ปล้นเย้ยฟ้าท้าดิน (เรื่องราวของเจค กับทริกเกอร์ น้องหมาจอมกวน)
ใกล้บันไดหลังบ้านขณะนั้นเจคกำลังนั่งอยู่ตามลำพัง เจ้าตัวให้รู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจเป็นอย่างยิ่งเพราะทริกเกอร์หายตัวไปแต่เช้าไม่มากวนใจ
เจคแหงนหน้ามองท้องฟ้าตาทั้งสองจ้องก้อนเมฆสีขาวฟูฟ่องก็มโนไปว่าเป็นน้องพริสซิลลาน้องหมาน่ารัก เจ้าของส่วนสัด 35 22 35 ที่ตนเองหมายตาอยู่
แต่อนิจจา ความสุขมักจะอยู่กับเราประเดี๋ยวประด๋าวอย่างเขาว่า ภาพน้องพริสซิลลาบิดเบี้ยวไปมาก่อนจะหายวับไปกับตาแล้วใบหน้ากระดำกระด่างของเจ้าทริกที่ไม่พึงประสงค์ก็ปรากฏขึ้นแทนที่ พร้อมกับส่งเสียงเรียกเจคดังๆถี่ๆ
“พี่เจคๆๆๆๆ”
“เรียกครั้งเดียวก็ได้ยินไอ้ทริก หูฉันไม่แตกหรอกนะ ” เจคตะคอกใส่อย่างหงุดหงิด อยากจะซัดให้สักเปรี้ยงสองเปรี้ยง
“โทษทีพี่เจค ลืมไปแฮ่ๆ ” ทริกเกอร์ว่า ยิ้มแฉ่ง
“มาแหกปากร้องเรียกให้ลั่น มีอะไรว่ามาซิ” เจคถามอย่างหงุดหงิดอยากจะบีบคอทริกเกอร์ที่มาขัดความสุข คิดแต่ไม่ได้ทำ
“ผมซ็งอ่ะ ”
“มีวันไหน ที่แกไม่เซ็งบ้างวะไอ้ทริก ”
“ก็ ผมเซ็งจริงๆนี่นา เซ็งคุณผู้หญิงที่สุดในสามโลก”
“จุ๊ๆๆ “ เจคจุ๊ปากปราม ขยับเข้าไปกระซิบกระซาบ ” จะพูดจาอะไรระวังหน่อย เดี๋ยวคุณผู้หญิงมาได้ยินเข้า แกจะเดือดร้อนนะทริกเกอร์”
“มาแล้วไง คิดเหรอว่าผมจะกลัว เชอะ ” ทริกเกอร์พูดอย่างไม่ยี่หระ
“ สวัสดีครับคุณผู้หญิง เล่นย่องมาเงียบๆไม่ให้สุ้มให้เสียงอย่างนี้ ตกใจหมดเลยครับ” เจคร้องขึ้นมาดังๆ
“จ๊าก” ทริกร้องออกมาอย่างตระหนก กระโดดไปหลบด้านหลังเจค ที่หัวเราะน้ำหูน้ำตาไหล เจคหมั่นไส้ความสามหาวของเจ้าทริก เลยล้อเล่นกับความรู้สึกอันบอบบางของมันซึ่งก็ได้ผลทุกครั้ง
“พี่เจค เล่นอะไรบ้าๆอย่างนี้ก็ไม่รู้ หัวใจผมเกือบวายเสียให้ได้”ไอ้ทริกต่อว่า เหลียวซ้ายแลขวาพอแน่ใจคุณผู้หญิงไม่ได้อยู่ตรงนั้นก็ถอนใจแรงๆอย่างโล่งอก
“ทริกเอ้ย ฉันก็หวังใจตลอดมา ว่าหัวใจแกจะวายวอด แกจะได้ไปพ้นๆจากฉันสักที”
“ไปไหนเหรอพี่เจค? ” ทริกเกอร์ถามอย่างพาซื่อ นานๆจะซื่อกับเขาสักที
“จะไปไหน ก็ไปนรกนะซิ ไอ้เบื้อก” ( พูดจาไม่น่ารักเลยนะเจค อิๆๆๆ )
“แทนที่จะเห็นใจกัน กลับมาซ้ำเติมเสียนี้ ดีละ คราวหน้าคราวหลังเวลาพี่เจคอกหัก ไม่ต้องมาพึ่งผมก็แล้วกัน” ไอ้ทริกขู่ได้ผลเจคถามเสียงอ่อย
“ว่ามาซิ คุณผู้หญิงไปทำอะไรให้ แกถึงได้เซ็ง”
“ก็คุณหญิงชอบห้ามโน่นห้ามนี้ พูดอยู่ได้แต่ว่าโนๆๆๆ ”
“แต่ขนาดคุณผู้หญิงห้ามแกสารพัด แกเคยฟังคุณผู้หญิงซะที่ไหน “ เจคค้าน
“นี่บ้านนะครับพี่เจค ไม่ใช่คุกจะได้กระดิกตัวไปไหนไม่ได้ “ ไอ้ทริกยอกย้อน ทำเอาเจคพูดไม่ออก หรี่ตามองเจ้าทริกความคิดเตลิดไปไกล
เวลาขับรถย้อนศรตำรวจเห็นเป็นให้ใบสั่ง ไอ้ทริกชอบพูดย้อนยอกคงจะดีไม่น้อยถ้าเจอใบสั่งสั่งหลายๆใบ ฮื่มๆๆๆ เจคคิดแต่ไม่ได้พูด
“ ปากดีนักนะเจ้าทริก ให้ตายซิ ฉันอยากให้คุณผู้หญิงมาได้ยินแกพูดจริงๆเลยพับผ่า”เจคว่าให้แรงๆ ค้อนจนตากลับ แต่ทริกเกอร์หาสนใจไม่
“ได้ยินผมก็ไม่กลัว เพราะผมพูดเรื่องจริง ว่าแต่พี่เจคเถอะ ถามจริงๆไม่รำคาญคุณผู้หญิงบ้างเหรอไง”
“ไม่เคย เพราะฉันรู้ว่า ที่คุณผู้หญิงห้ามเพราะหวังดี และถ้าแกไม่ลืมคงยังจำเรื่องที่คุณผู้หญิงห้ามไม่ให้แกไปเล่นใต้สะพานหลังบ้าน เพราะกลัวจะเจองูกัด ไม่ก็โดนปูหนีบ แต่แกไม่เชื่อเลยโดนปูหนีบจมูกร้องเป็นหมาเลย”
“ผมเป็นหมา ไม่ให้ร้องอย่างหมา จะให้ร้องเป็นนก หรือช้างหรือไง พี่เจค ” ไอ้ทริกลอยหน้าลอยตาย้อนยอก ถ้าเป็นวันอื่นทริกอาจจะโดนอัด แต่เพราะวันนี้เเจคอารมณ์ดีกว่าทุกวัน ทริกเกอร์เลยรอดตัวไป
“ ทีนี้ละมาทำปากดี วันนั้นร้องโหยหวนดังไปทั่วสามคุ้งน้ำ ให้ตายเถอะวันนั้นคุณผู้หญิงไม่น่าดึงปูที่หนีบจมูกแกเลย น่าจะปล่อยให้มันหนีบจมูกแกให้หลุด”
“ก็แค่ครั้งนั้นครั้งเดียวแหละพี่เจคที่มันทำผมได้ ตอนหลังผมเห็นมันที่ไหน ผมก็กระทืบมันซะแบนเป็นกล้วยปิ้ง ” ไอ้ทริกโว
“แล้วที่แกสะเออะไปสู้กับงู จนเกือบจะถูกงูกัดตาย ดีว่าคุณหญิงบังเอิญไปเห็นเข้าแล้วไล่งูตัวนั้นเสียทัน ไม่งั้นป่านนี่แกมีหวังเป็นผีเฝ้าท่าน้ำไปแล้ว แกจะว่าไง”
“ถามหน่อยพี่เจค จะพล่ามอีกนานไหมเนี่ย“ไอ้ทริกถามอย่างหงุดหงิด หวังพี่ชายจะให้คำปรึกษา และกำลังใจ กลับมาซ้ำเติมเสียนี่ เครียดว๊อย
“ไม่นานหรอก เพราะฉันว่าจะแวะไปหาพริสซิลลาเขาซะหน่อย ว่าแต่แกเถอะมีอะไรก็ว่ามา ฉันให้เวลาแกห้านาทีถ้า เกินกว่านั้นฉันไม่ฟัง“
“ถึงผมจะเป็นหมานิสัยไม่ค่อยดีนัก แต่ผมก็แยกแยะออกหรอกว่าใครที่ดี หรือไม่ดีกับผม คุณผู้หญิงดีกับผม ผมรู้ ห้ามไม่ให้ผมไปเล่นที่ใต้สะพานเพราะกลัวโดนงูกัดปูหนีบอันนั้นผมซาบซึ้งอยู่ แต่ที่ผมเซ็งและไม่แฮปปี้ก็เพราะบางเรื่องที่คุณผู้หญิงห้าม แต่ผมไม่เก็ท” (ขออนุญาต ใช้คำนี้ แทนคำว่าเข้าใจนะคะ ดูมันขำๆดี )
“แกไม่เก็ท เรื่องอะไรเหรอทริก?”
“ก็เรื่องที่คุณผู้หญิง ไม่ให้ผมกับพี่เจคกินไอศครีมแต่ตัวคุณผู้หญิงกลับกินเอาๆ และกินเกือบทุกวันเสียด้วย”
เจคได้ยินประโยคนี้ก็อึ้ง ใช่แต่ทริกเกอร์เมื่อไหร่ที่ขัดใจในเรื่องนี้ ตัวเจคเองก็รู้สึกไม่ต่างจากทริกเกอร์ ทุกครั้งที่เห็นคุณผู้หญิงนั่งกินไอศครีม เจคเป็นไปนั่งจ๋องอยู่ข้างๆ ขอไอศครีมจากคุณผู้หญิงอยู่ในที แต่คุณผู้หญิงเอาแต่พูดว่า
“หมากินไอศครีมช็อกโกแลตไม่ได้ ” คุณผู้หญิงบอกกับเจค ทั้งที่ไอศครีมที่คุณผู้หญิงกำลังกินอยู่นั้นคือวานิลลา คุณผู้หญิงพูดจบ ก็กินไอศครีมต่อไปอย่างแฮปปี้
“ผมรู้นะ พี่เจคเองก็อยากกินไอศครีมเหมือนผมนั่นแหละ แต่ไม่ได้กิน เพราะคุณผู้หญิงพูดแต่ว่า ไม่ๆๆๆ “ เสียงของไอ้ทริกดึงความคิดของเจคกลับมา เจคกระพริบตาถี่ๆไล่ความงง ไม่พูดเอาแต่มองเจ้าทริกที่ปากยื่นปากยาว เลียนแบบคุณผู้หญิง
“ฉันห้ามเราสองตัวไม่ให้กินไอศครีมช็อคโกแลต เพราะว่ามันมีส่วนผสมของ สาร แทม-อะรินด( tamarind) ที่มีโทษต่อหมา”
“ สารธีโอโบรมีน (Theobromine) เจ้าทริก ส่วน แทม-อะรินด ที่แกว่ามันคือมะขาม” เจคค้าน เจคก็จำมาจากคุณผู้หญิงอีกที (คุณผู้หญิงก็ได้ยินมากจากเขาอีกที)
“โทษทีๆ ผมพูดเร็วไปหน่อย ” ไอ้ทริกขอโทษขอโพย แล้วรีบพูดต่อ กลัวว่าถ้าช้าเดี๋ยวเจคตัดหน้าตัวเองจะอดพูด” คุณผู้หญิงว่าสารตัวนี้ หมากินเข้าไปอาจจะตายได้”
“แต่ไอศครีมวานิลลาไม่มีสารธีโอโบรมีน คุณผู้หญิงกลับไม่ให้เรากิน ” เจคแทรกขึ้นมาเร็วๆ พูดจบก็ถอนใจทำหน้าเครียดขึ้งขมวดคิ้วเป็นเลขแปด ( ไม่ได้ใบ้หวยนะคะ แค่เขียนให้เว่อร์ๆ ว่าพี่เจคเครียดจริงๆ)
แม้จะไม่เห็นด้วยกับไอ้ทริกเกือบทุกเรื่อง แต่เรื่องนี้เจคเห็นด้วยกับทริก ยิ่งคิดแล้วยิ่งขมขื่น คุณผู้หญิงไม่ให้กินไอศครีมก็ช้ำใจพออยู่แล้ว แต่นี่กินเสร็จยังเอาไม้เสียบไอศครีม หรือถ้วย อันเป็นความหวังสุดท้ายของเจคโยนทิ้งไปต่อหน้า เจคไม่เคยปริปากเรื่องนี้กับทริกเกอร์ หรือใครๆ เฝ้าแต่เก็บความคับแค้นไว้ในใจตลอดมา
“ทีคุณผู้หญิง ยังกินไอศครีมได้เกือบทุกวัน คุณผู้ชายด้วย กินกันอยู่แค่สองคน แล้วทำไมหมาอย่างเรา จะกินบ้างไม่ได้” ไอ้ทริกยังคงปลุกระดมต่อไป เสียงของมัน ดึงความคิดอันล่องลอยของเจคกลับมาอีกครั้ง
“เรื่องนี้ ฉันเห็นด้วยกับแกร้อยเปอร์เซนต์”
“ถ้าพี่เจคเห็นด้วยกับผม เราจะอยู่เฉยๆอย่างนี้ไม่ได้ จะต้องทำอะไรสักอย่างแล้วละ “ (อีกแล้วไอ้ทริก )
“เราจะไปทำอะไรได้ทริกเกอร์ ถ้าเรามีเงินอย่างคุณผู้หญิง เราก็ไปซื้อไอศคีมกินเองไม่มีปัญหา แต่นี้เหรียญเดียวเรายังไม่มี”
“ ถึงไม่มีเงิน แต่เรามีสมองนะพี่เจค ”
“จริงซินะ ฉันก็ลืมไปเสียสนิท” เจคว่า ก่อนจะถามเจ้าทริก ที่ท่าทางและสีหน้าใช้ความคิดอย่างหนัก
“คิดอะไรอยู่ทริก?”
ทริกไม่ทันจะตอบคำถามของเจค เสียงรถไอศครีมเคลื่อนที่ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน มันสองตัวจะได้ยินเสียงนี้ทุกวันในเวลานี้ ทริกมองหน้าเจค เจคมองทริก ก่อนทั้งคู่จะพร้อมใจเผ่นพรวดไปที่ถนน พร้อมกับความหวังริบรี่ ว่าวันนี้คุณผู้หญิงอาจจะใจดีซื้อไอศครีมให้กิน
ทันทีที่เจคกับทริกก้าวพ้นต้นไม้ข้างบ้านเห็นภาพตรงหน้า มีอันชะงักก้าวขาไม่ออกไปตามกัน เมื่อเด็กโข่ง เอ้ยคุณผู้หญิงที่กินเนสบุ๊คกำลังจะจัดเข้าหมวดวัตถุโบราณที่เก่าแก่ที่สุดของโลกในเร็วๆนี้ รับไอศรีมจากลุงบ็อบคนขายใจดี ก่อนจะเดินอ้อมไปด้านโรงรถ เดินไปกินไปและยิ้มไปอย่างมีความสุข
แต่ไอ้สองตัวที่ยืนแอบมองยิ้มไม่ออก
“นึกว่าคุณผู้หญิงจะใจดีซื้อให้เราด้วย ที่ไหนได้ ชวดอีกตามเคย เฮ้อ” ทริกเกอร์พูดจบถอนใจหนักๆ
“แกจะไปหวังอะไรกับคนใจร้าย อย่างคุณผู้หญิงวะไอ้ทริก”เจคพูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ มองตามคุณผู้หญิงที่เดินกินไอศครีมอย่างเอร็ดอร่อย น้ำลายเจคก็หยดติ๋งๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โลโก้ ปลากระป๋องปุ้มปุ้ยที่เราท่านเคยเห็นกัน ของแท้จะต้องมีน้ำลายสามหยดเป็นประกัน แต่น้ำลายเจคในยามนี้ไหลเดี๋ยวหยดๆและไม่มีทีท่าจะว่าหยุดไหล
“ผมมีแผนแล้ว พี่เจค” ทริกเกอร์ร้องออกมาดังๆ เมื่อความคิดนั้นแล่นเข้ามาในหัวสมองน้อยๆ
