เมื่อทริกเกอร์กลายเป็นพระเอก…. และเจคคนดีเกิดอยากจะเป็นวายร้ายขึ้นมา ( เรื่องของเจค กับทริกเกอร์ )

กระทู้สนทนา
เมื่อทริกเกอร์กลายเป็นพระเอก…. และเจคคนดีเกิดอยากจะเป็นวายร้ายขึ้นมา ( เรื่องของเจค กับทริกเกอร์ )

http://ppantip.com/topic/31176227

ปกติทริกเกอร์ จะอยู่หลังบ้าน  แต่เมื่อใดก็ตามที่เจ้าตัวแสบได้ยินเสียงรถ  มันต้องแล่นมาสอดแนม  วันนี้ก็เช่นกันทันทีที่มันได้ยินเสียงรถ  มันก็วิ่งหน้าตั้งออกมา  เพราะเผื่อเขามาส่งพัสดุ   แล้วคุณผู้หญิง หรือคุณผู้ชายมาเห็นทีหลัง เจ้าทริกจะคาบไปหลังบ้าน แล้วกัดเล่นอย่างสำราญบานใจ

“จ๊าก “เจ้าทริกที่ห้อมาเต็มเหยียดพร้อมกับความหวังมาเต็มร้อย  เบรคตัวโก่ง  เมื่อมาถึงหน้าบ้านแล้วไม่ได้เจอแค่รถ *เฟดเอกซ์ ( FedEx)  
แต่ดันจ๊ะเอ๋ กับคุณผู้หญิง  ที่เดินไปรับพัสดุจากพนักงานเฟดเอกซ์  เข้าให้ แผนที่วาดไว้พังครืน ไอ้ทริกหมุนตัวกลับจะวิ่งหนีแต่ไม่ทัน

“หยุด อย่าไปไหน  เรามีเรื่องต้องพูดกัน” คุณผู้หญิง จิกเรียกดังๆ  เจ้าทริกหยุดกึก  หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้า เห็นหน้าบึ้งๆของคุณผู้หญิง ก็ร้องแรกในใจ    ตายแน่เรา  งานนี้มีหวังต้องตายหยังเขียด
แต่ลูกเสือ เอ๊ย  ลูกหมาไม่ทิ้งลาย  ทริกเกอร์ทำใจกล้า  ก้าวไปหาคุณผู้หญิงที่เดินไปนั่งที่เก้าอี้หวายที่เทอเรซหน้าบ้าน  นั่งลงได้ก็วางพัสดุลงบนเก้าอี้ใกล้ๆ

“เข้ามาใกล้ๆ  เร็วเข้าอย่าช้า “คุณผู้หญิงร้องเรียกที่ทริกเกอร์   ระหว่างที่ทริกเกอร์ก้าวมาหา  คุณผู้หญิงก็ไอแคกๆติดกันสามครั้ง  จามอีกสี่   หอบอีกห้า  
“คุณผู้หญิง มีอะไรจะพูดกับผมเหรอครับ” ทริกเกอร์ถามอย่างหวาดๆ  พยายามปลอบใจตัวเอง  ที่หน้าตาคุณผู้หญิง บึ้งตึง  ไม่ได้โกรธตัวเองหรอก  แต่กำลังป่วยเป็นไข้หวัด  ทริกเกอร์คิดอย่างนี้  ก็เพราะวันนี้ตัวเองยังไม่ได้ทำผิดอะไร ( แค่คิด แต่ยังไม่ทันลงมือ ถือว่าไม่ผิด)

คุณผู้หญิงที่ป่วยด้วย เครียดกับความปะพฤติของทริกเกอร์ ลูกชายไม่เอาอ่าวด้วย  ถอนใจยาว  มองเจ้าทริกที่นั่งจุมปุ้ก
อยู่ตรงหน้า ยิงฟันทำหน้าหล่อซะไม่มี

“ฉันถามเราหน่อย  เราเคยคิดจะเป็นหมาดีกับเขาบ้างมั้ย ทริก “
“แล้วผมไม่ดีตรงไหน เหรอครับ”

“แน๊ะ  ฉันถามเรา ไมใช่ให้เรามาเล่นสำนวน  คิดว่าฉันรู้ไม่ทันเราหรือไง ที่เราแล่นออกมานี่  ก็เพื่อจะมาดักงับพัสดุ    
อาทิตย์ก่อน  กัดสมุดโทรศัพท์   สองวันก่อนหนังสือคู่มือเตรียมสอบคุณผู้ชาย โชคดีที่คุณผู้ชายสั่งเล่มใหม่ทันเวลา  เพราะถ้าเขาสอบตก เขาต้องเอาเราไปปล่อยเกาะแน่ๆ”
“เกาะไหนครับ  คุณผู้หญิง  เพราะถ้าเกาะนั้นมีหมาสวยๆ ไม่ต้องเอาผมไปปล่อย   ผมสมัครใจไปเอง  สบายมาก”

“ไอ้ทริก”
“ครับผม ”

“หุบปาก แล้วฟังฉันให้ดีๆ”
“ครับ”
“ถามจริงๆเจ้าทริก   ข้าวของนี่  กัดจัง   กัดทำไม  เราเองก็ดูหนังน้องหมาผจญภัยกับฉันประจำ  น้องหมาในหนัง   เขามีแต่คาบของเอาไปให้เจ้าของ   ไม่ใช่คาบไปทำลายอย่างเรา”

“แต่พอดีว่า ผมไม่ใช่น้องหมาในหนัง  แต่เป็นหมาตัวจริง เสียงจริง  คิดอย่างไรก็ทำอย่างนั้น  ไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ  ไม่มีผู้กำกับบท  คอยบอกให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้“

“เหอ“  คุณผู้หญิงทำเสียงนั้นออกมาอย่างงงๆ  ตัวเองพูดนิดเดียว  เจ้าทริกยืดยาวเป็นคุ้งเป็นแคว   งง และ อึ้งไปชั่วครู่  แต่พอสติคืนกลับมา  คุณผู้หญิงก็แว๊ดใส่

“พูดด้วยดีๆ มาตีสำนวน   อย่าอยู่เลยไอ้ทริก ตายเสียเถอะ ” คุณผู้หญิงที่เลือดขึ้นหน้า  พรวดพราดลุกขึ้น ลืมความเจ็บป่วย หมุนตัวกลับไปด้านหลัง  ก้าวไปหาแจกันที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ   ซึ่งความสูงกะโดยเฉลี่ยห้าฟุต  หนักร่วมสองร้อยปอนด์  ยกแจกันติดมือขึ้นได้  ก็หมุนตัวกลับมาเร็วๆ  ย่างสามขุมไปหาเจ้าตัวดี   ยกขึ้นสุดแขน หมายจะทุ่มเจ้าทริก  
( แจกันถึงจะหนัก และสูง  ก็ไม่ถึงขนาดที่บรรยายหรอกค่ะ  แฮ่ๆๆๆ  พูดให้ขำๆอย่างนั้นเอง )  

ท่านผู้อ่าน อ่านมาถึงตอนนี้ อาจจะงง  เป็นไปได้อย่างไร  ที่คุณผู้หญิงหุ่นอืดๆ เตี้ยๆ  แถมกำลังป่วย  จึงสามารถยกแจกันที่ใหญ่โตและหนักขนาดนั้นได้  

