[enter]****[Bayern Munich]***[15.03.2015] ****[ ภาพบรรยากาศหลังเกมส์ SV Werder Bremen 0 - 4 FC Bayern München ]
นัดเมื่อคืนพี่เสือเราก็ยังคงรักษาความโหดได้อย่างคงเส้นคงวา
แต่ก็แอบผิดหวังนิดๆเพราะเจ้าแม่มานูน้อยไม่ได้ลง ไม่ใช่ว่าไม่ไว้ใจพี่เหม่งเรน่านะ..คือว่า..พรุ่งนี้มันจะวันที่สิบหกแล้ว ฮ่าๆๆๆ
ส่วนวันนี้เราก็มีภาพบรรยากาศหลังเกมมาฝากแฟนๆพี่เสือเช่นเคย..พร้อมแล้วก็ตามมาแซะ มาแซวกันเลยคะ..
[]
SV Werder Bremen 0 - 4 FC Bayern München (14.03.2015)
24′ Thomas Müller
45′ David Alaba
76′ 90′ Robert Lewandowski
วิคเตอร์ สคริปนิค กุนซือเจ้าบ้าน ต้องขาดกำลังสำคัญในแนวรุกอย่าง ฟรังโก้ ดิ ซานโต้ อดีตกองหน้าเชลซีซึ่งติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองครบ 5 ใบ ทำให้ต้องปรับใช้ เดวี เซลเค ลงประสานงานในแนวรุกร่วมกับ เลวิต เมเต้ อ็อซดูนาลี และ ฟิน บาร์เทิลส์
ด้านทีมเยือนของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ตัดสินใจพัก มานูเอล นอยเออร์ นายทวารมือ 1 โดยไม่ส่งชื่อเป็นแม้แต่ตัวสำรองด้วย พร้อมกับให้โอกาส โฆเซ มานูเอล เรนา ลงเฝ้าเสานัดแรกอย่างเป็นทางการในเครื่องแบบของสโมสรดังแห่งแคว้นบาวาเรียน ด้านแนวรุกใช้สามประสานเป็น โธมัส มุลเลอร์, มาริโอ เกิทเซ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
เริ่มเกมมาได้เพียง 13 นาทีเท่านั้น เป็นบาเยิร์นที่เกือบจะพังประตูขึ้นนำได้อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ ราฟินญา ครอสบอลจากสุดเส้นหลังฝั่งขวาให้ เลวานดอฟสกี้ ขึ้นโขกเต็มหัว แต่นายด่านของเบรเมนอย่าง ราฟาเอล โวล์ฟ ยังยืนตำแหน่งดี พุ่งปัดออกหลังหวุดหวิด
แต่แล้วในนาทีที่ 24 เสือใต้ก็มาใส่สกอร์ออกนำจนได้ จากจังหวะที่ เลวานดอฟสกี้ แปบอลทะลุช่องให้ มุลเลอร์ หลุดเดี่ยวไปยิงด้วยขวาติดเซฟของ โวล์ฟ ก่อนบอลจะมาเข้าทาง เกิทเซ วิ่งเข้าปั๊มแย่งลูกกับแนวรับเบรเมน จนบอลทะลักมาหา มุลเลอร์ อีกครั้ง และเลือกปั่นด้วยซ้ายส่งบอลโค้งเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม ช่วยให้ทีมเยือนบุกมานำ 1-0
หลังจากนั้นยังเป็นทีมดังแห่งแคว้นบาวาเรียนที่ครองเกมบุกได้เหนือกว่า จนกระทั่งในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ก็มาบวกลูกสองเพิ่มได้อีก จากการปั่นฟรีคิกด้วยซ้ายข้างถนัดของ ดาวิด อลาบ้า ที่ส่งบอลโค้งข้ามกำแพงเข้าสู่ก้นตาข่ายแบบหมดจด ทำให้จบ 45 นาทีแรกเป็นบาเยิร์นที่นำอยู่ 2-0
ครึ่งหลังกลับมาสู้กันต่อ เกมเริ่มเป็นไปอย่างสูสีมากขึ้น เมื่อเบรเมนพยายามลุยบุกเข้าใส่เพื่อหวังตีไข่แตกให้ได้ แต่กลับต้องมาโดนเสือใต้กดลูกที่สามทิ้งห่างออกไปอีก ในนาทีที่ 76 จากจังหวะที่ เฌโรม บัวเต็ง วางบอลยาวจากกลางสนามข้ามแนวรับนกนางนวลให้ มุลเลอร์ หลุดกับดักล้ำหน้าก่อนจะงัดบอลข้ามหัว โวล์ฟ ที่วิ่งอกกมานอกเขต ก่อนที่ เลวานดอฟสกี้ จะพุ่งโหม่งโล่งๆเข้าไป ส่งให้ทีมเยือนหนีเป็น 3-0
เมื่อทำสกอร์นำขาดดถึงสามลูก ทำให้ทีมดังแห่งแคว้นบาวาเรียนมีการขยับเปลี่ยนตัวสำรองคนแรก ด้วยการส่ง ฟิลิปป์ ลาห์ม กัปตันทีมตัวจริงที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บหนักตั้งแต่เมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน ลงมาแล่นแทน มาริโอ เกิทเซ ในนาทีที่ 82
หลังจากนั้นในช่วงทดเจ็บ เสิอใต้ยังมาบวกลูกสี่ปิดท้ายได้อีก จากจังหวะที่ เซบาสเตียน โรเด้ ไหลให้ เลวานดอฟสกี้ จ่ายออกฝั่งซ้ายต่อให้ มุลเลอร์ ถวายพานกลับมาให้หอกชาวโปแลนด์ล้มตัวยิ่งโล่งๆเข้าไป
ทำให้จบเกมเป็นบาเยิร์น มิวนิคที่บุกมาเอาชนะไปได้แบบสบายๆ 4-0 เก็บเพิ่มเป็น 64 แต้ม ทิ้งห่างที่ 2 อย่างโวล์ฟสบวร์กที่ลงแข่งน้อยกว่าหนึ่งนัดเพิ่มเป็น 14 คะแนนแล้ว ส่วนเบรเมนอยู่อันดับ 9 มี 33 แต้มเท่าเดิม
/center]
Photos and gifs aren’t mine, credit to the owners!
ขอบคุณข่าวจาก GOAL.COM
****[Bayern Munich]***[15.03.2015] ****[ ภาพบรรยากาศหลังเกมส์ SV Werder Bremen 0 - 4 FC Bayern München ]
สวัสดีวันอาทิตย์ตอนสายๆนะคะ
นัดเมื่อคืนพี่เสือเราก็ยังคงรักษาความโหดได้อย่างคงเส้นคงวา
แต่ก็แอบผิดหวังนิดๆเพราะเจ้าแม่มานูน้อยไม่ได้ลง ไม่ใช่ว่าไม่ไว้ใจพี่เหม่งเรน่านะ..คือว่า..พรุ่งนี้มันจะวันที่สิบหกแล้ว ฮ่าๆๆๆ
ส่วนวันนี้เราก็มีภาพบรรยากาศหลังเกมมาฝากแฟนๆพี่เสือเช่นเคย..พร้อมแล้วก็ตามมาแซะ มาแซวกันเลยคะ..
[]
SV Werder Bremen 0 - 4 FC Bayern München (14.03.2015)
24′ Thomas Müller
45′ David Alaba
76′ 90′ Robert Lewandowski
ยังคงโชว์ฟอร์มแกร่งเกินต้านทานได้ต่อไปสำหรับบาเยิร์น ที่แม้จะหมุนเวียนส่งตัวสำรองลงเล่นหลายราย แต่ก็ยังบุกเอาชนะเบรเมนถึงถิ่นแบบขาดลอย นำโด่งเป็นจ่าฝูงเหมือนเดิม
วิคเตอร์ สคริปนิค กุนซือเจ้าบ้าน ต้องขาดกำลังสำคัญในแนวรุกอย่าง ฟรังโก้ ดิ ซานโต้ อดีตกองหน้าเชลซีซึ่งติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองครบ 5 ใบ ทำให้ต้องปรับใช้ เดวี เซลเค ลงประสานงานในแนวรุกร่วมกับ เลวิต เมเต้ อ็อซดูนาลี และ ฟิน บาร์เทิลส์
ด้านทีมเยือนของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ตัดสินใจพัก มานูเอล นอยเออร์ นายทวารมือ 1 โดยไม่ส่งชื่อเป็นแม้แต่ตัวสำรองด้วย พร้อมกับให้โอกาส โฆเซ มานูเอล เรนา ลงเฝ้าเสานัดแรกอย่างเป็นทางการในเครื่องแบบของสโมสรดังแห่งแคว้นบาวาเรียน ด้านแนวรุกใช้สามประสานเป็น โธมัส มุลเลอร์, มาริโอ เกิทเซ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