“แผนอะไร ทริก? ” เจคถามเสร็จ ยกขาหน้าด้านซ้ายขึ้นปาดน้ำลายเร็วๆ
“อยากรู้ เอียงหน้ามา “ ทริกว่า เจคไม่รอช้า เอียงหน้ามาเร็วๆ ฟังเจ้าทริก ที่เผยรายละเอียด ทีละขั้นตอน ช้าๆอย่างแยบยลและเหลือเชื่อสุดๆ
“แกต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เจ้าทริก ถึงได้คิดเรื่องเลวร้ายได้ขนาดนี้” (มีครั้งไหน ที่ทริกคิดแผนดีๆบ้างละเจค )
“ผมก็ไม่เคยบอกพี่เจค หรือใครๆนี่ว่า ผมเป็นหมาที่ดี ว่าแต่พี่เจคเถอะ จะร่วมมือกับผมหรือเปล่า” ถามตอนท้ายพร้อมกับความหวัง ว่าพี่ชายจะร่วมมือกับแผนของตน
เจคขมวดคิ้วเข้าหากัน คิดหนัก ที่ผ่านมาแผนการณ์ของเจ้าทริก แต่ละอย่างล้วนแต่เลวร้าย และพังพินาศสุดๆ แต่ยังเทียบไม่ได้กับครั้งนี้ ที่เจ้าทริกร้ายกาจจจนเจคคาดไม่ถึง
“ว่าไงพี่เจค เยส หรือ โน พูด มาคำเดียว “
“ตกลง”
“เหอ” ไอ้ทริกทำเสียงนั้นออกมาดังๆ มองหน้าเจค อย่างแปลกใจเหลือล้ำ เพราะที่ผ่านมา เจคมักจะอิดออด และคัดค้านกับแผนของตน แต่คราวนี้เจคกลับตกลงทันที
“ว่าแต่ แกจะลงมือเมื่อไหร่ เจ้าทริก”
“วันพรุ่งนี้ พี่เจค ที่ผมเลือกวันนี้ ก็เพราะว่า ….”
“ฉันเข้าใจแล้วเจ้าทริก ไม่ต้องอธิบาย ที่แกเลือกวันพรุ่งนี้ เพราะเป็นวันเกิดของคุณเจสันเพื่อนบ้าน คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิง รวมทั้งเพื่อนบ้านในละแวกนัดกันไปฉลองที่ร้านอาหารใกล้บ้าน พวกเขาเลยส่งลูกๆไปให้พี่ป้าน้าอาดู ทั้งหมู่บ้านที่มีบ้านอยู่แค่หยิบมือ จึงเหลือแต่หมาและแมวเท่านั้น”
2
วันต่อมา … ลุงบ็อบก็พารถไอศครีมแล่นช้าๆเข้ามาในหมู่บ้าน โดยหารู้ไม่ว่าว่ารื่องเลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเอง
พี่พงหญ้าด้านซ้ายมือบ้านคุณผู้หญิงอันเป็นจุดกลับรถ ทริกเกอร์ กับเจคช่วยกันแบกขอนไม้ไปขวางถนน แล้วพากันมาหมอบราบรอดูเหยื่อมาติดกับดัก
รถไอศครีมวิ่งใกล้ขอนไม้เข้าเท่าไหร่ ทริกกับเจคก็ลุ้นระทึก โดยเฉพาะทริกเกอร์ผู้วางแผน เจ้าตัวแสยะยิ้มด้วยพอใจ
“เย้ๆ” เจ้าทริกร้องออกมาด้วยความยินดี เมื่อรถขายไอศครีมวิ่งไปชนเอาขอนไม้แล้วหยุดกึก ลุงบ็อบคนขายไอศรีมเปิดประตูรถก้าวลงมาช้าๆ เดินไปหาขอนไม้เพื่อจะยกขอนไม้ให้พ้นจากถนน
“พร้อมยังพี่เจค “ทริกเกอร์หันมาถามเจค
“พร้อม”
ทริกเกอร์ได้คำตอบ ก็ดึงหมวกไหมพรมที่เจาะรูที่ตากับจมูกลงมาปิดหน้าตัวเอง ( คนเขียน ดูหนังมากไปหน่อย)
เจคไม่รอช้าทำตาม แต่แทนจะปิดหน้า ดันใส่เป็นหมวก ดูเก๋ไก๋สไลด์เดอร์ ( ถึงคนเขียนอายุจะไม่น้อยแล้ว แต่ยังวัยรุ่นเสมอ)
“แล้วกันพี่เจค เปิดหน้า เขาก็รู้เท่านะซิ ว่าเราเป็นใคร “
“โอเคๆ ลืมไป” เจคว่า ดึงหมวกลงมาปิดตา ตามคำสั่งของหัวหน้าแกงค์
“ถ้าไม่อยากตาย ถอยไป“ ไอ้ทริกตะโกนบอกลุงบ็อบที่มองหมาสองตัว ปิดหน้าปิดตาเหมือนโจรปล้นธนาคาร อย่างตระหนก
“เราไม่ต้องการอะไร นอกจากรถไอศครีม “ เจคร้องบอกลุงบ็อบปากสั่นๆ ขาแข้งสั่นตาม นานๆจะทำเรื่องร้ายๆสักที ไหนจะเก่งกาจเท่าไอ้ทริกละ วันไหนไม่ทำความผิด หรือคิดเรื่องร้ายๆท้องเป็นได้อืดตายเท่านั้น