คำตอบอยู่นี่แล้วค่ะ
ที่คุณผู้หญิง ทำได้   ก็เนื่องมาจากพลังซ่อนเร้น  ที่จะผุดออกมาเมื่อถูกบีบคั้นหรือตกใจ หรือการเอาชีวิตรอด
ไม่สามารถฝึกให้เรียกออกมาใช้ได้ทุกเวลาที่ต้องการ  
หลายท่านอาจจะเคยประสบกับตัวเอง  หรือได้ยินได้ฟังมาบ้าง เวลาที่เกิดไฟฟืนไหม้บ้าน ความที่ตกใจ ทำให้บางคนสามารถแบกตู้เย็น  แบกไห  แบกเซฟ  แบกทีวีเครื่องโตๆหนีไฟ
แต่พอไฟสงบ  ต้องเรียกใครต่อใครมาช่วยยก เพราะยกคนเดียวไม่ขึ้น   กรณีคุณผู้หญิงก็เช่นกัน ความโกรธเจ้าทริกที่สุมแน่นอยู่ในอก  นำมาซึ่งพลังซ่อนเร้น   สามารถยกแจกันอันโต  หมายจะพิฆาตเจ้าทริกให้ตายคามือ   แต่เจ้าทริกเกอร์
กลับไม่ตาย  เพราะเจ้าทริกมันวิ่งหนีไปก่อนที่คุณผู้หญิงจะทำอย่างที่ใจปรารถนา  

หลายวันต่อมา  เสียงไซเรนที่แผดเสียงลั่นหน้าบ้าน  ทำให้เจค กับทริกเกอร์  ที่นั่งเล่นที่หลังบ้าน  พร้อมใจวิ่งมาดู  ก็พบรถพยาบาลจอดตรงหน้า

“นั่นมันรถทัวร์ นี่นา เอ หรือว่าคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิง จะไปเที่ยวไหนกัน ”   รถพยาบาลเปิดหวอออกดัง เจ้าทริก ดันหาว่ารถทัวร์  เอาสมองส่วนไหนคิดวะทริก    (คนเขียน คิดค่ะ )

“โธ่ถัง  รถพยาบาล เห็นๆ ดันหาว่าเป็นรถทัวร์  เอาสมองส่วนไหนคิดวะ ไอ้ทริก “(  เจค คิดตรงกับคนเขียนเลยแฮะ   )
“งั้นเหรอ  ว่าแต่ใครเป็นอะไรไปล่ะ “ เจ้าทริกถามยิ้มๆ  แต่พอนึกขึ้นมาได้ก็มองหน้าเจค  ที่กำลังนึกอยู่เหมือนกัน  และเมื่อทั้งสองคิดตรงกัน ต่างก็ร้องออกมาดังๆราวกับนัด
  
“คุณผู้หญิง”   ทั้งคู่ร้องออกมาสุดเสียง    มองหน้ากัน   แต่ไม่ทันจะพูดอะไรต่อ   ประตูหน้าบ้านก็เปิดผลัวะออกมา  ทั้งสองอ้าปากหวอ  เมื่อเห็นคุณผู้ชายแบกคุณผู้หญิงก้าวออกมาจากบ้านเร็วๆ  

นักอ่านหลายท่านที่เป็นสาวกซีรีย์เกาหลี เห็นภาพนี้  คงจะคิดไปถึง  ซีรีย์หวานๆ  ที่พระเอกมักจะแบกนางเอกที่หลับใหล  หรือเจ็บป่วย ตัวอย่างเช่น   รักนี้ชั่วนิรันดร์    Autumn in my Heart  
แต่หลายท่านไม่ใช่สาวกซีรีส์เกาหลี  และไม่เคยดูรักนี้ชั่วนิรันดร์  แต่ไปจ่ายตลาดสดบ่อยๆ  แน่นอน  ต้องคิดถึงภาพ  พ่อค้าหมูแบกหมูจะไปชำแหละ  

“คุณผู้หญิงเป็นอะไร  ไปครับ” เจค ปราดเข้าไปถามคุณผู้ชายอย่างร้อนรน   เจคไม่เคยไปตลาดก็จริง  แต่เคยดูละคร รักเกิดในตลาดสด เห็นคุณผู้หญิงก็สลด เพราะสภาพคุณหญิง เหมือนหมูจริงๆเลยพับผ่า