เริ่มเกมมาได้เพียง 13 นาทีเท่านั้น เป็นบาเยิร์นที่เกือบจะพังประตูขึ้นนำได้อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ ราฟินญา ครอสบอลจากสุดเส้นหลังฝั่งขวาให้ เลวานดอฟสกี้ ขึ้นโขกเต็มหัว แต่นายด่านของเบรเมนอย่าง ราฟาเอล โวล์ฟ ยังยืนตำแหน่งดี พุ่งปัดออกหลังหวุดหวิด
แต่แล้วในนาทีที่ 24 เสือใต้ก็มาใส่สกอร์ออกนำจนได้ จากจังหวะที่ เลวานดอฟสกี้ แปบอลทะลุช่องให้ มุลเลอร์ หลุดเดี่ยวไปยิงด้วยขวาติดเซฟของ โวล์ฟ ก่อนบอลจะมาเข้าทาง เกิทเซ วิ่งเข้าปั๊มแย่งลูกกับแนวรับเบรเมน จนบอลทะลักมาหา มุลเลอร์ อีกครั้ง และเลือกปั่นด้วยซ้ายส่งบอลโค้งเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม ช่วยให้ทีมเยือนบุกมานำ 1-0
หลังจากนั้นยังเป็นทีมดังแห่งแคว้นบาวาเรียนที่ครองเกมบุกได้เหนือกว่า จนกระทั่งในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ก็มาบวกลูกสองเพิ่มได้อีก จากการปั่นฟรีคิกด้วยซ้ายข้างถนัดของ ดาวิด อลาบ้า ที่ส่งบอลโค้งข้ามกำแพงเข้าสู่ก้นตาข่ายแบบหมดจด ทำให้จบ 45 นาทีแรกเป็นบาเยิร์นที่นำอยู่ 2-0
ครึ่งหลังกลับมาสู้กันต่อ เกมเริ่มเป็นไปอย่างสูสีมากขึ้น เมื่อเบรเมนพยายามลุยบุกเข้าใส่เพื่อหวังตีไข่แตกให้ได้ แต่กลับต้องมาโดนเสือใต้กดลูกที่สามทิ้งห่างออกไปอีก ในนาทีที่ 76 จากจังหวะที่ เฌโรม บัวเต็ง วางบอลยาวจากกลางสนามข้ามแนวรับนกนางนวลให้ มุลเลอร์ หลุดกับดักล้ำหน้าก่อนจะงัดบอลข้ามหัว โวล์ฟ ที่วิ่งอกกมานอกเขต ก่อนที่ เลวานดอฟสกี้ จะพุ่งโหม่งโล่งๆเข้าไป ส่งให้ทีมเยือนหนีเป็น 3-0
เมื่อทำสกอร์นำขาดดถึงสามลูก ทำให้ทีมดังแห่งแคว้นบาวาเรียนมีการขยับเปลี่ยนตัวสำรองคนแรก ด้วยการส่ง ฟิลิปป์ ลาห์ม กัปตันทีมตัวจริงที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บหนักตั้งแต่เมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน ลงมาแล่นแทน มาริโอ เกิทเซ ในนาทีที่ 82
หลังจากนั้นในช่วงทดเจ็บ เสิอใต้ยังมาบวกลูกสี่ปิดท้ายได้อีก จากจังหวะที่ เซบาสเตียน โรเด้ ไหลให้ เลวานดอฟสกี้ จ่ายออกฝั่งซ้ายต่อให้ มุลเลอร์ ถวายพานกลับมาให้หอกชาวโปแลนด์ล้มตัวยิ่งโล่งๆเข้าไป
ทำให้จบเกมเป็นบาเยิร์น มิวนิคที่บุกมาเอาชนะไปได้แบบสบายๆ 4-0 เก็บเพิ่มเป็น 64 แต้ม ทิ้งห่างที่ 2 อย่างโวล์ฟสบวร์กที่ลงแข่งน้อยกว่าหนึ่งนัดเพิ่มเป็น 14 คะแนนแล้ว ส่วนเบรเมนอยู่อันดับ 9 มี 33 แต้มเท่าเดิม
/center]
ขอบคุณข่าวจาก GOAL.COM