ปล้นเย้ยฟ้าท้าดิน (เรื่องราวของเจค กับทริกเกอร์ น้องหมาจอมกวน)
ใกล้บันไดหลังบ้านขณะนั้นเจคกำลังนั่งอยู่ตามลำพัง เจ้าตัวให้รู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจเป็นอย่างยิ่งเพราะทริกเกอร์หายตัวไปแต่เช้าไม่มากวนใจ
เจคแหงนหน้ามองท้องฟ้าตาทั้งสองจ้องก้อนเมฆสีขาวฟูฟ่องก็มโนไปว่าเป็นน้องพริสซิลลาน้องหมาน่ารัก เจ้าของส่วนสัด 35 22 35 ที่ตนเองหมายตาอยู่
แต่อนิจจา ความสุขมักจะอยู่กับเราประเดี๋ยวประด๋าวอย่างเขาว่า ภาพน้องพริสซิลลาบิดเบี้ยวไปมาก่อนจะหายวับไปกับตาแล้วใบหน้ากระดำกระด่างของเจ้าทริกที่ไม่พึงประสงค์ก็ปรากฏขึ้นแทนที่ พร้อมกับส่งเสียงเรียกเจคดังๆถี่ๆ
“พี่เจคๆๆๆๆ”
“เรียกครั้งเดียวก็ได้ยินไอ้ทริก หูฉันไม่แตกหรอกนะ ” เจคตะคอกใส่อย่างหงุดหงิด อยากจะซัดให้สักเปรี้ยงสองเปรี้ยง
“โทษทีพี่เจค ลืมไปแฮ่ๆ ” ทริกเกอร์ว่า ยิ้มแฉ่ง
“มาแหกปากร้องเรียกให้ลั่น มีอะไรว่ามาซิ” เจคถามอย่างหงุดหงิดอยากจะบีบคอทริกเกอร์ที่มาขัดความสุข คิดแต่ไม่ได้ทำ
“ผมซ็งอ่ะ ”
“มีวันไหน ที่แกไม่เซ็งบ้างวะไอ้ทริก ”
“ก็ ผมเซ็งจริงๆนี่นา เซ็งคุณผู้หญิงที่สุดในสามโลก”
“จุ๊ๆๆ “ เจคจุ๊ปากปราม ขยับเข้าไปกระซิบกระซาบ ” จะพูดจาอะไรระวังหน่อย เดี๋ยวคุณผู้หญิงมาได้ยินเข้า แกจะเดือดร้อนนะทริกเกอร์”
“มาแล้วไง คิดเหรอว่าผมจะกลัว เชอะ ” ทริกเกอร์พูดอย่างไม่ยี่หระ
“ สวัสดีครับคุณผู้หญิง เล่นย่องมาเงียบๆไม่ให้สุ้มให้เสียงอย่างนี้ ตกใจหมดเลยครับ” เจคร้องขึ้นมาดังๆ
“จ๊าก” ทริกร้องออกมาอย่างตระหนก กระโดดไปหลบด้านหลังเจค ที่หัวเราะน้ำหูน้ำตาไหล เจคหมั่นไส้ความสามหาวของเจ้าทริก เลยล้อเล่นกับความรู้สึกอันบอบบางของมันซึ่งก็ได้ผลทุกครั้ง
“พี่เจค เล่นอะไรบ้าๆอย่างนี้ก็ไม่รู้ หัวใจผมเกือบวายเสียให้ได้”ไอ้ทริกต่อว่า เหลียวซ้ายแลขวาพอแน่ใจคุณผู้หญิงไม่ได้อยู่ตรงนั้นก็ถอนใจแรงๆอย่างโล่งอก
“ทริกเอ้ย ฉันก็หวังใจตลอดมา ว่าหัวใจแกจะวายวอด แกจะได้ไปพ้นๆจากฉันสักที”
“ไปไหนเหรอพี่เจค? ” ทริกเกอร์ถามอย่างพาซื่อ นานๆจะซื่อกับเขาสักที
“จะไปไหน ก็ไปนรกนะซิ ไอ้เบื้อก” ( พูดจาไม่น่ารักเลยนะเจค อิๆๆๆ )
“แทนที่จะเห็นใจกัน กลับมาซ้ำเติมเสียนี้ ดีละ คราวหน้าคราวหลังเวลาพี่เจคอกหัก ไม่ต้องมาพึ่งผมก็แล้วกัน” ไอ้ทริกขู่ได้ผลเจคถามเสียงอ่อย
“ว่ามาซิ คุณผู้หญิงไปทำอะไรให้ แกถึงได้เซ็ง”
“ก็คุณหญิงชอบห้ามโน่นห้ามนี้ พูดอยู่ได้แต่ว่าโนๆๆๆ ”
“แต่ขนาดคุณผู้หญิงห้ามแกสารพัด แกเคยฟังคุณผู้หญิงซะที่ไหน “ เจคค้าน
“นี่บ้านนะครับพี่เจค ไม่ใช่คุกจะได้กระดิกตัวไปไหนไม่ได้ “ ไอ้ทริกยอกย้อน ทำเอาเจคพูดไม่ออก หรี่ตามองเจ้าทริกความคิดเตลิดไปไกล
เวลาขับรถย้อนศรตำรวจเห็นเป็นให้ใบสั่ง ไอ้ทริกชอบพูดย้อนยอกคงจะดีไม่น้อยถ้าเจอใบสั่งสั่งหลายๆใบ ฮื่มๆๆๆ เจคคิดแต่ไม่ได้พูด
“ ปากดีนักนะเจ้าทริก ให้ตายซิ ฉันอยากให้คุณผู้หญิงมาได้ยินแกพูดจริงๆเลยพับผ่า”เจคว่าให้แรงๆ ค้อนจนตากลับ แต่ทริกเกอร์หาสนใจไม่