“คุณผู้หญิงไม่สบายมาก  ฉันเลยเรียกรถพยาบาลมารับ “ คุณผู้ชายรายงานจบ ก็สั่งเจค ที่มองไปยังคุณผู้หญิง ที่ศีรษะกับเท้าห้อยต่องแต่ง  หมดสภาพ  ก็กัดกรามเป็นสันแน่น  คำรามในใจ
เพราะไอ้ทริกแท้ๆ  ถ้ามันไม่ยั่วประสาท คุณหญิงก็คงไม่เป็นอย่างนี้   คอยดูนะ ถ้าคุณผู้หญิงเป็นอะไรไป  ฉันไม่เอาแกไว้แน่  คิด แต่ไม่ได้พูดออกมา  ได้แต่มองดูคุณผู้ชายแบกคุณผู้หญิงไปที่รถ   ชายสองคนที่รอท่าเปิดท้ายรถ  พอคุณผู้ชายไปถึง ทั้งคู่ก็ช่วยคุณผู้ชายเอาหมู เอ๊ย  คุณผู้หญิงขึ้นรถ   เรียบร้อยก็ปิดท้ายรถเร็วๆ  ก่อนที่ทั้งสองจะก้าวฉับๆไปขึ้นรถ   สักครู่ก็นำรถออกจากที่นั่น  

รถพยาบาลไปลับ  คุณผู้ชายก็กลับเข้าบ้าน ไปแต่งตัว   เพื่อตามไปดูใจคุณผู้หญิงที่โรงพยาบาล   ในขณะที่หมาน้อยสองตัว  นั่งจ๋องตรงหน้าประตูหน้าบ้าน   ในอารมณ์ที่ต่างกัน

เจค  เคียดแค้นเจ้าทริก  โทษว่าเพราะมัน ทำให้คุณผู้หญิง  ต้องล้มป่วย
ในขณะที่ทริก  หดหู่    และโทษทัณฑ์  ว่าเพราะตัวเองว่าเป็นต้นเหตุ  คุณผู้หญิงถึงได้เป็นอย่างนี้    

ครู่ต่อมา…  คุณผู้ชายแต่งตัวเรียบร้อย  ก็ไปขึ้นรถที่ลานจอด   ก่อนจะสตาร์ทรถ  ก็ร้องสั่ง เจ้าสองตัวที่นั่งข้างรถดังๆ
“ฉันจะไปโรงพยาบาล  เราอยู่ทางนี้ดูแลบ้าน แล้วอย่าทะเลาะกันล่ะ “  สั่งเสร็จ คุณผู้ชายก็ขับรถแล่นออกจากบ้าน ราวจะเหาะ

“เพราะผม  คุณผู้หญิงจึงเป็นอย่างนี้”  ทริกเกอร์พึมพำ  น้ำตาหยดออกมาสองหยด   ข้างซ้ายหยด  ขวาหยด ส่วนเจค ความที่โกรธจัด  ก้าวไปหาเจ้าทริก  กะจะขยี้ไอ้แสบให้แหลกคาเท้าน้อยๆ  ในขณะที่ทริกนั่งนิ่งๆไม่ขยับ

