปถึงในปี 2534 ก่อนคณะ รชส. จะเข้ายึดอำนาจรัฐบาลชาติชาย พรรคนี้ถูกเตะโด่งออกมาจากการร่วมรัฐบาล เมื่อมาเป็นฝ่ายค้าน ก็สร้างวาทะกรรมโจมตีใส่ร้ายรัฐบาลชาติชายอย่างหนักหน่วง ในข้อหา“บุฟเฟต์คาบิเนต” มีท่าทีเกี๊ยะเชี้ยกับทหาร สุดท้ายคณะ รสช. เข้ายึดอำนาจในเดือนกุมภาพันธ์ 2534 มีคนเชื่อกันว่าพรรคนี้ “สมคบคิด”เพื่อล้มรัฐบาล..หวังมาเป็นรัฐบาล
แต่ครั้นพอเห็นท่าว่า รสช.จะสืบทอดอำนาจ ส่ง พล.อ.สุจินดา เข้ามาเป็นนายกฯ และเห็นทีว่าตนเองจะไม่ได้รับประโยชน์ ก็เริ่มปลุกปั่นประชาชน พาคนไปประท้วง อ้างว่า “นายกฯต้องมาจากการเลือกตั้ง” จนกลายเป็นเหตุการณ์บานปลายมีคนเจ็บคนตายเมื่อพฤษภาปี 2535 จำนวนมาก..กระนี้
เมื่อเห็นสมจิตต์กับไมเคิล ยอน ออกมาเป็น “หน่วยหน้า”โวยวายกับท่านประยุทธ์ ทำให้ผมมโนนึกไปถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาเมื่อเดือนพฤษภา 35 เพราะมีแนวโน้มว่าจะเกิดซ้ำรอย ยิ่งเมื่อ กมธ.ยกร่าง รธน.ให้นายกฯไม่ต้องมาจาก สส. ด้วยแล้ว ดูมันช่าง “เข้าทาง”ที่จะเป็นข้ออ้างอย่างดีและชอบธรรมให้กับนักฉวยโอกาสทางการเมืองสำหรับ“คนหน้าเดิม”อีกครั้ง..เสียแล้ว
เหตุการณ์ล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่ผ่านมา ก็มีอัตตลักษณ์ รูปแบบ ขบวนการคล้ายๆกัน คือพาคนไปประท้วงโน่น นี่ นั่น สร้างความวุ่นวายให้ทหารออกมายึดอำนาจ จากนั้นก็ซุ่มฟังผล แต่ขณะนี้ เมื่อพิจารณาสถานการณ์ อาจเห็นท่าว่าจะไม่เป็นอย่างที่คิดเสียแล้ว ก็เริ่มเตรียมงานใหญ่..ส่งซิกกัน
ผมเองก็มโนไปเรื่อยว่า อีกไม่เกินอึดใจพระพุทธนี่แหละ เจ้าของปลอกคอ จะเริ่มปรากฏกายขึ้น จะพาพวกมาคลึง มาเค้น มาเคาะ มาขยำ มานวด ตรง“ช่องโหว่”ของรัฐธรรมนูญนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะ “นิ่ม”คามือได้ที่ จากนั้นก็จะกลายมาเป็นพระเอกอีกครั้ง..คอยดู !
แต่งานนี้ ผมไม่เข้าข้างใครนะ ผมดูเฉยๆ ฟังเฉยๆ ไม่แสดงความเห็น เพราะที่ผ่านมาก็เห็นชงกันเอง ตบกันเอง สนุกสนานกันในหมู่พรรคพวกกันเอง ต่อนี้ไป หากจะเกิดอะไรขึ้น ก็ว่ากันเอาเองก็แล้วกัน ผมไม่เกี่ยว ผมไม่ยุ่ง ผมไม่ว่าง..ผมจะไปธุระ !!!
ขออภัย แก้คำผิด !