“ได้ยินผมก็ไม่กลัว เพราะผมพูดเรื่องจริง ว่าแต่พี่เจคเถอะ ถามจริงๆไม่รำคาญคุณผู้หญิงบ้างเหรอไง”
“ไม่เคย เพราะฉันรู้ว่า ที่คุณผู้หญิงห้ามเพราะหวังดี และถ้าแกไม่ลืมคงยังจำเรื่องที่คุณผู้หญิงห้ามไม่ให้แกไปเล่นใต้สะพานหลังบ้าน เพราะกลัวจะเจองูกัด ไม่ก็โดนปูหนีบ แต่แกไม่เชื่อเลยโดนปูหนีบจมูกร้องเป็นหมาเลย”
“ผมเป็นหมา ไม่ให้ร้องอย่างหมา จะให้ร้องเป็นนก หรือช้างหรือไง พี่เจค ” ไอ้ทริกลอยหน้าลอยตาย้อนยอก ถ้าเป็นวันอื่นทริกอาจจะโดนอัด แต่เพราะวันนี้เเจคอารมณ์ดีกว่าทุกวัน ทริกเกอร์เลยรอดตัวไป
“ ทีนี้ละมาทำปากดี วันนั้นร้องโหยหวนดังไปทั่วสามคุ้งน้ำ ให้ตายเถอะวันนั้นคุณผู้หญิงไม่น่าดึงปูที่หนีบจมูกแกเลย น่าจะปล่อยให้มันหนีบจมูกแกให้หลุด”
“ก็แค่ครั้งนั้นครั้งเดียวแหละพี่เจคที่มันทำผมได้ ตอนหลังผมเห็นมันที่ไหน ผมก็กระทืบมันซะแบนเป็นกล้วยปิ้ง ” ไอ้ทริกโว
“แล้วที่แกสะเออะไปสู้กับงู จนเกือบจะถูกงูกัดตาย ดีว่าคุณหญิงบังเอิญไปเห็นเข้าแล้วไล่งูตัวนั้นเสียทัน ไม่งั้นป่านนี่แกมีหวังเป็นผีเฝ้าท่าน้ำไปแล้ว แกจะว่าไง”
“ถามหน่อยพี่เจค จะพล่ามอีกนานไหมเนี่ย“ไอ้ทริกถามอย่างหงุดหงิด หวังพี่ชายจะให้คำปรึกษา และกำลังใจ กลับมาซ้ำเติมเสียนี่ เครียดว๊อย
“ไม่นานหรอก เพราะฉันว่าจะแวะไปหาพริสซิลลาเขาซะหน่อย ว่าแต่แกเถอะมีอะไรก็ว่ามา ฉันให้เวลาแกห้านาทีถ้า เกินกว่านั้นฉันไม่ฟัง“
“ถึงผมจะเป็นหมานิสัยไม่ค่อยดีนัก แต่ผมก็แยกแยะออกหรอกว่าใครที่ดี หรือไม่ดีกับผม คุณผู้หญิงดีกับผม ผมรู้ ห้ามไม่ให้ผมไปเล่นที่ใต้สะพานเพราะกลัวโดนงูกัดปูหนีบอันนั้นผมซาบซึ้งอยู่ แต่ที่ผมเซ็งและไม่แฮปปี้ก็เพราะบางเรื่องที่คุณผู้หญิงห้าม แต่ผมไม่เก็ท” (ขออนุญาต ใช้คำนี้ แทนคำว่าเข้าใจนะคะ ดูมันขำๆดี )
“แกไม่เก็ท เรื่องอะไรเหรอทริก?”
“ก็เรื่องที่คุณผู้หญิง ไม่ให้ผมกับพี่เจคกินไอศครีมแต่ตัวคุณผู้หญิงกลับกินเอาๆ และกินเกือบทุกวันเสียด้วย”
เจคได้ยินประโยคนี้ก็อึ้ง ใช่แต่ทริกเกอร์เมื่อไหร่ที่ขัดใจในเรื่องนี้ ตัวเจคเองก็รู้สึกไม่ต่างจากทริกเกอร์ ทุกครั้งที่เห็นคุณผู้หญิงนั่งกินไอศครีม เจคเป็นไปนั่งจ๋องอยู่ข้างๆ ขอไอศครีมจากคุณผู้หญิงอยู่ในที แต่คุณผู้หญิงเอาแต่พูดว่า
“หมากินไอศครีมช็อกโกแลตไม่ได้ ” คุณผู้หญิงบอกกับเจค ทั้งที่ไอศครีมที่คุณผู้หญิงกำลังกินอยู่นั้นคือวานิลลา คุณผู้หญิงพูดจบ ก็กินไอศครีมต่อไปอย่างแฮปปี้
“ผมรู้นะ พี่เจคเองก็อยากกินไอศครีมเหมือนผมนั่นแหละ แต่ไม่ได้กิน เพราะคุณผู้หญิงพูดแต่ว่า ไม่ๆๆๆ “ เสียงของไอ้ทริกดึงความคิดของเจคกลับมา เจคกระพริบตาถี่ๆไล่ความงง ไม่พูดเอาแต่มองเจ้าทริกที่ปากยื่นปากยาว เลียนแบบคุณผู้หญิง
“ฉันห้ามเราสองตัวไม่ให้กินไอศครีมช็อคโกแลต เพราะว่ามันมีส่วนผสมของ สาร แทม-อะรินด( tamarind) ที่มีโทษต่อหมา”
“ สารธีโอโบรมีน (Theobromine) เจ้าทริก ส่วน แทม-อะรินด ที่แกว่ามันคือมะขาม” เจคค้าน เจคก็จำมาจากคุณผู้หญิงอีกที (คุณผู้หญิงก็ได้ยินมากจากเขาอีกที)
