...สวัสดีแฟนๆพี่เสือทุกคนนะคะ
วันนี้อารมณ์ดี๊ดีมีความสุขทั้งวันเลย..ที่มาเปิดทู้ช้าเพราะติดงานนิดๆหน่อยๆ
แต่ยังไงก็ตามวันนี้ก็มีรูปพี่เสือมาให้แฟนๆได้แซะกันอย่างแน่นอน
ไม่พูดมากแล้วเสียเวลา..พร้อมแล้วก็ตามมามุงกันเลยจ้าาา.....

4′ 51′ Thomas Müller
34′ Jérôme Boateng
49′ Franck Ribéry
63′ Holger Badstuber
75′ Robert Lewandowski
87′ Mario Götze

อดีตแชมป์ปี 2013 จัดการปูพรมถล่มทีมดังจากยูเครนแบบไม่ปราณี กรุยทางสู่รอบก่อนรองชนะเลิศถ้วยบิ๊กเอียร์อย่างสะดวกโยธิน

ศึกยูฟ่า แชมป์เปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง ที่สนามอลิอันซ์ อารีนา ระหว่าง บาเยิร์น มิวนิค จ่าฝูงบุนเดสลีกา เปิดบ้านพบกับ ชัคตาร์โดเน็ทส์ค รองจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ยูเครน (นัดแรกเสมอ 0-0)

เป๊บ กวาดิโอลาร์ เทรนเนอร์เจ้าถิ่น เปลี่ยนแปลงผู้เล่นจากนัดแรกเพียง 2 ราย โดยรายแรกส่ง โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ เซ็นเตอร์ตัวเก่งที่เพิ่งสลัดเดี้ยงมาหมาดๆลงเล่นตัวจริงแทน ฆวน เบอร์นาต โดยจัดการถ่าง เดวิด อลาบ้า ออกไปเล่นแบ็คซ้ายตามเดิม ส่วนอีกรายคือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ถูกส่งลงมาแทน ชาบี อลอนโซ ที่ติดโทษแบน โดยจะมายืนเป็นหน้าเป้าไล่ล่าตาข่าย



  เปิดฉากมาได้เพียง 4 นาที่ บาเยิร์นก็มาได้เปรียบสองเด้ง เมื่อได้ประตูออกนำเร็วและมีผู้เล่นมากกว่า เมื่อ โอเล็กซานเดอร์ คูเชอร์ ปราการหลังชัคตาร์มาโดนใบแดงจากจังหวะเสียบสกัด มาริโอ เกิทเซ ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่มีทางเลือกชี้เป็นจุดโทษทันที ยิ่งกว่านั้นยังควักใบแดงไล่ คูเชอร์ ออกจากสนามด้วย และเป็น โธมัส มุลเลอร์ จอมยิงจุดโทษประจำทีมสังหารเข้าไปไม่พลาด บาเยิร์นฯนำ 1-0

จากนั้นเจ้าถิ่นที่ได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่นก็ดาหน้าบุกใส่ทีมเยือนอย่างหนัก ทว่านาทีที่ 19 กลับต้องมาเสียแนวรุกคนสำคัญอย่าง อาร์เยน ร็อบเบน ที่เกิดบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว จนทำให้ เป๊บ ตัดสินใจส่ง เซบาสเตียน โรเด้ ลงมาเล่นแทน

กระทั่งนาทีที่ 34 นาที เจ้าถิ่นก็มาบวกสกอร์ที่สองเพิ่มจนได้ จากจังหวะที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ได้ซัดจ่อๆในกรอบ 6 หลาติดเซฟ อังเดร พยาตอฟ ทว่าบอลดันเปลี่ยนใจกระดอนไปเข้าทาง เจโรม บัวเต็ง แปซ้ำดาบสองตรงเสาแรกเข้าไปไม่พลาด บาเยิร์นฯหนีห่างเป็น 2-0 ก่อนจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้



กลับมาเล่นในครึ่งหลังยังเป็นเจ้าถิ่นที่พับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียว และในนาทีที่ 49 พวกเขาก็มาได้ประตูทิ้งห่างเป็น 3-0 จากจังหวะที่ ฟรองค์ ริเบรี ทำชิ่งกับ เดวิด อลาบ้า ทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนลากตัดเข้ามาในกรอบเขตโทษ และบรรจงแปเลียดสวนตัว อังเดร พยาตอฟ เข้าไปอย่างเฉียบคม



กองเชียร์เจ้าถิ่นดีใจยังไม่ทันสุดเสียง ก็ต้องลุกขึ้นเฮกันอีกครั้ง เมื่อบาเยิร์นใช้เวลาเพียง 2 นาทีจัดการทะลวงประตูที่สี่ จากจังหวะที่ ฟรองค์ ริเบรี กระชากไปสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายตามสไตล์ถนัดก่อนตวัดเข้ากลาง และเป็น อังเดร พยาตอฟ ที่ปัดไปเข้าทาง โธมัส มุลเลอร์ แตะแต่งบอลหนึ่งจังหวะ ก่อนแปด้วยขวาเข้าไปง่ายๆ ช่วยให้บาเยิร์นทิ้งห่างเป็น 4-0



จากนั้นนาทีที่ 63 บาเยิร์นมาบวกลูกห้าเพิ่มได้อีก จากการทำเกมขึ้นมาทางฝั่งขวา เริ่มจาก เกิทเซ จ่ายขานเส้นให้ ราฟินญา โยนโด่งเข้าเขตโทษ และเป็น โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ ที่วิ่งโฉบมาโหม่งจ่อๆไปโดน อังเดร ปยาตอฟ ปัดชนเสาเข้าประตูไป และถือเป็นลูกแรกของกองหลังรายนี้ในแชมเปี้ยนส์ลีกตลอดอาชีพค้าแข้งที่ผ่านมาด้วย ช่วยให้เสือใต้นำห่าง 5-0



ถัดมานาทีที่ 64 เจ้าบ้านยังไม่หยุดยั้ง มาทำประตูที่หกเพิ่มได้อีก จากจังหวะที ชไวน์สไตเกอร์ วางบอลยาวจากกลางสนามให้ เลวานดอฟสกี้ ลากหลุดเดี่ยวไปยิงด้วยขวาเข้าไปอย่างเฉียบคม ส่งให้อดีตแชมป์ปี 2013 นำห่างแบบหายห่วงถึง 6-0



เท่านั้นยังไม่พอ เสือใต้มาบวกลูกเจ็ดปิดท้ายได้อีก ในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 87 จากจังหวะที่ เฌโรม บัวเต็ง กระชากบอลลุยเดี่ยวขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนจะเปิดเรียดลึกไปเสาสองให้ เกิทเซ แต่งหาเหลี่ยมก่อนะจซัดด้วยขวาเข้าไปอย่างเด็ดขาด



ทำให้จบเกมเป็นบาเยิร์นที่ถล่มไปราบคาบถึง 7-0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายแบบใสๆ...