สวัสดีครับทุกๆคน
ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมคิดนั้นมันจะผิดไหมและจะเปลี่ยนความคิดผู้ใหญ่รุ่นนี้ได้อย่างไร?
เมื่อครั้งอดีต รุ่นปู่-ย่า ครอบครัวผมเป็นเกษตรกรเลี้ยงลูกแปดคนจนเติบโตมาด้วยอาชีพนี้ จนกระทั่งรุ่นถัดมาคือรุ่นของพ่อผมและลุงป้าน้าอาต่างคนก็ไปเป็นราชการและทำงานเอกชนกันหมด พ่อสร้างบ้านหลังหนึ่งที่น่าอยู่ไว้แล้วพ่อกับแม่ผมก็จากผมไปทำงานในกรุงเทพฯตั้งแต่ผมยังเด็กๆโดยให้ผมอยู่กับคุณย่าที่ต่างจังหวัดในบ้านที่สร้างใหม่นั่นแหละปีหนึ่งๆมีโอกาสกลับมาสองสามครั้งๆละสองสามวันเป็นอย่างนี้ทุกๆปี หาเงินส่งเสียผมเรียนหนังสือจนจบปริญญาตรีเพื่อที่อยากจะให้ลูกได้เป็นเจ้าคนนายคน ตอนนี้ก็เหลือน้องสาวอีกคนที่กำลังจะเข้ามหาลัย เมื่อตอนคุณย่าเสียพ่อก็ได้รับมรดกเป็นที่ดินกับเงินมาอีกจำนวนหนึ่ง และผมก็ทำงานในตำแหน่งที่เหมาะสมกับระดับ ป.ตรี กับเอกชนแห่งหนึ่งซึ่งค่อนข้างไกลบ้านและตั้งแต่ย่าเสียตอนนี้ก็ไม่มีใครอยู่บ้านจนบ้านแทบจะเป็นบ้านร้างแล้ว ผมทำงานมาแล้วสามปี(บ้านไม่มีคนอยู่อาศัยแล้วสองปี)มีเงินเก็บจำนวนหนึ่ง จนมาวันหนึ่งบอกพ่อไปว่าอยากจะเก็บตังไว้ทำธุรกิจการเกษตรที่บ้านซึ่งมีพร้อมทั้งบ้าน,ที่ดินที่นา,เงินทุนและครอบครัวจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันที่บ้านมีข้าวปลาอาหารสมบูรณ์และเป็นอาหารที่ผลิตเองด้วย เคยเสนอโครงการไปว่าผมจะเริ่มทำเองให้พ่อดูถ้าแม่เบื่อกรุงเทพฯก็มาทำไร่กับผมจะหาอะไรง่ายๆให้ทำขายเมื่อพ่อเหนื่อยก็ค่อยกลับมาอยู่บ้านที่มีไร่สวนรออยู่มีแบบแปลนให้ดูด้วยว่าจะทำสวนอย่างไรระบบน้ำเก็บอย่างไรใช้อย่างไรแต่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากพ่อเลยแค่ฟังให้จบก็ไม่ได้รับเพียงคำตอบที่เป็นคำถามกลับมาที่ว่าจะทำได้เหรอ? ที่ดินมันรกร้าง? บ้านเรามันแห้งแล้ง? ทำแล้วจะขายที่ไหน? เดี๋ยวก็ถูกเอาเปรียบเหมือนคนอื่นๆ? ตอนนี้ที่ดินบางส่วนให้คนอื่นทำนาไม่ได้แม้แต่ค่าเช่า(ใจดีป่ะล่ะพ่อผม) อีกผืนยังเป็นป่ารก(เป็นป่าได้ต้องเก็บน้ำได้อยู่แล้ว) พ่อบอกแต่ให้ทำงานไปเรื่อยๆและหาสอบเอาราชการให้ได้เหมือนชาวบ้านชาวช่องซึ่งความคิดของพ่อยังตามกระแสสังคมที่มีเงินเป็นใหญ่ใจหนึ่งพ่อคงคิดผมนะจบปริญญาตรีแล้วจะมาทำนาทำไร่ทำสวนพ่อคงกลัวจะอายคนอื่นๆเขา ผมก็คิดนะว่าทำงานอีกซักปีสองปีแล้วหาซื้อที่ดินผืนใหม่ทำการเกษตรแล้วออกจากงานประจำ แต่นั่นแหละถ้าผมทำอย่างนั้นพ่อก็อาจจะเสียใจ แต่จะดีเหรอถ้าปล่อยไปแบบนี้ เราต้องทำงานจนแก่เฒ่ากว่าจะได้กลับมาอยู่บ้านที่หาเงินมาสร้างทั้งชีวิตและรุ่นลูกหลานเราก็ต้องออกไปต่างแดนเหมือนเราเพื่อไปหาเงินเป็นรุ่นต่อไปเหรอ มีวิธีไหนบ้างไหมครับที่เราจะทำให้ความคิดของผู้ใหญ่เปลี่ยนแปลงได้บ้าง?
ขอบคุณครับที่รับฟังปัญหา ดีใจที่ได้ระบายครับ
"นายฮ้อยที่ยังไม่ได้เดินทาง"
พ่อส่งให้เรียนจนจบปริญญาตรีแต่เราอยากกลับมาเป็นเกษตรกร
ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมคิดนั้นมันจะผิดไหมและจะเปลี่ยนความคิดผู้ใหญ่รุ่นนี้ได้อย่างไร?
เมื่อครั้งอดีต รุ่นปู่-ย่า ครอบครัวผมเป็นเกษตรกรเลี้ยงลูกแปดคนจนเติบโตมาด้วยอาชีพนี้ จนกระทั่งรุ่นถัดมาคือรุ่นของพ่อผมและลุงป้าน้าอาต่างคนก็ไปเป็นราชการและทำงานเอกชนกันหมด พ่อสร้างบ้านหลังหนึ่งที่น่าอยู่ไว้แล้วพ่อกับแม่ผมก็จากผมไปทำงานในกรุงเทพฯตั้งแต่ผมยังเด็กๆโดยให้ผมอยู่กับคุณย่าที่ต่างจังหวัดในบ้านที่สร้างใหม่นั่นแหละปีหนึ่งๆมีโอกาสกลับมาสองสามครั้งๆละสองสามวันเป็นอย่างนี้ทุกๆปี หาเงินส่งเสียผมเรียนหนังสือจนจบปริญญาตรีเพื่อที่อยากจะให้ลูกได้เป็นเจ้าคนนายคน ตอนนี้ก็เหลือน้องสาวอีกคนที่กำลังจะเข้ามหาลัย เมื่อตอนคุณย่าเสียพ่อก็ได้รับมรดกเป็นที่ดินกับเงินมาอีกจำนวนหนึ่ง และผมก็ทำงานในตำแหน่งที่เหมาะสมกับระดับ ป.ตรี กับเอกชนแห่งหนึ่งซึ่งค่อนข้างไกลบ้านและตั้งแต่ย่าเสียตอนนี้ก็ไม่มีใครอยู่บ้านจนบ้านแทบจะเป็นบ้านร้างแล้ว ผมทำงานมาแล้วสามปี(บ้านไม่มีคนอยู่อาศัยแล้วสองปี)มีเงินเก็บจำนวนหนึ่ง จนมาวันหนึ่งบอกพ่อไปว่าอยากจะเก็บตังไว้ทำธุรกิจการเกษตรที่บ้านซึ่งมีพร้อมทั้งบ้าน,ที่ดินที่นา,เงินทุนและครอบครัวจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันที่บ้านมีข้าวปลาอาหารสมบูรณ์และเป็นอาหารที่ผลิตเองด้วย เคยเสนอโครงการไปว่าผมจะเริ่มทำเองให้พ่อดูถ้าแม่เบื่อกรุงเทพฯก็มาทำไร่กับผมจะหาอะไรง่ายๆให้ทำขายเมื่อพ่อเหนื่อยก็ค่อยกลับมาอยู่บ้านที่มีไร่สวนรออยู่มีแบบแปลนให้ดูด้วยว่าจะทำสวนอย่างไรระบบน้ำเก็บอย่างไรใช้อย่างไรแต่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากพ่อเลยแค่ฟังให้จบก็ไม่ได้รับเพียงคำตอบที่เป็นคำถามกลับมาที่ว่าจะทำได้เหรอ? ที่ดินมันรกร้าง? บ้านเรามันแห้งแล้ง? ทำแล้วจะขายที่ไหน? เดี๋ยวก็ถูกเอาเปรียบเหมือนคนอื่นๆ? ตอนนี้ที่ดินบางส่วนให้คนอื่นทำนาไม่ได้แม้แต่ค่าเช่า(ใจดีป่ะล่ะพ่อผม) อีกผืนยังเป็นป่ารก(เป็นป่าได้ต้องเก็บน้ำได้อยู่แล้ว) พ่อบอกแต่ให้ทำงานไปเรื่อยๆและหาสอบเอาราชการให้ได้เหมือนชาวบ้านชาวช่องซึ่งความคิดของพ่อยังตามกระแสสังคมที่มีเงินเป็นใหญ่ใจหนึ่งพ่อคงคิดผมนะจบปริญญาตรีแล้วจะมาทำนาทำไร่ทำสวนพ่อคงกลัวจะอายคนอื่นๆเขา ผมก็คิดนะว่าทำงานอีกซักปีสองปีแล้วหาซื้อที่ดินผืนใหม่ทำการเกษตรแล้วออกจากงานประจำ แต่นั่นแหละถ้าผมทำอย่างนั้นพ่อก็อาจจะเสียใจ แต่จะดีเหรอถ้าปล่อยไปแบบนี้ เราต้องทำงานจนแก่เฒ่ากว่าจะได้กลับมาอยู่บ้านที่หาเงินมาสร้างทั้งชีวิตและรุ่นลูกหลานเราก็ต้องออกไปต่างแดนเหมือนเราเพื่อไปหาเงินเป็นรุ่นต่อไปเหรอ มีวิธีไหนบ้างไหมครับที่เราจะทำให้ความคิดของผู้ใหญ่เปลี่ยนแปลงได้บ้าง?
ขอบคุณครับที่รับฟังปัญหา ดีใจที่ได้ระบายครับ
"นายฮ้อยที่ยังไม่ได้เดินทาง"