“โทษทีๆ ผมพูดเร็วไปหน่อย ” ไอ้ทริกขอโทษขอโพย แล้วรีบพูดต่อ กลัวว่าถ้าช้าเดี๋ยวเจคตัดหน้าตัวเองจะอดพูด” คุณผู้หญิงว่าสารตัวนี้ หมากินเข้าไปอาจจะตายได้”
“แต่ไอศครีมวานิลลาไม่มีสารธีโอโบรมีน คุณผู้หญิงกลับไม่ให้เรากิน ” เจคแทรกขึ้นมาเร็วๆ พูดจบก็ถอนใจทำหน้าเครียดขึ้งขมวดคิ้วเป็นเลขแปด ( ไม่ได้ใบ้หวยนะคะ แค่เขียนให้เว่อร์ๆ ว่าพี่เจคเครียดจริงๆ)
แม้จะไม่เห็นด้วยกับไอ้ทริกเกือบทุกเรื่อง แต่เรื่องนี้เจคเห็นด้วยกับทริก ยิ่งคิดแล้วยิ่งขมขื่น คุณผู้หญิงไม่ให้กินไอศครีมก็ช้ำใจพออยู่แล้ว แต่นี่กินเสร็จยังเอาไม้เสียบไอศครีม หรือถ้วย อันเป็นความหวังสุดท้ายของเจคโยนทิ้งไปต่อหน้า เจคไม่เคยปริปากเรื่องนี้กับทริกเกอร์ หรือใครๆ เฝ้าแต่เก็บความคับแค้นไว้ในใจตลอดมา
“ทีคุณผู้หญิง ยังกินไอศครีมได้เกือบทุกวัน คุณผู้ชายด้วย กินกันอยู่แค่สองคน แล้วทำไมหมาอย่างเรา จะกินบ้างไม่ได้” ไอ้ทริกยังคงปลุกระดมต่อไป เสียงของมัน ดึงความคิดอันล่องลอยของเจคกลับมาอีกครั้ง
“เรื่องนี้ ฉันเห็นด้วยกับแกร้อยเปอร์เซนต์”
“ถ้าพี่เจคเห็นด้วยกับผม เราจะอยู่เฉยๆอย่างนี้ไม่ได้ จะต้องทำอะไรสักอย่างแล้วละ “ (อีกแล้วไอ้ทริก )
“เราจะไปทำอะไรได้ทริกเกอร์ ถ้าเรามีเงินอย่างคุณผู้หญิง เราก็ไปซื้อไอศคีมกินเองไม่มีปัญหา แต่นี้เหรียญเดียวเรายังไม่มี”
“ ถึงไม่มีเงิน แต่เรามีสมองนะพี่เจค ”
“จริงซินะ ฉันก็ลืมไปเสียสนิท” เจคว่า ก่อนจะถามเจ้าทริก ที่ท่าทางและสีหน้าใช้ความคิดอย่างหนัก
“คิดอะไรอยู่ทริก?”
ทริกไม่ทันจะตอบคำถามของเจค เสียงรถไอศครีมเคลื่อนที่ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน มันสองตัวจะได้ยินเสียงนี้ทุกวันในเวลานี้ ทริกมองหน้าเจค เจคมองทริก ก่อนทั้งคู่จะพร้อมใจเผ่นพรวดไปที่ถนน พร้อมกับความหวังริบรี่ ว่าวันนี้คุณผู้หญิงอาจจะใจดีซื้อไอศครีมให้กิน
ทันทีที่เจคกับทริกก้าวพ้นต้นไม้ข้างบ้านเห็นภาพตรงหน้า มีอันชะงักก้าวขาไม่ออกไปตามกัน เมื่อเด็กโข่ง เอ้ยคุณผู้หญิงที่กินเนสบุ๊คกำลังจะจัดเข้าหมวดวัตถุโบราณที่เก่าแก่ที่สุดของโลกในเร็วๆนี้ รับไอศรีมจากลุงบ็อบคนขายใจดี ก่อนจะเดินอ้อมไปด้านโรงรถ เดินไปกินไปและยิ้มไปอย่างมีความสุข
แต่ไอ้สองตัวที่ยืนแอบมองยิ้มไม่ออก
“นึกว่าคุณผู้หญิงจะใจดีซื้อให้เราด้วย ที่ไหนได้ ชวดอีกตามเคย เฮ้อ” ทริกเกอร์พูดจบถอนใจหนักๆ
“แกจะไปหวังอะไรกับคนใจร้าย อย่างคุณผู้หญิงวะไอ้ทริก”เจคพูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ มองตามคุณผู้หญิงที่เดินกินไอศครีมอย่างเอร็ดอร่อย น้ำลายเจคก็หยดติ๋งๆ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โลโก้ ปลากระป๋องปุ้มปุ้ยที่เราท่านเคยเห็นกัน ของแท้จะต้องมีน้ำลายสามหยดเป็นประกัน แต่น้ำลายเจคในยามนี้ไหลเดี๋ยวหยดๆและไม่มีทีท่าจะว่าหยุดไหล
“ผมมีแผนแล้ว พี่เจค” ทริกเกอร์ร้องออกมาดังๆ เมื่อความคิดนั้นแล่นเข้ามาในหัวสมองน้อยๆ