ท่านผู้อ่านที่ติดตามเรื่องของสองเกลอมาแต่ต้น  อาจจะแปลกใจ  เอ๊ะ  เกิดอะไรขึ้นกับทริกเกอร์   เพราะปกติทุกครั้งที่เจคจะทำร้าย ทริกเกอร์ป็นต้องวิ่งหนี   แต่วันนี้  กลับนั่งเฉย
คนเขียนกำลังจะบอกอยู่เดี๋ยวนี้แหละค่ะ ที่ทริกเกอร์เป็นเช่นนี้   เพราะความรู้สึกผิดมันตรึงแขนตรึงขา ตรึงหัวใจน้อยๆของทริกเกอร์เอาไว้  
คุณผู้หญิงต้องมาเป็นอย่างนี้  ก็เพราะเรา  ตายเป็นตาย  ลูกผู้ชาย ทำผิดต้องกล้ารับ ทริกไม่หนี  แต่ยอมตายคาเท้าพี่เจค  ทริกเกอร์ที่สำนึกผิด ร้องแรกในใจ
แต่ทริกเกอร์ โชคยังดี  เพราะเหลือเพียงอีกก้าวเดียวเจคจะถึงตัวทริกเกอร์  เฮริสัน  ตอด  ดันปรากฏตัวขึ้นเสียก่อน      
  
งงอีกแล้วใช่มั้ยคะ   โดยเฉพาะคอหนังฝรั่ง ที่รู้จัก  แฮริสัน ฟอร์ด  พระเอก  อินเดียน่า โจนส์  แต่มาเจอ  แฮริสัน ตอด   คงจะคิดว่าคนเขียน   ต้องเขียนผิดแน่ๆ
คนเขียนขอนั่งยันนอนยัน ว่าเขียนไม่ผิดหรอกค่ะ  เพราะ แฮริสัน ฟอร์ด  นั่นเขามันพระเอก อินเดียน่า โจนส์  ส่วน   แฮริสัน  ตอด  ที่ว่า  เป็นสุนัขพันธุ์ เกรทเดน รูปร่างใหญ่โต   ที่อยู่ข้างบ้าน   ส่วนที่มาของ  นามสกุล  เดี๋ยวจะเฉลยให้ฟังกันค่ะ
ไม่นานหรอกค่ะ…แป๊บเดียวเท่านั้น

เจค  กับ ทริกไม่สุงสิง  กับแฮริสัน    เพราะแฮริสัน  เป็นหมานิสัยไม่ดี   เจคสั่งสอนทริกเกอร์ตลอด  
“อย่าไปยุ่งกับไอ้หมอนี่ มันเป็นภัยสังคม  ไม่น่าคบ “

“พี่เจคไม่ต้องบอก  ผมเองก็ไม่ชอบมันหรอก  ไอ้บ้านี่  เห็นผมทีไร  เป็นต้องแกล้งมาขัดขาให้ผมหกล้ม แถมเวลาเจอ  น้องหมาสวยๆ  ก็เข้าไปลวนลาม   ผมก็เลยเรียกมัน  แฮริสัน  ตอดไง  เพราะมันตอดผู้หญิง เหมือนปลาตอดเหยื่อ   “

นี่ไงคะ คำตอบที่หลายคนสงสัย  ทำไม  แฮริสัน   จึง   ตอด  แทนที่จะ เป็นฟอร์ด     ( อิๆๆๆ  เขียนเอง ขำเองค่ะ  )  

“เจค  ทริกเกอร์” แฮริสัน   เรียกดังๆ  พรวดเดียวมายืนตรงหน้า  “เมื่อกี้เราเห็นรถ พยาบาลมาจอดหน้าบ้านนาย  ใครเป็นไรเหรอ”

“คุณผู้หญิงของฉัน ไม่สบาย  “เจคกัดฟันตอบแค่นั้น  โดยไม่ได้ขยายความ  ถึงต้นสายปลายเหตุ  
“จริงเหรอ “แฮริสัน  ร้องดังๆ  “ ลงถ้าโดยสารรถ แอมบูแลน  คงอาการหนัก  และคงอยู่โรงพยาบาลหลายวัน”

“แล้วเรื่องอะไรของแกด้วย ไอ้แฮริสัน  พูดอย่างนี้เท่ากับมาแช่งคุณผู้หญิงของฉัน  เดี๋ยวก็สวยหรอก”  ทริกเกอร์ร้องบอกอีกฝ่ายอย่างหงุดหงิด สะอึกเข้าไปหา  ไม่ได้เกรงศักดิ์ศรีอีกฝ่าย ที่สูงใหญ่กว่าตัวหลายเท่า

