ถ้าเพื่อนๆมีภาพมีข่าวโพสได้แปะได้ตลอดเวลาหรือถ้าไม่มีแต่ผ่านเข้ามาก็แวะมาทักทายเพื่อนๆในทู้ก่อนนะค่ะ
หอกชาวโปลิชยังโชว์ฟอร์มสุดฮ็อตเหมาอีก 3 ประตู ทำให้ 3 นัดเจ้าตัวซัดไป 10 ประตู พร้อมช่วยให้ บาเยิร์น หยุดสถิติไม่แพ้คู่แข่งติดต่อกันของ ซาเกร็บ ไว้ที่ 45 นัด
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมป์เปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม F นัดที่ 2 ที่สนามอลิอันซ์ อารีนา ระหว่าง บาเยิร์น มิวนิค จ่าฝูง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ดินาโม ซาเกร็บ รองจ่าฝูง
เป็บ กวาร์ดิโอลา นายใหญ่ 'เสือใต้' ตัดสินใจส่ง โจชัว คัมมิช กองกลางดาวรุ่งที่เพิ่งย้ายมาจาก เรดบูลล์ ไลป์ซิก ลงเล่นในเวทียูซีแอลนัดแรกทันที นอกนั้นยังเป็นผู้เล่นหน้าหลักขาประจำ นำโดย มานูเอล นอยเออร์ (ผู้รักษาประตู), ฟิลิปป์ ลาห์ม (กัปตันทีม), ดั๊กลาส คอสต้า, มาริโอ เกิทเซ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
ขณะที่ฝั่ง ดินาโม ซาเกร็บ ของกุนซือ โซรัน มามิช เปลี่ยนแผนการเล่นมาใช้ระบบ 4-2-3-1 โดยวาง มาร์โก ปยาก้า ดาวรุ่งทีมชาติโครเอเซียวัย 20 ปี เป็นหน้าเป้าไล่ล่าตาข่าย และมี จูเนียร์ แฟร์น็องเดส, โดมาดอย อันโตลิช กับ เอล อาร์บี ซูดานี คอยเติมเกมสนับสนุนอยู่ด้านหลัง
เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 9 เจ้าบ้านเริ่มเปิดฉากทักทายก่อน จากจังหวะที่ เยโรม บัวเต็ง เติมเกมขึ้นสูง ก่อนหาช่องส่องเลียดด้วยขวาเต็มข้อจากระยะประมาณ 30 หลา ทิศทางบอลกำลังจะพุ่งเสียบเสาแรกอยู่แล้ว แต่ว่า เอดูอาร์โด้ ผู้รักษาประตูของ ซาเกร็บ ยังปฏิกิริยาไวพุ่งปัดสุดปลายมือออกไปได้อย่างหวุดหวิด
Goal!! นาทีที่ 13 เจ้าถิ่นมาได้ประตูออกนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ ธิอาโก้ อัลคัลทารา โยนยาวออกไปทางฝั่งซ้ายให้ ดั๊กลาส คอสต้า เลี้ยงจี้เข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนโยกหนี อเล็กซ์ซานดู มาเตล ออกไปทางซ้าย แล้วกดเลียดยัดเสาแรกเข้าไปอย่างเฉียบคม ช่วยให้บาเยิร์นขึ้นนำ 1-0
Goal!! นาทีที่ 21 บาเยิร์น มาทำประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ ฟิลิปป์ เบนโควิซ เซ็นเตอร์ฮาร์ฟดาวรุ่งของ ซาเกร็บ วัยเพียง 18 ปี โหม่งบอลไม่ดี จนทำให้ ธิอาโก้ อัลคัลทารา ฉกกระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษโล่งๆ ก่อนใจกว้างถวายพานออกไปทางฝั่งขวาให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แปง่ายๆเข้าไปไม่เหลือ