“แผนอะไร ทริก? ” เจคถามเสร็จ ยกขาหน้าด้านซ้ายขึ้นปาดน้ำลายเร็วๆ
“อยากรู้ เอียงหน้ามา “ ทริกว่า เจคไม่รอช้า เอียงหน้ามาเร็วๆ ฟังเจ้าทริก ที่เผยรายละเอียด ทีละขั้นตอน ช้าๆอย่างแยบยลและเหลือเชื่อสุดๆ
“แกต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เจ้าทริก ถึงได้คิดเรื่องเลวร้ายได้ขนาดนี้” (มีครั้งไหน ที่ทริกคิดแผนดีๆบ้างละเจค )
“ผมก็ไม่เคยบอกพี่เจค หรือใครๆนี่ว่า ผมเป็นหมาที่ดี ว่าแต่พี่เจคเถอะ จะร่วมมือกับผมหรือเปล่า” ถามตอนท้ายพร้อมกับความหวัง ว่าพี่ชายจะร่วมมือกับแผนของตน
เจคขมวดคิ้วเข้าหากัน คิดหนัก ที่ผ่านมาแผนการณ์ของเจ้าทริก แต่ละอย่างล้วนแต่เลวร้าย และพังพินาศสุดๆ แต่ยังเทียบไม่ได้กับครั้งนี้ ที่เจ้าทริกร้ายกาจจจนเจคคาดไม่ถึง
“ว่าไงพี่เจค เยส หรือ โน พูด มาคำเดียว “
“ตกลง”
“เหอ” ไอ้ทริกทำเสียงนั้นออกมาดังๆ มองหน้าเจค อย่างแปลกใจเหลือล้ำ เพราะที่ผ่านมา เจคมักจะอิดออด และคัดค้านกับแผนของตน แต่คราวนี้เจคกลับตกลงทันที
“ว่าแต่ แกจะลงมือเมื่อไหร่ เจ้าทริก”
“วันพรุ่งนี้ พี่เจค ที่ผมเลือกวันนี้ ก็เพราะว่า ….”
“ฉันเข้าใจแล้วเจ้าทริก ไม่ต้องอธิบาย ที่แกเลือกวันพรุ่งนี้ เพราะเป็นวันเกิดของคุณเจสันเพื่อนบ้าน คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิง รวมทั้งเพื่อนบ้านในละแวกนัดกันไปฉลองที่ร้านอาหารใกล้บ้าน พวกเขาเลยส่งลูกๆไปให้พี่ป้าน้าอาดู ทั้งหมู่บ้านที่มีบ้านอยู่แค่หยิบมือ จึงเหลือแต่หมาและแมวเท่านั้น”
2
วันต่อมา … ลุงบ็อบก็พารถไอศครีมแล่นช้าๆเข้ามาในหมู่บ้าน โดยหารู้ไม่ว่าว่ารื่องเลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเอง
พี่พงหญ้าด้านซ้ายมือบ้านคุณผู้หญิงอันเป็นจุดกลับรถ ทริกเกอร์ กับเจคช่วยกันแบกขอนไม้ไปขวางถนน แล้วพากันมาหมอบราบรอดูเหยื่อมาติดกับดัก
รถไอศครีมวิ่งใกล้ขอนไม้เข้าเท่าไหร่ ทริกกับเจคก็ลุ้นระทึก โดยเฉพาะทริกเกอร์ผู้วางแผน เจ้าตัวแสยะยิ้มด้วยพอใจ
“เย้ๆ” เจ้าทริกร้องออกมาด้วยความยินดี เมื่อรถขายไอศครีมวิ่งไปชนเอาขอนไม้แล้วหยุดกึก ลุงบ็อบคนขายไอศรีมเปิดประตูรถก้าวลงมาช้าๆ เดินไปหาขอนไม้เพื่อจะยกขอนไม้ให้พ้นจากถนน
“พร้อมยังพี่เจค “ทริกเกอร์หันมาถามเจค
“พร้อม”
ทริกเกอร์ได้คำตอบ ก็ดึงหมวกไหมพรมที่เจาะรูที่ตากับจมูกลงมาปิดหน้าตัวเอง ( คนเขียน ดูหนังมากไปหน่อย)
เจคไม่รอช้าทำตาม แต่แทนจะปิดหน้า ดันใส่เป็นหมวก ดูเก๋ไก๋สไลด์เดอร์ ( ถึงคนเขียนอายุจะไม่น้อยแล้ว แต่ยังวัยรุ่นเสมอ)
“แล้วกันพี่เจค เปิดหน้า เขาก็รู้เท่านะซิ ว่าเราเป็นใคร “
“โอเคๆ ลืมไป” เจคว่า ดึงหมวกลงมาปิดตา ตามคำสั่งของหัวหน้าแกงค์
“ถ้าไม่อยากตาย ถอยไป“ ไอ้ทริกตะโกนบอกลุงบ็อบที่มองหมาสองตัว ปิดหน้าปิดตาเหมือนโจรปล้นธนาคาร อย่างตระหนก
“เราไม่ต้องการอะไร นอกจากรถไอศครีม “ เจคร้องบอกลุงบ็อบปากสั่นๆ ขาแข้งสั่นตาม นานๆจะทำเรื่องร้ายๆสักที ไหนจะเก่งกาจเท่าไอ้ทริกละ วันไหนไม่ทำความผิด หรือคิดเรื่องร้ายๆท้องเป็นได้อืดตายเท่านั้น