“ฮุบปากเจ้าทริก” เจคตะคอกใส่   ทั้งที่ผ่านมา  การปกป้องคุณผู้หญิงคือหน้าที่ของเจค  “ แกไปให้พ้นๆ  ฉันจะคุยกับแฮริสัน”
“แต่พี่เจค บอกผมเองนะ ไอ้บ้านี่ นิสัยไม่ดี ไม่ให้คบ ไม่ให้พูดด้วย”
“แล้วตัวแกดีนักเหรอ   เจ้าทริก  “ เจคย้อนเข้าให้
“ฮึ่ม” ทริกเกอร์ ทำเสียงนั้นออกมา  อ้าปากไม่ขึ้น เถียงไม่ออก  เพราะความจริงมันค้ำคอ  ให้ตายเถิด   ถ้าทริก ดีซะหน่อยเดียว  ทริกคงต่อปากต่อคำได้ แต่ตั้งแต่เกิดมา จนบัดนี้  ทริกเกเร เหลวไหล   ทริกก็เลยพูดไม่ออก  เถียงไม่ได้อย่างที่เห็น

“พูดแล้วยังมามองหน้า   อยากเจ็บตัวหรือไง  ดี  งั้นฉันจะนับหนึ่งถึงสาม   ถ้าแกยังไม่ไป  ฉันจะเตะแกให้หมุนเป็นลูกข่างทีเดียว ” เจคขู่  
แฮริสัน ตอด  ได้ที  ก็สอดทีเดียว

“ถ้าขาดเหลืออะไร ฉันช่วยได้นะเจค”  เจ้าแฮริสัน  หมานิสัยไม่ดีเสนอ  พร้อมกับแสยะยิ้มใส่  ทริกเกอร์ขยับจะโต้  แต่พอเห็นเจคยกขา  ก็ถอยร่น  ไปไม่ไกลหรอกค่ะ   แอบฟังอยู่ใกล้ๆนั่นเอง

“เจค ฉันอยากจัดงานวันเกิดให้ตัวเอง  เสาร์นี้  ที่เหลือไม่กี่วัน  จะจัดที่บ้านฉัน  เจ้านายฉันก็ไม่ยอม  ฉันก็เลยจะขอมาจัดที่สนามหลังบ้านนาย ถ้านายไม่ขัดข้อง  “
“ได้ซิ  แฮริสัน ไม่มีปัญหา”

เฮ้ย เกิดอะไรขึ้นกับพี่เจค  แต่ก่อนอย่าว่าแต่พี่เจคจะอนุมัติให้เจ้าแฮริสัน ตอด จัดปาร์ตี้ที่บ้านเลย  ขนาดว่าเจอหน้ายังเดินหนี   แล้วทำไมวันนี้  พี่เจคจึงตกลงง่ายๆ ทริกเกอร์คิด  ทั้งพยายามหาคำตอบ  

“เจค  อะไรทำให้นายรับคำชวนกันง่ายๆ  ทั้งที่ก่อนนั้น  ฉันร้องขอก็แล้ว  ชวนนายก็แล้ว แต่นายไม่สนใจ ไม่แม้จะพูดกับฉันด้วยซ้ำ”
ทริกเกอร์เอง ที่อยากรู้คำตอบอย่างเดียวกับเจ้าแฮริสัน   เงี่ยหูฟัง

“ก็เพราะฉัน เบื่อที่จะทำความดี  แล้วน่ะซิ “
“พอจะบอกฉันได้มั้ย อะไรทำให้ ความคิดนายเปลี่ยนไป  “เจ้าแฮริสันถาม  

เจคถอนใจยาว  ก่อนจะตอบคำถามที่ว่าของแฮริสัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่