4 นาทีต่อมา แฟนบอลเสือใต้ได้ลุกขึ้นเฮติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 จากจังหวะที่ มาริโอ เกิทเซ ทำชิ่งกับ คิงสลีย์ โคมอง ในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่แนวรุกร่างอวบทีมชาติเยอรมนีจะตามมาดีดด้วยขวา แม้ว่าบอลจะพุ่งไปตรงตัวของ เอดูอาร์โด้ แต่นายด่านทีมชาติโปรตุเกสกลับเสียหลัก ทำให้บอลทะลักเข้าประตูไป ส่งให้บาเยิร์นทิ้งห่างเป็น 3-0
เท่านั้นไม่พอ นาทีที่ 28 บาเยิร์น มาทำประตูทิ้งห่างเป็น 4-0 จากจังหวะที่ ดั๊กลาส คอสต้า เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายเข้าไปในเขตโทษให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กระโดดแปด้วยซ้าย บอลพุ่งเช็ดคานตกลงพื้น ก่อนแนวรับ ซาเกร็บ ช่วยกันโหม่งเคลียร์ออกไป อย่างไรก็ตาม ผู้ช่วยผู้ตัดสินหลังประตูชี้ว่าลูกข้ามเส้นไปแล้ว ส่งให้เจ้าบ้านได้ประตูที่ 4 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
กลับมาเล่นในครึ่งหลังทั้งสองทีมต่างเปลี่ยนแปลงผู้เล่นฝั่งละ 1 รายทันที โดยเจ้าบ้านถอดเอา ฆวน เบอร์นาต ออกไปพักที่ข้างสนาม แล้วจัดการส่ง ฆาบี้ มาร์ติเนซ ลงมาทำหน้าที่แทน ขณะที่ทีมเยือนส่งเอา กอนชาโล ลงมาเล่นแทน ฟิลิปป์ เบนโควิซ แนวรับดาวรุ่งที่มีส่วนทำให้ทีมเสีย 1 ประตูในครึ่งแรก
Goal! นาทีที่ 55 เจ้าบ้านมาทำประตูที่ 5 เพิ่มอีกจนได้ จากจังหวะการประสานงานอันยอดเยี่ยม เริ่มจาก ดั๊กลาส คอสต้า ไขว้หลังส่งต่อให้ ธิอาโก้ อัลคัลทารา แทงทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษโล่งๆให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ งัดบอลข้ามหัว เอดูอาร์โด้ เข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น พร้อมกับเป็นประตูลูกที่ 10 ในรอบ 3 เกมหลังสุดของเจ้าตัวด้วย
จากนั้นเวลาที่เหลือแม้ บาเยิร์น มิวนิค จะครองบอลบุกแทบจะฝ่ายเดียว และเกือบบวกสกอร์ที่ 6 ได้อีกหลายครั้งหลายครา ไม่ว่าจะเป็นลูกยิงจาก เดวิด อลาบ้า และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แต่ก็ทำไม่สำเร็จ
ทำให้จบเกม บาเยิร์น มิวนิค เปิดบ้านถล่ม ดินาโม ซาเกร็บ ไปอย่างขาดลอย 5-0 คว้าชัยรวด 2 นัด รักษาตำแหน่งจ่าฝูงกลุ่ม F ต่อไปอย่างเหนียวแน่น มี 6 คะแนนเต็ม นำ โอลิมเปียกอส อันดับสองอยู่ 3 คะแนน
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป ซาเกร็บ เตรียมบุกไปเยือน อินเตอร์ ซาเปรซิค ในเกมลีกวันเสาร์ที่จะถึงนี้ เวลา 00.00 น. ขณะที่ บาเยิร์น มีคิวเปิดบ้านทำศึกบิ๊กแมตซ์กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ พีเอโอเค ในเกมลีกวันอาทิตย์นี้ เวลา 22.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
****[Bayern Munich]***[30.09.2015] ****[ ภาพบรรยากาศหลังเกม FC Bayern München 5-0 GNK Dinamo Zagreb ]
สวัสดีแฟนพี่เสือค่ะ
เมื่อคืนใครได้ดูพี่เสือแข่งบ้างตามมาคุยกันค่ะ
ถ้าเพื่อนๆมีภาพมีข่าวโพสได้แปะได้ตลอดเวลาหรือถ้าไม่มีแต่ผ่านเข้ามาก็แวะมาทักทายเพื่อนๆในทู้ก่อนนะค่ะ
สำหรับวันนี้เราก็มีภาพหลังเกมมาฝากเช่นเคย ตามมาดูด้านล่างกันเลยค่ะ
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมป์เปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม F นัดที่ 2 ที่สนามอลิอันซ์ อารีนา ระหว่าง บาเยิร์น มิวนิค จ่าฝูง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ดินาโม ซาเกร็บ รองจ่าฝูง
เป็บ กวาร์ดิโอลา นายใหญ่ 'เสือใต้' ตัดสินใจส่ง โจชัว คัมมิช กองกลางดาวรุ่งที่เพิ่งย้ายมาจาก เรดบูลล์ ไลป์ซิก ลงเล่นในเวทียูซีแอลนัดแรกทันที นอกนั้นยังเป็นผู้เล่นหน้าหลักขาประจำ นำโดย มานูเอล นอยเออร์ (ผู้รักษาประตู), ฟิลิปป์ ลาห์ม (กัปตันทีม), ดั๊กลาส คอสต้า, มาริโอ เกิทเซ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
ขณะที่ฝั่ง ดินาโม ซาเกร็บ ของกุนซือ โซรัน มามิช เปลี่ยนแผนการเล่นมาใช้ระบบ 4-2-3-1 โดยวาง มาร์โก ปยาก้า ดาวรุ่งทีมชาติโครเอเซียวัย 20 ปี เป็นหน้าเป้าไล่ล่าตาข่าย และมี จูเนียร์ แฟร์น็องเดส, โดมาดอย อันโตลิช กับ เอล อาร์บี ซูดานี คอยเติมเกมสนับสนุนอยู่ด้านหลัง
เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 9 เจ้าบ้านเริ่มเปิดฉากทักทายก่อน จากจังหวะที่ เยโรม บัวเต็ง เติมเกมขึ้นสูง ก่อนหาช่องส่องเลียดด้วยขวาเต็มข้อจากระยะประมาณ 30 หลา ทิศทางบอลกำลังจะพุ่งเสียบเสาแรกอยู่แล้ว แต่ว่า เอดูอาร์โด้ ผู้รักษาประตูของ ซาเกร็บ ยังปฏิกิริยาไวพุ่งปัดสุดปลายมือออกไปได้อย่างหวุดหวิด
Goal!! นาทีที่ 13 เจ้าถิ่นมาได้ประตูออกนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ ธิอาโก้ อัลคัลทารา โยนยาวออกไปทางฝั่งซ้ายให้ ดั๊กลาส คอสต้า เลี้ยงจี้เข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนโยกหนี อเล็กซ์ซานดู มาเตล ออกไปทางซ้าย แล้วกดเลียดยัดเสาแรกเข้าไปอย่างเฉียบคม ช่วยให้บาเยิร์นขึ้นนำ 1-0
Goal!! นาทีที่ 21 บาเยิร์น มาทำประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ ฟิลิปป์ เบนโควิซ เซ็นเตอร์ฮาร์ฟดาวรุ่งของ ซาเกร็บ วัยเพียง 18 ปี โหม่งบอลไม่ดี จนทำให้ ธิอาโก้ อัลคัลทารา ฉกกระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษโล่งๆ ก่อนใจกว้างถวายพานออกไปทางฝั่งขวาให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แปง่ายๆเข้าไปไม่เหลือ
4 นาทีต่อมา แฟนบอลเสือใต้ได้ลุกขึ้นเฮติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 จากจังหวะที่ มาริโอ เกิทเซ ทำชิ่งกับ คิงสลีย์ โคมอง ในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่แนวรุกร่างอวบทีมชาติเยอรมนีจะตามมาดีดด้วยขวา แม้ว่าบอลจะพุ่งไปตรงตัวของ เอดูอาร์โด้ แต่นายด่านทีมชาติโปรตุเกสกลับเสียหลัก ทำให้บอลทะลักเข้าประตูไป ส่งให้บาเยิร์นทิ้งห่างเป็น 3-0
เท่านั้นไม่พอ นาทีที่ 28 บาเยิร์น มาทำประตูทิ้งห่างเป็น 4-0 จากจังหวะที่ ดั๊กลาส คอสต้า เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายเข้าไปในเขตโทษให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กระโดดแปด้วยซ้าย บอลพุ่งเช็ดคานตกลงพื้น ก่อนแนวรับ ซาเกร็บ ช่วยกันโหม่งเคลียร์ออกไป อย่างไรก็ตาม ผู้ช่วยผู้ตัดสินหลังประตูชี้ว่าลูกข้ามเส้นไปแล้ว ส่งให้เจ้าบ้านได้ประตูที่ 4 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
กลับมาเล่นในครึ่งหลังทั้งสองทีมต่างเปลี่ยนแปลงผู้เล่นฝั่งละ 1 รายทันที โดยเจ้าบ้านถอดเอา ฆวน เบอร์นาต ออกไปพักที่ข้างสนาม แล้วจัดการส่ง ฆาบี้ มาร์ติเนซ ลงมาทำหน้าที่แทน ขณะที่ทีมเยือนส่งเอา กอนชาโล ลงมาเล่นแทน ฟิลิปป์ เบนโควิซ แนวรับดาวรุ่งที่มีส่วนทำให้ทีมเสีย 1 ประตูในครึ่งแรก
Goal! นาทีที่ 55 เจ้าบ้านมาทำประตูที่ 5 เพิ่มอีกจนได้ จากจังหวะการประสานงานอันยอดเยี่ยม เริ่มจาก ดั๊กลาส คอสต้า ไขว้หลังส่งต่อให้ ธิอาโก้ อัลคัลทารา แทงทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษโล่งๆให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ งัดบอลข้ามหัว เอดูอาร์โด้ เข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น พร้อมกับเป็นประตูลูกที่ 10 ในรอบ 3 เกมหลังสุดของเจ้าตัวด้วย
จากนั้นเวลาที่เหลือแม้ บาเยิร์น มิวนิค จะครองบอลบุกแทบจะฝ่ายเดียว และเกือบบวกสกอร์ที่ 6 ได้อีกหลายครั้งหลายครา ไม่ว่าจะเป็นลูกยิงจาก เดวิด อลาบ้า และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แต่ก็ทำไม่สำเร็จ
ทำให้จบเกม บาเยิร์น มิวนิค เปิดบ้านถล่ม ดินาโม ซาเกร็บ ไปอย่างขาดลอย 5-0 คว้าชัยรวด 2 นัด รักษาตำแหน่งจ่าฝูงกลุ่ม F ต่อไปอย่างเหนียวแน่น มี 6 คะแนนเต็ม นำ โอลิมเปียกอส อันดับสองอยู่ 3 คะแนน
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป ซาเกร็บ เตรียมบุกไปเยือน อินเตอร์ ซาเปรซิค ในเกมลีกวันเสาร์ที่จะถึงนี้ เวลา 00.00 น. ขณะที่ บาเยิร์น มีคิวเปิดบ้านทำศึกบิ๊กแมตซ์กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ พีเอโอเค ในเกมลีกวันอาทิตย์นี้ เวลา 22.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
ขอบคุณภาพข่าวจาก GOAL.COM และ Getty Images