เราหลายๆคนอาจเคยได้ยินวิธีการลดน้ำหนักจากเวปต่างๆและเทรนเนอร์ต่างๆที่แนะนำวิธีกันมามากมาย แต่ผมเห็นสาวๆและใครหลายๆคนเลือกที่จะใช้ทางลัดในการลดสัดส่วนและน้ำหนักอย่างผิดวิธีแน่นอนละครับว่าอันตราย ถามว่ารู้กันอยู่แก่ใจไหมแน่นอนรู้แต่ก็ยังทำกันน่าเป็นห่วงนะครับตัวอย่างก็มีให้เห็นอยู่เยอะกินยาแล้วตายรู้ก็กันก็ยังกินกันอยู่บางคนก็เลือกที่จะอดอาหารอย่างไม่ลืมหูลืมตาแน่นอนครับโรคกระเพาะถามหาอีก ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับความพอดีครับ

**** เข้าเรื่องดีกว่าครับผมมีโอกาสได้ไปบวชและได้เจอประสบการณ์การลดน้ำหนักที่ดีและใช่ได้หากปรับปรุงนิดหน่อยเพราะส่วนตัวผมก็เล่นฟิตเนสมานานพอสมควรและวิธีเหมาะมากครับ ตอนบวชตื่นมาเดินบิณฑบาต เกือบ6กิโลต่อวันได้หลังจากนั้น พระจะฉัน(กินข้าว)มื้อเช้าไม่เกิน10โมง และหลังเที่ยง12.00ไปพระจะไม่ฉัน(ไม่กิน)อะไรนอกจากน้ำ และบ่าย3จะกวาดลานวัดทำกิจของสงฆ์ มีประมาณนี้ครับถามว่าเกี่ยวอะไร ผมบวชพระ17วัน จากน้ำหนัก64 พอสึกออกมาชั่งน้ำหนักดูเหลือ57กิโล โอ้วววอึ้งเลยครับ แน่นอนละครับกินข้าวมื้อเดียวหลังเที่ยงกินได้แต่น้ำหวาน น้ำผลไม้ แต่ถ้าจะให้เราๆคนทั่วไปทำแบบนี้ผมว่าก็ไม่น่าไหวเพราะว่าวันๆหนึ่งเราต้องทำงานบ้างละเรียนบ้างละออกกำลังกายบ้างละ จะหนักเกินไปครับวิ่งออกแรงมากก็ต้องใช่พลังงานมากเพราะงั้นควรได้รับอาหารแต่พอดี

***ลองเอาวิธีนี้ไปใช้ดูครับ
     เริ่มจาก ตื่นนอนนะครับออกกำลังกายนิดๆหน่อยๆซัก15-30นาทีจะวิ่งหรือกระโดดเชือกหรือเต้นก็แล้วแต่สะดวกครับ และกินข้าวเช้าให้เต็มที่เลยครับ ต่อมามื้อเที่ยงไม่เกินบ่าย2 เพื่อคนชอบกินเลยเวลา กินเลยครับกินอะไรก็กินไป(แต่ถ้าจะให้ดีแน่นอนว่าคุมอาหาร) คุมยังไงก็ไม่กินพวกของทอดของมันและแป้งมากไป ก่อนเข้ามื้อเย็นให้ออกกำลังกายอีกรอบ20-45นาทีครับ มื้อเย็นงดครับ ไม่ต้องกิน ถ้าไม่ไหวหรือหิวจริงๆ น้ำหวานครับ หรือเจเล่ ครับ

จะลดได้เยอะหรือเร็วขึ้นอยู่กับกำลังของแต่ละคนครับจำไว้ครับทุกอย่างไม่มีทางลัดบางคนกินยา ลดน้ำหนักต่อให้หมดเป็นแสนแต่ถ้าสุดท้ายคุณเองยังปรับนิสัยการคุมอาหารการกินและขี้เกียจออกกำลังกาย ต่อให้ยาได้ผล แต่สุดท้ายต้องแลกด้วยอายุที่สั้นลงไปไม่คุ้มเลยครับ
(อ่อบางคนเอาข้ออ้างที่ว่าเห้ยแต่เราก็ทำงานหนักนะ นั้นไม่ใช่การออกกำลังกายนะครับแยกแยะด้วย)

***มื้อเช้าสำคัญที่สุดนะครับห้ามงดเด็ดขาด*** ทำตามนี้ได้ ได้ผลแน่นอนครับ