จากมุมมองสมาชิกตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งในห้องราชดำเนิน พวกไม่มี มีเพื่อนบ้าง มีแฟนคลับบ้าง ก็เห็นว่า ในรอบปีที่ผ่านมา บรรยากาศห้องเต็มไปด้วยความอีมครึม มันอาจจะเป็นเพราะสถานการณ์ทางการเมืองที่บีบรัด ทำให้การแสดงความเห็นไม่สามารถทำได้อย่างอิสระดั่งใจหวัง ตั้งกระทู้อะไรมากก็ไม่ได้ วิจารณ์หนักก็เจอลบ

และยังเจอบรรยากาศความขัดแย้งของเพื่อนสมาชิก ที่บางครั้งเหมือนจะรุนแรง แต่ไม่ยืดยาว บางครั้งเหมือนจะน่ารำคาญแต่จริงจัง ทำให้บางคนอาจจะเครียดเกินเหตุ ทำให้มีอารมณ์ใส่กัน กลายเป็นประเด็นขัดแย้งที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น

แต่เมื่อในช่วงสองสามวันนี้ บรรยากาศผมว่า ดูเหมือนจะสงบมากขึ้น อาจจะยังมีบ้าง ที่ตอดกันไปมา แต่ก็ยังอยู่ในสภาวะที่ดีขึ้นกว่าเดิม

ก็เลยคาดหวังว่า บรรยากาศที่ดีขึ้น จะสามารถเป็นการดีขึ้นแบบถาวร ไม่ใช่แค่ความสงบที่มาก่อนพายุที่รุนแรง

ซึ่งบรรยากาศที่ดีขึ้น จะมาได้ ก็ต้องได้รับความร่วมมือจากสมาชิกทุกคน ที่เห็นชอบร่วมกัน และร่วมมือกันพยายามทำให้ได้


________________________

เริ่มต้นจุดแรก ก็อยากจะเรียกร้อง คือถึงวันนี้ ผมก็ยังยืนยันคำเดิมว่า โดยส่วนตัวผมก็ยังคิดว่า ทีมเฉพาะกิจนั้น น่าจะเป็นแก้มป่อง แต่เมื่อทางทีมเฉพาะกิจ ปฏิเสธมาตลอด ผมก็คงไม่สามารถที่จะใช้การพูดคุยแบบมิตรที่เคยมีมาในอดีต มาเสนอแนะ แนะนำ ให้เลิกทำอะไรที่ไร้สาระพวกนั้นสักที

ก็เลยอยากจะขอเรียกร้องแทน ให้ทีมงานเฉพาะกิจ ทบทวนบทบาทที่แสดงออกมาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ว่าที่ทำมานั้น ประโยชน์ที่คาดหวังนั้นคืออะไร แล้วที่ทำได้ สามารถบรรลุวัตถุประสงค์นั้น ๆ ขนาดไหน ผมว่า ถ้าหากประเมินด้วยใจเป็นธรรม ก็จะพบว่า ที่พยายามทำนั้น มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย มีแต่สร้างความเบื่อหน่ายรำคาญให้กับเพื่อนสมาชิก ทั้งที่ชอบและไม่ชอบคู่กรณีของทีมเฉพาะกิจ

ดังนั้นถ้าเห็นด้วยกับผมพูด ก็อยากจะเรียกร้องให้ เลิกเถอะครับ ทำไปทำไมเรื่องไร้สาระพวกนี้ เอาเวลาไปทำอย่างอื่น ดีกว่ามาหมกมุ่นทำในเรื่องที่ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับใครทั้งสิ้น

ประเด็นนี้ผมอยากจะขอร้องเพื่อนสมาชิกไม่ว่าเป็นกลุ่มไหน ฝ่ายใด ที่เห็นด้วยกับเนื้อหาส่วนนี้ ช่วยกันแสดงความเห็นให้ชัดเจน เพื่อส่งต่อไปยังทีมเฉพาะกิจ


_____________________

ส่วนที่สองที่อยากจะเรียกร้องให้ช่วยกันสร้างบรรยากาศ คือ ที่ผ่านมา ผมคิดว่า การที่แต่ละคนเข้ามาสนทนาแลกเปลี่ยนความเห็นในบอร์ดสาธารณะต่าง ๆ เป็นเพราะต้องการแสดงความเห็น ต้องการแลกเปลี่ยนความเห็นกับคนที่มีความชอบในเรื่องเดียวกัน

ดังนั้นประเด็นหลักคือเนื้อหาที่สนทนา ไม่ใช่อยู่ที่ว่าสนทนากับใคร

ซึ่งถ้าเรายึดหลักการตัวนี้ คือสนใจเนื้อหาเป็นหลัก มีกระทู้มากมาย ก็เลือกอ่านที่สนใจ อ่านแล้วอยากแลกเปลี่ยนความเห็น ก็แลกเปลี่ยนไป แต่ถ้าหากคุยแล้วไม่พอใจ ก็เลิกคุยไปได้

แต่เท่าที่เห็น บางครั้งที่มีวิวาทะเกิดขึ้น มีการแลกเปลี่ยนไปมา ก็คงเป็นเพราะเป็นความพอใจของทั้งสองฝ่ายที่ยังจะคุยไป

ดังนั้น ถึงแม้เนื้อหาที่จะดูรุนแรง แต่เมื่อเป็นความพอใจทั้งสองฝ่าย มันก็ไม่น่าจะเกิดเป็นเรื่องราวบานปลายได้

ถ้าพอใจก็คุย ไม่พอใจก็เลิกคุย ไม่เห็นจำเป็นต้องบานปลายไปกว่านั้น

ประเด็นนี้ ผมพูดลอย ๆ แค่นี้พอ เพราะอธิบายกว่านี้ คงจะทำลายบรรยากาศเกินไป



ผมว่า ถ้าหากทุกคนทำได้แบบนี้ คือห้ามตัวเองเป็นหลัก ไม่อยากทะเลาะกับใคร ก็เดินห่างออกมา บรรยากาศที่เลวร้ายคงไม่เกิด และถึงจะเกิดขึ้น ก็น่าจะจบลงที่ตัวหนังสือก็พอ


________________________

ก็หวังว่า พอผ่านวันนี้ ทุกคนที่เคยอยู่ในท่ามกลางความขัดแย้ง ที่สร้างความอีดอัด ให้กับบรรยากาศโดยรวม จะทบทวนดู แล้วลองร่วมมือกันรักษาบรรยากาศที่ดีกันให้ได้

หรือถ้าหากคิดว่า เป็นไปได้ยาก อย่างน้อย ก็อย่าพยายามทำให้ไปสู่สถานการณ์ที่เผชิญหน้ากัน อาจจะแยกกันยืนคนละมุม ไม่ต้องแลกเปลี่ยนความเห็นอะไรกัน ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างแสดงความเห็น ในกระทู้ของฝ่ายตัวเองไป

จริง ๆ ผมชอบบรรยากาศ การแลกเปลี่ยนความเห็นมากกว่า บรรยากาศที่ต่างคนต่างอยู่

แต่ถ้าให้เลือกระหว่าง ต่างคนต่างอยู่ กับ บรรยากาศอึมครึมแบบที่เกิดขึ้น ขอเลือกแบบที่คู่กรณีต่าง ๆ แยกกันห่าง ๆ ดีกว่า

เพราะอย่างน้อย เมื่อไม่มีเรื่อง น่าจะสบายใจได้มากกว่า





________________________

ขอบคุณที่อ่าน

ขอบคุณที่แสดงความเห็นเชิงบวก